ตอนที่แล้วบทที่ 69 อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของคนในเงามืด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 71 เด็กสาวผู้มีความสามารถพิเศษ

บทที่ 70 อาวุธร้าย


บทที่ 70 อาวุธร้าย

เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้รอดชีวิต หลิงม่อก็ไม่ได้หยุดซย่าน่า ทว่าเปิดกาน้ำร้อนเริ่มล้างตาตัวเองให้สะอาดทันที

แม้เขาจะมองเห็นสถานการณ์รอบๆ ผ่านทางสายตาของซย่าน่าและเย่เลี่ยน แต่สถานการณ์ในบาร์แห่งนี้ยังคลุมเครือ จำเป็นต้องรีบกลับมามีสายตาปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด

ส่วนผู้รอดชีวิตคนนี้ เขาทำร้ายหลิงม่อ หากได้รับโทษนิดหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว

จนกระทั่งหลิงม่อล้างตาสะอาดแล้ว ผู้รอดชีวิตคนนี้จึงได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดแสนสาหัสอย่างต่อเนื่องในที่สุด

ตอนที่หลิงม่อลืมตาแดงก่ำทั้งคู่มองเขา ศีรษะของผู้รอดชีวิตคนนี้ก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ใบหน้าที่เดิมถือว่าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปด้วยความเจ็บปวด ถ้าไม่ใช่เพราะกัดฟันแน่น เสียงร้องของเขาคงจะดังไปไกลจนดึงดูดซอมบี้ที่ถนนใหญ่เข้ามาแล้ว

“พอแล้วซย่าน่า ปล่อยเขาเถอะ” เมื่อหลิงม่อเอ่ยประโยคนี้ สำหรับผู้รอดชีวิตคนนี้แล้วก็เหมือนได้รับการอภัยโทษ เขาเงยหน้าขึ้นมองซย่าน่า ในดวงตาเต็มไปด้วยความสะพรึงและความระแวดระวัง

เด็กสาวคนนี้ท่าทางจะไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด แต่กลับเหยียบเท้าเขาแทบแตก พลังประหลาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้

และเมื่อครู่ที่เธอลงมือนั้นไม่เร็วและไม่ช้าเกินไป พละกำลังคงเส้นคงวา ถ้าหากใช้แรงมากกว่านี้อีกนิด ตอนนี้หัวและตัวของเขาคงแยกกันอยู่แล้ว

พอได้ยินคำพูดของหลิงม่อ ซย่าน่าก็มองผู้รอดชีวิตคนนี้อย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วค่อยๆ วางดาบยาวในมือ

ร่างกายของผู้รอดชีวิตคนนี้เกร็งแน่นทันที สายตาวาบประกายกร้าว ทว่าเขายังไม่ได้ทันได้เคลื่อนไหวใดๆ ก็เห็นเงาดำตรงหน้าแวบวาบ หมัดหนึ่งกระแทกเข้าที่ตาข้างขวา ขณะเดียวกับที่เขาแค่นเสียงขึ้นจมูก อาวุธในมือก็ถูกหลิงม่อแย่งเอาไป

แวบแรกที่ได้เห็นอาวุธนี้ หลิงม่อก็อดหนังตากระตุกไม่ได้ พึมพำกับตัวเองว่า ร้ายกาจจริงๆ...

พูดตามตรง นี่ไม่ถือเป็นอาวุธอะไร เป็นเพียงแท่งลับมีดที่ใช้ในห้องครัวโดยเฉพาะ ของแบบนี้มีคุณภาพเพียงพอ แต่ตรงส่วนปลายสุดไม่ได้แหลมคม ไม่รู้เด็กหนุ่มคนนี้ใช้เวลาไปนานเท่าไรในการฝนส่วนยอดนี้ให้กลายเป็นแผ่น และแท่งลับมีดทั้งอันนี้เปื้อนเลือดซอมบี้เต็มไปหมด ด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าปกติของไวรัส ถ้าหากเอาแท่งลับมีดแบบนี้มาต่อสู้กับผู้รอดชีวิต ขอเพียงปาดเข้าหนังฝ่ายตรงข้ามแค่นิดเดียวก็จะทำให้ติดเชื้อได้แล้ว

ชัดเจนมากว่า ไม้นี้เตรียมไว้ต่อสู้กับผู้รอดชีวิตโดยเฉพาะ

เมื่อมองผู้รอดชีวิตคนนี้อีกที หมัดนี้ของหลิงม่อกระแทกจนเขาล้มลงบนพื้น และเย่เลี่ยนก็ยกเท้าขึ้นเหยียบข้อมือเขาไว้โดยไม่ส่งเสียงใด ความเจ็บปวดที่รุนแรงยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ทำให้เขางอตัวเหมือนกุ้งขึ้นในทันใด

การจู่โจมเมื่อครู่ของซย่าน่าเป็นเพียงแค่ความต้องการของเธอคนเดียว แต่ตอนนี้เป็นการควบคุมจากหลิงม่อ

ตอนแรกเริ่มการโจมตีของผู้รอดชีวิตคนนี้อาจเรียกได้ว่าไม่ได้เจตนา แต่เมื่อครู่ตอนที่เขาให้ซย่าน่าปล่อยอีกฝ่ายนั้น เห็นชัดว่าเขายังตั้งใจจะพุ่งเข้ามาอีก ถ้าหากเมื่อครู่หลิงม่อโต้ตอบช้าไปนิดเดียว อาวุธที่เปื้อนไวรัสเต็มไปหมดนี้แค่บาดถูกเขา ก็อาจจะเป็นการคุกคามอย่างใหญ่หลวง

หลิงม่อไม่เคยใจอ่อนกับคนที่จงใจคิดจะจู่โจมเขา

ผู้รอดชีวิตคนนี้เข้มแข็งมาก แม้เจ็บจนตัวงอไปทั้งตัวก็ยังไม่แหกปากร้องโอดโอย

ดูจากรูปร่างแล้ว อีกฝ่ายน่าจะเป็นเด็กหนุ่มอายุยี่สิบนิดๆ ใส่เสื้อแจ็กเก็ตแบบผู้ชายสกปรกๆ สวมรองเท้ากีฬา ผมสั้นยุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าไม่ได้อาบน้ำมานานเท่าไรแล้ว

แต่ปลายคางแหลมๆ และริมฝีปากแตกแห้งที่เม้มแน่นนั้น ทำให้หลิงม่อตัดสินได้ทันทีว่า นี่คือไก่อ่อนหน้าหล่อ

“พอแล้ว” หลังจากให้เย่เลี่ยนปล่อยเขาแล้ว หลิงม่อก็ย่อตัวลง เอาแท่งลับมีดจ่อตรงคอของผู้รอดชีวิตคนนี้

การกระทำนี้ทำให้ผู้รอดชีวิตที่เตรียมจะดิ้นรนต่อสู้ต้องแข็งค้างไปทันที เขารู้พลังการสังหารของแท่งลับมีดนี้ดี

“นายคิดจะทำอะไร?” เขามองหลิงม่ออย่างระแวดระวัง เห็นชัดว่าน้ำเสียงประหม่าเล็กน้อย “ฉันไม่ได้ตั้งใจโจมตีนาย”

“แต่เมื่อกี้นี้นายตั้งใจ” หลิงม่อเอ่ยอย่างเย็นชา

ในดวงตาของคนๆ นี้วาบแสงหลากสีก่อนจะเอ่ย “ฉันแค่อยากจะหนีรอดแบบเป็นๆ”

“เหลวไหล นายต้องอยู่ในบาร์นี้แน่ๆ แล้วนายจะหนีไปงั้นเหรอ?” หลิงม่อหัวเราะเยาะไม่หยุด ทักษะของคนๆ นี้ไม่เลว แต่คำโกหกกลับอ่อนหัดเกินไป ไม่มีใครจะวิ่งโร่มาในบาร์แห่งนี้เพื่อไล่ฆ่าซอมบี้โดยเฉพาะหรอก

และยิ่งจากที่หลิงม่อคิด น่ากลัวว่านอกจากซอมบี้สองตัวที่เขาควบคุมให้เข้ามาโดยเฉพาะแล้ว ปกติบาร์แห่งนี้น่าจะไม่เห็นแม้แต่เส้นขนซอมบี้สักเส้น เมื่อมองจากจุดนี้ ความจริงแล้วที่นี่ก็ถือเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่เลว

แต่เพิ่งจะสิ้นเสียง อยู่ๆ หลิงม่อก็คิดถึงจุดที่ประหลาด เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของคนๆ นี้แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างทันทีทันใด “นายคิดจะล่อพวกเราออกไปเหรอ? ทำไม ข้างในยังมีคนอื่นอยู่อีกเหรอ?”

พูดมาถึงตรงนี้ หลิงม่อก็เงยหน้ามองเย่เลี่ยนแวบหนึ่ง

ก่อนหน้านี้จากสีหน้าของเย่เลี่ยนเห็นได้ชัดว่าที่นี่มีซอมบี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้รอดชีวิตปรากฎตัว แต่การโต้ตอบทางสัญชาตญาณของเย่เลี่ยนไม่มีทางผิดพลาด และการกระทำของคนๆ นี้ก็ยังประหลาดแบบนี้ด้วย ไม่แน่ว่าในบาร์นี้อาจจะมีความลับที่บอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้

หรือว่ามีใครที่เหมือนกันกับเขา ผู้มีความสามารถพิเศษที่ควบคุมหุ่นซอมบี้ได้ ไม่สิ...ถ้าหากว่ามีล่ะก็ น่าจะไม่ให้คนเป็นๆ มาเสี่ยงอันตราย แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง บาร์แห่งนี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

จริงอย่างคาด พอได้ยินหลิงม่อถาม สีหน้าของอีกฝ่ายก็แวบความลุกลี้ลุกลนให้เห็น แม้เขาจะพยายามปกปิด อีกทั้งแสงยังมืดสลัวคงยากที่จะมีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ แต่หลิงม่อและซย่าน่าทั้งเย่เลี่ยนใช้สายตาร่วมกัน และที่โชคร้ายก็คือความสามารถในการมองเห็นของซอมบี้นั้นยอดเยี่ยมมาก

“เหมือนนายจะกระวนกระวายนะ? ดูท่าว่าฉันคงพูดถูกล่ะสิ” หลิงม่อเอ่ยเรียบๆ

ในดวงตาของอีกฝ่ายฉายแววต่อต้าน เขากัดฟันแล้วอยู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น “นายอยากได้อะไร? เสบียงเหรอ? ขอบอกนายตามตรงว่าฉันจนมาก ไม่มีของกินอะไร”

หลิงม่อได้ยินแล้วก็ผงะไป จากนั้นก็เอ่ยอย่างดูหมิ่น “ฉันไม่ได้มาแย่งอาหาร ฉันอยากจะถามว่า...ช่างเหอะ ดูท่านายก็คงไม่พูด ฉันหาเองดีกว่า”

หลิงม่อพูดพลางลุกขึ้นยืน อีกฝ่ายสบโอกาสก็ขัดขืนจะลุกขึ้นทันที แต่กลับถูกหลิงม่อเตะให้กลับลงไป และเย่เลี่ยนก็ลากเขาขึ้นมา จับสองมือของเขาให้ไพล่หลัง

คนๆ นี้รูปร่างไม่สูง เทียบกับเย่เลี่ยนแล้วยังเตี้ยกว่านิดหน่อย แม้จะบอกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เด็กผู้หญิง แต่พอถูกเย่เลี่ยนกักตัวไว้แบบนี้ เขาก็ไม่เหลือพื้นที่ให้ขัดขืนได้เลยสักนิด

แต่หลิงม่อมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เห็นสายตาของคนๆ นี้ลนลานมาก ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา ที่นี่ต้องมีอะไรแปลกประหลาดแน่นอน!

หลังจากเปิดดูห้องส่วนตัวที่อยู่ระเบียงแล้ว ก็ไม่ได้เก็บอะไรได้สักนิด หลิงม่อยังไปหากระทั่งที่ห้องน้ำมารอบหนึ่ง...หลังจากที่ถูกซอมบี้ระดับสูงตัวนั้นโจมตี หลิงม่อก็รู้สึกรางๆ ว่า เผ่าพันธุ์ซอมบี้นี้อาจจะชอบที่แคบๆ มืดๆ อย่างห้องน้ำเป็นพิเศษ

แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้อะไรจากในห้องน้ำเลยเช่นกัน

พอกลับมาจากระเบียง หลิงม่อก็ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด แต่ตอนนี้เขากลับพบว่า สีหน้าของผู้รอดชีวิตคนนี้เหมือนจะดูโล่งอก

หลิงม่อมองเขาหลายรอบแล้วอยู่ๆ ก็เผยรอยยิ้ม “ฉันเดินไปที่ไหน สายตาของนายก็ไปที่นั่น แต่ฉันพบว่ามีที่หนึ่ง ที่นายไม่มองเลย จงใจเลี่ยงเหรอ?”

สีหน้าของอีกฝ่ายกลายเป็นตะลึงสุดขีดขึ้นมาทันที ขณะเดียวกันก็ขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง น่าเสียดายที่เมื่อเขาตกอยู่ในมือเย่เลี่ยนแล้ว ก็ไม่ได้ต่างกับแมวป่วยตัวหนึ่ง

“นะ...นายจะเจอได้ยังไง!” พอเห็นว่าไม่อาจจะขัดขืนต่อต้านได้ สายตาของคนๆ นี้ก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็คำรามเอ่ยถามเสียงต่ำ

เห็นอีกฝ่ายตอบสนองรุนแรงแบบนี้ หลิงม่อก็ยิ่งมั่นใจในการคาดเดาของตัวเอง

อีกฝ่ายคิดจริงๆ ว่าในสภาพแวดล้อมที่มืดสลัวนี้ สายตาของเขาจะไม่ถูกหลิงม่อสังเกตเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลิงม่อเดินอยู่ข้างหน้าตลอด เว้นแต่ว่าจะมีตาที่ท้ายท้อย ไม่อย่างนั้นจะสังเกตเห็นเขาได้ยังไง?

เขาตีหัวให้แตกก็คิดเรื่องนี้ไม่กระจ่าง แต่หลิงม่อก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะอธิบาย

“อย่าไปนะ! ฉันแค่เผลอทำร้ายนาย! ฉันขอโทษก็ไม่ได้เหรอ?” คนๆ นี้ดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เอ่ยพูดไม่ยอมหยุด

หลิงม่อแค่นเสียงหึเย็นชา “ฉันบอกแล้ว ตั้งแต่ต้นนายตั้งใจหรือเปล่า ฉันไม่รู้ แต่เมื่อครู่ เห็นชัดๆ ว่านายคิดจะฆ่าฉัน เรื่องนี้...” หลิงม่อพูดพลางแกว่งแท่งลับมีด “เหมือนนายจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้รอดชีวิตสินะ”

“คือ...นี่เป็นแค่อาวุธของฉันเท่านั้น ถ้านายคิดว่าแค่ขอโทษไม่พอล่ะก็ จะอัดฉันอีกก็ได้” คนๆ นี้ยังคิดจะแก้ตัว

หลิงม่อหัวเราะพร้อมส่ายหน้าและไม่ตอบอีกฝ่ายอีก

จริงๆ คนทั่วไปยากจะตัดสินว่า ที่ติดอยู่บนแท่งลับมีดนี้คือเลือดของคนธรรมดาหรือว่าเลือดของซอมบี้ แต่พลังจิตของหลิงม่อกับซอมบี้นั้นแทบจะจัดอยู่ในประเภทเดียวกัน!

แม้การรับรู้กลิ่นคาวเลือดของเขาจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน แต่สำหรับกลิ่นของไวรัส เขามีปฏิกิริยาตอบสนองที่ต่างจากคนทั่วไปเป็นพิเศษ

เมื่อหลิงม่อดมแท่งลับมีดนี้แล้ว นอกจากลิ่นคาวเลือดเข้มข้น ก็เหมือนยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กำจายออกมาจางๆ แม้จะจางมาก แต่ก็บ่งบอกได้ว่ามีไวรัส อีกทั้งอย่างน้อยต้องผ่านการเช็ดมาหลายครั้งจึงให้ผลลัพธ์แบบนี้ได้

บางทีคนๆ นี้อาจจะบอกว่าหลังจากที่ตัวเองฆ่าซอมบี้แล้ว ก็ไม่เคยเช็ดอาวุธให้สะอาดเลย...แต่ข้ออ้างนี้มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะเชื่อ

เกรงว่าคนธรรมดาล้วนแล้วแต่หลีกลี้หนีไกลจากเลือดของซอมบี้ เห็นเป็นสัตว์มีพิษที่เป็นภัย แม้จะเป็นหลิงม่อ ก็ยังเช็ดมีดสั้นของตัวเองให้สะอาดหลังการต่อสู้ นอกจากร่องเลือดที่ทำความสะอาดไม่ได้

อีกอย่างท่าทางที่เขาต้องการจะปิดบังนั้นชัดเจน ก็ไม่เท่ากับว่าบ่งบอกว่ามันมีปัญหาหรอกเหรอ? การลงมืออำมหิตไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนธรรมดาทั่วไปก็อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ยากที่จะไม่ลงมืออย่างสุดความสามารถ แต่การใช้วิธีที่ต่ำทรามแบบนี้ หลิงม่อจึงไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับผู้รอดชีวิตคนี้แล้ว และยิ่งไม่หวั่นไหวกับข้อแก้ตัวเหล่านี้ของเขาด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด