ตอนที่แล้วGE134 สงคราม (2) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE136 สงคราม (4) [ฟรี]

GE135 สงคราม (3) [ฟรี]


“สหายเต๋าจิงสั่วไม่ต้องทำเช่นนี้… เรายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ไม่ใช่เวลาพูดคุย...” หนิงฝานประครองจิงสั่วให้ลุกขึ้น แล้วหันมองเทียนยี่

คนของนิกายจี๋หลิงที่หนีไป หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจ แต่หนานกงได้ส่งคนให้ล่าตามไป สิ่งที่หนิงฝานกังวลคือโลงศพสีดำที่อยู่ข้างหลังเทียนยี่

“ศัตรูฉกาจ?”

นอกจากจิงสั่วและกุ่ยเชว่สื่อแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายคนที่มาก็ไม่พอใจ

แม้นิกายจี๋หลิงจะถูกทำลาย แต่ยังเหลือนิกายเต๋าสวรรค์ แม้พวกมันจะจัดการได้ยาก แต่ศัตรูตัวร้ายอย่างพวกมันจะปล่อยให้หลุดรอดไปได้อย่างไร?

ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดแหงนมองนิกายเต๋าสวรรค์

เมื่อได้ยินหนิงฝานกล่าวเช่นนั้น จิงสั่วขมวดคิ้ว แววตาดุดัน ราวกับกำลังรอให้หนิงฝานออกคำสั่ง

จิงสั่วกำหมัดแน่น โคจรปราณเตรียมพร้อม แต่ในยามนั้นเอง เทียนยี่กลับหัวเราะลั่น

“เจ้ามีศพโบราณอยู่กับตัว! ดี! ข้าจะได้ไม่ต้องตามหาให้เหนื่อย! ส่งศพมาให้ข้าแล้วข้าให้เจ้าตายสบายๆ… ส่วนผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ข้าจะเปลี่ยนให้พวกมันเป็นศพทั้งหมด!”

เทียนยี่สื่อเก็บเข็มทิศ มือสองข้างไพล่หลัง แผ่แรงกดดันที่รุนแรง แม้จะทรงพลังเท่าจิงสั่ว แต่ก็ทรงพลังกว่าผู้เชี่ยวชาญของนิกายกุ่ยเชว่มาก

ฝั่งทางเมืองหนิงก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เทียนยี่ด้อยกว่าจิงสั่ว แต่กลับโอ้อวดว่าจะสังหารทุกคน คนเช่นนั้นสมควรตาย

จิงสั่วแค่นเสียง เท้าก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ปลดปล่อยแรงกดดันที่รุนแรง แม้ปราณของจิงสั่วจะบรรลุถึงระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม แต่แรงกดดันยังไม่ใช่ ถึงอย่างนั้น ก็ทรงพลังมากกว่าระดับประมุขนิกายหลายเท่า

แรงกดดันของจิงสั่วทำให้ไป๋เฟยเถิงและผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ใกล้หายใจลำบาก แต่เทียนยี่กลับรู้สึกราวกับแรงกดดันของอีกฝ่ายเป็นเพียงสายลมเย็น มันยิ้ม

“หากเจ้าคิดจะใช้พึ่งพาเจ้าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเทียม ข้าบอกเลยว่าเจ้าพลาดแล้ว มันไม่มีทางช่วยเจ้าได้!”

เทียนยี่กล่าวพลางขยับนิ้วเป็นท่าทาง ศพในขอบเขตประสานวิญญาณทั้ง 44 ร่างขยายขนาด ก่อนจะระเบิดเป็นหมอกโลหิตที่อัดแน่นไปด้วยปราณแห่งความตาย ทันใดนั้น กลิ่นอายของเทียนยี่ทรงพลังขึ้นอย่างก้าวกระโดด กระทั่งก้าวล้ำจิงสั่วไป กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น!

ท้องนภาปั่นป่วน วายุรุนแรงพัดคลั่ง ทำให้ปราณที่ไหลเวียนตามธรรมป่วนปั่น! นี่คือผลของการถือกำเนิดของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แท้จริง

เพลิงแห่งการต่อสู้ที่ลุกโหมอยู่ในใจผู้เชี่ยวชาญหลายคนมอดดับ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวเข้าแทนที่ เมื่อได้ยินเทียนยี่กล่าวจิงสั่วเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเทียม ทุกคนหันมองจิงสั่ว

“ถูกต้อง… เป็นเช่นนั้น ข้ายังไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แท้จรง...” หน้าผากจิงสั่วปรากฏเหงื่อไหลริน มันเป็นศูนย์กลางแรงกดดันของเทียนยี่ จึงอึดอัดไม่น้อย

คำกล่าวของจิงสั่วราวกับน้ำเย็นสาดใส่ใจของผู้เชี่ยวชาญแคว้นเยว่

เดิมทีผู้เชี่ยวชาญแคว้นเยว่คิดว่าจิงสั่วจะได้เปรียบ แต่ที่แท้กลับกลายเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเทียม ทั้งแรงกดดันยังสู้จิงสั่วไม่ได้

นั่นทำให้ไม่อาจเรียกขานจิงสั่วว่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคนแรกของแคว้นเยว่ได้!

ยามนี้ ฝ่ายได้เปรียบดูเหมือนจะเป็นเทียนยี่… หรือมันเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่แท้จริง?

ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นเยว่หวาดกลัวเทียนยี่ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มคือผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจในแคว้นระดับล่าง จิ่งสั่วเองยังเทียบอีกฝ่ายไม่ได้… ดูตล้ายวันนี้จะต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้ายเสียแล้ว

เทียนยี่กล่าวเย้ยหยัน ทำให้ผู้ที่หวาดกลัวมันเกลียดชัง “นี่แค่แรกกดดันครึ่งนึงของข้า… ต่อไป เป็นแรงกดดัน 7 ใน 10 ส่วน!”

เทียนยี่ขยับนิ้วเป็นท่าทาง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำด้านหลังมัน 8 คนร่างระเบิดเป็นหมอกโลหิต

เทียนยี่ดูดซับปราณแห่งความตาย กระทั่งทำให้มันเกือบบรรลุจุดสูงสุดของขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น

แรงกดดัน 7 ใน 10 ส่วนที่มันว่า กวาดไปยังผู้เชี่ยวชาญทุกคน... ไป๋เฟยเถิง หยานไป่ ปราณในร่างปั่นป่วน หนิงฝาน กุ่ยเชว่สื่อ และจิงสั่ว ไม่มีผู้ใดต้านทานแรงกดดันได้! ดวงตาที่ 3 ของเทียนยี่เปล่งแสงเจิดจ้า ผู้อาวุโสนิกายไท่ชูไพ่ 4 คนที่อยู่ห่างออกไป ตกอยู่ในการควบคุมของเทียนยี่ ด้วยการลุกล้ำหัวใจแห่งปีศาจ

“บางที แรงกดดันนี่อาจจะถึงจุดสูงสุดของขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น… แต่นี่เพียง 7 ใน 10 ส่วน หากมันปลดปล่อยทั้งหมดจะเป็นอย่างไร?” สีหน้าจิงสั่วแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันเริ่มต้านแรงกดดันอีกฝ่ายไม่ไหว

แปลก… แปลกมาก… ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไม่สมควรพึ่งพาแรงกดดัน… หรือในขณะที่เทียนยี่ปลดปล่อยแรงกดดัน มันจะแฝงวิชาลวงตาเข้ามาด้วย!

จิงสั่วและกุ่ยเชว่สื่อมองหน้ากัน ราวกับทั้งสองจะรู้บางสิ่ง

ทั้งสองพยักหน้า เร่งเร้า เปล่งเสียงคำรามลั่น พลางปะทุปราณของตน เพื่อทำลายวิชาลวงตา

แม้กุ่ยเชว่สื่อและจิงสั่วจะผสานปราณกัน ยังไม่อาจเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น

นั่นทำให้ทั้งสองไม่อาจทำลายวิชาลวงตาของเทียนยี่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ทิวทัศน์รอบข้างก็ยังปรากฏเส้นสีแดงโลหิต และหายไปในทันที

เส้นแสงสีแดงสมควรเป็นส่วนหนึ่งของวิชาลวงตา แม้จะมองเห็นความลับของวิชา แต่ปราณที่ทรงพลังของจิงสั่วและกุ่ยเชว่สื่อ กลับกระตุ้นให้เส้นสายสีแดงเหล่านั้นทรงอานุภาพขึ้น

สีหน้ากุ่ยเชว่สื่อและจิงสั่วแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง จิตใจของทั้งสองปั่นป่วนรุนแรง

“วิชาลวงตาอะไรกัน… เมื่อยามที่มันขยับนิ้วมือ มันใช้วิชายามนั้นหรือ?”

ทั้งสองยังไม่เข้าใจเล่ห์กลของเทียนยี่ แต่หนิงฝานเข้าใจ เส้นสีแดงโลหิตที่ปรากฏเมื่อครู่ คือความลับของวิชา

เส้นสีแดงโลหิตนั้นเกิดจากดวงตาที่ 3 ของเทียนยี่ มีผลทำให้จิตใจปั่นป่วน

มันใช้สัมผัสเทพที่ทองไม่เห็นเข้าจู่โจม นับเป็นพื้นฐานที่สำคัญของวิชานี้

สัมผัสเทพ… สัมผัสเทพ… เหตุใดหนิงฝานต้องหวาดกลัว!

“เจ้าจบสิ้นแล้ว!”

หน้าผากหนิงฝานเปล่งแสง กระบี่แยกสวรรค์ปรากฏ ก่อนจะเปลี่ยนรูปเป็นกระบี่บิน พุ่งทะยานตัดเส้นสัมผัสเทพรอบทิศ

วิชาเนตรนั้นเป็นวิชาที่ใช้สัมผัสเทพ หากผู้ใดใช้วิชาเนตร ต่อให้อีกฝ่ายมีสายตาและสัมผัสดีขนาดไหนก็ยากจะตรวจพบทันที แต่หากตรวจพบแล้วก็ไม่ต้องกลัว!

กระบี่แยกสวรรค์ตัดเส้นสัมผัสเทพขาด หนิงฝานพลิกฝ่ามือ บังคับกระบี่ตรงเข้าใส่เทียนยี่

ดูเหมือนว่าจะไม่มีผู้ใดทำลายวิชาลวงตาของเทียนยี่ได้เว้นแต่ตน ฉะนั้น หนิงฝานจึงเป็นผู้เดียวที่ต่อกรกับเทียนยี่ได้

สมแล้วที่มันมีเส้นลมปราณศพอสูร และสามารถฝึกฝนกระทั่งบรรลุดวงตาที่ 3… บางที หากเทียนยี่แสดงพลังทั้งหมด มันอาจต่อกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางได้

“สหายเต๋าจิงสั่วและผู้อาวุโส ข้ามีเรื่องขอร้องพวกท่าน… พวกท่านช่วยปกป้องเมืองหนิง ส่วนข้าจะสู้กับมันเอง!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิงสั่วและกุ่ยเชว่สื่อที่หวาดกลัวก็เร่งทะยานกลับไปยังกำแพงเมืองหนิงทันที วิชาลวงที่ประสบเมื่อครู่ทำให้ทั้งสองหวาดกลัวมาก

พวกมันไม่อาจรับมือกับเทียนยี่ได้… ดูท่าวันนี้คงมีเพียงหนิงฝานที่สู้กับมันได้เท่านั้น

“มันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญดวงจอตแรกเริ่ม หนิงฝานจะชนะได้หรือ?” ไป๋เฟยเถิงกล่าวด้วยความกลัว มันยังไม่ลืมวันที่หนิงฝานเอาชนะมัน

“หากเขาสู้ไม่ได้… อย่าว่าแต่เมืองหนิงเลย แคว้นเยว่ก็คงต้องถูกทำลายไปด้วย… หากข้าเดาไม่ผิด เทียนยี่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นศพ และผู้ที่จะทำเช่นนั้นได้คงมีเพียง...” กุ่ยเชว่สื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ผู้ใด?” ปู้ขวางเฝินกล่าว แม้มันจะเป็นผู้อาวุโสนิกายไท่ชูไพ่ แต่มันยังเยาว์หากเทียบกับคนอื่นๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่กุ่ยเชว่สื่อกล่าว จึงสงสัย

“เมื่อ 2 พันปีก่อน มีคนผู้หนึ่งที่แข็งแกร่งพอจะเปลี่ยนให้ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นระดับล่างทั้ง 7 แห่งกลายเป็นศพอยู่” เมื่อได้ยิน ไป๋เฟยเถิงไม่อาจคงใจสงบ

ผู้เชี่ยวชาญรอบๆที่เฝ้าสังเกตุการณ์สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ราวกับพวกมันได้ยินข่าวที่ร้ายที่สุด

เรื่องเมื่อ 2 พันปีก่อน... เรื่องของศพปีศาจ… ในนิกายขนาดใหญ่จะมีบันทึกไว้ เมื่อยามนั้น คนผู้นั้นได้ทำให้แคว้นเยว่เสียหายใหญ่หลวง ประมุขนิกายในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มเพรี่ยงพร้ำ

คนผู้นั้นสามารถทำลายสมบัติวิญญาณได้ด้วยมือเปล่า ทั้งยังกล่าวกันว่าคนผู้นั้นสามารถสร้างศพได้ และมัน...ก็ครอบครองศพในขอบเขตประสานวิญญาณอยู่หลายพันตัว

หากศพจำนวนมากขนาดนั้นปรากฏตัวขึ้นในฉับพลัน ก็ถึงคราบสูญสิ้นแคว้นเยว่… ตำราโบราณหลายเล่มได้บันทึกเรื่องนี้เอาไว้ แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

เส้นลมปราณศพอสูร! แต่ดูราวกับผู้เชี่ยวชาญคนนั้นได้ตายไปแล้ว

“เร่งกลับไปนิกายของพวกท่าน แจ้งข่าวว่าผู้สืบทอดของปีศาจศพได้มาเยือนแคว้นเยว่แล้ว!”

เทียนยี่ขมวดคิ้ว แม้มันจะปลดปล่อยแรงกดดัน 7 ใน 10 ส่วน แต่ยังไม่อาจทำให้จิตใจหนิงฝานปั่นป่วนได้

เมื่อครู่มันแอบใช้วิชาลวงตาของดวงตาที่ 3 ของมัน แต่สุดท้ายหนิงฝานก็เป็นผู้ทำลายไป

กระบี่แยกสวรรค์เปล่งดุจดาราบนนภาราตรี ทั้งยังปลดปล่อยอานุภาพของดาราโบราณ จนทำให้เทียนยี่ดวงตาเบิกกว้าง

“อาวุธเทพโบราณ! ข้ารู้ว่าเจ้าครอบครองเส้นโลหิตปีศาจโบราณ แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีอาวุธเทพโบราณในครอบครองด้วย… แต่จากวันนี้ไป อาวุธนั่นจะกลายเป็นของข้า!”

“มาดูกันว่าเจ้าจะทำได้หรือไม่! กระบี่ยักษ์!”

หนิงฝานพลิกฝ่ามือ กระบี่บินแยกสวรรค์เปลี่ยนรูปทรงเป็นกระบี่ใหญ่ยาว 7 ฉื่อที่มีอัสนีแปรบปราบ

โคจรปราณ วิชากายาหกจ้างสำแดงฤทธิ์ หนิงฝานกำกระบี่แน่นพลางเหยียบย่างรุ้งหิมะ เข้าฟาดฟันเทียนยี่

ก่อนหน้านี้หนิงฝานได้รู้แล้วว่าร่างกายของเทียนยี่ทรงพลังขนาดไหน ครั้งนี้เขาจึงไม่ออมมืออีก

“หืม? กระบี่เปลี่ยนรูปได้ ใน ‘ตำราศพอสูร’ ไม่ได้มีบันทึกไว้” เทียนยี่ตระหนกและตื่นเต้น ตำราศพอสูรเป็นสิ่งที่มันได้มาจากปีศาจศพอสูร ทั้งยังได้รับสืบทอดความทรงจำมาด้วย

เทียนยี่เร่งโคจรวิชาขัดเกลาร่างกาย ทำให้ร่างของมันสูงขึ้นถึง 10 จ้าง… หากเทียบวิชากันแล้ว วิชาของเทียนยี่ทรงอานุภาพกว่ามาก

หลังจากเทียนยี่กลายร่างเป็นยักษ์แล้ว มันกลับซัดฝ่ามือเข้าปะทะกับกระบี่ของหนิงฝาน

วิชากายา 6 จ้างของหนิงฝาน อานุภาพของมันอย่างน้อยๆเทียบได้กับน้ำหนักหมื่นจิน แต่เมื่อปะทะกับฝ่ามือของเทียนยี่ โลหิตหนิงฝานกลับปั่นป่วน ราวกับความแข็งแกร่งของร่างกายเขาด้อยกว่าอีกฝ่าย

ที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะระดับร่างกายของเทียนยี่เหนือกว่าหนิงฝาน แต่เป็นเพราะวิชาขัดเกลาร่างกายที่เหนือกว่าของหนิงฝานมาก

ฝ่ายเทียนยี่ที่รับกระบี่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก แรงกระบี่ทำให้เท้าทั้งสองข้างของมันจมลงไปในพื้นเรือเหาะ ทั้งยังรู้สึกเจ็บข้อมือราวกับจะขาดออกจากกัน

“ร่างกายของเด็กนี่แข็งแกร่งนัก มันเหนือล้ำกว่าข้า บรรลุขอบเขตกระดูกเงิน ทั้งยังเป็นกระดูกเงินที่ทรงพลังกว่าทั่วไป… หรือเป็นเพราะมันสร้างดาราบนหน้าผากได้?”

แววตาเทียนยี่เผยความอิจฉา แม้มันจะเป็นผู้สืบทอดของเทพเหมือนกัน แต่มันก็อดอิจฉาไม่ได้

โชคดีที่วิชาขัดเกลาร่างกายของมันทรงอานุภาพกว่า วิชาของมันมีนามว่า ‘วิชาลับกระดูกยักษ์’ แม้มันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น แต่วิชาขัดเกลาร่างกายที่มันใช้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางยังต้องอิจฉา

วิชาลับกระดูกยักษ์จะทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนร่างเป็นยักษณ์ได้ แม้จะเทียบกับจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ไม่ได้ แต่หากเทียบกับหนิงฝาน มันเหนือล้ำกว่ามาก

“แม้เจ้าจะช่วยให้คนอื่นๆหลุดรอดจากวิชาลวงตาได้ แต่เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้” เทียนยี่ยิ้มพลางกล่าว

“ใช่… อัสนีจักรพรรดิ!”ดาราบนหน้าผากหนิงฝานเปล่งแสงเจิดจ้า ท้องนภาที่กระจ่างใสกลับปรากฏอัสนีแปรบปราบ และเสียงอัสนีฟาดผ่าดังกึกก้อง!

ตัวกระบี่ยักษ์ของหนิงฝานปรากฏอัสนีแปรแปราบ เทียนยี่เร่งถอยห่างทันที

ในเวลาเดียวกัน โลงศพสีดำที่ตั้งอยู่ ฝาโลงถูกเปิดออกอย่างรุนแรง แรงกดดันที่น่าสะพรึงแผ่ออกมาจากโลง

“ดี… ดีมาก! เจ้าทำอันตรายศพของข้าได้ เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าไม่อาจต่อกรกับร่างจริงของข้าได้! เจ้าเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ต่อให้เจ้าบรรลุแก่นทองคำก็ไม่อาจเอาชนะข้าได้ เว้นแต่เจ้าจะบรรลุดวงจิตแรกเริ่ม!”

เงาร่างหนึ่งทะยานออกมาจากโลงศพ ซัดฝ่ามือเข้าใส่กระบี่ของหนิงฝาน อานุภาพจากฝ่ามือแล่นผ่านกระบี่เข้าสู่หน้าร่าง กระทั่งหนิงฝานกระอักโลหิต และปลิวออกไปนับ 100 จ้าง!

ศพคุณภาพสูง ทั้งร่างกายยังแข็งแกร่ง ฝ่ามือของมันแฝงด้วยอานุภาพของกระดูกเงิน ยากที่จะต้านรับ

แม้ร่างกายของหนิงฝานยังต้านรับการจู่โจมได้ แต่ปราณที่ไหลผ่านกระบี่เข้ามา ก็เกือบทำให้แขนของหนิงฝานถูกทำลาย

ศพภายในแหวนหนิงฝานคืออะไรกันแน่?

สีหน้าหนิงฝานเรียบเฉย เขาเช็ดคราบโลหิต แววตาเป็นประกาย

ยามนี้เขาสัมผัสได้ว่ามีปราณสายหนึ่งกำลังตรงไปยังทิศทางของนิกายกุ่ยเชว่...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด