ตอนที่แล้วตอนที่ 251 รายได้จะต้องไม่หายไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 253 มีบางอย่างในแจกัน

ตอนที่ 252 เกิดอะไรกับเหยาซื่อ


“พระราชโองการของฮองเฮา ?” ฮูหยินผู้เฒ่าสับสนเล็กน้อย “พระราชโองการของฮองเฮามอบให้ใคร ?”

ยายจาวที่อยู่ข้างๆ กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นของใคร ท่านก็ต้องเตรียมตัวก่อนเจ้าค่ะ !”

“ใช่แล้ว” ฮูหยินผู้เฒ่ายืนขึ้นด้วยความช่วยเหลือของยายจาว หลังจากได้พัก 1 เดือนนางก็ดีขึ้นมาก และนางก็สามารถเดินได้อีกครั้ง

เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นจากที่นั่งของนาง ทุกคนก็ลุกขึ้นยืน เฟิงเฟินไดจ้องหน้าเฟิงเฉินหยูแล้วก็พูดเสียงเย็นชาว่า “เรื่องนี้ยังไม่จบ! อย่าคิดว่าเจ้าสามารถรอดไปได้”

เฟิงเฉินหยูทำหน้าสงสัย “ข้าไม่เข้าใจว่าน้องสี่กำลังพูดเรื่องอะไร”

ฮูหยินผู้เฒ่าดุ “หยุดพูดได้แล้ว! มันใช่เวลาหรือไม่? พวกเจ้ายังมีอารมณ์ที่จะพูดเรื่องนี้กันอีกหรือ ?”

หลักจากที่พูดจบ บ่าวรับใช้ข้างนอกเข้ามารายงาน "พระราชโองการของฮองเฮามาถึงแล้วเจ้าค่ะ ! " ในขณะเดียวกันคนของพระราชวังก็เข้ามา

ฮูหยินผู้เฒ่าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อกล่าวทักทาย “พระราชโองการนี้มาโดยฉับพลันและคนของคฤหาสน์ไม่ได้เตรียมตัว คนชราผู้นี้จะส่งคนไปเรียกพวกเขามา”

คนของพระราชวังมองเข้าไปในห้องโถง ดวงตาของนางยังคงจ้องมองเฟิงเฉินหยูอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็น หากคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฟิงอยู่ที่นี่ พระราชโองการนี้สำหรับนาง”

ฮูหยินผู้เฒ่าตกตะลึงแล้วถอยกลับทันที นางนำคุกเข่าลงและรอประกาศพระราชโองการ

เฟิงเฟินไดมองไปที่เฟิงเฉินหยู เฟิงเฉินหยูคงต้องรับโทษอีกครั้ง นี่ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนในคฤหาสน์เฟิงคิด เพราะทุกครั้งที่พระราชโองการมาจากพระราชวังหากเป็นของเฟิงเฉินหยู มันก็ไม่เคยดีเลยสักครั้ง

เฟิงเฉินหยูตกใจ นางรู้ว่านางไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองกับคนที่มีภูมิหลังสูงส่งและไม่ได้มีส่วนร่วมในงานเลี้ยงใดๆ ดังนั้นฮองเฮาจะเอาผิดนางเรื่องใดอีก

คนของพระราชวังเห็นว่าทุกคนคุกเข่าอยู่แล้ว ดังนั้นนางกระแอมและกล่าวเสียงดังพูดว่า “ประกาศพระราชโองการของฮองเฮา เฟิงเฉินหยู คุณหนูใหญ่ได้รับการยกเว้นจากการลงโทษการทาผงสีดำเมื่อใดก็ตามที่ไปออกไปกลางแจ้ง เฟิงเฉินหยูได้รับการยกเว้นจากการลงโทษไม่ให้เข้าพระราชวังเป็นเวลา 5 ปี เราหวังว่าคุณหนูใหญ่จะจดจำความเมตตาในครั้งนี้และดูแลตัวเอง”

มันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่?

ดวงตาของเฟิงเฉินหยูเบิกกว้างทันที นางรู้สึกยินดีจนพูดไม่ออก

คนของพระราชวังมีความพึงพอใจต่อปฏิกิริยาของนาง และกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ เจ้ายังไม่ได้ขอบคุณสำหรับความเมตตานี้”

จากนั้นเฟิงเฉินหยูจึงตอบโต้ และโค้งคำนับอย่างรวดเร็วโดยกล่าวว่า “เฉินหยูขอบพระทัยในความเมตตาของฮองเฮามากเพคะ”

พระราชโองการถูกส่งมอบอย่างเป็นทางการ

สมาชิกของคฤหาสน์เฟิงล้วนยืนขึ้น ความประหลาดใจที่น่ายินดีนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปและไม่มีใครสามารถกู้สติกลับมาได้ และเฟิงหยูเฮงคือผู้ที่สงบที่สุดและถามคนของพระราชวังว่า “ทำไมฮองเฮาถึงเปลี่ยนพระทัย ?”

คนของพระราชวังคำนับเฟิงหยูเฮง เมื่อเห็นนางพูด นางแสดงความสุภาพมากกว่าตอนที่พูดกับฮูหยินผู้เฒ่า นางตอบอย่างสุภาพ “เรียนองค์หญิงแห่งมณฑลจี่อัน องค์ชายจิงเสด็จไปขอร้องฮองเฮาให้ทรงอภัยให้กับคุณหนูใหญ่เพคะ”

“โอ้” เฟิงหยูเฮงพยักหน้า และพูดกับเฟิงเฉินหยู “องค์ชายใหญ่ทรงจริงจังจริง ๆ”

หัวใจของเฟิงเฉินหยูนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนหน้านี้นางชอบซวนเทียนฮั่ว แต่ซวนเทียนฮั่วไม่สนใจนางเลย เฟิงจินหยวนต้องการให้นางแต่งงานกับซวนเทียนเย่ แต่ซวนเทียนเย่ก็ไม่ได้สนใจนางมาก และเขายังทำลายนางในงานเลี้ยงก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่เขาจะทำให้นางเสียต่างหูไปคู่หนึ่งซึ่งมันทำร้ายจิตใจของซวนเทียนฉีด้วย

ตอนนี้นางมองดูองค์ชายใหญ่ ซวนเทียนฉีเป็นคนที่จริงจังที่สุด เมื่อพระราชโองการทั้งสองนี้มาถึงในเวลาเดียวกัน เฟิงเฉินหยูก็กลับมามีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้ง

“บุตรสาวของข้าราชสำนักผู้นี้ขอบพระทัยฮองเฮาและองค์ชายจิงเพคะ” นางโค้งคำนับอีกครั้งเพื่อขอบคุณเมื่อรอยยิ้มที่ยากต่อการซ่อนปรากฏบนใบหน้าของนาง

หลังจากคนของพระราชวังกลับไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าก็หันหลังกลับ นางมองที่เฟิงเฉินหยูและไม่รู้ว่านางจะพูดอะไรกับหลานสาวคนนี้ดี

มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น แต่หนามในใจของนางไม่สามารถถูกกำจัดได้ เฟิงเฟินไดพูดถูกทุกอย่างดูเหมือนจะดีเป็นพิเศษสำหรับเฟิงเฉินหยู แต่จะมีวันหนึ่งที่ความลับเรื่องร่างกายของนางถูกเปิดเผย เมื่อถึงเวลานั้นทั้งครอบครัวเฟิงก็มีส่วนพัวพันด้วย !

เฟิงเฟินไดเกือบหมดสติจากความโกรธที่เกิดจากพระราชโองการ ยิ่งนางมองหน้าเฟิงเฉินหยูมากเท่าไร นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น นางกำลังจะพูดขึ้น แต่ทันใดนั้นนางก็เห็นเฟิงเฉินหยูหันไปฮูหยินผู้เฒ่า และคุกเข่าลงพื้น “ท่านย่าเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเฉินหยู ขอให้ท่านเชิญแม่นมเข้ามาในคฤหาสน์ ! ชื่อเสียงของเฉินหยูจะต้องไม่แปดเปื้อน !”

คำพูดเหล่านี้ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่า และเฟิงเฟินไดต้องจ้องมองอย่างตะลึง

หาแม่นมเพื่อมาตรวจร่างกายของนาง ! เฟิงเฉินหยูเสียสติไปแล้วหรือเปล่า

ฮูหยินผู้เฒ่าถามด้วยเสียงสั่นเครือ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่ ?”

เฟิงเฉินหยูพยักหน้า “หลานสาวรู้ว่าตัวเองพูดอะไร ข้ารู้ด้วยว่าน้องสี่กำลังพูดอะไร แต่หลานสาวนั้นไม่เหมือนที่น้องสี่อธิบาย หลานสาวมีร่างกายที่บริสุทธิ์และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา”

นางเน้นส่วน "ร่างกายที่บริสุทธิ์" เป็นพิเศษ ในเวลาเดียวกันยี่หลินบ่าวรับใช้ส่วนตัวของนางร่วมมือกันเป็นอย่างดีและพยักหน้ารับ จากนั้นนางก็เดินและกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของยายจาว ยายจาวตกใจอย่างยิ่งหลังจากได้ยินมันในขณะที่นางหันไปจ้องมองเฟิงหยูเฮง จากนั้นนางก็เอนตัวกระซิบบอกฮูหยินผู้เฒ่า และกล่าวว่า “คุณหนูรองรักษาคุณหนูใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าก็เริ่มหัวเราะออกมา "ฮ่า ๆ " เสียงหัวเราะนั้นดังก้องมากเพราะสิ่งที่อัดอั้นมานานเกินไป ในที่สุดก็ได้รับความกระจ่าง นางจะไม่มีความสุขได้อย่างไร

"ดี! ดี! ดีมาก!“พูดคำนั้นซ้ำ 3 ครั้ง นางหยุดหัวเราะ เมื่อนางมองเฟิงเฉินหยูอีกครั้ง สายตาของนางก็กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน ”บุตรสาวคนโตของตระกูลเฟิงของข้าบริสุทธิ์เสมอ ! “กล่าวอย่างนี้นางมองที่เฟิงเฟินไดพร้อมส่งสัญญาณเตือนว่า”ไม่อนุญาตให้ใครทำให้ชื่อเสียงของนางแปดเปื้อน มิฉะนั้นข้าจะไม่นับพวกเขาเป็นบุตรสาวของตระกูลเฟิง ! ”

คำพูดของฮูหยินผู้เฒ่าทำให้เฟิงเฟินไดตกอยู่ในความงุนงง สถานการณ์แบบนี้เป็นแบบไหน? ทำไมฮูหยินผู้เฒ่าถึงเปลี่ยนใจอย่างฉับพลัน ? เฟิงเฉินหยูโน้มน้าวให้นางเชื่อมั่นได้อย่างไรว่านางบริสุทธิ์ เป็นไปได้ไหมว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มณฑลเฟิงตงล้วนเป็นสิ่งที่นางจินตนาการขึ้นมา ?

นางต้องการที่จะโต้เถียงอีกเล็กน้อย แต่นางถูกเป่ยเอ๋อห้ามไว้ “คุณหนูอย่าเจ้าค่ะ”

เฟิงเฟินไดนั้นไม่โง่เกินไปในขณะที่นางยังสามารถนำคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่ามาพิจารณา แม้ว่านางจะไม่พอใจนางก็ยังไม่กล้าพูดออกมา

หัวใจของฮูหยินผ็เฒ่านั้นไร้ความกังวลเมื่อนางกลับมาที่ที่นั่งพร้อมรอยยิ้ม “ทุกคนนั่งลงได้ ! ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดีทั้งหมด ตระกูลเฟิงจะพึ่งพาเจ้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นหน้ามือหรือหลังมือ มันเป็นเนื้อทั้งหมด ข้าไม่ได้ไม่ชอบใครเลย” พูดอย่างนี้นางมองที่เฟิงหยูเฮงด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย “อาเฮงช่วยองค์ชายฝึกฝนทหารคงลำบากอย่างแท้จริง ข้าจะให้คนเตรียมครีมให้เจ้า เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง ผิวพรรณของเจ้ามีความสำคัญมาก”

เฟิงหยูเฮงยิ้ม แต่ไม่ได้พูดมากเกินไป “ขอบคุณสำหรับความห่วงใยเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าแล้วพูดต่อ “บิดาของเจ้าส่งจดหมายกลับมาแล้ว และเขาจะกลับมาถึงเมืองหลวงภายใน 5 วัน เราต้องเตรียมอาหารเย็น ข้าคิดว่าพ่อของเจ้าทำงานหนัก สำหรับงานเลี้ยงครั้งแรกหลังจากกลับมา อาเฮงเตรียมอาหารที่ปรุงด้วยยาได้หรือไม่ ?” อันที่จริงนางรอคอยอาหารที่ปรุงด้วยยาเมื่อเฉินซื่อกลับมาจากวัดภูดูแล้ว แต่ผู้หญิงที่ชั่วร้ายก็สร้างปัญหา ทำให้นางทานได้ไม่มาก หลังจากนั้นเฟิงหยูเฮงจะเตรียมอาหารอีกเล็กน้อยสำหรับนาง แต่ส่วนใหญ่เป็นโจ๊ก เปรียบเทียบได้อย่างไรกับกลิ่นหอมของเนื้อสัตว์

ความคิดของนางดี แต่นางเห็นเฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนาง “ในเวลานั้นอาหารที่ปรุงด้วยยานั้นเป็นสูตรของท่านหมอโมจากพระราชวัง และอาหารปรุงโดยพ่อครัวหลวงจากพระราชวัง ตอนนี้…” นางมีปัญหาเล็กน้อย “ข้าเกรงว่าไม่สามารถเชิญคนเหล่านี้มาได้”

“นี่…” ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเผยความผิดหวัง “ไม่อาจเชิญพวกเขามาจริง ๆ หรือ?”

เฟิงเฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนางอีกครั้ง

รอยยิ้มบนใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่านั้นหายไป ขณะที่เฟิงเฟินไดพูดขึ้นมา นางเชิดคางขึ้นพร้อมกับพูดอย่างสุภาพ “ท่านย่าไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป พี่รองไม่สามารถเชิญพวกเขามา ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่สามารถทำได้ หลานสาวจะส่งคนไปแจ้งกับองค์ชายห้า เราจะให้องค์ชายห้าเชิญโมบุฟานและพ่อครัวหลวงมา เราต้องทำอาหารทำจากยาที่แสนอร่อยให้กับท่านพ่อ”

ในเมื่อเฟิงเฟินไดเป็นคนรับปากเรื่องนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าจึงมีความสุขกับมัน เมื่อถึงตอนนั้นรอยยิ้มก็กลับมาหานาง ขณะที่นางไม่สามารถหยุดตัวเองจากการพูดว่า “เจ้าเป็นเด็กดีจริง ๆ !”

ในที่สุดพวกเขาก็ออกจากเรือนซูหยา หวงซวนเกือบจะไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของนางได้อีกต่อไป “คุณหนูสี่นี่เป็นคนตลกจริง ๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่นางเชื่อว่าความเป็นจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือ ฮ่องเต้จไว้หน้าเขาและอนุญาตพ่อครัวหลวงออกมา ? นางกำลังคิดอะไรอยู่ !”

นางหัวเราะด้วย และพูดว่า “ปล่อยนางเถอะ บางทีองค์ชายห้าอาจจะเชิญเขาได้จริง ๆ !”

“นั่นเป็นไปไม่ได้เจ้าค่ะ!” หวงซวนไม่เชื่อเลย “ถึงแม้ฮ่องเต้ทรงปฏิบัติต่อองค์ชายห้าอย่างดีตลอดทั้งปี แต่ฮ่องเต้ก็ยังไม่ชอบองค์ชายห้าจากใจจริง คำพูดขององค์ชายห้าจะมีน้ำหนักได้อย่างไร มันรู้ผลลัพธ์ล่วงหน้าอยู่แล้ว คุณหนูสี่จะต้องเสียหน้าในครั้งนี้”

ทั้งสองคุยกันตลอดทางกลับเรือนตงเซิง พวกเขาไม่ได้กลับมานานกว่าหนึ่งเดือน ดังนั้นเมื่อบ่าวรับใช้ของเรือนตงเซิงเห็นเฟิงหยูเฮงก็ราวกับว่าพวกเขาเจอญาติ หลังจากนั้นพวกเขาก็ต้อนรับนางด้วยน้ำตา

เฟิงหยูเฮงยังรู้สึกตื้นตันเล็กน้อย เมื่อได้รับการต้อนรับจากบ่าวรับใช้ นางมอบเงินบ่าวรับใช้ 5 เหรียญเงิน ทำให้พวกเขาขอบคุณนางอย่างมีความสุขสำหรับความเมตตาของนาง

จากนั้นนางก็รีบไปที่เรือนของเหยาซื่อ เมื่อนางมาถึงเหยาซื่อกำลังรอนางอยู่ที่กลางลาน เฟิงหยูเฮงมองด้วยตาที่เบิกกว้าง และรู้สึกว่าผิวพรรณของเหยาซื่อดูซีดเซียวเล็กน้อย แต่ก็ดูไม่เหมือนนางป่วยมาก

นางเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกำลังจะคุกเข่าเพื่อคารวะ แต่เหยาซื่อหยุดนาง “ไม่จำเป็น ข้าเป็นแม่ของเจ้า บอกข้าเร็วว่าทุกอย่างที่ค่ายทหารเป็นไปด้วยดีหรือไม่ ?”

เฟิงหยูเฮงลูบหลังมือของเหยาซื่อเบา ๆ และปลอบโยนนางพูดว่า “มีองค์ชายเก้าอยู่ด้วย ทุกสิ่งก็เป็นไปด้วยดีกับลูกสาวเจ้าค่ะ”

เหยาซื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าก็หายกังวล ความสามารถในการปกป้องของพระองค์นั้นดีพอ อาเฮงข้าไม่หวังให้เจ้าขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด เท่าที่ข้าเห็น มันจะดีกว่าถ้าองค์ชายเก้าไม่ใช่องค์รัชทายาท ในฐานะองค์ชาย เขาจะมีใช้ชีวิตที่ดีกว่าในพระราชวัง”

นางหัวเราะ “นั่นเป็นเรื่องของผู้ชาย ข้าไม่รังเกียจ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามไม่ว่าพระองค์จะอาศัยอยู่ในพระราชวังหรือนอกพระราชวัง ข้าก็ต้องตามพระองค์ไป”

เหยาซื่อรู้ว่าบุตรสาวของนางมีแผนการที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นนางจึงไม่พูดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางจับมือนางอย่างมีความสุข และพูดว่า “จื่อหรูส่งจดหมายมาเมื่อสองสามวันก่อน เขาบอกว่าเขาจะกลับมาพร้อมกับวังซวนก่อนปีใหม่ เขาสามารถอยู่ได้จนกว่าจะถึงปีใหม่”

“เยี่ยมมาก!” เฟิงหยูเฮงจับมือเหยาซื่อแล้วเดินไปที่ห้อง “ข้าไม่รู้ว่าจื่อหรูจะสูงขึ้นมากแค่ไหน  ถ้าเขาคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในสำนักศึกษา ถ้าเขาเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างถูกต้องที่สอนโดยอาจารย์ของเขา…”

การได้ยินเฟิงหยูเฮงพูดคุยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในที่สุดเหยาซื่อก็ฟื้นความรู้สึกบางอย่างกลับมาในหมู่บ้านบนภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในเวลานั้นบุตรสาวของนางใช้เวลาทั้งหมดของนางกังวลเกี่ยวกับน้องชายของนาง แม้ว่าจื่อหรูจะประมาทและล้มลง นางก็ยังสามารถกอดเขาได้ในขณะที่ร้องไห้ ตอนนี้ความรู้สึกนี้กลับมาหานางซึ่งทำให้มารดาและบุตรสาวรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นเล็กน้อย

ทั้งสองคุยกันอยู่พักหนึ่ง และเฟิงหยูเฮงกับเหยาซื่อทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนจะกลับไปที่เรือนของนาง

เมื่อเข้าไปในสวนของนาง นางก็รีบไปที่ห้องเก็บยา เมื่อนางออกมา นางหยิบซองกระดาษไว้ในมือแล้วส่งให้หวงซวน “ให้บ่าวรับใช้เตรียมชานี้ให้ท่านแม่ดื่ม ท่านแม่ดูไม่ค่อยมีแรง สิ่งนี้จะถูกใช้เพื่อช่วยให้ท่านแม่แข็งแรงขึ้น”

หวงซวนพยักหน้า รับของที่เฟิงหยูเฮงส่งให้ อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงนั่งอยู่บนเก้าอี้หินในบ้านและเริ่มคิด

มีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับร่างกายของเหยาซื่อ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด