ตอนที่แล้วเทพกระบี่มรณะ - 203
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพกระบี่มรณะ - 205

เทพกระบี่มรณะ - 204


เทพกระบี่มรณะ - 204

 

ตอนที่ 204 - หมิงตง

แม้ว่าชายคนที่เจี้ยนเฉินได้ช่วยชีวิตจะยังไม่ตาย แต่เขาก็ใกล้จะตาย หมู่บ้านบนภูเขาเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่สามารถหายาคุณภาพสูงชนิดใดก็ได้ที่จะช่วยรักษาบาดแผลของชายคนนั้น ดังนั้นเจียนเฉินจึงสามารถพึ่งพาเพียงพลังเซียนธาตุแสงเพื่อช่วยชีวิตเขา

ภายใต้การรักษาของพลังเซียนธาตุแสง เจี้ยนเฉินสามารถช่วยให้ชายคนนั้นรอดพ้นจากปากประตูแห่งความตายอย่างหวุดหวิด เมื่ออาการของเขาดีขึ้น เจี้ยนเฉินก็หยุดการใช้พลังเซียนธาตุแสงเพาะเขาไม่ต้องการที่จะให้คนอื่นรู้ว่าเขาสามารถใช้พลังเซียนธาตุแสงในการรักษาได้ นั่นหมายความว่าบาดแผลของชายคนนั้นจะไม่หายเป็นปกติด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว

เจี้ยนเฉินยืนอยู่หน้าเตียง เพียงมองไปที่ชายคนที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน จากรูปลักษณ์ของเขา ชายคนนั้นดูเหมือนจะอายุประมาณ 28 ปีและค่อนข้างหล่อเหลา

ทันใดนั้นดวงตาของชายหนุ่มเริ่มกระพริบและเริ่มมองไปรอบ ๆ ในที่สุดดวงตาของเขาจับจ้องเจี้ยนเฉินด้วยความสับสนก่อนที่จะรู้ตัวว่าเขาปลอดภัย

" ท่านเป็นคนที่ช่วยชีวิตข้าไว้ใช่หรือไม่ ? " เขาถามเจี้ยนเฉินอย่างอ่อนแรง

เจี้ยนเฉินพยักหน้าตอบว่า" ถูกต้อง ข้าเอง"

" ขอบคุณมากที่ช่วยข้า ข้าผู้นี้ขอขอบคุณอย่างมากจริงๆ และจะตอบแทนพระคุณนี้" ชายหนุ่มตอบ

เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า" สำหรับตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ปล่อยเรื่องตอบแทนข้าไปก่อน ข้าเองก็ถูกคนอื่นช่วยชีวิตเช่นเดียวกับเจ้า เราค่อนข้างคล้ายกัน"

ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยนบนใบหน้าขณะที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น" ข้ามีนามว่าหมิงตง ผู้มีพระคุณมีนามว่ากระไร ? "

เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้หน้าต่างและตอบว่า "เจ้าเรียกข้าว่าเจี้ยนเฉินก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่าผู้มีพระคุณ"

"บาดแผลของเจ้ายังสาหัสมาก ถ้าไม่ใช่เพราะข้าพาเจ้าลงจากภูเขาและใช้ยาบางอย่างรักษา เจ้าคงจะต้องตายภายในครึ่งวัน"

ดวงตาของหมิงตงพลันมีประกายแห่งความเกลียดชัง ในขณะที่เขากัดริมฝีปากและถ่มน้ำลายของเขา "บาดแผลของข้าไม่ช้าก็เร็วข้าจะตอบแทนพวกมัน"

ยังคงนั่งลงบนม้านั่งดวงตาของเจี้ยนเฉินมีประกายแห่งความสนใจเมื่อเขามองหมิงตง เขาชี้ไปที่บาดแผลหลาย ๆ แห่ง เขาถามว่า"บาดแผลเหล่านี้มาจากศัตรูที่เกลียดชังของเจ้าใช่หรือไม่ ? "

" ไม่" หมิงตงส่ายหัว" ตอนแรกข้าค้นพบสัตว์อสูรระดับ 4 ที่บาดเจ็บใกล้จะตายแล้ว หลังจากที่ข้าใช้ความพยายามอย่างมาก ข้าก็สามารถฆ่าและแยกแกนอสูรออกมา แต่กลุ่มทหารรับจ้างมาพบเข้าและปล้นข้า ถ้ามันเป็นทหารรับจ้างเพียงคนเดียว ข้าก็จะไม่กลัว แต่มันมาเป็นกลุ่มใหญ่ เมื่อรวมกับบาดแผลของข้า มันก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะเอาเข็มขัดมิติของข้าไป ในความพยายามครั้งสุดท้าย ข้าวิ่งหนีออกไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่ข้ามี มิฉะนั้นข้าคงจะไม่มีชีวิตอยู่ "

เจี้ยนเฉินถอนหายใจกับตัวเองเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับชะตากรรมของหมิงตง เหตุการณ์ประเภทนี้เกิดขึ้นทั่วไปในทวีปเทียนหยวนเนื่องจากโลกเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ ความแข็งแกร่งมีความสำคัญที่นี่ และถ้าเจ้าไม่มีความแข็งแกร่งการใช้ชีวิตในทวีปเทียนหยวนก็จะเป็นเรื่องยากเป็นพิเศษ แม้ว่าคนหนึ่งพยายามที่จะมีชีวิตที่มีสถานะที่ต่ำโดยไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าชีวิตจะปลอดภัย อันตรายอาจตกลงมาจากท้องฟ้าได้ทุกเวลา ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ตลอดเวลา

หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มสนทนากันซักพักเพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน หมิงตงเป็นเด็กจากหมู่บ้านในชนบท เขามีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะและฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน ตอนอายุ 28 เขาได้มาถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญระดับกลางแล้ว ความเร็วในการบ่มเพาะประเภทนี้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของทวีป

เนื่องจากนิสัยชอบอยู่ลำพังคนเดียวของเขา เขาไม่เคยต้องการเดินทางไปกับใคร แม้จะเป็นทหารรับจ้าง เขาก็ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างใด ๆ และได้รับอิสรภาพมาแทน

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หมิงตงจะบรรลุภารกิจรับจ้างไม่กี่ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์อสูรระดับต่ำเพียงไม่กี่ตัวสำหรับแกนอสูรของพวกมัน นอกเหนือจากการขายเพื่อเงินเพียงเล็กน้อย เขาใช้เวลาที่เหลือเพื่อช่วยให้เขาบ่มเพาะ ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของเขาเร็วกว่าคนอายุรุ่นเดียวกัน

หลังจากรู้เรื่องดังกล่าว เจี้ยนเฉินได้เพิ่มความเคารพต่อหมิงตง โดยที่ไม่ต้องบอกว่าสองสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้คนแข็งแกร่งคือต้องฝึกฝนอย่างหนักรวมถึงล่าและสังหารสัตว์อสูรด้วยตัวเอง เจียนเฉินมั่นใจว่าหมิงตงจะถูกลิขิตให้ประสบความสำเร็จมากมายหากเขายังคงฝึกฝนในลักษณะเช่นนี้ต่อไป

อย่าลืมว่า สำหรับอายุ 28 ปีมาถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นกลาง มันเกือบจะไม่เคยได้ยิน สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือเขาทำสิ่งนี้ด้วยตนเอง มีเพียงเด็ก ๆ ที่เกิดในตระกูลที่ร่ำรวยหรือมีสมบัติบางประเภทเท่านั้นที่จะสามารถไปถึงระดับดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว

เจี้ยนเฉินจ้องมองใบหน้าที่ซีดของหมิงตงและลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "หมิงตง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะเต็มใจเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของข้าหรือไม่ หลังจากประสบกับสิ่งเหล่านี้ ข้าแน่ใจว่าเจ้าสามารถตระหนักได้ว่าการเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างมีประโยชน์อย่างไร"

หมิงตงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาคุ้นเคยกับวิถีตัวคนเดียวและไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างและถูกจำกัดจากมัน ความจริงของเรื่องนี้ก็คือด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งมานานแล้วถ้าเขาต้องการ

หมิงตงนั่งอยู่บนเตียง คิดถึงว่าชีวิตของเขาได้รับการช่วยชีวิตจากเจี้ยนเฉินอย่างไร ทั้ง ๆ ที่เขามีความเชื่อมั่นส่วนตัว เขาก็ตัดสินใจ "ถ้าน้องเจี้ยนเฉินไม่รังเกียจ ข้าก็จะเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของเจ้า"

เจี้ยนเฉินมีรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าขณะที่เขาหัวเราะ "ดี หมิงตงเมื่อเจ้าเข้าสู่กลุ่ม พลังของพวกเราก็เพิ่มขึ้น ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะทำให้กลุ่มทหารรับจ้างของเรากลายเป็นอันดับหนึ่งในทวีปเทียนหยวน" ในขณะที่เขาพูด เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำพูดที่ลุงเคนดัลเคยพูดไว้

" ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือการให้กลุ่มทหารอัคนีของข้าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปเทียนหยวน"

เจี้ยนเฉินทำตามความต้องการของเคนดัลด้วยตัวเอง เขาจะแทนที่ลุงเคนดัลและทำให้กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีแข็งแกร่งที่สุดในทวีป

" อ่า ใช่แล้ว ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มมีชื่อว่าอะไร มีคนกี่คน มีความแข็งแกร่งเพียงใดหรือว่าหัวหน้าคือใคร" หมิงตงกล่าว

เจี้ยนเฉินยิ้ม "กลุ่มทหารรับจ้างเรียกว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ณ ตอนนี้มีข้าเป็นสมาชิกเพียงคนเดียว แต่รวมกับเจ้านั่นทำให้เป็น 2 คน เท่าที่มีความแข็งแกร่ง ข้ากำลังอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ"

" อะไร มีแค่เราสองคน ? " หมิงตงมองดูเจี้ยนเฉินด้วยความไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินยังเด็กอยู่ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงโง่งม " เดี๋ยว…เจ้าบอกว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ? เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่น ? "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด