ตอนที่แล้วDNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 46
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 48

DNA อลวนคนสองร่าง ตอนที่ 47


ตอนที่ 47

แม้ว่าสุดท้ายของที่ฟางเฟยย่างนั้นจะไม่ได้ตกไปถึงจานของเย่ซวง แต่ไม้คีบที่คีบหอยนางรมไปต่อหน้าต่อตานั้น จะรอดพ้นสายตาของเย่ซวงไปได้ยังไง?!

พอหันหน้ามามอง ก็เห็นหน้าแหยของฟางเฟยที่กำลังกินเนื้อหอยนางรมเข้าพอดี เย่ซวงรู้สึกประหลาดใจไปพักหนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจว่า

น่าจะไม่อร่อยจริงๆ นั่นล่ะ!

ในฐานะคนที่เสนอมื้อค่ำนี้ เย่ซวงจะเอาแต่สนใจพี่ชายโดยที่เมินน้องสาวไม่ได้ จึงคีบกุ้งล็อบสเตอร์ที่ย่างเสร็จแล้วใส่ลงไปที่จานของคุณหนูฟางอย่างเกรงใจ

กลิ่นหอมหวานแต่ไม่เลี่ยนลอยโชยมา ข้างในเปลือกมีเนื้อกุ้งแดงๆ อ่อนนุ่มเนื้อเน้นๆ ที่มีไอร้อนลอยฉุยขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย ชวนให้อยากลงมือทาน เห็นได้ชัดว่านี่คือบุฟเฟ่ต์ แต่ด้วยฝีมือการทำอาหารของเย่ซวงทำให้รสชาติออกมาราวกับร้านอาหารห้าดาวยังไงอย่างนั้น ฟางเฟยตกตะลึงแล้วเงยหน้ามองเย่ซวง จากนั้นเย่ซวงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

น้องสาว ไม่ต้องน้อยใจไปนะ พวกเราเป็นเพื่อนกัน มาสนิทกันไว้เถอะ!

...หลังจากเย่ซวงส่งสายตาบอกเป็นนัยแล้ว ก็หันกลับมาคุยกับฟางม่อต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฟางเฟยก้มหน้าลงไปอีกครั้ง แล้วตะเกียบที่อยู่ในมือก็ปล่อยหอยนางรมไปคีบเนื้อกุ้งแทน จากนั้นเนื้อกุ้งอ่อนนุ่มเต็มคำหอมกลิ่นเนยเข้มข้นก็เข้าปากไป ในเวลานั้นฟางเฟยรู้สึกอิจฉาเย่ซวงผู้หญิงขึ้นมาอีกขั้น

ผู้ชายดีขนาดนี้ แถมยังทำอาหารเป็นอีก...

ฟางม่อที่เห็นท่าทางตรงหน้าก็แทบจะสำลัก ดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรกับน้องสาวของตัวเองจริงๆ แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำดีกับผู้หญิงราวกับเป็นเรื่องปกติขนาดนี้ล่ะ?!

“พี่ฟางพูดต่อสิ ตกลงว่าไม่มีทางอื่นแล้วเหรอ?” เย่ซวงยื่นมือไปจับที่คีบแล้วก็รับหน้าที่ในการย่างต่อ ดูท่าแล้วถ้าเธอไม่ลงมือทำล่ะก็ วันนี้สองพี่น้องที่อยู่ตรงหน้าก็คงไม่ได้กินของอร่อยแน่ๆ

“...” ฟางม่อมองเย่ซวงอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ตอบเย่ซวงไปว่า “แม้ในทางทฤษฎีแล้วบริษัทแบบนี้จะไม่มีอยู่ก็ตาม แต่ถ้าจะเอาตามเงื่อนไขพวกนั้นที่นายว่ามาก็มีอยู่งานหนึ่ง”

“นายเคยได้ยิน ‘เฮดฮันเตอร์’ มาก่อนไหม?!” ฟางม่อคีบกุ้งตัวหนึ่งที่อยู่บนตะแกรงขึ้นมา เอามากินคู่กับไวน์ก็ยิ่งเพิ่มรสชาติ เขากินไป แล้วก็ค่อยๆ อธิบายไปว่า “ที่เรียกว่าเฮดฮันเตอร์ ก็เหมือนกับงานมองหาคนที่โดดเด่นมีความสามารถนั่นแหละ...ที่จริงบริษัทเฮดฮันเตอร์ เป็นบริษัทที่รับสมัครงานปกติทางอินเทอร์เน็ตและบนช่องทางที่สามารถมองเห็นได้ แค่นายลงทะเบียนบันทึกเรซูเม่ลงไปก็จะอยู่ในไฟล์สำหรับการสมัครงานแล้ว แต่งานพวกนี้ที่เรารู้จักนั้น จริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก”

“ในขอบเขตของเฮดฮันเตอร์ ผู้ที่รับหน้าที่หาคนจะถูกเรียกว่า ‘อินทรีย์’ คนที่ประวัติดีมากจะถูกเรียกว่า ‘จิ้งจอก’ ส่วนคนที่ให้บริษัทเฮดฮันเตอร์หาคนให้จะถูกเรียกว่า ‘แขก’ ...” ฟางม่อรับเอาองุ่นจากในจานผลไม้มาวางไว้เป็นสามฝั่ง พร้อมกับอธิบายให้เย่ซวงฟังอย่างอดทน “คนที่ถูกเรียกว่า ‘อินทรีย์’ และ ‘จิ้งจอก’ ได้นั้นต้องมีคุณสมบัติเพียงพอ ไม่ใช่แค่เอาใบปริญญามายื่นแล้วจะได้การยอมรับ...ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมอยากได้คนที่มีความสามารถสูงมาเป็นซีอีโอ คนระดับนี้ไม่ใช่ว่าจะไปเลือกหาเอาตามอินเทอร์เน็ตได้ตามใจชอบ แล้วก็ไม่สามารถดูแค่ใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเพียงอย่างเดียวมาเป็นตัวตัดสิน ดังนั้นเวลานี้ผมจึงต้องใช้เส้นสายของตัวเองในการหาคน แต่ถ้าหากผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจ ก็ต้องขอให้เฮดฮันเตอร์มืออาชีพมาช่วยผมหา... พวก ‘อินทรีย์’ ก็จะตามหาคนที่เหมาะสมกับเงื่อนไขที่ผมให้ไป โดยดูจากความสามารถ ประสบการณ์ และอีคิวเป็นต้น และบริษัทที่มีทรัพยากรบุคคลชั้นสูงพวกนี้อยู่ถึงจะนับได้ว่าเป็นเฮดฮันเตอร์ที่แท้จริงยังไงล่ะครับ...”

ฟางม่ออธิบายอย่างละเอียด เย่ซวงก็เข้าใจว่าคงไม่มีอะไรยุ่งยากมากมาย พอพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อไม่ให้ยืดยาวอีก เย่ซวงจึงถามไปว่า “พี่ฟางหมายความว่า ให้ผมเป็น ‘จิ้งจอก’ เหรอ?!”

ฟางม่อยิ้มแล้วก็เด็ดองุ่นที่อยู่ตรงหน้ามากินลูกหนึ่ง “เสี่ยวเย่นายเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก ก็อย่างเช่น ฝีมือการทำอาหารและความสามารถทางกายภาพผมก็ได้เห็นมาแล้ว ไหนจะรูปร่างหน้าตาที่มาทำงานประเภทโฆษณาได้อีก...เฮดฮันเตอร์ไม่ใช่แค่ธุรกิจการหาคนเท่านั้นนะ ดังนั้นเดิมทีแล้วนายก็เป็นจิ้งจอกที่ดีตัวหนึ่งเลย ปัญหาสำคัญก็คือ ตอนนี้นายต้องทำให้พวก ‘อินทรีย์’ ยอมรับและเห็นนาย”

“...พี่หมายความว่าให้ผมเสนอตัวเองงั้นเหรอ?!” เย่ซวงเข้าใจความหมายของฟางม่อ

ฟางม่อพยักหน้า แล้วพูดเงื่อนไขออกมาทีละอย่าง “ใบปริญญาเป็นพื้นฐาน แต่ว่าก็ไม่ได้สำคัญมากนักหรอก ยังไงตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่ามหาวิทยาลัยในประเทศเข้ายากออกง่าย ใครจะไปรู้ว่าใบปริญญาใช้รับรองได้มากน้อยแค่ไหน...ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือหนังสือรับรองระหว่างประเทศ แล้วก็มีผลสำเร็จทางการทหาร นายเคยทำโปรเจกต์ใหญ่ๆ อะไร หรือเคยชนะรางวัลอะไรมาบ้าง พวกนี้จะเป็นเบี้ยต่อรองให้นายได้”

“แค่นายไปอยู่ในรายชื่อ ‘จิ้งจอก’ ก็จะได้เป็นทรัพยากรของบริษัทเฮดฮันเตอร์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า” ฟางม่อมาคิดๆ ดูแล้วสุดท้ายก็พูดออกไปหนึ่งประโยค “ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่อเมริกาก็พอรู้จักเพื่อนคนหนึ่งในไอวี่ลีก* เขาให้วิธีการติดต่อกับบริษัทเฮดฮันเตอร์แห่งหนึ่งได้ แต่ว่าก่อนหน้านั้น นายจำเป็นต้องแสดงคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมก่อน”

 

* ไอวี่ลีก คือกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านคุณภาพการศึกษาที่ดีเยี่ยม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด