ตอนที่แล้วตอนที่ 3 : คู่ปรับเก่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 : เจ้ากำลังโกหกข้าใช่ไหม?

ตอนที่ 4 : เด็กจากในถ้ำน่ากลัวยิ่งนัก


แน่นอนฉาวซวนไม่ได้คาดหวังที่จะให้ซีซาร์โจมตีร้ายแรง เพราะมันเป็นสิ่งต้องห้ามในเผ่า อย่างไรก็ตาม ฉาวซวนจะไม่มีวันยอมแพ้แก่ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้สารเลวทั้งสามนั้น

เช่นเดียวกับฉาวซวนที่จมอยู่ในความคิดของเขาเกี่ยวกับว่าเขาควรจะจัดการศัตรูของเขาด้วยหินดีหรือชกพวกเขาด้วยมือเปล่าของเขาดี เด็กสามคนกำลังเดินขึ้นมาบนภูเขา ไม่รู้ถึงการซุ่มโจมตีของฉาวซวน ความสนใจของพวกเขาในด้านอื่น ๆ เช่นหลีกเลี่ยงการโดนหินตกใส่ พวกเขาไม่รู้ว่าเส้นทางใดที่ปลอดภัยสำหรับการขึ้นไป ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แค่ลองและคลำทิศทางอ้อมตามที่เสียงสั่นสะเทือนดังออกมา

"มันเป็นทางนี้จริงๆ ใช่ไหม ชาน?" ซายเดินนำหน้ากลุ่มของพวกเขาและเขาได้พยายามหลบหลีกหินที่ตกลงมาจากด้านบน เขาจ้องที่คนที่ซ่อนอยู่ข้างหลังเขา กับคิ้วของเขาที่ยกสูงขึ้น

เด็กขี้อายชื่อชาน หดลำคอของเขาลงและตอบว่า "แน่ใจ! พ่อของข้าเป็นผู้รับผิดชอบการลาดตระเวนในวันนี้ และเขาเห็นว่า เมย ลงมาทางนี้ เรากำลังจะถึงควรจะมีอะไรดีๆ หลงเหลือไว้มากมายตั้งแต่เมยเป็นนักรบระดับกลาง. "

ซายครวญเพลงและเดินต่อไป ขณะที่เขาเตะก้อนหินที่ขวางเท้าของเขา

เห็นพวกเขาใกล้เข้ามา ฉาวซวนกลั้นลมหายใจของเขาและรอเวลาที่เหมาะสม

เนื่องจากพวกเขาได้ทำงานร่วมกันหลายครั้ง ฉาวซวนไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แต่ให้ซีซาร์ตั้งท่าเมื่อเป็นเวลาที่เหมาะสม จากนั้นเขาก็ก้าวเท้ายาวๆ ไปที่ซายด้วยกำปั้นขวาของเขาชกเข้าไปที่หน้าผากของซาย

ซายมีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่มีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีอย่างฉับพลันของฉาวซวน แม้เขาจะเป็นคนที่สูงที่สุดในหมู่คนทั้งสาม เขาหลบได้อย่างเฉียดฉิวไปด้านหนึ่งเพื่อป้องกันจมูกของเขา แต่ใบหน้าของเขายังคงถูกชกอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะตอบสนองอีกครั้ง กำปั้นได้ชกมาที่ขากรรไกรของเขาอีกครัั้ง ซึ่งทำให้เขาวิงเวียนและล้มลง

แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ หมัดของฉาวซวนชกออกมาอีกครั้งลงบนใบหน้าของซาย

ในที่สุดฉาวซวนเลือกที่จะไม่ใช้ก้อนหินทุบศัตรูของเขา

แม้การโจมตีด้วยมือเปล่าของคน ๆ หนึ่งอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมากพอๆกัน

คนในเผ่าเขาเพลิงค่อนข้างแข็งแกร่ง และแม้กระทั่งเด็กที่ไม่ได้ปลุกพลังสัญลักษณ์ของพวกเขาให้ตื่นก็สามารถเอาชนะคนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนของเขา เขาต้องการจบเรื่องอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาไม่ได้ยั้งกำลังของเขา

ในเวลาเดียวกัน เมื่อฉาวซวนวิ่งไปหาซาย ซีซาร์กระโดดไปที่เย เช่นเดียวกับที่ฉาวซวนได้ฝึกฝนมัน ซีซาร์กัดลงไปที่เสื้อผ้าหนังสัตว์ของเยและเชือกฟางบนเอวของเขาแทนที่จะกัดเนื้อเขาโดยตรง ซีซาร์หุบปากของมันและลากเยไปทางอื่น แม้ว่าซีซาร์ยังคงอยู่ในวัยเด็ก มันสามารถลากเด็กอายุสิบปีไปรอบๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่เหลือโอกาสสำหรับ เย ที่จะก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ สำหรับฉาวซวนหรือลุกขึ้นยืนบนเท้าของเขา

สำหรับเด็กคนที่สามชื่อชาน,ฉาวซวนตั้งใจจะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว ในขณะที่เขาเป็นคนขี้อายและไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับอีกสองคนที่มีความแข็งแรงของร่างกายและความเหี้ยมโหด

ชานและเยทั้งสองตกใจเมื่อฉาวซวนได้รีบวิ่งไปข้างหน้าและโจมตีซาย เมื่อจู่ๆ ซีซาร์กระโดดออกมากัดเยก่อนที่เขาจะสามารถช่วยซาย มองไปที่คมเขี้ยวเหล่านั้น ทั้งชานและเยต่างกลัวมากจนเกือบจะฉี่ราดรดกางเกงของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เย ผู้ซึ่งถูกคุมขังจากซีซาร์อย่างรุนแรง เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ

ชานตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นสักครู่ จากนั้นก็เหวี่ยงไม้ไปทางฉาวซวน

ฉาวซวนให้ความสนใจกับท่าทางของชานเช่นกัน ในขณะที่เขาต่อยไปที่ใบหน้าซาย ท่อนไม้พลาดศีรษะของเขา แต่ฉาวซวนกลับถูกเผาไหม้ด้วยความเจ็บปวดเพราะเขาไม่ได้หลีกเลี่ยงการโจมตีอย่างเต็มที่ เขาเริ่มชกซายได้เร็วยิ่งขึ้น

ซายในความเป็นจริง อายุแก่กว่าฉาวซวนสองปี และเข้มแข็งมาก แต่เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ของเขาภายใต้พายุหมัดของฉาวซวน เขาเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่มีพลังสัญลักษณ์เลย

ฉาวซวนสูดลมหายใจอย่างหนักและรู้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ ถ้าเขาไม่สามารถชนะได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เขาได้รับความเดือดร้อนมากพอแล้วจากความลังเล

หลังจากที่เขาได้รับการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุด,ฉาวซวนกลิ้งบนพื้นดินเพื่อที่จะหนีจากท่อนไม้ เขามองไปที่ชานด้วยสายตาที่ดุร้ายรุนแรงในสายตาของเขาที่หลงเหลือจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ท่อนไม้ที่อยู่ในมือของชานผู้ขี้ขลาดสั่นระริก

ชานกระวนกระวายด้วยความกลัวเมื่อเห็นว่าซายฟุบลงไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้กลับ และเยอยู่อีกฝั่งหนึ่งทั้งยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทุกคนกลัวและร้องตะโกน เขาจับท่อนไม้ไว้แน่นและมองจ้องไปที่ฉาวซวน

ฉาวซวนรู้ว่า ชานขี้ขลาดเกินไปเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา เช่นที่เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปทีละก้าวๆ ตรงไปที่ชาน

ความเร็วของฉาวซวนไม่ได้รวดเร็วมากนัก แต่ทุกจังหวะย่างก้าวของเขาเหมือนเสียงบดขยี้กระหน่ำเข้ามาในใจของชาน  และใบหน้าของชานดำมืดลงเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงจังหวะก้าวเดิน

ระหว่างทั้งสอง ชานเป็นคนที่มีลำตัวสูงและมีอาวุธในมือ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่อ่อนแอเหลาะแหละด้านการเคลื่อนไหว เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉาวซวนเพียงก้าวเดินไปที่ชาน ชานกลัวจนตัวสั่นและโยนท่อนไม้ไปที่พื้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขายอมแพ้

พวกเขาได้พบกันไม่กี่ครั้ง และทำให้ชานรู้ว่าฉาวซวนจะไม่ลงมือกับเขา ฉาวซวนแสดงท่าทางที่บ่งบอกให้รู้ได้ แม้ว่าเขาได้ตีหลังฉาวซวนหลายครั้งก่อนหน้านี้

ซายเพิ่งฟื้นขึ้นมา และเขารู้สึกโกรธและไม่พอใจอย่างมากที่เห็นชานยอมแพ้เช่น ไอ้โง่ที่งี่เง่า!

ซายรู้ว่ามันเลวร้าย เมื่อเขาพบว่าคนร้ายเป็นฉาวซวน เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาที่พวกเขาได้พบกัน พวกเขาไม่สามารถได้รับประโยชน์มากกว่าฉาวซวน แต่เวลานี้ เขากลับล้มลงกับพื้นก่อนที่เขาจะตอบโต้กลับ! มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก!

พวกเขาเสี่ยงมาที่นี่และหวังใช้โชคของพวกเขาเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถพบอะไรดีๆ กลับติดมือไปได้ แต่ไม่คาดคิดว่า ฉาวซวนอยู่ที่นี่แล้ว และก้าวนำพวกเขาไปไกล! ไม่ใช่ว่าฉาวซวนมีจมูกของหมาป่า? เมื่อเทียบกับฉาวซวน พวกเขาทั้งสามคนมาช้าไปและสิ่งที่เป็นความอัปยศอดสูมากยิ่งขึ้นคือการที่พวกเขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้เช่นกัน! เมื่อคิดเช่นนั้น ซายมองไปที่ฉาวซวนในขณะที่ความเกลียดชังฝั่งลึกระหว่างพวกเขา

ฉาวซวนละเว้นซาย แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้ ชานไปอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ทุบตีชานเหมือนที่เขาลงมือกับซาย แต่เพียงแค่เตะเขาไปรวมกันกับซาย

หยิบท่อนไม้มาจากพื้นที่ชานได้ทิ้งไว้, ฉาวซวนเดินไปที่ซายและชาน ขณะที่พวกเขานอนอยู่ที่พื้น เขาชั่งน้ำหนักท่อนไม้และค่อยๆ ลูบมันด้วยมือของเขา เลือดที่กำปั้นของเขาจากการต่อสู้ที่ผ่านมาขูดลงบนท่อนไม้ ในขณะที่เขายิ้มให้ทั้งสองคน

มองเห็นรอยยิ้ม ซายและชานรู้สึกขนลุก พวกเขาต้องการที่จะวิ่งหนีไปทันทีเพราะรู้สึกได้ว่าจะมีบางอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ซายกำลังนอนอยู่ที่พื้นดินและไม่สามารถหนีไปไหน ในขณะที่ชานรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว

ฉาวซวนก้มตัวของเขาลงแล้วจู่ ๆ เขาก็เหวี่ยงท่อนไม้ไปที่พวกเขา มันเป็นไปอย่างฉับพลัน และมันพุ่งตรงไปที่เป้าหมายไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ในขณะที่ซายและชาน มีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมามากมายและรู้สึกว่าพวกเขากำลังหมดลมหายใจ ทุกสิ่งอย่างหายไปจากสายตาของพวกเขา มีเพียงท่อนไม้ที่อยู่ในสายตาของพวกเขา

ป็อก...!

ท่อนไม้ตกลงไปที่ช่องว่างระหว่างซายและชาน และมันแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆทันทีที่กระแทกพื้น เศษไม้พุ่งไปที่ใบหน้าของซายและชาน บาดใบหน้าของพวกเขาถลอกเล็กน้อย

ฉาวซวนเดินเข้าไปใกล้ทั้งสอง ด้วยท่าทางที่เย็นชา "สิ่งที่อยู่ตรงนั่นเป็นของข้า เจ้าควรจะไปที่นั่นหลังจากที่ข้าได้เก็บพวกมัน เข้าใจไหม?

เสียงของเขาไม่ดัง แต่มีแรงกดดันแปลกๆ บางทีซายและชานรู้สึกว่าก่อนหน้าที่ท่อนไม้นี้อาจจะร่วงหล่นลงมาที่ร่างกายของพวกเขาหากพวกเขาไม่ยอมแพ้

ซายยังคงเงียบ ในขณะที่จ้องมองฉาวซวน อย่างไรก็ตาม ชานยังคงสั่นเหมือนใบไม้ต้องในสายลม และเขาพยักหน้ารีบแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจอย่างเต็มที่ ในสายตาของเขายังคงมีความระมัดระวังและความหวาดกลัว

ชานคิดในใจ "ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพ่อแม่ห้ามไม่ให้เด็กๆ เข้าใกล้กับผู้ที่มาจากถ้ำเด็กกำพร้า เด็กที่มาจากถ้ำน่ากลัวมาก! พวกเขาจะน่ากลัวยิ่งกว่าซายที่มักจะต่อสู้ในอดีต! "

ฉาวซวนไม่ได้วางแผนที่จะเสียเวลาใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขา ถ้าซายจะมาที่นี่กับเพื่อน ๆ ของเขา เช่นนั้นแล้วคนอื่น ๆ อาจจะมาที่นี่เช่นกัน ฉาวซวนรู้ว่า เขาสามารถที่จะจัดการกับบรรดาเด็กสามคนเพียงใช้ลูกเล่นวางแผนเล็กน้อยและชัยชนะดังกล่าวด้วยความช่วยเหลือของซีซาร์ ฉาวซวนจะต้องหลบหนี หากคนมากขึ้นหรือเด็กโตมาที่นี่

ด้วยความคิดนี้ ฉาวซวนรีบเร่งเก็บรวบรวมก้อนหิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด