ตอนที่แล้วตอนที่ 23 : อัจฉริยะคืออะไร? ฉันกำลังพูดถึงเกม(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 : ภาพยนต์เรื่องใหม่และเกมต่อไป(อ่านฟรี)

ตอนที่ 24 : ผู้เสพติด Resident Evil เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ(อ่านฟรี)


ในไม่ช้าเวลาก็เดินมาถึงช่วงบ่าย ผู้เล่นกลุ่มแรกได้เดินทางมาถึงขีดจำกัดของเวลาเล่น

ฟางฉีกำลังคิดว่าเขาควรจะเข้าไปเล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ แต่แล้วความคิดก็หยุดลงเมื่อเขาได้ยิน “เฮ้ ฉีซิน!”

ชุดสีเขียวและชุดสีม่วงได้เดินผ่านตาเขาไป

“นี่ ในที่สุดเราก็ได้ที่นั่ง!” เฉินชิงชิงหัวเราะเบาๆ

ฟางฉีหันไปมองในร้านอีกครั้งพบว่า ร้านของเขาเต็มอีกครั้งทั้งสองที่ถูกจับจองไปแล้ว

“เอ่อ.. เอาจริงดิ?” ฟางฉีทำหน้าเซ็งนิดๆ

“นายจะเล่นหรอ?” เฉินชิงชิงหัวเราะยี่ยวน “วันนี้ให้เราเล่นเพิ่มอีกสักชั่วโมงได้มั้ย เดี๋ยวฉันให้นายเล่นก่อนโอเคป่ะ?”

“.. นี่เธอกำลังขู่ฉันหรอ?” ฟางฉีตอบอย่างฉุนเฉียว “ฉันสามารถเล่นได้ตลอดทั้งวันเดี๋ยวปิดร้านซะตอนนี้เลย!”

เฉินชิงชิงยิ้มเย้ยเธอโอบกอดคอมพิวเตอร์เหมือนดั่งลูก “นายไม่กล้าหรอก!”

เพื่อปกป้องคอมพิวเตอร์ของเธอ เธอจึงเริ่มเปิดเกมอย่างรวดเร็วพร้อมตะโกนว่า “ฉันกดเริ่มเกมแล้วนะ ถ้านายปิดร้านตอนนี้จะเสียความเชื่อถือหมด!”

ฟางฉีเกือบหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางที่กวนประสาทของเธอเขานั่งพักสายตาบนเกาอี้ตัวยักษ์ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้

ขณะที่เขากำลังหลับตาพริ้ม ..

ชายร่างเตี้ยอายุประมาณสามสิบปี เดินเข้ามาในร้านเขาสวมชุดคลุมสีดำไว้หนวด จากการแต่งตัวของเขานั้นดูไม่เหมือนนักรบสักเท่าไร ความหล่อลับกับคิ้วที่ดกดำทำให้เขามีท่าทางมั่นใจ ชายสองคนติดตามเขา ดูๆแล้วชายคนนี่ไม่ใช่คนธรรมดา

“นี่คือร้านค้าเวทย์มนต์ที่นักรบคนอื่นกำลังพูดถึงใช่มั้ย?” เขาขมวดคิ้วอย่างสงสัย ร้านดูสะอาดสะอ้านมีการตกแตกอย่างสวยงาม เพียงแต่มันเล็กไปหน่อย

“ใครเป็นเจ้าของ?” โทนเสียงของเขาเล็กและแหลม

“ฉัน!” ฟางฉีตอบเขาชี้นิ้วไปที่กระดานดำ “ก่อนที่ท่านจะถามอะไรอ่านกฏของเราก่อน”

ชายไว้หนวดหันไปที่กระดานดำก่อนจะยิ้ม “อืมมม.. น่าสนใจ”

เขาช่างมาในเวลาที่เหมาะเจาะ ผู้เล่นส่วนใหญ่ในรอบเช้าได้ทยอยออกไปบ้างแล้วบางคนก็กำลังเดินทางมาถึงเวลาที่จำกัด ทำให้ตอนนี้มีที่นั่งวาง

ชายไว้หนวดนั่งลงหน้าคอมพิมเตอร์ “ยังไงต่อ?”

ฟางฉีเปิดเกม Resident Evil และแนะนำพื้นฐานให้เขาดู ชายไว้หนวดจ้องไปที่หน้าจอท่าทางของเขาแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขาอยากรู้แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นในโลกใบใหม่

ดูเหมือนว่าเขาเข้าใจว่าต้องทำยังไงเมื่อเผชิญหน้ากับซอมบี้ เขาไม่มีท่าทางที่ตกใจเลยเมื่อพบกับซอมบี้ตัวแรก เขาแทงสมองของมันด้วยความแม่นยำ แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูไม่เหมือนนักรบ แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาซับซ้อนมากยิ่งกว่าซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ

นับรบทุกคนต่างต้องพึงพาทักษะการต่อสู้ของตัวเอง

นักรบในโลกใบนี้ให้ความสนใจในเทคนิคศิลปะการต่อสู้มากกว่าทักษะการต่อสู้

ผู้เล่นส่วนใหญ่จะรู้สึกอึดอัดหรือกลัวซอมบี้ในตอนแรกนั้นเป็นเรื่องยากที่จะกำจัดซอมบี้ เห็นได้ชัดว่าชายไว้หนวดผู้นี้ไม่มีปัญหาใดๆ

“นี่เป็นเกมหรอ?” น้ำเสียงของเขาซ่อนความกลัวไว้ แต่ถึงอย่างนั่นท่าที่ของเขาก็ยังแปลกใจกับเกมอยู่ดี

ยิ่งเขาสำรวจ Resident Evil One มากเท่าไรเขาก็ยิ่งเข้าใจว่า ‘เรื่องราวมหากาพย์’, ‘ปริศนาลึกลับ’ และ ‘ซอมบี้’ คืออะไร

เกมแบบนี้ ถ้าผู้เล่นสามารถก้าวผ่านความกลัวไปได้ ภารกิจต่างๆก็จะง่ายขึ้น นอกจากนี้พวกเขาจะได้รับความทรงจำอันมีค่าความสนุกของเกมผู้เล่นใหม่จะได้รับรู้ถึงเสน่ห์ของมัน

Resident Evil เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องที่ดี คนอื่นๆในร้านต่างรีบจบเกมผิดกับชายมีหนวดนั้นหลงไหลในทุกสิ่งที่เขาเห็น

“นี่เป็นเกมที่มีแต่คนฉลาดเท่านั้นที่จะสามารถผ่านได้!” เขาอุทานออกมาเมื่อเห็นความละเอียดอ่อนของเกม

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดของเกมราวกับว่ามันเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง “นี่มันเป็นแค่เกมจริงหรอ สถาปัตยกรรมการออกแบบกับดับ กาารวางแผนการวางอุบายหรือแม้แต่อาวุธมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง โครงสร้างถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันมันเป็นมากกว่าสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณและผู้เชี่ยวชาญปลอม นี่มันงานศิลปะระดับมาสเตอร์!”

-  หยุนชานต้าเวิน  -

“ศิษย์พี่เหลียงท่านเล่น Resident Evil มานานกว่าใครในกลุ่มเรา ท่านช่วยเขียนอธิบายแผนการและเล่าให้เราฟังหน่อยว่าท่านผ่านโถงทางเดินได้อย่างไร” นักรบชุดดำหรือเจ้าแบล็คกี้ถาม

พวกเขารู้จักกันมานานแต่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองใจต่อกัน แต่ตอนนี้ Resident Evil ได้นำพวกเขามารวมตัวกันอีกครั้ง ตั้งแต่พวกเขาเริ่มเล่นเกมก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะสนทนากับผู้ที่ไม่ได้เล่น

เหลียงชีพูด “ห้องศิลปะน่ะหรอ? ไม่ยากๆ จากเหตุการณ์ตามลำดับก็รูปเด็กทารก”

แบล็คกี้เทไวน์ลงในแก้ว “ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเห็นห้องที่มีกับดักมากมายขนาดนี้ ถ้ามันไม่ใช่เกมฉันจะคำนับใครก็ตามที่กล้าเดินในโถงทางเดินนั้น ฉันแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซอมบี้มาจากไหน .. พวกเขาสามารถทำให้คนติดเชื้อ! ฉันอุ่นใจที่สิ่งเหล่านั้นมีอยู่แค่ในเกม ถ้ามันมีในชีวิตจริงละก็ บรึ๊ยยย! น่ากลัวเกินกว่าจะคิด”

“ถ้าผู้สร้างเมืองปลูกฝังอะไรที่ชั่วร้ายทำนองนั้น เมืองจิวหัวคงหายไปนานแล้ว!” อูฉานอุทานออกมาด้วยความตกใจ “หากว่าผู้เล่นได้รับบาดแผลเขาหรือเธอจะติดเชื้อในที่สุด ซึ่งเซรั่มเป็นสิ่งเดียวที่จะแก้พิษได้ ซอมบี้พวกนั้นน่ากลัวกว่าโรคระบาด! ฉันดีใจที่มีเฉพาะในเกม”

“...”

บทสนทนาแปลกๆของพวกเขาค่อยๆดึงดูดความสนใจของผู้คนมากขึ้น โต๊ะข้างเคียงเป็นนักรบสวมชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงินอมเทาเขาสะพายดาบโลหะไว้ด้านหลัง เมื่อได้ยินเหลียงชีและคนอื่นๆ ที่กำลังพูดถึง Resident Evil ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเขา “นี่พวกท่านกำลังพูดถึงอะไรกัน? มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในเมืองจิวหัวตั้งแต่เมื่อไร?”

พวกเขาหันหลังไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งยื่นหูออกมาฟังกลัวจะพลาดข้อมูลสำคัญๆ

เหลียงชีเป็นคนตรงไปตรงมาหัวเราะและอธิบาย “พวกเรากำลังพูดถงคาเฟ่ทางด้านตะวันออกของเมืองที่มีชื่อว่า ‘ต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่’”

“โลกเสมือนจริงหรอ?”

“เรื่องราวมหากาพย์?”

“สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นจากความตาย?”

“นี่ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร?” ทุกคนรวมถึงนักดาบผู้นี้ทำหน้าสับสน “ยิ่งข้าฟังท่านมากเท่าไรยิ่งทำให้ข้าสับสนงุนงงมากขึ้นเท่านั้น”

“แต่ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ ..แต่มันฟังดูดีจริงๆ”

เหลียงชีหัวเราะ “ฉันไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด ถ้านายอยากไปฉันจะพานายไปดูด้วยตัวเอง!”

“ขอขอบคุณพี่ชาย”

-  ณ หน้าคาเฟ่  -

“นี่เป็นร้านเล็กๆที่ท่านพูดถึงหรอ?” นักรบเสื้อคลุมสีน้ำเงินอมเทาสะพายดาบเอ่ย ที่ดาบของเขาสลักชื่อไว้ว่า ฟู่เจียง เมื่อเร็วๆนี้เขาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองจิวหัว

“ฮึ่มมม! จะมีอะไรในร้านเล็กๆแบบนี้” ลี่กวนชายหน้าเหลี่ยมชุดเกราะน้ำตาลพูดแทรก

เมื่อเห็นร้านเล็กๆที่อยู่ข้างหน้าสีหน้าของเขาดูผิดหวัง เหลียงชีและคนอื่นๆพูดเกินจริงไปหรือเปล่า?

“พี่ลี่พูดถูก สิ่งที่พวกเขาพูดทำให้สถานที่นี้ดูน่าทึ้งฉันคิดว่ามันเป็นร้านเวทย์มนต์ แต่ไหงมันเป็นเพียงร้านเล็กๆที่อยู่ห่างไกล” ชายผอมจิ้มเข้าไปในร้าน “แม้ว่าเราจะเชื่อในพี่เหลียง แต่..ร้านนี้ก็ดูจะไม่เหมาะสมกับชื่อของมันเลย”

“นั่นน่ะสิ!”

“เฮ้ ในร้านคนเยอะมาก!” ทันทีที่พวกเขาย่างก้าวเข้ามาในร้าน เขาห็นคนจำนวนหนึ่งอยู่ข้างใน

สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นราคาบนกระดานดำ

“ฮะ?? ค่าใช้จ่ายครั้งแรกราคาถึงเจ็ดคริสตัลเลยหรือ?” ฟู่เจียงประท้วง “นี่คือร้านที่หลอกเอาเงินใช่มั้ย เจ้าของร้านเป็นใคร!?”

ลี่กวนรู้สึกไม่ดี “พี่เหลียงทำไมพาพวกเรามาที่นี่ พี่ล้อเล่นหรอมันไม่ตลกสักนิด!”

เหลียงชีตอบอย่างใจเย็น “ใจเย็นก่อน.. ลองเล่นเกมด้วยตัวเองก่อนใครจะไปกล้าหลอกเอาเงินพวกนาย”

คำพูดของเหลียงฉีทำให้พวกเขาฉุดคิด สิ่งที่พี่เหลียงพูดก็สมเหตุสมผล

ลี่กวนตบบ่าหลินเซียวที่กำลังเล่นเกมอย่างเพลิดเพลิน “เพื่อน.. ฉันขอโทษที่รบกวนนาย นายยินดีที่จ่ายเจ็ดคริสตัลเพื่อทดลองเกมนี้หรอ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด