ตอนที่ 184 ไม่มีชื่อตอน

มันเป็นความสามารถเอียงไปทางสายถึก ไม่ใช่มาตรฐานของความสามารถการปั้นตัว แต่มันก็ทำให้หานเซี่ยวเป็นรถถัง

เขาจำได้ว่าฮีล่าเองก็มีความสามารถการฟื้นฟูเช่นกัน กายพิเศษมีผลคล้ายกันและยังช่วยเพิ่มพลังชีวิตเขาอีก300หน่วย

ในฐานะช่างกล มันดีจริงๆใช่ไหมที่ได้กลายเป็นสายชน?หานเซี่ยวไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี นี่เป็นการบังคับให้เขาต้องสู้กับคนซึ่งๆหน้า เขารู้สึกว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สไตล์เขาจะแตกสลาย

ฉันแค่อยากเป็นช่างเทคนิค การต่อสู้ระยะประชิดไว้สำหรับพวกป่าเถื่อน!

ฉันต้องหาพรสวรรค์สายรุกหรือพรสวรรค์ด้านการผลิต แต่ความสามารถการปั้นตัวหายากเกินไป อันที่พบมากสุดยังเป็นพวกที่เสริมการป้องกันและเพิ่มสถานะ

ในฐานะช่างกล พรสวรรค์ที่สามารถจับคู่กับอาวุธปืนได้คืออันที่เขาต้องการมากสุด เขาหวังว่าจะกระตุ้น[นัดพิฆาต] แม้มันจะไม่ใช่ความสามารถการปั้นตัว มันก็ยังมีผลดี ความต้องการคือสร้างความเสียหายที่สูงมากด้วยปืนเขาใส่เป้าหมายในระดับเดียวกันหรือมากกว่า50ครั้ง เขาได้ทำไปแล้วเกือบ40ครั้ง แต่ศัตรูในระดับเขาหาได้ยากมาก เขาต้องใช้เวลามากพอตัว

สำหรับยาเพิ่มสถานะชั่วคราว เขาคิดนำบางส่วนใส่ไว้ในโมดูลฉีดของชุดจักรและจากนั้นก็หาโอกาสขายส่วนอื่น โดยเฉพาะผู้เล่น ซึ่งหาเงินได้มาก

ในบรรดายา สิ่งที่น่าแปลกใจคือมีอันหนึ่งไม่สมบูรณ์และมีเพียงเข็มเดียว

ยาไม่ทราบชื่อ : ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปของยาบางชนิด ไม่อาจบอกผล

สีมันใสเหมือนน้ำ โดยปกติ สิ่งที่ไม่รู้จักมักให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง หานเซี่ยวคิดว่าสิ่งนี้คงไม่ใช่ของเล็กๆ แต่เขาก็จะไม่ใช้มันเมื่อผลยังไม่ชัดเจน

สถาบันวิจัยลูอิสอาจทำสำเร็จในอนาคต ฉันแค่ต้องไปที่นั่นอีกครั้งและก็จะรู้ผลเมื่อมันสำเร็จ หานเซี่ยวเลิกคิ้วขึ้น

เพื่อทำยาหรือเรียนรู้เกี่ยวกับยาวิเศษ มันต้องได้รับสายอาชีพ[เภสัชกร] หานเซี่ยวไม่สนใจจะทำยาและเสียช่องสายอาชีพไปเล่นๆ และเขาก็รู้สึกว่าการทำยาน้ำและยาเม็ดแตกต่างไปมากจากการทำเครื่องจักร การทำยาจะต้องใช้อัตราส่วนที่เข้มงวดและกระบวนการผิดพลาดเล็กน้อยสามารถทำให้ล้มเหลว

หานเซี่ยวแอบออกจากเคย์ลอสในตอนบ่าย เขามีภารกิจที่น่ากลัวอีกอย่างในเมเปิ้ล เบนเน็ตอยากให้เขาขู่เจ้าหน้าที่รัฐบาลในเมเปิ้ล สองคนที่มาก่อนได้ตรวจสอบสถานการณ์แล้วและประจำการอยู่ที่เมืองใบเมเปิ้ล

เมืองหลวงของเมเปิ้ลเรียกว่าคาริโมจิ หมายถึงเมืองของใบเมเปิ้ล

...

องค์กรทางการเงินเบื้องหลังสถาบันวิจัยลูอิสตั้งค่าหัวบนเครือข่ายมืดอย่างรวดเร็ว เป้าหมายไม่ใช่ใครนอกจาก’ไฮเซนเบิร์ก’ และมันก็เป็นใบหน้าที่หานเซี่ยวใช้ในสถาบันวิจัย รวมถึงภาพบันทึกที่เขาพุ่งออกจากสถาบันวิจัยด้วยชุดจักรกล

องค์กรต้นกำเนิดเห็นข้อมูลนี้ในไม่ช้า

“ไม่มีบุคคลดังกล่าวในองค์กรเรา”

หัวหน้าตกใจ องค์กรมีบุคลากรลับและสายลับในดินแดนอื่นแค่ไม่กี่คน และเขาก็มั่นใจว่าไม่ได้สั่งให้ใครไปปล้นสถาบันวิจัย มีอยู่ความเป็นไปได้เดียว ‘ไฮเซนเบิร์ก”ผู้นี้เป็นตัวปลอม

เขาไม่คิดว่านี่คือการใส่ร้าย...เพราะการใส่ร้ายองค์กรต้นกำเนิดไม่จำเป็นเลย ทั้งโลกต่อต้านพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจว่าใครจะเป็นศัตรูอีก

เนื่องจากองค์กรต้นกำเนิดพ่ายแพ้ ทุกคนจึงทำเหมือนพวกเขาเป็นเสือไร้เขี้ยวเล็บ และดูถูก ไฮเซนเบิร์กคนนี้เป็นใครกัน?

แต่ด้วยความประหลาดใจ เขาตระหนักว่าชุดจักรกลนี้มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่าองค์กรเขา แม้กระทั่งโครงการสุดยอดทหารก็ยังไม่มีประโยชน์เท่าชุดจักรกลนี้

หากเราสามารถยึดชุดจักรกลนี้มาได้ พลังต่อสู้เราก็จะพุ่งสูงขึ้น องค์กรไหนกันที่คิดค้นชุดจักรกลนี้ขึ้นมา?หากมันเป็นศัตรู....

มือของหัวหน้าบีบขอบโต๊ะแน่น ทิ้งรอยไว้บนโต๊ะเหล็กอย่างเด่นชัด “บอกเครือข่ายข่าวกรองเราให้ลอบติดตามผู้ใช้ชุดจักรกลนี้-ฉันต้องการรู้ทุกการกระทำของเขา”

อย่างไรก็ตาม นี่นับเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะมันเป็นแค่ครั้งเดียวที่พวกเขาจะได้เห็นหานเซี่ยวใช้มัน สายลับขององค์กรต้นกำเนิดไม่อาจหาข้อมูลได้เพิ่ม มันลึกลับมาก

องค์กรที่สามารถประดิษฐ์ชุดจักรกลดังกล่าวได้ต้องมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมาก

หัวหน้ารู้สึกเหมือนเขาค้นพบปลายภูเขาน้ำแข็งขององค์กรลับ แต่ก็ไม่มีเบาะแสอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำอะไรได้

เขาสงบอารมณ์และถาม“การจับตัวพวกเหนือมนุษย์เป็นยังไงบ้าง?”

ผู้ช่วยนำเอกสารออกมา“เราได้จับพวกเหนือมนุษย์มาได้2103คน  ตอนแรก พวกเขารวมตัวกันไม่กี่จุด แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็เริ่มหลบหนีการจับกุมและกระจายไปทั่ว มีคนต่อต้านมากขึ้น และภารกิจเราก็พบอุปสรรคบางอย่าง”

“ไซเบอร์ลอสได้มาพร้อมกับทฤษฏีใหม่ ถึงแม้พวกเหนือมนุษย์เหล่านี้จะไม่ถูกล้างสมอง พวกเขาก็จะยังทำตามทุกคำขอ และก็ทำตามวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน พวกเขาไม่มีความรู้สึกร่วมกันมากนัก พวกเขาคุยกันแปลกๆและดูเหมือนจะมีวิธีสื่อสารกันแบบพิเศษ-บางคนรู้จักกัน เรากำลังตรวจหาสาเหตุอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ใดๆ ตามที่ไซเบอร์ลอสกล่าว พวกเหนือมนุษย์เหล่านี้ก็เหมือนนักท่องเวลาที่มาจากอดีต”

“ท่าทางของ6ประเทศที่มีต่อพวกเขาเป็นยังไง?”หัวหน้าถาม

“เครือข่ายข่าวกรองเราแสดงให้เห็นว่า6ประเทศล้วนส่งทีมตัวเองไปติดต่อพวกเหนือมนุษย์ พวกเขามีทัศนคติแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผูกมิตรหรือบังคับ”

หัวหน้าพยักหน้า หลังไตร่ตรอง เขาก็กล่าว“พวกเขาหยุดการเตรียมสงครามแล้ว แต่มันจะไม่หยุดไปตลอด สายลับจากทุกประเทศได้แทรกซึมเข้ามาในแอนเดรียแล้ว หาตัวพวกมัน ฉันอยากรู้ทุกการเคลื่อนไหวของพวกมัน ฉันรู้สึกว่าพวกเหนือมนุษย์นั่นจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับสงครามนี้”

…

ภาพสะท้อนบนแว่นกันแดดเผยให้เห็นลักษณะภายนอกของบ้านหรู มีสายลับในชุดธรรมดาลาดตระเวนอยู่รอบๆ ชายชราผิวขาวดูคล้ายขอทานดันแว่นกันแดดขึ้น แตะหมวกที่ปิดหัวล้านและจากนั้นก็ขยับหูฟังขนาดเล็กที่ซ่อนภายใต้หมวกในหู

“วิลล่า4ชั้น ประตูคฤหาสน์ต้องใช้ระบบภายในเพื่อเปิด มีทีมลาดตระเวน2ทีม หนึ่งทีมในตัวบ้าน เจ้าหน้าที่ทั้งหมด18คน ออกจากบ้าน8โมงตรงทุกเช้า เดินทางด้วยรถกันกระสุน สองทีมคอยติดตามคุ้มกัน กินอาหารกลางวันภายในตึกรัฐบาล มีทีมเดิมคอยคุ้มกัน”

ฮันเนาพูดเบาๆขณะดันแว่น“เป้าหมายอาศัยในพื้นที่ทางการเมืองของเมเปิ้ล ตำรวจลาดตระเวนและทหารจะอยู่ตามถนน หากลงมือบนถนน คุณควรรีบลงมือ”

เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังผ่านหูฟัง“งั้นก็ลงมือบนถนน นี่ทำให้ฉันนึกถึงวันเก่าๆ”

“ฉันต้องบ้าแน่ๆ”ฮันเนสกล่าวอย่างไม่พอใจ“ยังคงทำสิ่งต่างๆกับพวกเธอหลังฉันเกษียณ และมันคือการลักพาตัวเจ้าหน้าที่ระดับสู.ของเมเปิ้ล ให้ตายเถอะกาเรี่ยน ทำไมนายต้องมาหาฉันด้วยเรื่องนี้?ทำไมไม่ขอให้เบนเน็ตช่วยละ?เขายังสู้อยู่บนแถวหน้า นายจะมามองหาตาแก่คนนี้ทำไม จะช่วยให้ฉันใช้เวลาเกษียณตามประสาคนแก่ไม่ได้รึไง!”

“ฮืม นายเป็นหนี้ฉัน และฉันก็ไม่ชอบเบนเน็ต เขาเคยมอบกระสุนสามนัดใส่ตัวฉันเมื่อ33ปีก่อน”อีกเสียงดังขึ้น กาเรี่ยนเป็นชายหยาบคาย เสียงเขาเหมือนปืนใหญ่“หยุดบ่นเหมือนป้าแก่ๆได้แล้ว”

“สุภาพบุรุษ อย่าลืมว่ายังมีผู้หญิงอยู่ด้วยนะ?”เวอนิน่ากล่าว

“ฉันอายุ60แล้ว และนายก็อายุมากกว่าฉันปีหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะมาคิดถึงการสู้และการฆ่าทุกวี่วัน”ฮันเนสพูดไม่ออก

“ฮืม ฉันยังไม่แตะ70 มันแก่หรอ?”กาเรี่ยนคร่ำครวญสักพักและกลับมาจริงจัง“ในอีก9วินาที เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนจะปรากฏขึ้นจากมุม ระวังตัวด้วย”

ฮันเนสโน้มตัวไปข้างหน้าและปกปิดตัวเองอย่างแนบเนียน หลังผ่านไป9วินาที เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนก็เดินมารอบมุมถนนและเห็นฮันเนส

เขาเดินมาข้างหน้าและตะโกน“ยืนยันตัวตน!”

ฮันเนสนำบัตรปลอมออกมา เจ้าหน้าที่เหลือบมองและส่งมันคืน“อย่าเอ้อระเหยอยู่แถวนี้”

ฮันเนสขยับเท้าเขาช้าๆเหมือนคนแก่ เข้าหามุม จากนั้นก็เร่งความเร็ว“มีตำรวจลาดตระเวนมากเกินไป การลักพาตัวเป้าหมายเงียบๆโดยไม่ให้ใครเห็นจะต้องลงมือตอนกลางคืนเท่านั้น”

“กลับมาที่นี่ก่อน เราจะหารือเกี่ยวกับแผน”กาเรี่ยนกล่าว