ตอนที่แล้วบทที่ 174 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (4) [06-07-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 176 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (2) (11-07-2019)

บทที่ 175 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (1) [09-07-2019]


บทที่ 175 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (1)

 

หลังจากยูอิลฮานได้จัดการปปีศาจสายฟ้าแบบทั้งๆที่สับสนอยู่แล้ว ทั้งกลุ่มก็ได้เริ่มที่จะคุยกันถึงความเป็นจริง

[มันเป็นไปได้ไงกันที่ฉันติดต่อไปสวรรค์ไม่ได้ทั้งๆที่อยู่บนโลก] (เลียร่า)

[นี่มันไม่ใช่ปกติเลียร่า ใจเย็นก่อนนะ] (สเปียร่า)

[ยูอิลฮาน นายไม่เป็นไรนะ? ยูอิลฮาน] (เอิลต้า)

ในตอนแรกพวกเราก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่ที่ยูอิลฮานสร้างประตูมิติที่เชื่อมต่อกับ 'โลกอื่น' ได้ด้วยตัวเองแล้ว ไม่ใช่ว่าตัวเขากับทูตสวรรค์รู้กันเป็นอย่างดีหรอกหรอว่าเขาไม่ได้มีโลกไหนที่เชื่อมต่ออยู่เลย พวกเขาน่าจะสังเกตได้เห็นนับตั้งแต่ที่ประตูมิติเปิดแล้ว

แต่มันก็แค่เพราะตอนที่พวกเขาจะคิดแบบนั้นก็ตัดสินไปว่าโลกไม่น่าจะมีปริมาณมานาที่มากแบบนี้ทำให้มันสายเกินไปกว่าที่จะคิดได้ทัน

[ถ้างั้นที่นี่ก็คือที่ไหนซักที่บนโลกสินะ] (เลียร่า)

[เพราะพวกเราอยู่บนโลกเลยทำให้ความสามารถของฉายาใช้งานไปแล้วแต่เขาอยู่ที่เดิม] (เอิลต้า)

[ถึงมันจะไม่น่าเชื่อ... แต่ฉันก้คงต้องเชื่อ บันทึกนภาคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว] (สเปียร่า)

ยูอิลฮานได้มองไปรอบๆด้วยสายตาที่ต่างไปจากเดิม

เขาได้เก็บศพของปีศาจสายฟ้าเข้ามาในช่องเก็บของแล้ว สิ่งที่เขากำลังเห็นตอนนี้คือพื้นดินสีเลือด หลุมขนาดใหญ่ที่เขาขุดเอาไว้ และท้องฟ้าที่สีแดงเลือดยิ่งกว่าพื้นดิน อย่างท้ายที่สุดแล้วก็คือต้นเบาบับที่โตเชื่อมระหว่างผืนดินกับท้องฟ้า

"นี่มัน..."

น้ำเสียงของเขาชัดเจน แต่ว่าเขาก็ไม่รู้เลยว่าอารมณ์ภายในที่อยู่ข้างในตัวเขามันคืออะไร

"...คือโลกแน่หรอ...?

[ใช่แล้ว โลกนี้คือสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อกับนายอย่างลึกซึ่งจนไม่เคยแยกจากนายได้แล้ว] (เอิลต้า)

[แต่เป็นที่ไหนบนโลกล่ะ? ถ้านับจากตั้งแต่ที่เขาบินไปบนที่นี่ เขาก็น่าจะวนได้เป็นร้อยรอบแล้วนะ] (เลียร่า)

[ดันเจี้ยน] (เอิลต้า)

เอิลต้าได้ให้คำตอบออกมา

[มันก็เป็นไปได้ที่จะเป็นดันเจี้ยนบนโลก] (เอิลต้า)

[ชัดเจนเลยว่ามันไม่ใช่ดันเจี้ยนที่เกิดจากกับดักแห่งการทำลายแน่ นี่มันหมายความว่าเกิดขึ้นมาจากมานาของใครซักคน?] (เลียร่า)

[ถูกแล้ว นั่นก็เลยช่วยอธิบายเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงติดต่อสวรรค์ไม่ได้ได้ด้วย ] (เอิลต้า)

[...] (สเปียร่า)

ยูอิลฮานได้มองไปรอบๆอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์กำลังไปบุกทำลายดันเจี้ยนมานับไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่าที่นี่ก็เป็นดันเจี้ยนด้วย

"ใครกันที่เป็นคนสร้างดันเจี้ยนที่มีขนาดใหญ่มากกว่าโลกซะอีกขึ้นมากัน?"

[จริงๆแล้วมันก็เป็นไปได้อยู่เพราะว่าที่นี่ไม่ใช่โลกจริงๆ ดันเจี้ยนน่ะจะเปลื่ยนไปตลอดเวลาตามอิทธิพลของมานา! มันก็เป็นไปได้ว่านายได้วนรอบดันเจี้ยนนี้แล้วมาสองสามครั้ง แต่ยังไงก็ตามที่นายไม่รู้ตัวก็เพราะที่นี่มันเปลื่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลาไงล่ะ] (เอิลต้า)

[ไม่อยากจะเชื่อเลย...] (เลียร่า)

[ยังไงก็ตามถ้าที่นี่่เป็นดันเจี้ยน...] (สเปียร่า)

จะดูก็มีแต่เพียงสเปียร่าที่เข้าใจในเจตนาของเอิลต้า ดวงตาของเธอได้ส่องประกายออกมาในขณะที่พูดขึ้น

[มันก็น่าจะมีทางออกไป]

"ทางออกงั้นหรอ?"

[ทงออก... มันอาจจะไม่มีอยู่ในเมื่อดันเจี้ยนนี้เดิมทีถูกสร้างขึ้นมาโดยที่ไม่เชื่อมต่อกับที่ไหนเลย แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เพราะที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่ามีคนที่ซ่อนมันเอาไว้] (สเปียร่า)

"ถ้างั้น..."

ในตอนนี้ยูอิลฮานได้รับคำตอบแล้ว มือของเขาได้กำที่หอกมังกรแปดหางแน่นมากขึ้น

"ฉันก็จะจัดการคนที่ทำดันเจี้ยนนี้ขึ้นมา"

[แต่ว่านายก็ต้องระวังตัวด้วย คนที่สร้างดันเจี้ยนขนาดแบบนี้ขึ้นมาได้และสร้างมอนสเตอร์ที่น่ากลัวแบบนี้ต้องไม่ธรรมดา แม้ว่าฉันจะไม่อยากจะเชื่อก็ตาม แต่เจ้ามอนสเตอร์นั่นจะต้องเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถก้าวไปสู่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ด้วยตัวเองแน่...] (เลียร่า)

[ตอนนี้ก็มาหยุดขุดกันก่อนดีกว่า ดูจากการที่ยิ่งขุดลึกลงไปเท่าไหร่ก็ยิ่งเจอกับความเข้มข้นของมานามากขึ้นแล้ว เจ้าของที่นี่ก็น่าจะอยู่ใต้นั้น] (เอิลต้า)

[ปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือมันมีความเป็นไปได้ที่เขาาจจะมากำลังยูอิลฮานก่อน...] (สเปียร่า)

"อ่า ซับซ้อนจริงๆเลย"

ยูอิลฮานได้มองไปบนพื้นเหมือนกับเขาจ้องไปที่มอนสเตอร์ใต้ดินนั้น และเขาก็ไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงอะไร

"เธอบอกว่ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงใช่ปะ? ถ้างั้นฉันก็จะผ่านไปได้แน่"

[ถึงฉันจะอยากเชื่อ... อะไรนะ?] (เลียร่า)

"บางทีฉันก็น่าจะหนีไปได้"

แม้ว่าเขาจะอยู่ในคลาส 3 แต่ยูอิลฮานก็ได้ประกาศออกมาว่าเขาสามารถจะหนีไปจากสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ นี่มันเป็นเรื่องจริง พวกเธอแย้งเขาไม่ได้เลย ถ้ามันเกิดขึ้นปัญหาใหญ่ก็คงเป็นการที่พัฒนาขึ้นไปจากการฆ่ามอนสเตอร์ทั้งๆที่หลบหนี แต่ว่าสิ่งที่น่ากลัวล่ะ? มันคือการที่ยูอิลฮานอาจจะทำมันได้สำเร็จ

"ฟู่"

ยูอิลฮานได้ตบแก้มของเขาราวกับจะสลัดความสิ้นหวังออกไป เขาได้ยือกล้ามเนื้อของเขาออกมา

มันไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่ลงไปสักนิด ถึงแม้ว่าเขาจะกังวลที่เขาอาจจะไม่ได้เจอกับพ่อแม่ ยูมิล ลูกน้องคนอื่นๆ รวมไปถึงเพื่อนของเขาอย่างคังมิเรย์กับนายูนาด้วย แต่ว่าที่นี่เขาก็มีสิ่งอื่นทุกๆอย่างอยู่ไม่ใช่หรอ?

เครื่องมือใช้สร้างอุุปกรณ์ อาหารที่ตุนเอาไว้มากพอ น้ำทะเลสาบที่พอจะอาบน้ำได้ เพลิงนิรันดร์ และยิ่งกว่านั้นคือเทคนิคทั้งหมดที่เขาได้ฝึกมาตลอด สิ่งนี้คือสิ่งที่เขาได้เตรียมการฝึกมานับตั้งแต่ที่เขาถูกทิ้งไว้บนโลกคนเดียว

"ให้ตายสิ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะต้องมาถูกทิ้งไว้ในดันเจี้ยนบนโลกคนเดียวอีกครั้ง"

[แต่มันก็ยังดีนะที่นายยังอยู่กับฉันได้ใช่ไหมล่ะ] (เลียร่า)

"...นั่นก็จริง"

เมื่อได้เห็นเลียร่าโผล่ออกมาจากเกราะของเขายูอิลฮานก็ได้แต่หัวเราะออกมา เธอพูดถูก เขาพูดผิดไปในเรื่องที่เขาบอกว่าเขาอยู่คนเดียว

เขาไม่เคยต้องอยู่คนเดียวเลยในพันปีบนโลก ตอนนี้ก็ด้วยเช่นกัน เขายังมีคนอีกสามคนอยู่กับเขา แม้ว่าในทางกายภาพแล้วพวกเธอจะเป็นแค่ภาระ แต่ว่าพวกเธอก็เป็นคู่หูที่มีค่าของเขา

เมื่อคิดได้แบบนี้พลังได้พุ่งออกมาจากร่างของเขา เขารู้สึกเหมือนกับว่าในตอนนี้เขาสามารถจะทำได้ทุกอย่างแล้ว

"เยี่ยม ถ้างั้นเราก็มาทำให้ดีที่สุดจนกว่าจะถึงวันที่ต้องกลับไปแล้วกัน"

[ถ้าเป็นนาย นายจะต้องทำสำเร็จได้ในอีกไม่นานแน่ ถ้านายได้รับคลาส 4 มาก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องกังวลแล้ว] (เอิลต้า)

[คลาส 4 สินะ ถ้าเป็นยูอิลฮานก็น่ากลัวจริงๆแหละ เขาน่าจะทำมันสำเร็จได้ใน 50 ปี] (สเปียร่า)

"เธอหมายความว่ายังไง 50 ปีน่ะ"

ยูอิลฮานได้ส่งเสียงไม่พอใจออกมาและปฏิเสธคำพูดนั้น

"แค่ 5 ก็พอแล้ว"

[5 ปี...?] (เลียร่า)

[ยูอิลฮาน นับตั้งแต่โลกได้เชื่อมกับบันทึกนภามันผ่านไปนานแค่ไหนกันล่ะ? ประมาณ 2 ปีใช่ไหม แล้วตอนนี้นายกำลังพูดว่านาจะทำอะไรใน 5 ปีนะ?] (เอิลต้า)

เอิลต้ากำลังจะพูดต่อออกไปแต่แล้วก็คิดขึ้นได้ ยูอิลฮานคนนี้ได้คลาส 3 มาในเวลาแค่ปีเดียว ทั้งๆคนอื่นๆต่อให้โชคดีก็ต้องใช้เวลาเป็น 100 ปี

แม้ว่าพวกเธอจะลืมเรื่องความมรู้พื้นฐานไปจากการที่โลกพัฒนาเร็วเกินไป แต่ว่ากับยูอิลฮานแล้วเขายิ่งเป็นคนที่พัฒนาขึ้นเร็วที่สุดแล้วในหมู่คนบนโลก

[ยูอิลฮานเลเวลเท่าไหร่แล้วล่ะ?] (เอิลต้า)

[180 หลังจากเลเวล 170 มา ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้เพิ่มเลเวลจะยิ่งมหาศาลขึ้นมา] (เลียร่า)

เลียร่าได้พูดออกมาราวกับความเร็วในการพัฒนาของยูอิลฮานลดลงมาเล็กน้อย แต่ว่าเมื่อครึ่งปีก่อนเลเวลของยูอิลฮานยังแค่ 162 อยู่เท่านั้นเอง นี่มันไม่ใช่ปกติแล้ว แต่พวกเธอได้ลืมเรื่องสามัญสำนึกปกติไปนานแล้วนับตั้งแต่ที่อยู่กับเขา

[โอ้พระเจ้า ขอให้นับจากนี้ไปยูอิลฮานยังอยู่ด้วยดี...] (เอิลต้า)

[ทำไมเธอต้องภาวนาขอในสิ่งที่มัชัดเจนอยู่แล้วด้วยล่ะ? อิลฮานน่ะเก่งที่สุดในโลกแล้ว! ไม่สิ บางทีอาจจะเก่งที่สุดทั้งจักรวาลแล้ว...!] (เลียร่า)

[แล้วก็ช่วยไม่ใช่คนงี่เง่าคนนี้ทำอะไรที่ไม่เคารพต่อท่านด้วยนะคะ...] (เอิลต้า)

[โฮ่] (เลียร่า)

หลังจากนั้นสงครามเล็กๆของทูตสวรรค์ครั้งที่ 6 ก็ได้ปะทุขึ้น ยูอิลฮานได้เมินพวกเธอและลงไปเก็บอุปกรณ์บนหลุม

เขาจะต้องหยุดการขุดเอาไว้ก่อนเท่านี้ ความยากในการขุดมันสูงมากดังนั้นจนการขุดอย่างไร้สติของเขาทำให้สกิลการขุดยกระดับขึ้นมาถึงเลเวล 80 ซึ่งทำให้เขาคิดว่าหากเขาขุดไปเรื่อยๆเขาก็คงจะเชี่ยวชาญสกิลได้แน่ แต่น่าเสียดายที่เขาต้องหยุดขุดก่อน

ยังไงก็ตามเขาก็สามารถจะมาขุดให้เสร็จได้ตลอดเวลา สำหรับในตอนนี้เขาต้องพัฒนาตัวเองให้แกร่งขึ้นก่อนเพื่อคนอื่นๆบนโลกและเพื่อทูตสวรรค์

"โอเค มาเร่งความเร็วขึ้นอีกกัน"

[นายยังจะเพิ่มความเร็วได้อีกหรอ...!?] (เอิลต้า)

"ฉันจำเป็นจะต้องกลับไปให้ได้ก่อนที่มิลจะได้คลาส 4"

[...] (เลียร่า)

ยูอิลฮานได้กางปีกบนหลังของเขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

ตอนนี้ยังเหลือเวลาอยู่อีกมากก่อนที่ดันเจี้ยนนี้จะถูกถล่มลง

***

ระหว่างที่ยูอิลฮานกำลังจะทำการกำเนิดใหม่ขึ้นมาเป็นปีศาจที่ประหลาดไปกว่าเดิม ยูมิลก็กำลังมองดูข้อความที่พ่อของเขาส่งกลับมาว่า 'พ่อมีธุระอยู่ยังกลับไปไม่ได้'อย่างเป็นกังวล

"การไม่มีพ่ออยู่น่ากังวลจัง"

"เขากลับมาไม่ได้หรอ"

"ใช่ครับ"

ยูมิลได้หยักหน้าอย่างหมดแรงกับคำถามของคังมิเรย์ และเขาได้แสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา

"พ่อจะสบายดีไหมนะ? ที่นั่นดูน่าจะอันตรายเอามากๆด้วย..."

"ไม่ว่าที่ไหนเขาก็ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วงเขาหรอก"

"มิลไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก มิลควรห่วงโลกที่เขาไปดีกว่าน้า~~"

คังมิเรย์กับยูมิลได้หยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของนายูนา พวกเธอไม่ควรจะไปห่วงเขาเลย พวกเธอควรจะทำงานที่เต็มมือนี้ให้หมดลงดีกว่า

"งั้นเราจำเป็นต้องแก้ปัญญาหานี่ด้วยเราเองสินะ"

พวกเธอได้หันหน้าไปจากเครื่องสื่อสารแล้วมองไปที่ประตูมิติที่อยู่ตรงหน้า วังวนที่หมุนปั่นป่วนราวกับจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา ประตูมิติที่กำลังเชื่อมต่ออยู่กับโลกที่ถูกทิ้ง

"ถึงฉันจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่มันดูเหมือนว่าการเชื่อมต่อกับโลกที่ถูกทิ้งจะมีถี่ขึ้นนะ"

"แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรใหม่แล้วน้า~"

"แต่นี้มันเป็นที่พิเศษนี่ จากหน่วยสำรวจพวกเขาบอกว่าได้เจอกับคลาส 4 ถึงห้าตัว แล้วก็แน่นอนว่าจริงๆก็น่าจะมีมากกว่านั้นอีก ยังดีที่เรายังไม่ได้ถูกจับตัวได้ แต่ว่าจากสภาพของประตูมิติในตอนนี้มัน..."

ไม่ใช่ว่าโลกที่ถูกทิ้งทุกโลกจะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตคลาส 4 มันก็แค่ว่าโลกที่ยูอิลฮานไปกับโลกที่คังมิเรย์ ยูมิลกับพรรคพวกได้ไปเป็นกรณีพิเศษเท่านั้นเอง

โลกส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อกับโลก(ของยูอิลฮาน) ส่วนใหญ่ต่างก็มีคลาส 4 หหรือคลาส 5 แล้ว แล้วเพราะแบบนี้คนพวกนั้นส่วนใหญ่ก็ได้รับความดูแลช่วยเหลือจากคนบนโลกและคนบนโลกอื่นๆ... อย่างที่พวกเขาอย่างจะได้รับควาช่วยเหลือจากยูอิลฮานนับตั้งแต่ที่มีโลกที่ถูกทิ้งที่มีศัตรูที่แข็งแกร่ง

นายูนาได้มองย้อนกลับไปด้านหลัง กลุ่มพันธมิตรแนวหน้าทั้งหมดได้มาอยู่ที่นี่แล้ว และข้างหลังพวกเขาก็มีคนจากโลกอื่นๆที่พวกเขาได้ติดต่อกันเป็นส่วนตัวด้วย ยังไงก็ตามเธอก็ยังไม่อาจจะซ่อนความกังวลไว้ได้

"พวกเรารวมพลังทุกๆอย่างมาที่นี่ไม่ใช่หรอ? ฉันไม่เห็นเจอพวกหมาป่าเลยน้า~"

"ถ้าเธอหมายถึงเฟมิลกับเอริเซียล่ะก็ พวกเขากำลังไปช่วยที่ดาเรย์อยู่ ดูเหมือนว่าฝั่งนูนก็มีภาระที่หนักอยู่เหมือนกัน..."

"พวกเราควรจะไปบอกพวกนั้นไหม? ถึงแบบนั้นฉันก็ไม่ค่อยสบายใจเลยนะ พวกเขาไม่ได้มีหินพลังเวทย์คลาส 4 มากนี่..."

"พวกนั้นต่างก็รู้ว่าเราติดต่ออยู่กับแวนการ์ดดังนั้นพวกเขาน่าจะขออย่างอื่นจากการช่วยเหลือนี้"

แม้ว่ามันอาจจะจบลงง่ายๆหากพวกเธอยืมพลังจากคนของโลกอื่นด้วยการประกาศที่เป็นทางการจากกิลด์ทหารรับจ้าง แต่หลังจากนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา พวกเธอไม่อาจจะทำอะไรก็ตามที่ทำให้ยูอิลฮานต้องจ่ายแทนพวกเธอได้ แต่หากไม่ทำแบบนั้น การต่อสู้นี้ก็จะน่ากังวลเอามากๆ... ระหว่างนี้เองที่คังมิเรย์กำลังคิดอยู่

"ถ้างั้นก็เข้าไปแค่พวกเราแล้วก็ฆ่าพวกมันให้หมดสิครับ!"

ยูมิลได้พูดออกมาอย่างสดใส

"คนที่นี่น่าจะกันเอาไว้ไหวถ้าพวกเราไปฆ่าคลาส 4 แล้ว"

"ถึงมันจะฟังดูดีแต่มันจะเป็นจริงได้แน่หรอ?"

คังมิเรย์ยังคงสงสัยอยู่ แต่ว่ายูมิลก็ยังคงสดใสอยู่เสมอ เขาไม่ได้เหมือนกับยูอิลฮานที่ไม่เคยคิดถึงความคิดของคนอื่น เขาเป็นคนที่เป็นคนที่คิดถึงและใส่ใจคนอื่นๆ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ

เขาก็ยังอดเป็นห่วงพ่อไม่ได้ แต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะปล่อยให้คนที่นี่กังวลเช่นกัน

"เพราะความสามารถในการปกปิดตัวตนของผมพัฒนาขึ้นมามากมันจะต้องเป็นไปได้แน่"

"เพิ่มขึ้นมามาก? เท่าไหร่กัน...?"

"97 แล้วครับ!"

เกือบจะเชี่ยวชาญแล้ว

"ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนี่น้า~"

"อย่าพูดเลยดีกว่านี่มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ"

แน่นอนว่ายูมิลมีเสน่ห์เอามากๆ แล้วยูมิลก็ยังน่ารักกและมีคุณค่ากับเธอมากๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเหมือนยูอิลฮานยังไงก็ไม่ใช่ลูกของเขา! มันเหมือนกับว่าเธอกำลังสะกดจิตตัวเองอยู่

"โอเค ถ้างั้นมิลไปกันเถอะ ถ้ามีมิลอยู่ด้วยเราทำได้แน่"

"เหมือนกับตามมังงะเลยเนอะ..."

นายูนาได้ตามพวกคังมิเรย์ไปพร้อมทั้งคิดว่าฉากๆนี้มันดูไร้สาระเล็กๆ คังฮาจินที่ดูทุกอย่างอยู่ข้างๆก็ได้ถามออกมาพร้อมเปิดตากว้าง

"เธอจะไปจริงดิ? ในที่ที่อันตรายแบบนั้นเนี้ยนะ? แค่พวกเธอสามคน?"

"ไม่พี่ เราจะไปด้วยกันสี่คน"

"...สี่คน?"

"ใช่ ก็พี่ไง"

คังมิเรย์ได้ยิ้มออกมาอย่างน่ารักซึ่งดูแตกต่างไปจากตัวเธอตามปกติ ในวินาทีนี้เองที่คังฮาจินจะก้าวถอยหลังข้อมือของเขาได้ถูกจับเอาไว้ จากนั้นก็ถูกลากไปในประตูมิติ คังฮาจินได้พยายามดิ้นเหมือนปลาที่ถูกจับขึ้นจากน้ำแต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะเอาชนะนายูนากับคังมิเรย์ที่ร่วมมือกันได้

"พี่คงจะไม่ส่งน้องสาวที่น่ารักไปในที่อันตรายแบบนั้นคนเดียวใช่ไหมล่ะ!?"

"เธอมันน่ารักตรงไหนกัน"

"พี่ฮาจิน พี่จะต้องปกป้องพวกเราในทันทีที่ถูกเจอ พี่เข้าใจสิน้าา~"

"นี่เห็นฉันเป็นโล่มนุษย์สินะ!"

จากนั้นคังมิเรย์ก็ได้เข้าไปในประตูมิติที่ดูเหมือนจะระเบิดได้ตลอดเวลาโดยไม่ลังเลใดๆ

ระหว่างที่คนที่ดูอยู่ตาค้างตกใจนั้นเอง ในที่สุดแล้วประตูมิติก็เปิดออกและมีมอนสเตอร์เริ่มกรูกันออกมา แต่จนกระทั่งในตอนท้ายที่สุดของการต่อสู้ก็ไม่ได้มีมอนสเตอร์คลาส 4 ออกมาแม้แต่ตัวเดียว

หลังจากนั้นการต่อสู้กับโลกที่ถูกทิ้งอื่นๆก็ถูกจัดการในลักษณะแบบเดียวกันทั้งสิ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด