ตอนที่แล้วGE111 มิได้ต้องการชีวิตนิรันดร์[ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE113 เด็กๆของข้า[ฟรี]

GE112 พลังไร้ลักษณ์ เข้าสู่สุสาน[ฟรี]


ประตูห้องโอสถเปิด หนิงฝานเดินพูดคุยกับฮูหยินหยุนฮว๋าด้วยรอยยิ้ม

แม้ต้องเผชิญสายตาสงสัยของหลานเหม่ยและจื่อเฮ่อ แต่หนิงฝานอธิบายเพียงว่า

“ข้ากับฮูหยินหยุนฮว๋าไม่ได้ทำอะไรกันทั้งนั้น...”

“มีเพียงภูติผีเท่านั้นแหละที่เชื่อท่าน!” จื่อเฮ่อกล่าว คนอื่นๆก็ไม่เชื่อหนิงฝานเช่นกัน

นับวันชื่อเสียงด้านลบของหนิงฝานก็เพิ่มพูนมากขึ้น

ปีศาจหนิงผู้ฝึกฝนวิชาขัดเกลาผสาน… ปีศาจผู้ปลิดดอกไม้งาม

ด้วยได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญต่ำกว่าขอบเขตแก่นทองคำที่แข็งแกร่งที่สุด… ไม่..เป็นผู้เชี่ยวชาญต่ำกว่าดวงจิตแรกเริ่มที่แข็งแกร่งที่สุด จึงได้ชื่อว่าเป็นปีศาจผู้ปลิดดอกไม้งาม

ระดับพลังของหนิงฝานเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญคิดถึงเป็นอย่างแรกคือ ต้องเกี่ยวข้องกับโถงขัดเกลาผสาน

ภายในโถงขัดเกลาผสานมีศิษย์สตรีกว่า 200 คน และพวกนางคงไม่รอดมือหนิงฝาน...

นั่นเป็นเพียงความคิดของเหล่าผู้อาวุโส ไม่มีใครกล้าตำหนิหนิงฝานซึ่งหน้า

ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นใด โถงขัดเกลาผสานแห่งนิกายกุ่ยเชว่ก็กลายเป็นของหนิงฝานไปแล้ว และนั่นก็เป็นตามที่ไป๋ลู่คาดหวัง

ด้วยชื่อเสียงที่ชั่วร้ายของหนิงฝาน จะไม่มีผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมคนใด กล้าคิดล่วงเกินเหล่าศิษย์สตรีแห่งโถงขัดเกลาผสาน

แม้จะได้ยินข่าวลือ แต่หนิงฝานไม่ได้แก้ข่าวใดๆ เพราะชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นประโยชน์กับเขาเช่นกัน…  เขาเป็นมนุษย์ หากไม่มีชื่อเสียงก็ไม่อาจอยู่รอดท่ามกลางทะเลโลหิตเช่นนี้

“ชูชิง ข้าจะกลับเมืองหนิง 3 เดือน แต่ก่อนหน้านั้น ข้าจะไปสุสานวิหคทมิฬ เจ้านำทางข้าด้วย...” หนิงฝานกล่าว

“อาจารย์… การที่ท่านผู้ครอบครองสถานะปีศาจหนิงแห่งนิกายกุ่ยเชว่ และเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ย่อมเข้านอกออกในนิกายได้ตามต้องการ… แต่หากจะไปสุสานวิหคทมิฬนั้น ท่านต้องได้รับอนุญาติจากประมุขนิกายก่อน เพราะสถานที่แห่งนั้นอันตรายยิ่งกว่าป่าแห่งภูติพราย”

ชูชิงชำเลืองมองเหล่าสตรีด้วยสีหน้าผ่อนคลาย เพราะเมื่อครู่มันเผลอเรียกหนิงฝานว่าอาจารย์ เขาไม่อนุญาติให้มันเรียกขานต่อหน้าผู้ใด

“นิกายกุ่ยเชว่มีสถานที่อันตรายมากมาย ช่างน่าแปลกนัก”

สุสานวิหคทมิฬอันตรายยิ่งกว่าป่าแห่งภูติพราย แม้เขาไม่เคยไป แต่ก็รู้ว่าที่นั่นอันตราย ราวกับเป็นสถานที่ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของนิกาย

นิกายแห่งนี้อาจเป็นสถานที่ที่สำคัญ มิเช่นนั้น คงไม่มีพื้นที่อันตรายในนิกายเช่นนี้

สุสานวิหคทมิฬอาจเก็บซ่อนความลับบางอย่าง… หากจะขออนุญาติจากกุ่ยเชว่สื่อนั้น ด้วยความสัมพันธ์ที่มีกับหนิงฝานย่อมไม่ใช่เรื่องยาก บางที กุ่ยเชว่สื่ออาจหยิบยื่นแผนที่สุสาน… หากไม่มีแผนที่ เมื่อครั้งที่อยู่ในป่าแห่งภูติพราย หนิงฝานคงตายไปหลายครั้งแล้ว

“อืม… เช่นนั้นไปหาประมุขนิกายกัน”

“เจ้าอยากไปพบท่านพ่อหรือ?” หลานเหม่ยหน้าแดง นางกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่

“หนิงสมควรไปพบพ่อตา… และ… หากเขาไม่แต่งงานกับข้า ข้าจะกัดเขาให้ตาย”

ความรู้สึกนึกคิดของสตรี เป็นสิ่งที่หนิงฝานไม่เข้าใจ

สุสานวิหคทมิฬ ตั้งอยู่ลึกลงไปจากภูเขาวิหคทมิฬราว 1 แสนจ้าง ชั้นที่ 9 คือชั้นที่ลึกที่สุด มีปราณหยินหนาแน่น เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรม ช่วยให้ยกระดับพลังได้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ยิ่งไปชั้นที่ลึกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยยกระดับพลังได้เร็วขึ้นเท่านั้น เพียงแต่...ด้วยความที่มีปรารหยินมากจนเกินไป แม้เป็นกุ่ยเชว่สื่อก็เข้าไปได้มากสุดแค่ชั้น 3 และไม่อาจอยู่ในนั้นได้เกิน 3 วัน 3 คืน

ด้วยการออดอ้อนบิดาของหลานเหม่ย ทำให้หนิงฝานได้รับอนุญาติให้เข้าสุสานวิหคทมิฬ ทั้งหลานเหม่ย ซือซือ และคนอื่นๆก็ได้เข้าไปยังชั้นแรกด้วย นอกจากนี้ หนิงฝานยังได้รับแผนที่สุสานที่กุ่ยเชว่สื่อเก็บมานานหลายปี หวังจะมอบให้กับหลานเหม่ย

ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปสุสาน หลานเหม่ยทำสีหน้าไม่พอใจ ราวกับโกรธเคืองบางสิ่ง ที่หนิงฝานไม่รู้ว่าคืออะไร

นางโกรธที่กุ่ยเชว่สื่อ เป็นผู้นำทางหนิงฝาน จื่อเฮ่อ หลานเหม่ย ซือซือ และชูชิง ไปยัง ‘วิหารกำเนิดพิภพ’ ด้วยตนเอง

วิหารกำเนิดพิภพไม่ได้เปิดรับศิษย์หรือผู้อาวุโสนิกาย ที่นั่นมี 1 ใน 4 ปีศาจแห่งนิกายกุ่ยเชว่ หยานเป่ย เฝ้าดูแลรักษา!

วิหารกำเนิดพิภพ เป็นสถานที่ของข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ที่นำไปยังสุสานวิหคทมิฬที่อยู่ลึกลงไป 1 แสนจ้าง

ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายคือข่ายอาคมระดับไร้แบ่งแยก

ลึกลงไปจากพื้น 1 แสนจ้าง แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำที่ฝึกวิชาก้าวย่างห้าธาตุ อย่างมากก็เคลื่อนลงใต้ดินได้เพียงหมื่นจ้าง หากลงลึกกว่านั้น แรงกดดันใต้พิภพจะทำให้ร่างของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำแหลกเหลว

“หยานเป่ยคารวะประมุข!”

ภายในวิหารกำเนิดพิภพ ชายชราอาภรณ์ดำป้องมือให้กับกุ่ยเชว่สื่อ ชายชราเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้าย ที่ปิดบังเจตจำนงค์กระบี่เอาไว้

“ท่านหยานสุภาพแล้ว… คนเหล่านี้ต้องการเข้าสุสานวิหคทมิฬ ท่านช่วยเปิดข่ายอาคมเคลื่อนย้ายส่งพวกเขาไปด้วย”

“ประมุขอนุญาติให้คนนอกและผู้เยาว์เข้าไป...”

หยานเป่ยมองหลานเหม่ย จื่อเฮ่อ และหวูเสียด้วยความไม่พอใจ

ชูชิงสามารถเข้าสู่สุสานได้ แต่หลานเหม่ยนั้น แม้นางจะเป็นบุตรสาวของประมุขนิกาย แต่สถานะของนางยังไม่พอ ส่วนจื่อเฮ่อและซื่อหวูเสีย ทั้งสองเป็นคนนอก เหตุใดถึงอนุญาติให้เข้าไป...

แต่เมื่อมันมองไปยังคนสุดท้าย มันกลับเข้าใจเรื่องราว

“สตรีเหล่านี้ ปีศาจหนิงเป็นผู้นำมา!”

หยานเป่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างสุภาพ หนิงฝานเอาชนะไป๋เฟยเถิง แสดงความแข็งแกร่งจนทำให้หยานเป่ยเปลี่ยนมุมองที่มี แต่ด้วยมันแข็งแกร่งกว่าไป๋เฟยเถิง จึงคิดว่าตนเองเอาชนะไป๋เฟยเถิงได้ไม่ยาก หากสู้กับหนิงฝาน มีโอกาสแพ้นะครึ่งต่อครึ่ง ดังนั้นมันจึงไม่กลัวหนิงฝาน

และด้วยที่มันไม่ค่อยถูกกับหานหยวนจี๋นัก มันจึงพาลไม่ชอบใจหนิงฝานไปด้วย

“ใช่” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย

“เช่นนั้น...นับว่าเห็นแก่หน้าปีศาจหนิง ข้าจะยอมให้พวกนางเข้าสู่สุสาน แต่ข่ายอาคมที่ต้านแรงกดดันใต้ดินนั้น ข้าจะเปิดให้คุ้มกันเฉพาะเจ้ากับชูชิง… ส่วนพวกนาง เจ้าหาทางป้องกันเอาเอง”

เมื่อกล่าวจบ หยานเป่ยก็หลับตาไม่กล่าวต่อ

และนั่นทำให้สีหน้าหนิงฝานมืดมน

ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายระดับไร้แบ่งแยก ใช้พลังไร้ลักษณ์ในการเคลื่อนย้ายผู้คนจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง หากร่างกายของผู้ที่ใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายยังไม่แข็งแกร่งพอ จะถูกพลังไร้ลักษณ์บดขยี้… ดังนั้นยามที่จะใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย จะต้องเปิดใช้งานข่ายอาคมป้องกันร่างผู้ใช้กับพลังไร้ลักษณ์

หนิงฝานเคยสัมผัสกับพลังไร้ลักษณ์เมื่อยามที่ร่างกายยกระดับ

ขอบเขตกระดูกเงินนั้นสามารถป้องกันการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ แต่ก่อนจะถึงขอบเขตกระดูกเงินนั้น ยังมี ‘ขอบเขตแสงเงิน’ ที่แบ่งออกเป็น 9 ระดับ ระดับแรกเทียบได้กับขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 10... ระดับ 2 ถึง 5 เทียบได้กับขอบเขตประสานวิญญาณขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง และขั้นสูงสุด ระดับ 6 ถึง 9 เทียบได้กับขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง และขั้นสูงสุด

ตอนนี้ร่างกายของหนิงฝานอยู่ในขอบเขตแสงเงินระดับ 6 กำลังจะบรรลุระดับ 7 ดังนั้นตอนนี้ ร่างกายของหนิงฝานจึงแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลาง แต่ถึงอย่างนั้น ยังไม่เพียงพอให้ต้านรับพลังไร้ลักษณ์

หยานเป่ยจงใจทำท่าทางไม่พอใจ มันไม่เห็นหลานเหม่ยอยู่ในสายตา ไม่ไว้หน้ากุ่ยเชว่สื่อ

หากมันไม่เปิดใช้งานข่ายอาคมป้องกันได้ ดังนั้น ผู้ที่เข้าสุสานได้จะมีเพียงชูชิงและหนิงฝานเท่านั้น

ยามนี้ สีหน้าชูชิงแปรเปลี่ยนอัปลักษณ์ กุ่ยเชว่สื่อยิ้มเจื่อพลางกล่าวกับหนิงฝาน

“ปีศาจหนิง อย่าได้ตำหนิหยานเป่ยเลย… วิหารกำเนิดพิภพแห่งนี้ อยู่ในการดูแลของเขา ต่อให้ข้ากล่าว เหม่ยเอ๋อร์กับพวกนางก็เข้าไม่ได้อยู่ดี...”

หนิงฝานหันมองข่ายอาคมเคลื่อนย้ายที่อยู่ใกล้ๆ และยังไม่ตัดสินใจ

ข่ายอาคมระดับไร้แบ่งแยก มีลักษณะคล้ายข่ายอาคมคล้าย ‘ขุนเขาสายน้ำหวนกลับ’ ที่หยิบยืมพลังไร้ลักษณ์ แต่หนิงฝานไม่สามารถวางข่ายอมคมนี้ได้ มันไม่ได้ใช้หยกสวรรค์เป็นแหล่งพลังงาน แต่ใช้พลังไร้ลักษณ์ผสานกับสัมผัสเทพ และข่ายอาคมนี้ ก็กินพื้นที่เพียง 100 จ้าง

เมื่อไม่ได้ใช้หยกสวรรค์เป็นแหล่งพลังงาน แสดงว่าผู้ที่วางข่ายอาคมอย่างกุ่ยเชวสื่อ ก็มีระดับของเต๋าแห่งข่ายอาคมที่เหนือกว่าหนิงฝาน ไม่งั้น หนิงฝานคงวางข่ายอาคมเอง และนำเหล่าสตรีเข้าไปด้วย

พลังไร้ลักษณ์ที่แผ่ออกมาจากข่ายอาคมนั้น ทำให้หนิงฝานรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง

หากไม่มีข่ายอาคมป้องกัน ผู้ที่ต้องสัมผัสพลังไร้ลักษณ์ไม่มีทางรอด

“เช่นนั้นต้องนำพวกนางเข้าแหวนกระถาง...”

หนิงฝานขมวดคิ้ว แม้หยานเป่ยจะไม่ยอมให้พวกนางเข้าไป แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง

ในช่วงเวลานั้นเอง พลังไร้ลักษณ์ที่แผ่ออกมาจากข่ายอาคมเคลื่อนคล้าย กลับต้องสัมผัสกับระฆังทะเลตะวันออก ทำให้มันส่งเสียงกังวาล

เสียงระฆังดังอยู่ในหัวหนิงฝาน แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือ เสียงระฆังกลับผลักดันพลังไร้ลักษณ์ให้ถอยห่างออกไป

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง หนิงฝานก็เริ่มเดินเข้าใกล้ข่ายอาคม พลังไร้ลักษณ์ที่แผ่ออกมาก็ถอนหายเขา 3 ฉื่อ

“พลังไร้ลักษณ์เหล่านี้หวาดกลัวระฆังทะเลตะวันออก!”

หนิงฝานกระโดดเข้าไปข่ายอาคมเคลื่อนย้ายโดยไม่รอให้ข่ายอาคมป้องกันทำงาน เพื่อทดสอบพลังไร้ลักษณ์ด้วยตนเอง

การกระทำของหนิงฝานทำให้คนอื่นๆตกใจ หลานเป่ยลืมตาขึ้นทันที

“ฝานเอ๋อร์กลับมา ไม่งั้นร่างเจ้าได้โดนพลังไร้ลักษณ์ฉีกเป็นชิ้นๆแน่!”

ทันทีที่กล่าวจบ กุ่ยเชว่สื่อกลับสงบคำ

กุ่ยเชว่สื่อตกตะลึง เพราะพลังไร้ลักษณ์เหล่านั้นไม่กล้าเข้าใกล้หนิงฝาน

เมื่อยืนยันความปลอดภัยได้แล้ว หนิงฝานที่ยืยอยู่ในข่ายอาคมเคลื่อนย้ายก็ยิ้มให้กับหยานเป่ยเล็กน้อย “ดูท่า...ชื่อเสียงของข้าจะทำให้พลังไร้ลักษณ์หวาดกลัวไม่ยอมเข้าใกล้ข้า… เช่นนั้น ข้าก็ไม่ต้องการข่ายอาคมป้องกันแล้ว ท่านเองก็ลองเข้ามาใกล้ๆข้า พลังไร้ลักษณ์ไม่ฉีกกระชากท่านหรอก”

เมื่อหยานเป่ยได้ยินคำกล่าวของหนิงฝาน แม้จะไม่ได้ใช่คำด่าทอ แต่กลับทำให้มันไม่พอใจ

“เป็นไปไม่ได้… แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ก็ไม่อาจต้านทานพลังไร้ลักษณ์ได้ด้วยร่างกายเพียงอย่างเดียว… หรือสวรรค์จะยอมให้หนิงฝานเข้าสุสานวิหคทมิฬ!”

นอกจากเป็นลิขิตสวรรค์แล้ว หยานเป่ยก็ไม่อาจหาเหตุผลใดๆได้ หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ เหตุใดพลังไร้ลักษณ์ถึงหวาดกลัว

“จะยั่วยุเด็กผู้นี้ไม่ได้...”

แววตาหยานเป่ยปั่นป่วนสับสน แต่ใบหน้าที่อัปลักษณ์ของมันกลับเผยรอยยิ้ม เป็นครั้งแรกที่มันเป็นเช่นนี้

“ปะ… ปีศาจหนิง ขออภัยที่เสียมารยาท ข้าจะเปิดข่ายอาคมป้องกันให้ทั้งหมด ส่วนนี้เป็นกระเป๋าโอสถ ถือเป็นการขอโทษจากข้า… หวังว่าปีศาจหนิงจะไม่โกรธเคืองข้า...”

หยานเป่ยผู้ไม่เกรงกลัวใคร กลับกล่าวขอโทษหนิงฝาน

กุ่ยเชว่สื่อเองก็ประหลาดใจ เพราะในแคว้นเยว่ ยังไม่มีผู้ใดที่หยานเป่ยยอมก้มหัวให้

แต่กุ่ยเชว่สื่อไม่รู้ว่า หยานเป่ยไม่ได้ก้มหัวให้หนิงฝาน แต่ก้มให้กับลิขิตสวรรค์… แม้มันจะเป็นคนหยาบคายแข็งกร้าว แต่มันเชื่อถือในลิขิตสวรรค์มากผู้หนึ่ง

“ผู้อาวุโสหยานเป่ย ข้าไม่ได้ถือสาเรื่องที่เกิดขึ้น… แต่ข้าหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพสำรวจกระเป๋า ภายในมีโอสถผันแปรที่ 2 และมีขวดโอสถผันแปรที่ 3 อยู่ด้วย โอสถส่วนใหญ่ใช้เสริมความแข็งแกร่งร่างกาย

โอสถเหล่านี้มีมูลค่าหลายหมื่นหยกสวรรค์ ซึ่งสมควรเป็นสิ่งแทนคำขอโทษ เมื่อหนิงฝานเห็นสีหน้าของกุ่ยเชว่สื่อแล้ว เขาก็ไม่อยากเอาความหยานเป่ยอีก

เมื่อมันรู้ว่าควรจะพอ เช่นนั้นก็ควรจะพอ!

Since Senior Black knows the limitation, then this matter, writes off! 既然黑尊识相,则此事,一笔勾销!

หนิงฝานหันยิ้มให้กับเหล่าสตรีของตน รวมถึงชูชิงตกตะลึง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด