ตอนที่แล้วGE136 สงคราม (4) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE138 สงคราม (6) [ฟรี]

GE137 สงคราม (5) [ฟรี]


ประมุขนิกายอัสนีม่วงหนีตายอย่างสุดชีวิต กลิ่นอายของปีศาจเฒ่าก็ไล่หลังมันเข้ามาใกล้ๆมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากปีศาจเฒ่าสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ 14 คน ประมุขนิกายอัสนีม่วงงได้หนีห่างจากเมืองหนิงกว่า 200 ลี้

แต่ระยะทางระดับนั้น ปีศาจเฒ่าย่างก้าวไม่กี่ครั้งก็ไล่ตามได้ทัน

“ข้าไม่อยากตาย… ไม่อยากตาย!”

ประมุขนิกายอัสนีม่วงหวาดกลัวสุดขีด จึงตะบึงไปยังตระกูลผู้ฝึกตนตระกูลหนึ่ง

ตระกูลเฉินทางแคว้นเยว่ตะวันตก เป็นตระกูลที่มีผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณมากมาย แต่เหตุที่ประมุขนิกายอัสนีม่วงล่อปีศาจเฒ่าไปนั้น เพราะมันจะให้ปีศาจเฒ่ากินคนอื่นแทน

เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย มันจึงเห็นแก่ตัว เป็นสิ่งที่ไม่ว่าผู้ใดก็เป็น

ปีศาจเฒ่าเองก็พึงพอใจกับการกระทำของประมุขนิกายอัสนีม่วง จึงได้เข้าทำลายตระกูลผู้ฝึกตนในระหว่างทางที่มันผ่าน ทำให้ดูดกลืนผู้คนได้มากมาย

ณ ตระกูลเฉินแห่งแคว้นเยว่ตะวันตก ภายนอกตระกูลได้วางข่ายอาคมวิญญาณระดับสูงเอาไว้  ยามนี้ ผู้นำตระกูลเฉินเผยสีหน้าตระหนก เพราะมีนเห็นประมุขนิกายอัสนีม่วง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ กำลังตรงมายังตระกูลของมัน… ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำมาทำอะไรที่นี่? หรือมันมาเพื่อทำลายตระกูล?

ผู้นำตระกูลเฉินไม่กล้าเมินเฉย มันเตรียมตัวออกไปต้อนรับ แต่ทันใดนั้นเอง มันกลับเห็นแสงสีดำไล่ตามมา ทะลวงข่ายอาคมเข้ามาในตระกูล!

“พวกเจ้าทุกคนเป็นอาหารของข้า!”

ปีศาจเฒ่าเย้ยหยัน มันขยับนิ้วเป็นท่าทาง ท้องนภาเหนือตระกูลปรากฏกลุ่มหมอกสีดำ ถล่มเข้าใส่ตระกูล!

เมฆดำขยายวงกว้างปกคลุมตระกูลจนมิด ทำให้ตระกูลที่คึกครื้นกลับกลายเป็นเงียบสงัด ทะเลสติของผู้นำตระกูลปั่นป่วน ใบหน้าเหม่อลอย

เป็นลักษณะเดียวกับศิษย์นิกายเต๋าสวรรค์

คนของตระกูลเฉินทั้งหมด ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นศพที่มีชีวิต!

“ฮ่าฮ่า… ศพมีชีวิต เมื่อพวกมันตายไป ปราณในร่างจะแปรเปลี่ยนเป็นปราณแห่งความตาย เสริมพลังให้กับข้า… เจ้าเด็กน้อยชุดคลุมม่วงเอ๋ย… เจ้าหาศพชั้นยอดให้ข้าแล้ว!”

ภายในหมอกดำเหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณจำนวนมากได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นศพมีชีวิตในพริบตา!

เมื่อเสร็จสิ้น ปีศาจเฒ่าก็ไล่ตามประมุขนิกายอัสนีม่วงอีกครั้ง... ประมุขนิกายอัสนีม่วงพุ่งทะยานหนีไปได้เพียง 10 ลี้ สีหน้ามีความสุขของมันก็กลายเป็นหวาดกลัว

“นี่… แค่ไม่กี่ลมหายใจ ตระกูลเฉินกลับสูญสิ้นทั้งตระกูล!”

ประมุขนิกายอัสนีม่วงเปลี่ยนเส้นทางไปยังตระกูลต่างๆอยู่หลายครั้ง นำหายนะไปให้จนตระกูลเหล่านั้นถูกทำลายทั้งหมด

เมื่อปีศาจเฒ่าทำลายได้หลายตระกูล มันก็เบื่อหน่าย

“ศพโบราณนั่นสำคัญกว่า ข้าต้องเร่งชิงมาจากเด็กนั่น… ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!”

เมื่อกล่าวจบ ปีศาจเฒ่าก็เข้าประชิดประมุขนิกายอัสนีม่วง กระชากแขนของมันจนขาดออกจากร่างในพริบตา

ประมุขนิกายอัสนีม่วงร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่อาจทะยานเหยียบย่างนภา ร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ไร้ราศีประมุขนิกายที่ยิ่งใหญ่

ปีศาจเฒ่าปรากฏกายเบื้องหน้าประมุขนิกายอัสนีม่วง ใช้นิ้วทะลวงไปยังหน้าผากของมันโดยที่มันไม่อาจขัดขืน

“นี่...นี่หรืออำนาจของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม… ช่างน่ากลัวนัก...” ประมุขนิกายอัสนีม่วงตกตาย ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว

ในชั่วลมหายใจนั้นเอง แสงอีกสองสายก็ตามทัน

หนึ่งคือจิงสั่วที่มีปราณเทียบขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม แต่ยังไม่ได้บรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม จึงยังใช้วิชาของขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มได้ไม่มากนัก

อีกหนึ่งคือชู่ซวนเชียนสื่อ แม้นางจะด้อยกว่าจิงสั่ว แต่จื่อเฮ่อได้มอบโอสถให้นางเพื่อฟื้นฟูปราณ จึงไม่เป็นปัญหา แต่นางแปลกใจว่าเหตุใดจื่อเฮ่อถึงได้มีโอสถผันแปรที่ 3 มากมายราวกับขนมขบเคี้ยวเช่นนี้

เมื่อจิงสั่วและชู่ซวนเชียนสื่อมาถึง ทั้งสองระดมจู่โจมใส่ปีศาจเฒ่าทันที... ชู่ซวนเชียนสื่อใช้วงหยกวารีผสานกับสมบัติวิญญาณชนิดอื่น แต่นั่นไม่อาจทำอันตรายปีศาจเฒ่าได้ นางจึงได้ขยับนิ้วเป็นท่าทาง ปรากฏเส้นแสงสีทองจำนวนมาก เข้าพันธะนาการปีศาจเฒ่าเอาไว้

จิงสั่วนำขวานสีแดงเพลิงออกมา แล้วสับเข้าใส่ร่างของปีศาจเฒ่าอย่างรุนแรง

แม้การจู่โจมของทั้งสองจะไม่สามารถทำอันตรายปีศาจเฒ่าได้ แต่ก็ช่วยประมุขนิกายอัสนีม่วงได้

ชู่ซวนเชียนสื่อเห็นประมุขนิกายอัสนีม่วง ล่อปีศาจเฒ่าให้ทำลายตระกูลผู้ฝึกตนมากมาย นางจึงมองมันด้วยสายตารังเกียจ

“ไสหัวไป ที่นี่พวกข้าจัดการเอง” นางกล่าวอย่างเย็นชา

“ขะ...ขอบคุณแม่นางและผู้อาวุโสจิงสั่วที่ช่วยเหลือข้า!”

ประมุขนิกายอัสนีม่วงรอดตาย มันดีใจและหวาดกลัว เร่งทะยานหลบหนีปีศาจเฒ่าที่ถูกพันธนาการ

เรื่องในวันนี้ ได้ทิ้งเงาของฝันร้ายที่ทำให้มันหวาดกลัวไปทั้งชีวิตเอาไว้ และด้วยเหตุนี้ อาจทำให้มันบรรลุขอบเขตต่อไปไม่ได้อีก

หากมันกลับไปถึงนิกายเมื่อใด มันเก็บของแล้วหนีออกจากแคว้นเยว่… มันไม่อาจอยู่แคว้นเยว่ต่อได้อีก

เมื่อประมุขนิกายอัสนีม่วงหนีไปได้ ปีศาจเฒ่าแค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจ

มันซัดฝ่ามือเข้าต้านขวานของจิงสั่วจนแตกเป็นเสี่ยงๆ สีหน้าจิงสั่วแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ขวานของมันเป็นถึงสมบัติวิญญาณระดับสูงสุด เหตุใดจึงแตกเป็นเสี่ยงๆได้?

“ถอยเร็ว!” เมื่อไม่สามารถทำอันตรายอีกฝ่ายได้ จิงสั่วจึงบอกกล่าวชู่ซวนเชียนสื่อให้ถอย

ปีศาจเฒ่าโกรธแค้น อีกฝ่ายเป็นเพียงมดปลวก แต่กลับกล้าขวางทางมัน

“ข้าเห็นดวงจิตแรกเริ่มที่ซ่อนอยู่ของพวกเจ้า... น่าอร่อยมาก!”

ปีศาจเฒ่ายิ้มอย่างชั่วร้าย แผดเสียงคำราม ไล่ตามจิงสั่วและชู่ซวนเชียนสื่อไป

ปีศาจเฒ่ากวัดแกว่งกรงเล็บที่แหลมคม วายุอันคมกริบเคลื่อนผ่านใบหน้าของจิงสั่วจนทำให้รู้สึกเจ็บ มันตกตะลึงกับร่างกายที่ทรงพลังของปีศาจเฒ่า

เมื่อเข้าสู่สถานะการณ์วิกฤต แววตาจิงสั่วแปรเปลี่ยน มันอ้าปากคายเพลิงสีครามออกมา

เพลิงสีครามลุกโหมด้วยความร้อนที่รุนแรง ทำให้ปีศาจเฒ่าสีหน้าแปรเปลี่ยน

“เพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพ… เพลิงคราม? ไม่… เป็นเพลิงครามที่ผสานกับเพลิงชนิดอื่นจนเกิดเพลิงปีศาจเทียม ฮ่าฮ่า… ข้าก็ตกใจแทบแย่ หากเป็นเพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพจริงคงแย่!”

ร่างศพที่ยกระดับแล้วเป็นร่างกายที่ทรงพลัง เพลิงธรรมดาไม่อาจทำอันตรายได้ แต่หากเป็นเพลิงปีศาจสิบสองชีพจรพิภพ จะสร้างความเสียหายร้ายแรงได้

ปีศาจเฒ่าเผยสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนเอื้อมกรงเล็บบดขยี้เพลิงครามของจิงสั่ว

แล้วใช้กรงเล็บอีกข้างหวังทะลวงตันเถียน แต่กลับถูกสมบัติวิญญาณระดับสูงป้องกัน มันฉีกกระชากเกราะชุดนั้นจนเสียหาย เป้าหมายของมันคือดวงจิตแรกเริ่มเทียมที่อยู่ภายในตันเถียนของจิงสั่ว

ปีศาจเฒ่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ราวกับอัสนีแปรบปราบจนยากที่จิงสั่วจะรับมือได้ทัน

มันคาดไม่ถึงว่าพลังของมันจะห่างชั้นกันปีศาจเฒ่าอยู่มากขนาดนี้ ไม่แปลกที่ครั้งอดีตปีศาจเฒ่าจะเคยทำลายแคว้นไป 7 แห่ง… ปีศาจในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มเช่นมันรับมือได้ยากนัก

ปีศาจเฒ่าหวังกระชากตันเถียนของจิงสั่ว มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับเทพสังหาร เหตุใดผู้เชี่ยวทั่วไปอย่างจิงสั่วจะรับมือได้

แต่จิงสั่วย่อมไม่ยอมให้ปีศาจเฒ่าชิงดวงจิตแรกเริ่มเทียมไปได้ มันกัดปลายลิ้น พ่นแก่นโลหิต หน้าอกเปล่งแสงสีทอง เสียงสวดมนต์ดังขึ้น แสงสีทองก่อตัวเป็นรูปกรวยทะลวงไปยังแขนของปีศาจเฒ่าจนทำให้มันหยุดนิ่ง จิงสั่วอาศัยโอกาสนั้นทะยานเข้าหาชู่ซวนเชียนสื่อ หวังประสานพลังกับนางต้านรับการจู่โจมของมัน

“ข้าสู้ไม่ได้!” จิงสั่วกล่าว

“รอหนิงฝานช่วยเหลือ” นางเชื่อในตัวหนิงฝาน

เมื่อหนิงฝานกล่าวว่าจะช่วย เขาย่อมมีวิธี แม้จะอยู่ห่างออกมาหลายร้อยลี้ แต่หนิงฝานย่อมไม่ปล่อยให้ทั้งสองถูกสังหาร

ปีศาจเฒ่าตกตะลึงกับการโต้กลับของจิงสั่ว

“สมบัติพุทธ? แม้จะเป็นเพียงสมบัติวิญญาณระดับสูง แต่อำนาจในการต้านปีศาจก็มากพอที่จะทำให้ข้าบาดเจ็บ… แต่เจ้าไม่มีทางหนีข้าพ้น ผู้เชี่ยวชาญกึ่งดวงจิตแรกเริ่มอย่างเจ้า ยังห่างชั้นกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แท้จริงอยู่มาก! ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว! ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าได้! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริงของข้า ให้เจ้าได้ตระหนักถึงความต่างอย่างชัดเจน!... ‘หมื่นศพแคว้นพินาศ’”

ปีศาจเฒ่าเลียปาก มือเอื้อมสัมผัสกระเป๋าสีดำ ปราณในขอบเขตประสานวิญญาณวิญญาณและแก่นทองคำจำนวนมหาศาลปกคลุมท้องนภา

เสียงกรีดร้องที่แฝงด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้าดังออกมาจากกระเป๋าใบนั้น จนสีหน้าจิงสั่วแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

หรือในกระเป๋าใบนั้นจะมีศพอยู่เป็นจำนวนมาก? หากเป็นเช่นนั้น จิงสั่วจะรับมือได้อย่างไร!

หมื่นศพ! กระเป๋าใบนั้นบรรจุศพหมื่นร่างไว้ ด้วยสิ่งนี้ แคว้นเยว่คงหนีไม่พ้นเงื้อมมือของมัน และถูกทำลายเป็นแคว้ยที่ 8!

“ชู่ซวนเชียนสื่อ เจ้ารีบหนีไป เราสู้ปีศาจเฒ่าไม่ได้… เจ้าเร่งกลับไปหาสหายเต๋าหนิงและคนอื่นๆที่เมืองหนิง หลบหนีออกไปจากแคว้นแห่งนี้ มุ่งไปสู่แคว้นระดับสูงเพื่อลี้ภัย… แคว้นเยว่ของเรามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แม้เป็นนิกายไท่ชูไพ่ก็ไม่อาจรับมือ… มีเพียงวิหารพิรุณเท่านั้นที่ช่วยเหลือเราได้”

จิงสั่วถอนหายใจ หมดสิ้นกำลังใจต่อสู้ มันสู้ปีศาจเฒ่าไม่ได้ หากเป็นเทียนยี่มันยังพอรับมือ แต่ยามนี้มีทั้งศพจำนวนมหาศาล ทั้งยังมีปีศาจเฒ่าอยู่… มันจะรับมือได้อย่างไร? ต่อให้มันบรรลุดวงจิตแรกเริ่มก็ยังสู้ไม่ได้

“รอสักหน่อยเถอะ… หนิงฝานต้องมีวิธีแน่...” ชู่ซวนเชียนสื่อกล่าวอย่างหนักแน่น นางรู้ว่าหนิงฝานไม่มีทางโกหก

“เชียนสื่อ… เจ้าและสหายเต๋าหนิงผูกพันแน่นแฟ้น ไม่ว่ายังไงข้าก็อาจทนมองเจ้าตายที่นี่ได้… หากเจ้ายังยืนกรานเช่นนี้ ข้าคงต้องทำให้หมดสติ และพากลับไปส่งที่เมืองหนิงอย่างปลอดภัย!” จิงสั่วคิดจะทำให้นางหมดสติและพากลับไปส่งที่เมืองหนิง

แม้จะดูป่าเถื่อนไปบ้าง แต่มันไม่อาจทนเห็นนางตายที่นี่

คำกล่าวของจิงสั่วทำให้นางไม่พอใจ นางรู้จักหนิงฝานเพียงผิวเผิน มีความผูกพันแน่นแฟ้นอะไรกัน!

หากจะให้จิงสั่วทำให้นางหมดสติ และอุ้มนางกลับไป นางขอตายมากกว่าให้อีกฝ่ายสัมผัสร่าง

คำกล่าวของจิงสั่วทำให้ปีศาจเฒ่าหัวเราะ

“คิดจะหนีรึ? ทำได้ก็ลองดู!

ปราณแห่งความตายปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่งจนไม่อาจเคลื่อนไหว

ปีศาจเฒ่าทะยานเข้าประชิดในพริบตา กรงเล็บทั้งสองข้างหวังทะลวงตันเถียนของทั้งสอง จนไม่อาจตามการเคลื่อนไหวได้ทัน ทั้งสองไม่ทางรอด

ปีศาจเฒ่าจินตนาการว่าทั้งสองได้ตกตาย สตรีอย่างชู่ซวนเชียนสื่อ มันจะแปลงให้นางเป็นศพที่มีความคิด เฉลียวฉลาด มันจะได้เห็นนางดิ้นรนขัดขืนอย่างไร้หนทาง แค่คิดก็ทำให้มันมีความสุขแล้ว

ส่วนดวงจิตแรกเริ่มเทียมของจิงสั่ว เป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับพลังของมันได้เป็นอย่างดี

แต่เมื่อกรงเล็บของมันเข้าประชิดกายทั้งคู่ แสงสายหนึ่งกลับดิ่งลงมาจากท้องฟ้า ปีศาจเฒ่าหวาดกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และร่อนถอยอย่างรวดเร็ว

แต่ในชั่วอึดใจนั้น ปีศาจเฒ่ากลับพบว่าตนไม่อาจใช้ย่างก้าวพริบตาได้

ปราณกระบี่ขนาดยักษ์ 4 เล่มปกคลุมผืนนภา บดบังแสงตะวัน แม้จะมีปราณแห่งความตายหนาปกคลุมเบื้องบน แต่ปีศาจเฒ่ายังมองเห็นเงาของปราณกระบี่เล่มนั้นได้

ไม่ว่าคมกระบี่ใดก็ไม่อาจทะลวงผ่านร่างกายที่ทรงพลังของปีศาจเฒ่าได้ แต่ปราณกระบี่เล่มนี้ กลับทะลวงผ่านป้องกันของมันอย่างง่ายดาย จนโลหิตสีดำสาดกระจาย!

ปีศาจเฒ่าคำราม ราวกับปราณกระบี่สร้างความเสียหายให้มันอย่างใหญ่หลวง

ในตำราศพอสูรของมันเคยกล่าวถึงปราณกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวเล่มนี้

“กระบี่ทั้งสี่เล่มแห่งความตาย หากเป็นเซียน ต้องประสบกับหมื่นกระบี่ฟาดฟัน… ไม่ผิดแน่… นี่มันปราณกระบี่สังหารเซียน! ปราณของกระบี่ที่ใช้ลงทัณฑ์ในลานสวรรค์โบราณ!”

มันแผดเสียงร้องด้วยความคั่งแค้น โศกเศร้า มันไม่นำศพทั้งหมื่นร่างออกมา เพราะด้วยปราณกระบี่สังหารเซียน ศพของมันจะถูกทลายทั้งหมด

เมื่อครั้งที่ต้องประสบกับปราณกระบี่สังหารเซียน หนิงฝานจำเป็นต้องพึ่งโอสถจักรพรรดิหยกเพื่อหักล้างความเจ็บปวด ดังนั้น การที่ปีศาจเฒ่าจะบาดเจ็บอย่างหนักก็ไม่แปลก

ปีศาจเฒ่าไม่ได้กลัวที่ร่างกายของมันต้องบาดเจ็บสาหัส เพราะด้วยวิชาแปลงศพและสมบัติบางชนิด มันสามารถฟื้นฟูได้ แต่สิ่งที่ทำให้เสียใจ คือร่างที่กำลังจะยกระดับ กลับต้องถดถอยลงไปอีกขั้น!

ปราณกระบี่แต่ละเล่มที่ฟาดฟันปีศาจเฒ่า ทำให้ปราณแห่งความตายที่มันสั่งสมมา 2 พันปีหายไป!

ปราณกระบี่สังหารเซียนอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง แต่ความคั่งแค้นของปีศาจเฒ่ากลับเพิ่มพูนผันแปร

ยิ่งมันสัมผัสกลิ่นอายปราณที่แฝงอยู่ในปราณกระบี่สังหารเซียนได้ มันยิ่งโกรธแค้นเท่าทวี! เพราะนั่นเป็นกลิ่นอายของหนิงฝาน หนิงฝานเป็นผู้ใช้ประกาศิตสังหารกับมัน!

มันไม่เคยเคียดแค้นผู้ใดมากขนาดนี้มาก่อน!

“หนิงฝาน… ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆให้ได้!”

ระดับร่างกายของชายชราดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเรื่องที่มันไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น!

เทียนยี่… เทียนยี่ถูกหนิงฝานสังหาร!

เมื่อเทียนยี่ถูกสังหาร ปราณของปีศาจเฒ่าก็ค่อยๆหายไป

เทียนยี่คือแห่งเก็บรวบรวมปราณของมัน เมื่อศพไร้ซึ่งปราณ มันก็เป็นได้เพียงศพที่มีชีวิต มีโอกาสรอดเพียงน้อยนิด ดังนั้น เทียนยี่จึงสำคัญกับมันมาก… สิ่งที่ทำให้ปีศาจเฒ่าเจ็บปวดที่สุดคือ เทียนยี่มีสมบัติล้ำค่าติดตัวมากมาย ทั้งระดับร่างกายของมันก็ใกล้จะบรรลุขอบเขตกระดูกเงิน จนทำให้มันแข็งแกร่งพอจะรับมือกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นได้

“ไม่!!! ร่างกายของข้า! ปราณของข้า! แผนการ 2 พันปีของข้าพังทะลาย! บัดซบ บัดซบ!”

เหนือท้องนภาเมืองหนิง… หลังจากหนิงฝานใช้ประกาศิตสังหาร เขายังไม่ได้ยื่นมือช่วยซือซือทันที

เขาปล่อยให้นางสู้กับเทียนยี่ จนสถานการณ์ไม่สู้ดี ปราณของนางลดลงอย่างต่อเนื่อง ผิดกับเทียนยี่ที่ยังทรง

พลัง

นางเริ่มตกเป็นรองเทียนยี่อย่างช้าๆ และจากการต่อสู้ของนางนั้น หนิงฝานก็สังเกตุเห็นบางสิ่ง

หลังจากหนิงฝานเปลี่ยนให้นางเป็นบ่าว นางได้สูญเสียความทรงจำ วิชาต่างๆที่มีได้ลืมเลือน

แต่วิชาที่นางใช้เมื่อครู่ กลับเป็นวิชาที่ฝึกฝนเมื่อตอนที่อยู่นิกายเทียนหลีโม่

เป็นไปได้อย่างไร… หรือความทรงจำของนางจะกลับมา

หนิงฝานสงสัย หากนางฟื้นความทรงจำจริงๆ เหตุใดนางไม่สังหารเขา? เหตุใดต้องยื่นมือช่วย? หรือตัวตนของซือซือได้ส่งผลกับนาง?

“ซือซือ… หากเจ้าเป็นซื่อหวูเสีย ข้าจะสังหารเจ้า แต่หากเจ้าเป็นซือซือ เจ้าจะปลอดภัย… ข้าไม่มีทางเลือก...” หนิงฝานถอนหายใจแผ่วเบา ยามนี้นางกำลังเพลี่ยงพล้ำ แต่ถึงนางกำลังจะโดนวิชาจากดวงตาที่ 3 หนิงฝานกลับยังไม่เคลื่อนไหว

เพราะเงาร่างในอาภรณ์ดำได้ทะยานมายังตรงมายังเมืองหนิง!

เงาร่างในอาภรณ์ดำมีรูปร่างหน้าตาเหมือนหนิงฝานในอาภรณ์ขาวทุกประการ เพียงแต่ดวงตานั้น กลับเป็นสีดำสนิท

อาภรณ์ดำพลิ้วไสว เงาร่างเคลื่อนบดบังเบื้องหน้าซื่อหวูเสียจนไม่มีผู้ใดมองทัน เว้นแต่กุ่ยเชว่สื่อ สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

เมื่อเนตรดวงที่ 3 ของเทียนยี่ใช้วิชา หนิงฝานในอาภรณ์ดำสะบัดมือ ทำลายวิชาของมันไปอย่างง่ายดาย

วิชาเนตรคือวิชาสัมผัสเทพ ในเมื่อเป็นสัมผัสเทพ ย่อมไม่มีอะไรต้องกลัว แม้เป็นดินแดนแห่งความฝันของหมิงลั่ว ชายชราในขอบเขตไร้แบ่งแยก หนิงฝานยังไม่หวาดกลัว เหตุใดต้องกลัวสัมผัสเทพของเทียนยี่!

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหนิงฝานอาภรณ์ดำ เทียนยี่หวาดกลัว

แต่ความกลัวนั้นปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่ ก่อนที่มันจะเหวี่ยงหมัดที่แฝงด้วยปราณน้ำแข็งเข้าใส่ จากการที่ใช้วิชาขัดเกลาร่างกายอีกวิชา

วิชานี้มีชื่อว่า ‘เพลงหมัดทะลายน้ำแข็ง’ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ย่อมไม่มีผู้ใดรับได้

แต่เมื่อหมัดน้ำแข็งเข้าประชิดหนิงฝานอาภรณ์ดำเพียง 3 จ้าง หมัดของมันกลับถูกบางสิ่งฟาดฟันจนขาดเป็นสองท่อน

มันสัมผัสได้ถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

หนิงฝานในอาภรณ์ดำกล่าว “ข้ามีนามว่าโม่หนิง… เจ้าทำร้ายนาง เจ้าสมควรตาย!”

ร่างของโม่หนิงระเบิดเป็นหมอกควัน แสงสีดำหลายสายพุ่งออกจากหมอกควัน แปรเปลี่ยนเป็นกระบี่สีดำขลับ ห้อมล้อมร่างของเทียนยี่!

กระบี่แต่ละเล่มแฝงด้วยอำนาจของกระบี่สังหารเซียน กระบี่เหล่านั้นพุ่งทะยานหมุนวนราวกับพายุคลั่ง เข้าเชือดเฉือนฟาดฟันร่างกายขนาดยักษ์ของเทียนยี่

ในช่วงเวลาคับขันนั้น เงาร่างของหนิงฝานในอาภรณ์ขาวก็ได้หายไป

“ทำร้ายนางเท่ากับตาย!” โม่หนิงกล่าว

แรงกดดันในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มแผ่ปกคลุมทั่วเมืองหนิง

หรือนั่นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอีกคน!? ผู้เชี่ยวชาญในอาภรณ์ดำนั้นกล่าวว่าตนคือโม่หนิง ไม่ใช่หนิงฝาน แต่เหตุใดทั้งสองถึงได้มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน!

ใช่… หรือนั่นจะเป็นปีศาจทมิฬหนิงที่กล่าวขาน เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม… ปีศาจทมิฬหนิงแข็งแกร่งกว่าหนิงฝาน หนิงฝานเป็นหลานของคนผู้นี้ เช่นนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

มีเพียงจื่อเฮ่อที่ส่ายหน้า นางไม่ได้หวาดกลัวกลิ่นอายของโม่หนิง และรู้ว่าโม่หนิงไม่ใช่ปีศาจทมิฬหนิง แต่เป็นพี่ฝานของนาง

“พี่ฝาน… เหตุใดท่านถึงมีสองร่าง? แม้จะเป็นพี่ฝานในอาภรณ์ดำ แต่ท่านไม่ได้ต่างไปจากที่เป็น… ช่างน่าขันนัก” นางยิ้ม การที่หนิงฝานแบ่งแยกเป็น 2 คน เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

และความแข็งแกร่งของโม่หนิง ก็ทำให้นางวางใจ

เพราะนางเชื่อว่า วันนี้จะไม่มีผู้ใดทำอันตรายเมืองหนิงได้

เมื่อหนิงฝานในอาภรณ์ขาวหายไป หนิงฝานในอาภรณ์ดำที่ฟาดฟันร่างของเทียนก็ละมือ และหายไปอย่างฉับพลัน

ลำแสงสีขาวและดำพุ่งตรงเข้าหากัน โม่หนิงและไป๋ฝานใช้วิชาลับสัมผัสลวง บดบังอำพรางกาย

หลังจากนั้นไม่นาน หนิงฝานในอาภรณ์ขาวดำก็ปรากฏ มุมปากยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แววตาเผยเจตนาสังหารเต็มเปี่ยม

“ถึงคราวที่ต้องสังหารปีศาจแล้ว! เมื่อร่างวิญญาณของข้าบรรลุดวงจิตแรกเริ่ม สัมผัสกระบี่ของข้าก็ยกระดับ… นับว่าวันนี้ไป ข้าจะเรียกวิชานี้ว่า ‘วิชาวารีผันแปร’”

หนิงฝานยิ้มบาง แม้ระดับปราณจะยังอยู่ในขอบเขตประสานวิญญาณ แต่เขากลับใช้ย่างก้าวพริบตาได้

กลิ่นอายที่แผ่ออกมามีทั้งขอบเขตประสานวิญญาณ และขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม

ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับศพปีศาจก็ไม่จำเป็นต้องกลัว! เพราะด้วยพลังหนิงฝานตอนนี้ แค่คิดก็ทำลายแคว้นเยว่ได้แล้ว!

ไม่ว่าจะคาดเดาว่าปีศาจทมิฬหนิงคือผู้ใด หรือหนิงฝานเป็นใคร… นับจากวันนี้ไป จะไม่มีผู้ใดกล้าคิดทำลายเมืองหนิงอีก!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด