ตอนที่แล้วบทที่ 75 ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 77 การซุ่มโจมตีในป่า

บทที่ 76 การใช้ความสามารถที่ถูกต้อง


บทที่ 76 การใช้ความสามารถที่ถูกต้อง

 

สองสามนาทีหลังจากนั้น พวกหลิงม่อก็เดินออกจากประตูใหญ่ของบาร์อินหวงที่เปิดกว้างอยู่

 

หลินล่วนชิวและสื่อปินเดินอยู่ข้างหน้า แม้ร่างกายเธอจะอ่อนแอ แต่ก็ยังยืนกรานว่าจะเดินเอง แต่ให้สื่อปินอยู่ข้างๆ เผื่อจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแล้วจะทำให้หลิงม่อต้องเสียเวลา

 

หลิงม่อพอใจการเตรียมการแบบนี้ของเธอมาก ให้อารมณ์ว่าไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร

 

ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ฟ้าสว่างช้าขึ้นเรื่อยๆ เวลานี้แม้ท้องฟ้าจะสว่างรำไร แต่คงเป็นเวลาหกเจ็ดโมงแล้วล่ะ

 

แต่ลมในเวลาเช้าตรู่ยังคงหนาวมาก สภาพร่างกายของหลิงม่ผ่านการเลื่อนระดับมาหลายครั้งแล้วจึงไม่รู้สึกอะไร แต่สื่อปินและหลินล่วนชิวต่างก็อดตัวสั่นไม่ได้

 

เห็นเย่เลี่ยนและซย่าน่าใส่เสื้อผ้าบางๆ แต่เหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไร จนหลินล่วนชิวต้องมองพวกเธอหลายรอบ

 

การที่มีเด็กสาวที่แข็งแกร่งโดดเด่นสองคนนี้อยู่ข้างกายได้ หลิงม่อคนนี้จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนกันนะ? หลินล่วนชิวอดคาดเดาไม่ได้

 

“เธอบอกว่าจะปีนกำแพง ปีนจากตรงไหนเหรอ?” หลิงม่อไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของหลินล่วนชิว เขากำลังขมวดคิ้วสำรวจกำแพงสูง

 

หลินล่วนชิวมองไปไกลยังถนนโคมแดงพลางบอก “ตรงนั้นที่เราปีนออกมาแต่ก่อนน่ะ แม้ว่าเข้าไปแล้วจะเป็นทางที่อ้อมไกลหน่อย แต่อย่างน้อยก็ถือว่าปลอดภัยมาก ใช่แล้ว นายเอาแท่งลับมีดคืนให้สื่อปินได้ไหม? เดิมทีมันเป็นอาวุธของฉัน...”

 

“เธอเป็นคนฝนไอ้นี่เหรอ? ดูท่าจะมีความอดทนมากนะ” หลังจากที่แท่งลับมีดถูกยึดมา ก็อยู่ในมือของหลิงม่อมาตลอด แต่อาวุธนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเขาจริงๆ

 

“นายวางใจเถอะ ฉันไม่ได้ออกมาหาที่ตายกับนาย อย่างน้อยก็ไม่มีทางทำเรื่องที่รนหาที่ตาย ใช่ไหม สื่อปิน?”

 

หลินล่วนชิวเสริมขึ้นอีก จากนั้นก็หันไปมองสื่อปิน

 

สื่อปินอดนอนมาทั้งคืน ดวงตาก็ออกสีแดงเหมือนกัน หน้าขาวๆ นั้นดูหมองไปมาก พอได้ยินหลินล่วนชิวช่วยขออาวุธคืน สายตาของเขาก็แวบประกายโทสะทันที แต่ก็จำต้องกล้ำกลืนเพลิงโทสะที่แสนอึดอัดนั้นลงไป

 

“อื้ม!” เขาแค่นเสียงหึแรงๆ ถือเป็นการตอบรับ

 

หลิงม่อกลับคิดในใจ ถ้าหากเธอคิดจะรนหาที่ตาย ฉันก็ไม่ถือสาหรอก...เขาคิดพลางโยนแท่งลับมีดออกไป สื่อปินพอเห็นเงามืดเขวี้ยงมาทางตัวเองก็ตกใจจนขนลุกชันไปทั้งร่าง รีบถอยหลัง แต่แท่งลับมีดหล่นลงมาทื่อๆ ตรงหน้า หลินล่วนชิวก็ยื่นมือออกไปอย่างสงบนิ่ง คว้าด้ามแท่งลับมีดไว้มั่น

 

สื่อปินกลายเป็นตัวตลก ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นทันที แต่ตอนที่เขามองไปทางหลิงม่อด้วยความเดือดดาล ก็พบว่าหลิงม่อไม่มองเขาสักแวบเลย

 

“ไปเถอะ”

 

หลิงม่อไม่ได้คิดจะทรมานสื่อปินจริงๆ แต่แค่เหวี่ยงไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น เขายกกระเป๋าเป้ขึ้น แล้วบิดคอ จากนั้นก็เดินนำไปทางที่หลินล่วนชิวชี้

 

ซย่าน่าและเย่เลี่ยนตามมาข้างหลัง ส่วนหลินล่วนชิวมองหลิงม่อแล้วก็เดินตามไปช้าๆ

 

แม้สื่อปินจะทำหน้ากระดากอาย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครหัวเราะเยาะเขา ดังนั้นจึงเดินอยู่ข้างๆ หลินล่วนชิวหงอยๆ รับแท่งลับมีดจากมือเธอ

 

ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอซอมบี้จำนวนหนึ่งบนถนน แต่ดูท่าพวกมันจะถูกดึงดูดมาจากที่อื่น เพราะบนพื้นยังมีเศษเสื้อผ้ารุ่งริ่งที่เต็มไปด้วยเลือดและกระดูกคนที่ยังสดใหม่ แม้มีน้ำฝนช่วยชะล้าง แต่ก็ไม่ทำให้พวกมันกลับมามีสีเดิม

 

หลิงม่ออ้อมกระโหลกศีรษะครึ่งเดียวที่บนนั้นมีเลือดและเนื้อที่ยังกัดกินไม่เกลี้ยง แต่ตอนนี้มันเน่าะเฟะไปแล้ว เหลือเพียงรูดำๆ ที่เป็นหลุมลึกและหนังตึงๆ หนึ่งชั้น

 

พอเห็นซอมบี้สองสามตัวที่ตอนแรกเดินโงนเงนช้าๆ อยู่ๆ ก็เร่งความเร็วพุ่งมาทางนี้ สื่อปินหน้าถอดสี รีบมาบังอยู่หน้าหลินล่วนชิว

 

แต่หลินล่วนชิวมองพวกหลิงม่อด้วยหน้าตาสงบนิ่ง ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา การจะรับมือกับซอมบี้สองสามตัวนี้จะเป็นปัญหาอะไรด้วยเหรอ? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหลิงม่อเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้วยแล้ว

 

เมื่อเห็นซอมบี้กลุ่มนี้พุ่งเข้ามา หลิงม่อก็ค่อยๆ ถอยไปหนึ่งก้าว พร้อมปล่อยหนวดสัมผัสออกมาทันที

 

เพื่อไม่ให้เรื่องที่ตัวเองควบคุมหุ่นซอมบี้ได้ถูกเปิดเผย หลิงม่อจึงไม่ได้วิธีโจมตีที่ตัวเองใช้มาตลอด แต่กลับใช้หนวดสัมผัสเพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของซอมบี้กลุ่มนี้บิดเบี้ยว การเคลื่อนไหวของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มช้าลง เย่เลี่ยนและซย่าน่าก็เข้าไปล้อมซ้ายขวา ฟันซอมบี้สี่ตัวนี้จนตายเรียบ สองสามตัวที่เหลือสายตาเพิ่งกลับเข้าสู่สภาพปกติ ก็กลับได้รับผลกระทบจากหลิงม่ออีกหน เท้าเซไปจนแทบจะล้ม

 

เย่เลี่ยนฉวยโอกาสนี้เอาดาบวงพระจันทร์แทงเข้าไปที่ท้ายทอยของซอมบี้หนึ่งในนั้น และดาบยาวในมือของซย่าน่าก็สาดประกาย หน้าอกของซอมบี้ตัวนั้นพลันเกิดรอยผ่ายาวๆ จนกระทั่งมันหงายหลังล้มลง ละอองเลือดจึงได้พุ่งปรี๊ดออกมาราวกับน้ำพุ

 

“เลือดสาดสุดๆ...” สื่อปินมองจนหนังตากระตุกไม่หยุด ส่วนหลินล่วนชิวก็ตาเป็นประกายวาบ

 

เข้าขากันได้ดีจริงๆ...เด็กสาวสองคนนี้มีความสามารถในการต่อสู้เป็นเลิศ อีกทั้งเวลาที่จู่โจมสังหารซอมบี้ก็เฉียบขาด เห็นชัดว่าสภาพจิตใจแบบนั้นคนธรรมดาไม่อาจเทียบได้ และเห็นชัดว่าความสามารถพิเศษของหลิงม่อก็น่าจะอยู่ในประเภทของจิต เหมือนกับชั่วกระสุนปืนของเธอ ที่ต่างเอามาใช้งานโดยอาศัยพลังจิตของตัวเอง

 

ความจริงความสามารถของพวกเขาสองคนดูแค่ผิวเผินแล้วมีความร้ายกาจมาก แม้จะมีวิธีใช้ที่ต่างกันทว่าให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเหมือนกัน ชั่วกระสุนปืนของหลินล่วนชิวทำให้การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามช้าลงในวิสัยทัศน์ของเธอ แต่ความจริงการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ดังนั้นความสามารถพิเศษนี้ จึงเป็นควาสามารถที่มีผลกับตัวเธอเอง

 

ส่วนความสามารถของหลิงม่อกลับมีผลต่อร่างกายศัตรูโดยตรง มีผลต่อความเร็วของฝ่ายตรงข้ามและจู่โจมฝ่ายตรงข้าม

 

มองทีแรกแม้จะเหมือนกันอยู่บ้าง แต่หลินล่วนชิวก็รู้สึกว่า ความสามารถของหลิงม่อแข็งแกร่งกว่าของตัวเองมาก

 

ถ้าเธอรู้ว่าความจริงว่าความสามารถของหลิงม่อคือพลังควบคุมหุ่นล่ะก็ น่ากลัวว่าจะสะพรึงยิ่งกว่าเก่า

 

“ความสามารถพิเศษของนายร้ายกาจมาก” หลินล่วนชิวพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้

 

หลิงม่อหันไปมองเธอแวบหนึ่งแล้วหัวเราะ “ความจริงพลังของเธอก็ไม่เลวนะ แต่...” พูดมาถึงตรงนี้ หลิงม่อก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าหลังจากนั้นก็ยังพูดออกไป “ถ้าได้วิวัฒนาการให้ก้าวหน้าขึ้น น่าจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

 

บอกตามตรงหลิงม่อไม่ใช่คนที่จะมาคอยชี้แนะคนอื่นที่เขาอยู่ในอารมณ์สบายๆ ไม่รีบร้อน แต่หลินล่วนชิวคนนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่เลวจริงๆ

 

เขาเข้าใจความรู้สึกที่หลินล่วนชิวอยากมีชีวิตอยู่ต่อ มีความสามารถพิเศษและมีการเตรียมใจไว้อย่างดี ตัดสินเรื่องต่างๆ ได้ดี แต่กลับตกอยู่ในสภาพนี้ แต่แม้เธอจะป่วยจนอาการหนักแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

 

เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงม่อ สายตาของหลินล่วนชิวก็แวบประกายประหลาด จากนั้นก็เริ่มครุ่นคิด

 

ซอมบี้ที่จะขวางทางแบบนี้ไม่ถือว่าเยอะ แต่ซากศพที่นอนขวางอยู่บนถนนมากมายขนาดนั้น อีกไม่นานจะต้องดึงดูดซอมบี้ตัวอื่นๆ มาแน่

 

เดินมาตามถนนโคมแดงเป็นระยะไกลพอควร หลินล่วนชิวจึงได้เอ่ยขึ้น “จากตรงนี้แหละ”

 

หลิงม่อหยุดฝีเท้า ช่วงกำแพงที่หลินล่วนชิวชี้ยังมีคราบเลือดสีน้ำตาลเข้มมากมายสะดุดตาเป็นพิเศษบนกำแพงสีขาว

 

“นี่คือรอยเลือดที่มีคนถูกซอมบี้ดึงแขนขาดไปข้างหนึ่ง แต่นักเรียกคนนั้นอยู่ได้อีกไม่นานก็ตาย ในซากกระดูกเมื่อกี้คงมีของเขาส่วนหนึ่ง” ในสายตาของหลินล่วนชิวฉาบฉายความเศร้าสลด เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา

 

สื่อปินก็เผยสีหน้าหดหู่ เหมือนเรื่องนั้นยังคงหลอกหลอน สำหรับพวกเขาทั้งสองแล้วมีความสะเทือนใจไม่น้อย

 

กำแพงของมหาวิทยาลัยเมือง X ไม่ได้ถือว่าสูงมาก อีกทั้งเศษแก้วบนนั้นยังถูกเคาะหล่นไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของพวกหลินล่วนชิวหรือเปล่า หลิงม่อถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นก็วิ่งสะสมแรงส่งตัวเองแล้วกระโดด สองมือยึดขอบบนกำแพงไว้แล้วปีนขึ้นไป

 

เขาย่อตัวอยู่บนนั้นมองอยู่สักพัก พบว่าหลังกำแพงคือป่าผืนเล็กๆ ยังไม่เห็นเงาของซอมบี้ พอกระโดดลงไปแล้ว หลิงม่อก็ควบคุมเย่เลี่ยนให้ข้ามมา

 

การเคลื่อนไหวของเธอว่องไวกว่าหลิงม่อมาก ไม่จำเป็นต้องวิ่งเพื่อให้มีแรงส่ง หลังจากที่กระโดดสูงแล้ว ก็ยันมือไว้บนกำแพงด้วยมือเดียว จากนั้นพลิกตัวกระโดดลงมาข้างๆ หลิงม่อ ท่วงท่างดงามนี้ทำให้หลินล่วนชิวและสื่อปินผงะไปด้วยกันทั้งคู่ แอบคิดในใจว่าดาวมหาวิทยาลัยคนนี้ดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงๆ ทั้งที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแรงขนาดนี้

 

แต่ซย่าน่ายังไม่ได้ข้ามกำแพงในทันที ทว่าหันไปมองหลินล่วนชิวและสื่อปิน

 

หลินล่วนชิวไอทีหนึ่ง ตามหลักแล้วเธอร่างกายอ่อนแอ หากจะข้ามกำแพงก็คงจะลำบาก แต่เธอเลียนแบบหลิงม่อวิ่งระยะหนึ่งเพื่อให้มีแรงส่งแล้วก็กระโดดข้ามไป ฝืนยึดขอบบนกำแพงไว้ จากนั้นก็พลิกข้ามไปช้าๆ

 

ตอนที่ลงพื้น เท้าของเธอเหยียบไม่มั่นคงจึงเอนไปทางหลิงม่อ

 

หลิงม่อยังไม่ทันได้คิดอะไร ก็รับเธอไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ฟุ้งเข้าจมูกหลิงม่อทันที เขาผงะไปโดยไม่รู้ตัว ไม่คิดเลยว่าเธออยู่ในโกดังสินค้าแบบนั้นตลอด ร่างกายจะยังมีกลิ่นที่หอมมากๆ...

 

แต่เขายังไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็รีบประคองหลินล่วนชิวให้ยืนตรงแล้วถาม “เธอไม่เป็นไรนะ?”

 

ปรากฎว่าสื่อปินที่กระโดดลงมาติดๆ ข้างหลังเห็นภาพนี้เต็มตา

 

หน้าเขาเปลี่ยนสีทันควัน รีบดึงหลินล่วนชินไป จ้องหลิงม่ออย่างโกรธแค้น “นายทำอะไร!”

 

หลิงม่อกลอกตา ไม่สนใจเขา หลินล่วนชิวยิ้มให้หลิงม่อเป็นเชิงขอโทษ “ขอบใจนะ” จากนั้นเธอก็หันไปบอกสื่อปินเสียงเบา “อย่าหาเรื่องสิ หลิงม่อแค่ประคองฉัน ไม่งั้นฉันก็ล้มไปแล้ว”

 

พอข้ามกำแพงมาแล้ว สีหน้าของหลินล่วนชิวก็ขาวขึ้นหลายส่วน ทั้งยังหอบหนักขึ้นด้วยเล็กน้อย สื่อปินมองหลิงม่อด้วยความสงสัยแล้วหุบปากเงียบ

 

ด้วยทักษะของซย่าน่าย่อมกระโดดข้ามมาได้สบายๆ ตอนที่ลงถึงพื้นก็แทบจะไร้เสียง แม้เมื่อพูดถึงความว่องไวในการเคลื่อนไหว ระดับวิวัฒนาการทางกายเนื้อจะไม่สูงเท่าเย่เลี่ยน แต่ก็สวยงามกว่าหลิงม่อมากนัก

 

ความจริงระยะนี้หลิงม่อก็รู้สึกได้ว่า ไม่ว่าร่างกายเขาจะเลื่อนระดับอย่างไร แต่อย่างมากก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น หากจะให้ไปถึงขั้นทรงพลังอย่างซอมบี้ก็คงจะยาก จุดแข็งของเขาคือพลังจิต ส่วนสองสาวซอมบี้อย่างเย่เลี่ยนและซย่าน่าก็ช่วยเสริมเติมเต็มให้เขา มีพลังการต่อสู้ระยะประชิดที่ร้ายกาจของพวกเธอสองคน หลิงม่อก็ควบคุมหุ่นให้ต่อสู้ได้ดังใจต้องการ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกทำร้ายเวลาที่สู้ในระยะประชิด

 

นี่ต่างหากที่เป็นวิธีการใช้พลังควบคุมหุ่นที่ถูกต้อง ควบคุมหุ่นเพื่อเสริมจุดอ่อนในการต่อสู้ระยะประชิดของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ได้ใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งของตัวเองอย่างเต็มที่

 

แต่การเลื่อนระดับทางกายเนื้อของเขาก็ไม่ถือว่าไปผิดทาง ถึงอย่างไรหากไม่มีพละกำลังที่มากพอ อาศัยแค่พลังจิตอย่างเดียวก็จะเสียเปรียบมาก และยิ่งกว่านั้นสรุปแล้วก็ต้องมีความสามารถที่จะปกป้องตัวเองในระดับหนึ่งด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด