ตอนที่แล้วเทพกระบี่มรณะ - 063
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพกระบี่มรณะ - 065

เทพกระบี่มรณะ - 064


เทพกระบี่มรณะ - 064

 

บทที่ 64: ลาก่อน

อาจารย์ใหญ่พึมพำอย่างเงียบ ๆ "ที่เจ้าพูดมามันก็ถูก เราต้องปกป้องเจียงหยางเซียงเทียน ไป่เอิน เจ้าอยู่ที่นี่และแก้ไขปัญหาในห้องรักษา ข้าจะไปคฤหาสน์ตระกูลเจียงหยาง มิฉะนั้นถ้าเรารอให้ผู้เชี่ยวชาญของสำนักหัวหยุนมาถึง สถานการณ์ก็จะแย่ลงไปกว่านี้"

หลังจากนั้นอาจารย์ใหญ่ก็เดินไปทางขอบหน้าต่างแล้วกระโดดออกมา เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่น่าตกใจและบินออกไปสู่โลกกว้างเหมือนนกเหยี่ยว

ไป่เอินถอนหายใจตามลำพังเมื่อเห็นว่าอาจารย์ใหญ่หายตัวไปในท้องฟ้า "เจียงหยางเซียงเทียนได้รบกวนความสงบสุขในครั้งนี้ หากเขาเพียงทำร้ายร่างกายพวกเขา สถานการณ์ก็คงไม่เลวร้ายนัก แต่เขาทำสิ่งที่โหดร้ายมาก เขาตัดแขนของเฉิงหมิงเซียง ! ไม่ใช่ว่าไม่มีคนที่สามารถต่อแขนกลับมาใหม่ได้ แต่ความแข็งแกร่งที่จำเป็นสำหรับสิ่งนี้สูงเกินไป สำนักหัวหยุนคงไม่สามารถเชิญเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงขั้น 7 มาได้ง่าย ๆ

ข่าวเรื่องที่เจียงหยางเซียงเทียนตัดแขนศิษย์สามคนแพร่กระจายไปทั่วสำนัก มันเป็นเรื่องที่ศิษย์ทุกคนโจษขาน ความแข็งแกร่งของเจียงหยางเซียงเทียนทำให้ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ต้องตกใจอีกครั้ง

ในขณะที่ทุกคนในสำนักกำลังพูดถึงเรื่องนี้ เจี้ยนเฉินก็นั่งสมาธิอยู่บนเตียง เขาเริ่มไตร่ตรองถึงการกระทำของเขา เขารู้อยู่แก่ใจว่าเมื่อเขาตัดแขนของเฉิงหมิงเซียง, ลั่วเจี้ยนและกาดิหยุนว่าเขาได้สร้างปัญหามากมายให้กับตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เขาทำเลย ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งว่าเขาจะรับมือกับความโกรธแค้นของทั้งสามกลุ่มได้อย่างไร

วันที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็กลายเป็นเวลากลางคืน

" ปัง ปัง ปัง !"

เสียงเคาะดังมาจากอีกด้านหนึ่งของห้องของเจี้ยนเฉิน

เมื่อได้ยินเสียงนั้นเจี้ยนเฉินไขว่ห้างก็ลืมตาขึ้น เขามองแกนอสูรขั้น 1 มากมายที่ปราศจากพลังงาน เขาถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนที่จะมองไปที่ประตู "นั่นใคร ? "

" เจียงหยางเซียงเทียน ข้าเอง รองอาจารย์ใหญ่จางไป่เอิน ! " น้ำเสียงที่คุ้นเคยของจางไป่เอินดังมาจากด้านนอกประตู

เจี้ยนเฉินรีบลุกขึ้นมาจากเตียงทันทีแล้วเดินไปเปิดประตู รองอาจารย์ใหญ่จางไป่เอินยืนอยู่ข้างนอกประตูด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ

"ท่านรองอาจารย์ใหญ่ มีอะไรผิดปกติหรือไม่ ? " เจี้ยนเฉินถามกลับไป เขาพอจะเดาได้ว่ารองอาจารย์ใหญ่มาทำอะไร แต่จิตใจของเขาก็ยังสงบและไม่เปลี่ยนแปลง

รองอาจารย์ใหญ่จางไป่เอินจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่ซับซ้อนและถอนหายใจพลางเอ่ยว่า "เจียงหยางเซียงเทียน เก็บของแล้วรีบตามข้าไปที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ทันที"

"โอ้ ! " เจี้ยนเฉินตอบอย่างเฉยเมย เขาไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากนั้น และเดินกลับไปที่ห้องอย่างเงียบ ๆ เพื่อเก็บข้าวของของเขา

เจี้ยนเฉินมีข้าวของไม่มาก เขาคว้าโอสถของตัวเองแล้วเก็บไว้ในเข็มขัดมิติของเขา จากนั้นเขาก็เดินตามไป่เอินไปยังจุดศูนย์กลางของสำนักซึ่งมีหอคอยที่โดดเดี่ยว

"นั่นใช่เจียงเซียงเทียนหรือไม่ ? "

" มันดูเหมือนว่าเขากำลังเดินไปกับรองอาจารย์ใหญ่ บางทีเขาอาจถูกลงโทษรุนแรงมาก…"

...........

ขณะที่พวกเขาเดินผ่านสนาม ศิษย์หลายคนเริ่มรวมตัวและพูดคุยกัน

เจี้ยนเฉินไม่สนใจบทสนทนาที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา เขาตามหลังรองอาจารย์ใหญ่ไป่เอิน และในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงหอคอยกลาง และเข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่โดยตรง

มีผู้อาวุโสสองคนนั่งอยู่ถัดจากโต๊ะของอาจารย์ใหญ่ หนึ่งในนั้นคืออาจารย์ใหญ่ที่ทำตัวสบาย ๆ ในขณะที่ผู้อาวุโสอีกคนสวมชุดสีฟ้าและเกล้าผมยาวดำไว้ข้างหลัง จากด้านหลังโต๊ะ มีชายชราดูธรรมดาเหมือนคนอื่น ๆ

" อาจารย์ใหญ่ ข้านำตัวเจียงหยางเซียงเทียนมาแล้ว ! " รองอาจารย์ใหญ่ทักทายอย่างสุภาพ

เมื่อได้ยินอย่างนี้อาจารย์ใหญ่ก็จ้องมองเจี้ยนเฉินทันที และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า "ไป่เอิน เจ้าออกไปได้ ! "

"ขอรับ ! " ไป่เอินออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นคนที่เหลืออยู่ในห้องคืออาจารย์ใหญ่ของสำนักคากัต รวมถึงผู้อาวุโสในชุดคลุมสีฟ้า

นับตั้งแต่เจี้ยนเฉินเข้ามาครั้งแรก,ผู้อาวุโสในชุดฟ้าเขียวก็จับตามองเขาเสมอ. อาวุโสคนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเจี้ยนเฉิน เขาคือพ่อบ้านของตระกูลเจียงหยาง เจียงไป่

"เจียงไป่j เจ้ามาทำอะไรที่นี่" เจี้ยนเฉินพูดขณะมองผู้อาวุโส

เจียงไป่มองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่ซับซ้อนก่อนที่จะถอนหายใจและเอ่ยว่า "นายน้อยสี่ เราเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของท่านในสำนักคากัต ไม่ว่าจะเป็นบิดาหรือมารดาของท่าน พวกเขาทั้งคู่รู้สึกภูมิใจอย่างมาก แต่การกระทำของท่านในวันนี้รุนแรงเกินไป"

เจี้ยนเฉินเข้าใจในสิ่งที่เจียงไป่กำลังพูด เขาตอบอย่างแน่วแน่ว่า "เจียงไป่ ข้าไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลย พวกเขาหาเรื่องใส่ตัวเอง พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาก็ยังทำให้เขาบาดเจ็บปางตาย หากให้ข้าย้อนกลับไป ข้าก็ขอทำเช่นเดิม"

เจียงไป่ถอนหายใจ "นายน้อยสี่ ข้าเห็นด้วยกับวิธีการของท่าน ในทวีปเทียนหยวน คนที่แข็งแกร่งคือคนที่ปกครองคนอื่น แม้ว่านายน้อยจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาแต่ท่านไม่ได้คิดถึงอำนาจหนุนหลังพวกเขาอยู่ หากเป็นเพียงตระกูลกาดิหรือตระกูลลั่ว ตระกูลเจียงหยางของเราจะไม่ประสบปัญหามากนักในการจัดการกับพวกเขา แต่เฉิงหมิงเซียงเป็นบุตรชายที่รักของผู้นำสำนักหัวหยุน สำนักหัวหยุนมีอิทธิพลมากที่สุดในอาณาจักรเกอซุนนอกเหนือจากราชวงศ์ ดังนั้นตระกูลเจียงหยางไม่ควรไปล่วงเกิน"

" เจียงหยางเซียงเทียน อำนาจของสำนักหัวหยุนค่อนข้างน่ากลัว แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอิทธิพลเท่ากับราชวงศ์ แต่ราชวงศ์ก็กลัวผลกระทบใด ๆ จากการเข้าไปยุ่งกับพวกเขา ในปัจจุบันในบรรดาผู้เชี่ยวชาญหกอันดับแรกในอาณาจักรเกอซุน มีคนของสำนักหัวหยุนถึง 2 คน" อาจารย์ใหญ่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดมากขึ้นจากคำพูดเหล่านี้

ในขณะนั้นเสียงเคาะดังมาจากนอกประตู เสียงที่น่านับถือดังออกมาจากข้างนอก "อาจารย์ใหญ่ ข้านำตัวเจียงหยางหู่มาแล้ว ! "

"เข้ามา ! " อาจารย์ใหญ่กล่าว

ประตูเปิดออกและมีอาจารย์คนหนึ่งเดินนำหน้าเจียงหยางหู่มา เจียงหยางหู่สวมเครื่องแบบใหม่แต่ยังคงเห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน

" เจียงไป่ ! " เจียงหยางหู่ตะโกนเมื่อเขาเดินเข้ามา เขาไม่สามารถเก็บอารมณ์ไว้ได้ขณะที่เขาพูดด้วยความประหลาดใจ

อาจารย์คนนั้นไม่ได้เดินเข้ามาในห้องของอาจารย์ใหญ่ หลังจากที่ส่งตัวเจียงหยางหู่เข้าไปและคำนับอาจารย์ใหญ่ เขาก็ปิดประตูและเดินออกไปเงียบ ๆ

ดวงตาของเจียงไป่จ้องมองรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเจียงหยางหู่ ในที่สุดดวงตาที่ดูธรรมดาของเขาก็เผยความโกรธออกมา เขาพูดอย่างโศกเศร้าว่า" นายน้อยคนโต ท่านคงเจ็บปวดมาก"

เจียงหยางหู่ส่ายหัวโดยไม่คิดอะไรเลยและพูดว่า "มันแค่บาดแผลเล็กน้อย ไม่มีอะไรสำคัญ ช่างมันเถอะ เจียงไป่ เจ้ามาทำอะไรที่สำนัก ? " เจียงหยางหู่ถามด้วยความสับสน

ใบหน้าของเจียงไป่ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ เขาพูดเบา ๆ ว่า "นายน้อยทั้งสองควรไปเก็บข้าวของ"

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำ

" ข้าเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เจียงไป่ เจ้ามารับข้าหรือ ? " เจียงหยางหู่ถามด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจ

เจียงไป่พยักหน้า "ถูกต้อง ข้ามาวันนี้เพื่อรับตัวท่านสองคนออกจากสำนัก มันคงไม่ฉลาดนักที่หากท่านทั้งสองยังอยู่ที่สำนักคากัตต่อไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหยางหู่ก็มืดแปดด้าน เขาอยู่ที่สำนักคากัตมานานพอควรและรู้สึกผูกพันกับมันเป็นพิเศษ

" เจียงหยางหู่ เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าสองคนควรออกไปก่อน ข้ายังมีบางสิ่งที่อยากคุยกับเจียงไป่" อาจารย์ใหญ่กล่าว

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ไม่ได้คัดค้าน พวกเขาก็หันหลังให้เดินออกจากห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่.

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ไม่ได้รอนาน เจียงไป่ออกจากห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ในไม่ช้าหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองดูทั้งสองคน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่มีความสุข

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ติดตามเจียงไป่ลงจากหอคอยและขึ้นขี่หลังสัตว์อสูรที่บินได้เพื่อออกจากสำนักคากัต มันบินขึ้นไปในอากาศโดยตรงและเริ่มมุ่งหน้าไปยังเมืองลอร์

เจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ไม่ได้พูดคุยกันบนหลังสัตว์อสูร ในขณะที่ทั้งสองกำลังรีบกลับบ้าน ทั้งคู่ดูเหมือนจะหนักใจมาก

ภายในหัวของเจี้ยนเฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องความรักที่เขาได้รับจากมารดา แม้ว่าในใจเขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่เด็ก แต่เขาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ดังนั้นความรักของแม่นี้จึงเป็นเรื่องใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัส

ในความคิดของเจี้ยนเฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงการใช้ชีวิตในตระกูลเจียงหยาง มารดาของเขาใส่ใจเขาและรักเขาหมดหัวใจ สิ่งนี้ทำให้จิตใจที่เย็นชาของเจี้ยนเฉินซึ่งไม่เคยได้รับความรักของมารดามาก่อนกลายเป็นทะเลแห่งความอบอุ่น เขามีความสุขและถะนุถนอมความรู้สึกนั้น

เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่สัตว์อสูรระดับสี่พุ่งสูงขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วสูงและลมพัดจนเจี้ยนเฉินหูอื้อ ผมสีดำที่มีความยาวระดับเอวของเจี้ยนเฉินปลิวว่อนอยู่กลางอากาศในขณะที่มันปลิวไหวไปตามสายลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เขามีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสง่าผ่าเผย เขาดูมีความมั่นใจในขณะที่ขี่หลังสัตว์อสูร

สัตว์อสูรบินผ่านข้ามหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ มากมายภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด หลังจากการบินผ่านสูงหนึ่งพันกิโลเมตรเหนือพื้นดินผ่านไปหนึ่งชั่วยามกว่า ๆ พวกเขาก็มาถึงเมืองลอร์

เจียงไป่ควบคุมให้อสูรอินทรีบินลงมาสู่บริเวณของคฤหาสน์เจียงหยาง คนรับใช้ที่จัดการสวนด้านหลังออกไปนานแล้ว เหลือเพียงคนที่จงรักภักดีที่สุด

ลมกระโชกแรงพัดลงมาบนลานกว้างขณะที่อสูรอินทรีลงมาจากท้องฟ้าและหยุดลงสู่พื้นดิน ชายสามคนจึงปีนลงมา

กลุ่มคนรีบมารวมตัวกันรอบ ๆ อสูรอินทรีโดยมีชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีดำขาวเป็นผู้นำกลุ่ม นี่คือผู้นำตระกูลเจียงหยางและเป็นบิดาของเจี้ยนเฉิน – เจียงหยางป้า ข้าง ๆ เขามีหญิงงาม 4 คนคือไป๋หยุนเทียนมารดาของเจี้ยนเฉินและป้าทั้งสามคน ข้าง ๆ ป้าสี่มีเด็กสาวที่ดูเหมือนจะอายุประมาณ 18 ปี นี่คือพี่รองของเขาที่เขาไม่ได้เห็นมาหลายเดือน – เจียงหยางหมิงเย่ว ใกล้กับนางมีชายอีกคนที่ดูเหมือนจะอายุรุ่นราวคราวเดีวกับเจี้ยนเฉิน เขาคือเจียงหยางเค่อ พี่รองของเขานั่นเอง อย่างไรก็ตามในสายตาของเจียงหยางเค่อนั้นดูมีความสุขราวกับว่าเขายินดีที่ได้เห็นเจี้ยนเฉินต้องทุกข์ยากและต้องออกจากสำนักคากัต

ข้างหลังสมาชิกในครอบครัวมีชายวัยกลางคนและผู้อาวุโส พวกเขาเป็นสมาชิกระดับสูงของตระกูล แต่ละคนก็มีสีหน้าที่น่าเกรงขามขณะที่พวกเขามองดูเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่ซับซ้อน บางคนมองเขาอย่างมีความสุข บางคนมองด้วยท่าทางที่คาดหวังและบางคนก็ถอนหายใจ

เจียงไป่เดินไปหาเจียงหยางป้าและยิ้มเล็กน้อย "นายท่าน ข้าไม่ได้ทำให้ท่านผิดหวัง ข้านำตัวนายน้อยคนโต และนายน้อยสี่กลับบ้านมาอย่างปลอดภัย" เขาป้องมือ

เจียงหยางป้ามองเจียงไป่และป้องมือให้ "ขอบใจมากที่อุตส่าห์ช่วย"

" นายท่านชมข้าเกินไป มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วขอรับ " เจียงไป่กล่าว

เจียงหยางป้าชำเลืองมองเจี้ยนเฉินและเจียงหยางหู่ ดวงตาของเขาแสดงออกทั้งความพึงพอใจและความชื่นชมขณะที่เขามองเจี้ยนเฉิน เขาตื่นเต้นในสภาพที่ยังวิตกกังวล ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า "เซียงเอ๋อ, เจียงหยางหู่, เจ้าทั้งคู่มากับข้าที่โถงกลาง" เจียงหยางป้าหันหลังกลับและเริ่มเดินออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด