ตอนที่แล้วบทที่ 57 อีกหนึ่งปีหย่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59 เล่นเกม

บทที่ 58 นายเป็นคนดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร


บทที่ 58 นายเป็นคนดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร

 

ซ่งฉู่อี๋ถอนหายใจในใจเบาๆ แล้วพูดว่า “แต่ในมุมมองของผมในฐานะผู้ชาย ผมคิดว่าคุณอยู่ห่างๆ ฟู่อวี้หน่อยจะดีกว่า แล้วผมก็เชื่อว่าคุณพ่อคุณและพี่สาวคุณก็คิดแบบนี้ด้วยเช่นกัน ฟู่อวี้ดีกับคุณก็จริง แต่เขาก็ดีกับผู้หญิงอื่นอีกหลายคนด้วย ถ้าคุณเป็นคนพิเศษในใจเขามากขนาดนั้นจริงๆ ข้างกายเขาคงไม่มีผู้หญิงอีกคนหรอก มีผู้ชายหลายคนที่แค่อยากจะคบเล่นๆ แต่พอพวกผู้หญิงไม่ทันระวังก็จะเผลอใจไป

 

สิ่งที่ควรพูด ผมก็พูดไปหมดแล้ว ต่อไปคุณเองก็อย่าเอาแต่หลบหน้าไม่กลับบ้านกลับช่อง คุณพักอยู่ข้างนอกมันไม่ปลอดภัย ถ้าคุณไม่ชินกับการอยู่กับผม ผมย้ายออกไปก็ได้ แล้วให้ป้าหวังมาพักอยู่ที่บ้านด้วย คุณจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวและรู้สึกกลัว”

 

ซ่งฉู่อี๋เดินไปที่ข้างบันได แสงไฟสว่างไสวในห้องจัดเลี้ยงทำให้เขาดูอ่อนโยนขึ้น

 

ฉางฉิงชะงักงันทันทีและรู้สึกเหมือนลำคอตีบตัน

 

จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจคนอื่น เธอก็เลยอาจจะไม่คุ้นชินเท่าไร

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันย้ายไปอยู่บ้านเพื่อนก็ได้ค่ะ...” ฉางฉิงพูดเสียงเบา

 

ซ่งฉู่อี๋มองเธอครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “งั้นก็ตามใจคุณแล้วกัน ดูเหมือนว่างานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ”

 

เงาร่างสูงชะลูดของเขาเดินจากไป ฉางฉิงก้มหน้าลง แล้วก็พบว่าไวน์ขวดนั้นถูกเธอกุมแน่นอยู่ในมือตลอดเวลา

 

_ _ _ _ _ _ _ _

 

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ฟู่อวี้ขึ้นเวทีกล่าวเปิดงานเป็นคนแรก

 

ภายในห้องจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย แต่เวลาที่อยู่ต่อหน้าทุกคน ฟู่อวี้ดูเปล่งประกายมาก ตลอดยี่สิบกว่านาทีของการกล่าวเปิดงานก็ทำได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

 

จ่านหมิงเหวยสูบบุหรี่อยู่ข้างเสาโรมันที่ไม่สะดุดตาในห้องจัดเลี้ยง “ฟู่อวี้คนนี้ไม่ธรรมดาแฮะ”

 

“ก็พอใช้ได้” ซ่งฉู่อี๋หั่นสเต๊กเนื้อวัวในมืออย่างสุขุมเยือกเย็น

 

จ่านหมิงเหวยพ่นควันบุหรี่และจ้องฉู่อี๋เขม็ง “จะว่าไป นายเป็นคนดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร แถมยังใจดีพูดเตือนคนอื่นอีก แล้วก็ตกลงด้วยว่าอีกหนึ่งปีจะหย่า ถ้าเป็นฉัน ไม่มีทางจบง่ายๆ แบบนี้หรอก ว่าแต่เรื่องตระกูลเยี่ยนนี่ คุณชายซ่งอย่างนายสนใจด้วยเหรอ”

 

“ถึงแม้การตกลงทางธุรกิจจะไม่สำเร็จ แต่ก็ยังคงความเป็นมิตรต่อกัน” สีหน้าของซ่งฉู่อี๋ดูสงบนิ่งตลอด “ยิ่งไปกว่านั้นคือเยี่ยนฉางฉิงไม่เหมือนกับกว่านอิง”

 

“ไม่เหมือนกันตรงไหน” จ่านหมิงเหวยยิ้มเยาะ “เพราะเธอยังบริสุทธิ์อยู่อย่างนั้นเหรอ”

 

ซ่งฉู่อี๋วางมีดกับส้อมลง นั่งหลังพิงเต็มพนักเก้าอี้ แล้วยักไหล่ “เดิมทีเราก็แต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่แล้ว เธอไม่ได้ชอบฉัน การบังคับให้คนที่ไม่ได้ชอบมาสัมผัสแตะเนื้อต้องตัวกัน อีกฝ่ายก็คงไม่มีความสุขแน่นอน แล้วที่ฉันพูดเตือนเธอ ก็เพราะฉันคิดว่าฟู่อวี้ดูไม่ใช่คนดีจริงๆ เรื่องมาถึงขนาดนี้ เราก็แค่ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ต้องการ”

 

“ผู้ชายไม่เลว ผู้หญิงไม่รัก เดี๋ยวนี้มันเป็นแบบนี้แล้ว” จ่านหมิงเหวยเลิกคิ้วและแบมือสองข้างออก “แต่นายก็ต้องระวังด้วยนะ กลัวว่ายังไม่ทันได้หย่า เธอจะก่อเรื่องอื้อฉาวให้นายปวดหัวซะก่อนน่ะสิ”

 

“อยากให้ตระกูลซ่งเราช่วยเหลือตระกูลเยี่ยน แล้วยังคิดจะสวมเขาให้ฉันเนี่ยนะ เธอคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอก” ซ่งฉู่อี๋ขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองเขาสองวินาที “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เกรงว่าฉันคงไม่ต้องลงมือจัดการเอง ตระกูลเยี่ยนก็จบเห่แล้ว”

 

“มันก็จริง พี่ชายนายกับพ่อนายจะปล่อยให้นายต้องขายหน้าได้เหรอ” จ่านหมิงเหวยยิ้มพลางตบบ่าเขา จู่ๆ ก็เกิดเห็นใจเยี่ยนฉางฉิงขึ้นมาเล็กน้อย

 

_ _ _ _ _ _ _ _

 

ฉางฉิงนั่งหงอยเหงาเศร้าซึม สายตาก็เหลือบมองไปทางห้องประชุมอยู่บ่อยๆ ทันใดนั้นเองผู้อำนวยการเฝิงก็เดินมาและพูดว่า “พวกคุณตามผมมา กรรมการบริษัทจ่านก็อยู่ด้วย เดี๋ยวไปทักทายด้วยกันกับผมหน่อย”

 

ทุกคนต่างก็ตกใจ แล้วรีบเดินตามผู้อำนวยการเฝิงไปอย่างระมัดระวัง

 

เซี่ยนั่วถามผู้อำนวยการเฝิงด้วยความประหลาดใจ “ปกติกรรมการบริษัทจ่านเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงมาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ด้วยล่ะคะ”

 

“ใครจะไปรู้ล่ะ” ผู้อำนวยการเฝิงเองก็หงุดหงิดเหมือนกัน ปกติเขาวางอำนาจอยู่ในสถานีจนเคยตัว เขาก็เลยกลัวที่จะเจอหัวหน้าเป็นที่สุด

 

ทุกคนเดินเรียงแถวกันไป แล้วฉางฉิงก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ข้างกรรมการบริษัทจ่านคือซ่งฉู่อี๋ ทั้งสองคุยไปพลางหัวเราะไปพลาง

 

“อุ๊ย นั่นใครน่ะ หน้าตาหล่อใช้ได้เลย ดูเหมือนว่าจะสนิทกับกรรมการบริษัทจ่านมากเลยนะ” หลังจากเห็นซ่งฉู่อี๋ ฉืออี่หนิงก็เกิดอาการเหม่อลอยไปพักหนึ่ง

 

“นั่นสิ ดูจากกิริยาท่าทางแล้วน่าจะเป็นลูกหลานเศรษฐีนะ” หลินอวิ้นพยักหน้าเห็นด้วย

 

ในใจฉางฉิงมีฝูงอัลปาก้าเดินย่ำผ่านไปอีกครั้ง

 

หลังจากสงสัยกันอยู่นาน ปรากฏว่าซ่งฉู่อี๋มาด้วยกันกับกรรมการบริษัทจ่าน เธอเพิ่งรู้ว่าที่แท้ตระกูลซ่งก็เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังสถานีโทรทัศน์ของพวกเธอ

 

ฉางฉิงคิดในใจว่ารู้อย่างนี้ประจบซ่งฉู่อี๋ตั้งแต่แรกซะก็ดี งานการของเธอจะได้เจริญพุ่งพรวด

 

ถ้าเกิดกว่านอิงรู้ เธอจะเสียใจร้องห่มร้องไห้หรือเปล่านะ

 

.........................................

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด