ตอนที่แล้วบทที่ 170 - ฉันคือยอดนักขุด (4) [26-06-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 172 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (2) [01-07-2019]

บทที่ 171 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (1) [29-06-2019]


บทที่ 171 - เดินทางท่องเที่ยวนรก (1)

 

ฟีทัวโร่คือโลกที่มีคนบนโลกติดหนี้บุญคุณอยู่กว่า 794 คน โลกนี้ก็ยังได้ถึงมหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 แล้วเหมือนโลกอื่นๆ พวกเขามีคลาส 3 กับคลาส 2 อยู่เป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็สามารถจะรับมือกับมอนสเตอร์คลาส 4 ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

[ยังไงก็ตามปกติแล้วมันคงไม่นานหรอกที่โลกจะล่มสลาย] (เลียร่า)

เลียร่าได้ถอนหายใจออกมา

[ที่นั่นมีการพังของดันเจี้ยนขึ้นมา และในพริบตาเดียวก็จะเกิดคลื่นดันเจี้ยนขึ้นมา หากว่ามีมอนสเตอร์คลาส 4 เกิดมางั้นคนที่นั่นก็จะต้องสูญเสียพลังในการต่อสู้ไปกับมอนสเตอร์คลาส 4... แล้วก็น่าบังเอิญที่ดันเจี้ยนที่ว่างเปล่าอยู่ทั้งหมดจะเกิดเป็นการล้นของพลังขึ้นมา เพราะแบบนี้ก็จะทำให้จำนวนมอนสเตอร์คลาส 4 เพิ่มขึ้น... หากว่าคนที่นั่นป้องกันได้ล้มเหลวมันก็จะจบลง] (เลียร่า)

"นี่มันเป็นวงจรที่นรกจริงๆเลยแหะ"

[ทั้งๆที่รู้ว่าดันเจี้ยนจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้แต่เราก็หยุดการติดตั้งดันเจี้ยนไม่ได้อยู่ดี มันน่าเจ็บปวดไหมล่ะ] (เอิลต้า)

[นี่มันคือกระบวนการตามปกติที่ทำให้โลกถูกทำลายลง ดังนั้นมอนสเตอร์ที่กลายพันธ์จะกลายเป็นเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและประตูสู่โลกจะปิดลง] (สเปียร่า)

[แล้วก็กองทัพปีศาจแห่งการทำลายก็จะเข้าไปหาโลกแบบนั้น] (เลียร่า)

ในวันนี้ทูตสวรรค์ได้เข้าขากันเป็นอย่างดี บางทีอาจจะเพราะพวกเธอต่างก็เจ็บปวดกับการได้เห็นโลกนับไม่ถ้วนสิ้นสุดลงเพราะแบบนีเหหมือนๆกันก็ได้ ยูอิลฮานได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

"ถ้าเธอรู้แบบนั้นก็ทำอะไรซักอย่างสิ"

[ไม่ว่าใครก็อยากจะทำแบบนั้นแต่ว่าพลังของกองทัพสวรรค์น่ะไม่ได้ไร้ขีดจำกัด เราไม่อาจจะแทรกแซงได้มากกว่าที่จำเป็นได้แล้วก็เพราะแบบนี้ในท้ายที่สุดแล้วผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกนั้นๆจะต่อผ่านวิกฤติไปด้วยตัวพวกเขาเอง นี่มันคือกฏที่ถูกตั้งเอาไว้] (เลียร่า)

"ไม่"

ยูอิลฮานได้ขัดขึ้นมาพร้อมๆกับปิดการแจ้งเตือน 'สนับสนุนฟีทัวโร่' ที่ขึ้นบนโทรศัพท์ของเขา

"เมื่อก่อนมันอาจเป็นกฏสากลที่ถูกตั้งเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้มันอาจจะต่างออกไปแล้ว"

จะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าคนที่แข็งแกร่งจากโลกอื่นสามารถไปช่วยโลกที่กำลังตกอยู่ในวิกฤติได้?

โลกนั้นจะเกิดโอกาสที่จะเอาชนะวิกฤติไปได้และยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง แถมคนที่ได้ไปให้การช่วยเหลือก็จะได้สร้างหนี้บุญคุณเอาไว้ จากนั้นพวกเขาก็จะได้รับการช่วยเหลือกลับมาเมื่อมีวิกฤติเช่นกัน

โลกของเขาในตอนนี้ทำทุกสิ่งนี้ให้เป็นไปได้ ผู้เชี่ยวชาญจากโลกต่างๆมากมายในตอนนี้ต่างก็สนใจที่โลกๆเดียวนี้

หากว่าพันธมติรที่แข็งแกร่งระหว่างโลกต่างๆได้ก่อตัวขึ้นจากโอกาสนี้ถ้างั้นมันก็เป็นไปได้ที่จะเกิดการช่วยเหลือกันและกัน จนเป็นการพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุด

[ถ้าวงจรดีๆแบบนี้เกิดขึ้นมาได้มันจะดีที่สุดเลยล่ะ] (เลียร่า)

[มันอาจจะเป็นไปจริงไม่ได้นะ พวกเรากำลังพูดเรื่องที่ว่าคนที่ไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่รู้จักกัน ไม่ได้เป็นคนจากประเทศเดียวกัน ถึงขนาดยังไม่ใช่คนในโลกเดียวกันด้วย แล้วจะไปเชื่อใจคนอื่นแบบนั้นและยืมพลังเขามาน่ะหรอ? ทั้งหมดนี่มันก็แค่ภาพลวงตาเท่านั้นแหละ] (สเปียร่า)

"อย่าคิดในแง่ร้ายแบบนั้นสิ บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีสำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาที่จะได้ก้าวข้ามกำแพงระหว่างโลกและกลายมาเป็นสังคมใหญ่หนึ่งเดียวก็ได้นะ"

[แล้วนายกำลังทำอะไรล่ะในฐานะของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา?] (เอิลต้า)

ยูอิลฮานได้เงียบลงไป นี่มันก็เพราะว่าในตอนนี้เขากำลังเทชิ้นส่วนของเครชน่าลงไปในเตาเผาอยู่

มันเป็นเรื่องดีที่เขาได้ชำแหละโกเลม แต่ว่าเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องมือขุดเจาะมรณะกับสกรูกระดูกมันดีเกินไปจนทำให้โลหะกลายมาเป็นดินปืนจนทำให้เขาเอามันมาใช้ไม่ได้ ผลที่ออกมาก็เลยเป็นอย่างที่ได้เห็นอยู่ซึ่งเขาก็กำลังจะทำการปรับแต่งมัน

"ฉันก็กำลังทำงานของฉันอยู่ไง"

[ใช่แล้ว ระหว่างที่ทุกๆคน 'ทำงานของตัวเองอยู่' ฟีทัวโร่ก็ได้ถูกทำลายไปแล้วนะ แน่นอนว่าฉันไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่นายกำลังทำอยู่มันแย่นะ] (เอิลต้า)

มันไม่ได้แย่เลยสักนิดกับการที่ทำในหน้าที่ของตัวเอง ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อโลกอื่นแทนที่จะเสริมการป้องกันตัวเอง นี่แหละคือความเป็นจริง

"ยังไงก็เถอะฉันก็รู้ ปาฏิหาริย์แบบนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆหรอก"

[ถ้างั้นนายก็ไม่ได้มีความตั้งใจแม้แต่นิดเดียวที่จะรวมกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาหรือการข้ามกำแพงระหว่างโลกเลย?] (เลียร่า)

"เธอก็น่าจะรู้ได้ตั้งแต่ทีแรกที่ฉันพูดแล้วนะ นิสัยส่วนตัวของฉันมันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น มันไม่ยอมที่จะให้ฉันต้องไปไหนกับคนอื่นๆ"

[เอาจริงดิ...?] (เลียร่า)

ยูอิลฮานไม่ได้สนใจจะตอบเลียร่าเลย เขาก็ยังคิดว่าแค่ลูกน้องของเขา ยูมิล คังมิเรย์และนายูนาก็มากแล้ว

ยกตัวอย่างหากคังมิเรย์กับนายูนาตกอยู่ในอันตราย เขาจะไม่ไปช่วยพวกเธอเลยหรอ? เขาจะไปช่วยแน่แต่ว่ามันไม่ใช่เพราะใครบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำแต่ว่ามันเพราะหัวใจของเขาจะไม่สงบหากเขาไม่ทำแบบนั้น

ใช่แล้ว การยึดติดสนิททกับคนอื่นๆจะเพิ่มภาระความรับผิดชอบขึ้นมา นี่มันเลยทำให้เขาไม่ชอบมัน เขาไม่อยากจะเพิ่มภาระมาอีกต่อไปแล้ว

แต่ถ้าแค่เล็กน้อยมันก็ไม่น่าจะมากนะ

"ถ้ามันดูเหมือนว่าคนที่โลกจะขาดแคลน งั้นก็บอกฉันล่ะกัน ฉันจะคิดซะว่าเป็นการไปล่าวัตถุดิบ"

[นิสัยส่วนตัวนายมันเกิดอะไรขึ้นแล้วล่ะ?] (เลียร่า)

"ฉันบอกว่าเป็นการไปล่าวัตถุดิบไงล่ะ"

ขณะพูดยูอิลฮานก็ยังเทเศษเครชน่าลงไปในเตาเผา ในการต่อสู้กับโกเลมเครชน่า เพลิงนิรันดร์ของเขาได้รับบันทึกมาจำนวนมากและได้พัฒนาขึ้นอีกครั้ง ในตอนนี้มันกำลังแสดงผลที่ได้รับออกมาอย่างเต็มรูปแบบ เขาได้เฝ้ามองดูฉากที่เครชน่าละลายกลายเป็นแอ่งของเหลวอย่างพึงพอใจ

[ในท้ายที่สุดแล้วเครชน่านี่มันจะได้เท่าไหร่กันล่ะ?] (เอิลต้า)

"กว่าครึ่งหนึ่งได้เสียไปจากการต่อสู้แล้ว นอกไปจากนี้ร่างกายของโกเลมกยังมีโลหะอื่นอยู่ด้วย... หากนับแค่เครชน่าบริสุทธิ์จริงๆล่ะก็ไม่มากนะ ประมาณสามตันได้มั้ง"

[เอ๋ งั้นสามตันนี่คือไม่มาก...] (เอิลต้า)

สำหรับยูอิลฮานที่คิดจะปรับแต่งเครชน่าใหม่มาทำเป็นโกเลมมันน้อยเกินไป ถึงมันจะยังเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะสร้างโกเลมในตอนนี้เนื่องจากว่าเขายังไม่ได้ทำให้ความรู้ทั้งหมดในเรื่องวิศวกรรมเวทย์มาเป็นของเขาจริงๆก็ตามที

แต่ว่าเมื่อเขาได้ใช้เวลาทำงานของเขาอยู่ เลียร่าก็เรียกเขาขึ้นมา

[...อิลฮาน] (เลียร่า)

"ตอนนี้ฉันแค่อยากจะได้หินพลังเวทย์จาก... ว่าไงหรอ?"

[ฉันคิดว่านายไม่จำเป็นต้องทำแล้ว] (เลียร่า)

เมื่อยูอิลฮานกำลังงงว่าเลียร่ากำลังพูดอะไร เธอก็เปิดภาพๆหนึ่งให้เขาดู ภาพที่คนจำนวนมากไปอยู่ที่หน้าประตูมิติ ยูอิลฮานรู้ได้เลยโดยไม่ยากว่าประตูมิตินั่นคือทางเชื่อมไปสู่ฟีทัวโร่

"ไม่มีทางน่า"

[ฉันก็สงสัยเหมือนกัน แต่นี่เป็นความจริง] (เลียร่า)

ประตูมิติที่เชื่อมต่อกับโลกนี่ไปโลกอื่นกำลังเพิ่มอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่ามันจะช้าแต่ในปัจจุบันก็มีประตูมิติอยู่รวมๆ 26 แห่งไปแล้ว และจากภาพที่ยูอิลฮานได้ดูก็มีคนอยู่อย่างน้อยก็ 5 พันคนไปแล้ว เฉลี่ยดูแล้วก็คือได้มีคน 200 กว่าคนในแต่ล่ะโลกที่ไปให้การช่วยเหลือ

[ดูเหมือนว่ารางวัลจะล่อใจนะ แต่ยังไงก็น่าจะคุ้มที่จะเสียไปเพราะแม้แต่ฉันก็หมดหวังเลยเมื่อโลกนั่นดูเหมือนจะจบลง] (เอิลต้า)

[นี่มันกำลังน่าสนใจแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกันนะ? ฉันตื่นเต้นแแล้วสิ] (เลียร่า)

"ถึงฉันจะไม่รู้ในเหตุผลที่ชัดเจน แต่ว่า..."

ยูอิลฮานพอใจอย่างมากที่ดูแล้วเขาไม่จำเป็นจะต้องไปที่นั่นและเทก้อนเครชน่าลงไปในเตาเผามากขึ้นไปอีก จากนั้นก็พูดออกมา

"มันเป็นเรื่องดีตราบใดที่ไม่ได้มีอะไรมารบกวนฉัน"

*****

มนุษยชาติต่างเป็นกังกลกับมหาภัยพิบัติขั้นที่ 2 แต่ว่าตัวแปรจำนวนมากที่ได้เกิดขึ้นมาก็ทำให้โลกเกิดความเสถียรขึ้น

พลังโดยรวมของโลกที่เพิ่มขึ้นเพราะแวนการ์ด ความสนใจของผู้คนจากโลกอื่นเพราะการค้าขายที่หลากหลายและการประมูลที่เกิดขึ้นบนโลก นอกเหนือไปจากนั้นก็ยังมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนต่างๆอีกมากที่ทำให้โลกการเป็นหนึ่งในโลกที่เสถียรที่สุด

"ในตอนนี้ถ้าโลกหายไปเราจะมีปัญหาแน่"

"แม้ว่าเราจะชอบการค้าขายกับโลกอื่น แต่หากแวนการ์ดหายไป..."

"แต่เมื่อไหร่จะมีการประมูลอาวุธขั้นสูงครั้งที่ 2 ล่ะ?"

และการเปลื่ยนแปลงก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่โลกยูอิลฮานเท่านั้น แต่ว่าโลกอื่นๆที่เชื่อมต่อกับโลกอยู่ก็ยังได้สามารถรับสมัครผู้มีความสามารถจากโลกอื่นๆเป็นทหารรับจ้างได้จนทำให้เกิดความเสถียรมากขึ้นเช่นกัน

โลกได้เริ่มต้นที่การรับทหารรับจ้างฟีทัวโร่ได้ข้ามผ่านวิกฤติมาได้ เนืองจากพลังจำนวนมากจากคนจำนวนมากทำให้เกิดความบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้ยูอิลฮานกับสามทูตสวรรค์ดูงี่เง่าไปเลยที่สงสัยในการรวมใจของผู้คน

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ว่ากลุ่มพันธมิตรนี่มารวมตัวกันเพราะหัวใจที่บริสุทธิอยากจะข้ามกำแพงรวมกลุ่มกันขึ้นแบบที่ยูอิลฮานอยากให้เป็น มนุษย์นั้นเน่าเฟะเกินกว่าที่จะมีความบริสุทธิเหมือนเด็กแบบนั้น

ใช่แล้ว สิ่งที่ฟีทัวโร่ได้ใช้ดึงคนมาก็คือหินพลังเวทย์ หินพลังเวทย์ส่วนใหญ่เป็นคลาส 3 และมีหินพลังเวทย์คลาส 4 ที่กระจายอยู่ทั่วโลก! ผู้คนจากโลกต่างๆได้ถูกมันดึงดูไปทันที

[เหตุผลที่พวกเขาอยากจะได้หินพลังเวทย์ก็ชัดเจนว่านั่นเพื่อแวนการ์ดกับน้ำตานางฟ้าใช่ไหมล่ะ?] (เลียร่า)

[การที่คนยอมไปช่วยโลกอื่นเพื่อซื้อสินค้าของแวนการ์ดนี่มันก็นะ... ยูอิลฮานสิ่งที่นายทำได้แก้ปัญหาได้หลายอย่างเลยนะ] (เอิลต้า)

และคนจำนวนมากที่มีหินพลังเวทย์อยู่ในมือก็จะทำให้การค้าคายของแวนการ์ดมากขึ้นเท่านั้น ในมุมของยูอิลฮานแล้วนี่มันเป็นเรื่องดีมากๆ

[โอ้ สถานการณ์ได้อยู่ในมือเราแล้ว] (เลียร่า)

"เอาเถอะ มันไม่ใช่ว่าสิ่งต่างๆมันอยู่ในมือเธอแต่แรกแล้วหรอกหรอ?"

[ฉันอยากจะให้มันเป็นไปด้วยดี...] (เอิลต้า)

"ตอนนี้คุณผู้หญิงถึงขนาดไม่ปฏิเสธเลยนะ..."

อาจจะเป็นเพราะการเริ่มต้นที่ราบรื่นทำให้นอกจากการแก้ปัญหาแรกที่ฟีทัวโร่ก็ได้มีการแจ้งเตือน 'ขอความช่วยเหลือเร่งด้วน' ขึ้นมาให้เห็นบ่อยขึ้นมา แต่ว่าเพราะจำเป็นต้องใช้หินพลังเวทย์คลาส 3 เป็นรางวัลขั้นต่ำทำให้คำขอไม่ได้มาเยอะนะแต่ว่าเพราะแบบนี้ทำให้คนจำนวนมากแห่กันไปทันทีที่มีคำขอโผล่ขึ้นมา

หลังจากคำขอแรกจากฟีทัวโร่ก็ได้ผ่านไปประมาณสองเดือนได้มีคำขอทหารรับจ้างขนาดใหญ่ขึ้นอยู่อีกสองครั้ง และคังมิเรย์ก็ได้รู้สึกว่าเธอจำเป็นต้องตั้งองค์กรขึ้นมาจัดการในเรื่องนี้

ดังนั้นเไพ่ที่เธอเลือกมาใช้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอัศวินโลหะกับมาเกีย

ทั้งสองกลุ่มเป็นคู่แข่งของกลุ่มเทพสายฟ้าของเธอ และพวกเขาสองกลุ่มก็มีคุณสมบัติมากพอจะเป็นตัวแทนของโลกและยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างศูนย์กลางการค้ากังนัมด้วย ในตอนนี้เธอต้องรักษาสัญญาของเธอ

"กิลด์ทหารรับจ้าง? แล้วใครล่ะจะรับหน้าที่ กลุ่มเทพสายฟ้าอีกงั้นหรอ? หรือว่ายูอิลฮานจะมาด้วยตัวเอง?"

"ไม่หรอกน่า แต่ว่าโดยพื้นฐานแล้วก็คล้ายๆกัน เป็นกลุ่มอัศวินโลหะกับมาเกีย ทั้งสองกลุ่มนี้ได้ร่วมมือกับกลุ่มเทพสายฟ้า ยังไงก็ตามมันน่าเสียดายนะที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย"

"ให้ตายสิ! พวกนั้นคิดที่จะเอาทุกๆอย่างไปหมดเลยหรือไงกัน!?"

แน่นอนว่าได้มีคนบ่นออกมาจำนวนมาก คำว่า 'กลุ่มพันธมิตรแนวหน้า' ได้มีชื่อเสียงมานานอยู่แล้วบนโลกและมีกิลด์ที่อยู่ภายในที่โดยเด่นออกมา

บางกลุ่มก็บ่นออกมาบอกว่านี่เป็นการใช้เส้นสายกัน แต่ว่าคังมิเรย์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเหมือนเคย

เหตุผลที่เธอเลือกอัศวินโลหะกับมาเกียก็เพียงแค่เพื่อลดความน่ารำคาญให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้ามีใครอีกที่มีความสามารถพองั้นเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกัน แต่ในคามจริงพวกคนที่บ่นต่างก็มีเจตนาที่ไม่ดีอยู่ภายในกันทั้งนั้น

อัศวินโลหะกับมาเกียได้เคลื่อนไหวอย่างที่เธอตั้งใจให้ไว้ หัวหน้าของทั้งสองกลุ่ม มิเชล สมิธสัน กับคาริน่า มาเลเทสต้าได้มาที่กังนัมด้วยตัวเองและสร้างกิลด์ทหารรับจ้างขึ้นพร้อมกับเตรียมการจัดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการให้ทหารรับจ้างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและปรับปรุงเรื่องระบบรางวัล

กิลด์ทหารรับจ้างจะเปิดให้ทหารรับจ้างที่เข้ามร่วมในคำขอเพื่อให้ได้รับรางวัลตามการมีส่วนรวมและเตรียมเส้นทางการกลับมาอย่างปลอดภัยให้กับพวกเขา

แม้ว่าจะมีการเก็บภาษีเล็กน้อยจากทั้งผู้ว่าจ้างกับทหารรับจ้างเพื่อให้ทางกิลด์จัดการดูแล แต่ว่าความสะดวกสบายที่มากกว่าและความปลอดภัยมากกว่าในการส่งการแจ้งเตือนมันเป็นผลดีกว่าเดิมแน่นอน

ดังนั้นจะมีใครล่ะที่ไม่ชอบทหารรับจ้าง? เพราะแบบนี้โลกได้ส่งสัญญาณการเปิดใช้งานคำขอทหารรับจ้างจากโลกอื่น ในเวลาเดียวกันนี้การประมูลอุปกรณ์ขั้นสูงครั้งที่ 2 ก็ได้ถูกจัดขึ้นนำพาผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจากโลกต่างๆมาที่กิลด์ทหารรับจ้าง

แม้ว่ายูอิลฮานจะได้ให้การดูแลการประมูลครั้งที่ 1 แต่ว่าในครั้งที่ 2 เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวเลย เขาได้ตัดสินใจว่าการเตือนในครั้งที่ 1 มันมากพอแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยทำแค่เตรียมไอเทมไว้ขายและก็ปล่อยเรื่องการรักษาความปลอดภัยไว้กับเฟมิลกับหมาป่าจากไคโร

การประมูลได้จบลงไปอย่างปลอดภัย ท่ามกลางการประมูลได้เต็มไปด้วยความดีใจของคนที่ประมูลได้ของมากับเสียงถอนหายใจของคนที่ไม่ได้อะไร คังมิเรย์ได้บ่นขึ้นมาด้วยสายตาที่ไม่สบายใจ

"เขาไปไหนกันนะ"

"ไม่ใช่ว่าเขาบอกว่าเขาจะไปในโลกที่เขาเชื่อมต่ออยู่หรอ?"

"แต่ว่านี่มันก็สองเดือนแล้วนะ"

สองเดือนนั่นคือเวลาที่ยูอิลฮานบินจากไปหลังจากที่เอาของประมูลมาทิ้งไว้ให้และฝากยูมิลเอาไว้ให้พวกเธอูแล มันไม่ใช่ว่าคังมิเรย์ไม่ได้เข้าใจในเรื่องของการไปโลกที่เชื่อมต่ออยู่ แต่ว่าจากเพราะระยะเวลาที่ยาวนานเกินไปทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

ไม่ เธอไม่อยากจะยอมรับ แต่ว่าแทนที่จะกังวลความปลอดภัยเขา ปัญหาหลักของเธอกลับเป็นหัวใจของเธอ

รักแรกของเธอมันก็เหมือนสารเสพติด และเธอได้กระวนกระวายหลังจากไม่ได้เจอเขา 3 วัน และเมื่อผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หัวใจของเธอก็เริ่มบีบรัด และเมื่อผ่านไปหนึ่งเดือนเธอก็กินไม่ได้ และตอนนี้ก็ผ่านไปสองเดือนแล้วอีกด้วย

"ไม่ใช่ว่าเขาจะไปตายที่ไหนซักหน่อย เธอจะห่วงเรื่องอะไรกันล่ะ?"

"แต่ว่าเขาไม่เคยไปทำอะไรนานแบบนี้นี่"

"เขาทิ้งพวกเขาไว้เป็นคนทำการสื่อสารเพราะเขาติดต่อเขาได้ไงล่ะ"

"ถ้าเขากำลังทำอะไรที่สำคัญอยู่ มันก็คงไม่ดีแน่ที่เขาจะไปขัดเขา..."

ยิ่งเธอแก้ตัวเธอก็ยิ่งรู้สึกแปลกมากขึ้น ดังนั้นเธอเลยเงียบลงไป นายูนาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอรู้สึกยังไงและพูดเล่นๆออกมาข้างๆเธอ

"บางทีเขาอาจจะกำลังทำเควศใหญ่อยู่กได เขาเป็นคนที่พัฒนาแข็งแกร่งได้ทันทีหลังจากบันทึกถูกลบไปเลยนะ ดังนั้นโลกที่เขาเชื่อมต่อด้วยก็คงต้องน่าทึ่งไปเลยใช่ไหมล่ะ? ฉันอยากให้เขาพาเราไปด้วยจังเลยน้า~!"

"นั่นก็จริงแหละ บางทีเขาอาจจะบอกเราในสักวัน"

"ไปหามิลกันแทนดีกว่า ไปเดินเล่นกันในดันเจี้ยนเถอะ!"

"โอเค แต่ก่อนหน้านั้นฉันมีงานต้องทำ"

"อว๊ากกกกกกกกกกกก!"

เธอไม่อาจจะถูกความคิดถึงยูอิลฮานมารบกวนไปได้ตลอด คังมิเรย์ได้ถอนหายใจเบาๆและเดินไปดึงแขนเสื้อนายูนาเพื่อไม่ให้เธอหนีไป

ในขณะเดียวกันคนที่พวกเธอกำลังพูดถึง ยูอิลฮาน...

[ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ!]

"ย๊าาาาากกกกกกกกกก! สุดยอดพลังขุดดดดดดดดด!"

...เขากำลังอารวาดอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรับมือได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด