ตอนที่แล้วSC:บทที่ 13 ร้านขายของอุปกรณ์กลางแจ้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSC:บทที่ 15 สถานีตำรวจ

 SC:บทที่ 14 วิทยุ


SC:บทที่ 14 วิทยุ

 

วิทยุ!

แม้กระแสไฟของประเทศจะหยุดทำงานไปแล้ว แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถฟื้นตัวได้ พวกเขาอาจใช้คลื่นวิทยุในการส่งสัญญาณเพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้ามากนัก หากเขาสามารถนำวิทยุนี้จะไปได้เขาอาจใช้ในการฟังข้อมูลที่มีประโยชน์

อย่างไรก็ตามเนื่องจากการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้ผู้คนนิยมโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ซึ่งมีฟังก์ชันหลากหลายมากกว่า ส่วนวิทยุและเครื่องทำครัวรุ่นเก่านั้นค่อนข้างหาได้ยาก  หลินเฉิง ค้นหาในโรงแรมถึง 3 วันแต่เขาก็ไม่พบมัน วันนี้คาดไม่ถึงว่าเขาจะพบกันในห้องเก็บของที่มีกลิ่นรุนแรงแบบนี้

เมื่อเห็นวิทยุสี่เหลี่ยมเล็กๆที่อยู่ตรงมุม หลินเฉิง รีบเดินไปหยิบมันขึ้นทันทีแล้วสำรวจวิทยุนั้น จากนั้นเขาลองเปิดสวิทช์ดูแต่พบว่ามันไม่มีกำลังไฟ ในขณะที่ หลินเฉิง กำลังพยายามเล่นกับวิทยุที่ไม่มีกระแสไฟนั้น

ก็มีเสียงพูดออกมาของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้ความสนใจของ หลินเฉิง กลับมาที่คน 3 คนอีกครั้ง

“ออ ตามที่พวกคุณถาม หมอกด้านนอกได้กระจายหายไปหมดแล้วแต่ มีซอมบี้อยู่ทุกที่!”

หลังจากที่ตอบคำถามอย่างไม่ตั้งใจ หลินเฉิง ก็เห็นถุงเปล่าหลายไปวางอยู่บนพื้น  เขายกวิทยุในมือขึ้นและถามว่า

“วิทยุอันนี้เป็นของคุณหรือไม่ ผมขอได้ไหมแลกเปลี่ยนกับอาหาร”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ หลินเฉิง บอกว่ามีซากศพที่น่ากลัวอยู่ทุกหนทุกแห่งการนอก ดวงตาของหญิงสาวมืดมนอีกครั้ง แล้วเมื่อเธอได้ยินว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการแลกอาหารกับวิทยุนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น เธอไม่ได้กินอะไรมา 2 วันแล้ว เธอกำลังจะตอบว่าตกลง แต่กลับมีคนหยุดไม่ให้เธอพูด!”

ชายคนหนึ่งใบหน้าซีดเซียว แต่เขายังคงดูดีกว่าอีก 2 คนเล็กน้อย เขาน่าจะอายุประมาณ 30 ปีสวมแว่นทองคำ ดูเหมือนว่าเขาถนัดในเรื่องการค้าขาย เมื่อเขาได้ยินว่า หลินเฉิง ต้องการแลกเปลี่ยนวิทยุกับอาหาร  เขารีบหยุดไม่ให้ผู้หญิงพูดทันที เขาใช้มือเลื่อนแว่นตาเล็กน้อยและมองมาที่ หลินเฉิง

“คุณมีชื่อว่าอะไร  ผมชื่อเฉาหลาน ผมทำงานอยู่ที่ธนาคาร แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ คุณพึ่งพูดว่าต้องการวิทยุนี้ใช่หรือไม่?”

เมื่อมองไปที่ดวงตาของ เฉาหลาน คนนี้มันทำให้ หลินเฉิง เข้าใจความคิดของเขา  หลินเฉิง หัวเราะเบาๆและพูดว่า

“ใช่แล้ว ผมต้องการวิทยุนี่ และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนอาหารกับคุณ คุณมีปัญหาอะไรไหม?”

หลังจากได้ยินคำตอบนี้ เฉาหลาน หัวเราะขึ้นเบาๆ

“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา เพียงแต่….คุณจะแลกมันกลับอาหารเท่าไหร่?”

ใบหน้าของ หลินเฉิง ยังคงแสดงออกอย่างเฉยชาทำราวกับไม่ได้ยินเสียงพูดของเฉาหลาน

หลินเฉิง เอื้อมมือไปหยิบสิ่งของในกระเป๋าของเขาและกระซิบว่า

“ขนมปัง 3 ชิ้น!เชื่อผม สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นของจำนวนมากแล้ว!”

หลังจากได้ยินราคาที่ หลินเฉิง จะให้ ทั้ง 3 คนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยพวกเขาหิวโหยจนแทบไม่มีแรงอยู่แล้วแต่ในเวลานี้พวกเขาได้ยินว่าวิทยุที่ไม่มีไฟฟ้านี้สามารถเปลี่ยนขนมปังได้ 3 ชิ้น พวกเขาต้องการตกลงอย่างรวดเร็วแต่ เฉาหลาน หยุดพวกเขาเอาไว้

หลังจากที่ทั้งสองคนต้องการที่จะตอบตกลงแต่ เฉาหลาน พูดขึ้นมาว่า

“พวกเราเข้าใจว่านี่ถือว่าเป็นของจำนวนมากจริงๆ แต่คุณเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์กับอุปทานหรือไม่ เห็นได้ชัดว่าคุณต้องการมัน และคุณเองก็มีอาหารจำนวนมาก แต่พวกเรามีเพียงวิทยุอันเดียวดังนั้นพวกเราไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขไม่ได้!”

หลังจากนั้นเขาก็หันไปยืนยันกลับอีก 2 คนและกระซิบบอกพวกนั้นเบาๆให้เชื่อฟังตนเอง

หลินเฉิง เห็นทั้ง 3 คนกำลังสื่อสารกันด้วยเสียงเบาๆ เขารู้สึก หงุดหงิด ทำไมคนโง่ชอบทำแบบนี้?

พวกเขายังคิดว่าพวกเขาอยู่ในสังคมที่มีอารยธรรมอย่างนั้นหรอ?กล้าพูดแบบนี้กับชายที่สามารถเดินไปมาท่ามกลางซอมบี้มากมายบนถนน และยังพูดเหตุผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน  หลินเฉิง อยากจะถามพวกเขาว่าพวกเขายังมีสมองอยู่ในหัวของเขาหรือไม่?ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ หลินเฉิง คงถือวิทยุออกไปเฉยๆ เมื่อ หลินเฉิง หมดความอดทนเขาเองก็ไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับพวกเขาอีกต่อไป

“ขนมปัง 2 ชิ้น!”

หลินเฉิงพูดอย่างเย็นชาต่อหน้าทั้งสามคน

เมื่อพวกเขาได้ยินน้ำเสียง เปลี่ยนไป แม้แต่ขนมปัง 3 ชิ้นของเขาก็ลดเหลือเพียง 2 ชิ้นแต่พวกเขายังคงอดทนที่จะไม่ตอบตกลง

เมื่อมองดูคนโง่ทั้ง 3 คน หลินเฉิง ขมวดคิ้วและพูดย้ำว่า

“ผมพูดว่า 2 ชิ้น จะเอาไหม?”

น้ำเสียงของเฉาหลาน ไม่สุภาพอีกต่อไปเขาพูดขึ้นว่า

“คุณคงล้อเล่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณไปค้นหาวิทยุที่อื่น!”

อย่างไรก็ตามเมื่อ หลินเฉิง ได้ยินคำพูดของ เฉาหลาน เขาหัวเราะเยาะและหยิบวิทยุใส่กระเป๋า จากนั้นเขาเดินออกจากประตูพร้อมทิ้งขนมปัง 1 ชิ้นไว้ในห้อง

เมื่อเห็นพฤติกรรมของ หลินเฉิง ทั้ง 3 คนตกตะลึง เฉาหลาน ต้องการที่จะตอบโต้ทันทีแม้พวกเขาจะกลัว หลินเฉิง แต่พวกเขายังคงลุกขึ้นและติดตาม หลินเฉิง ออกไป

“เดี๋ยว...คุณทำอย่างนี้ไม่ได้ ไหนคุณบอกว่าขนมปัง 3 ชิ้น?”

พวกเขาไล่ตาม หลินเฉิง ออกมาอย่างรวดเร็ว และอยากที่จะยอมรับเงื่อนไขก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังเดินตาม หลินเฉิง ออกมา  หลินเฉิง และใช้ขวานไฟของเขาสับลงบนตู้แสดงของที่อยู่ข้างๆ จากนั้นหันไปมองหน้าทั้งสามคนแล้วพูดว่า

“พวกคุณควรจะดีใจที่ไม่ได้กลายเป็นซอมบี้หรือพวกคุณอยากจะลิ้มรสขวานของผม! ข้อตกลงได้เสร็จสมบูรณ์แล้วผมแนะนำให้ไม่ให้คุณตามผมมาอีก!”

หลังจากนั้น หลินเฉิง ก็ดึงขวานออกจากตู้แสดงสินค้าและเดินออกไป เมื่อมองรอยขวานลึกที่อยู่บนตู้แสดงสินค้าพวกเขาตองกลืนน้ำลายตัวเอง และไม่กล้าไล่ตาม หลินเฉิง อีกต่อไป พวกเขากลับเข้าไปในห้อง แล้วหยิบขนมปังเพียง 1 ชิ้น ก่อนที่จะหายลับเข้าไป

เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู หลินเฉิง ทำได้เพียงส่ายหัวเท่านั้น

หญิงสาวคนนั้นควรจะเป็นพนักงานบัญชีของที่นี่เธอยังคงสวมเสื้อที่มีโลโก้ของร้าน ชายหนุ่ม 1 คนควรเป็นนักเรียน  หลินเฉิง คาดการณ์ว่าเขาอาจจะผ่านไปโรงเรียนโดยแวะที่นี่ก่อน

สำหรับเฉาหลาน

เมื่อนึกถึงชายคนนี้ หลินเฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ  ชายคนนี้คิดว่าตัวเองฉลาดมากหรือไงถึงเอาวิทยุมาข่มขู่รีดอาหารจากเขา เขาไม่คิดหรอว่า หลินเฉิง นั้นเป็นภัยคุกคามสำหรับพวกเขา คนที่สามารถเดินไปมาบนถนนที่มีแต่ซอมบี้จะเป็นคนจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างนั้นหรอ

และคนโง่แบบนี้ยังเสนอตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มของ ทั้งสามคน  หลินเฉิง ได้แต่โศกเศร้าโชคชะตาของ 2 คนที่เหลือเท่านั้น

ธรรมชาติของมนุษย์ที่โลภมาก…

หลินเฉิง โศกเศร้ากับธรรมชาติของมนุษย์อยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่สนใจที่จะคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เขาเดินไปที่ประตูและผลักตู้เก็บของที่กั้นประตูก่อนหน้านี้ออกไปจากนั้นเขาเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง เขาสังเกตสถานีตำรวจที่อยู่ในถนนตรงกันข้าม ในเวลานี้ร่างกายของเขามีเสื้อผ้าที่ป้องกันอย่างแน่นหนาและแว่นตาหิมะที่สามารถมองในวันที่หิมะตก ดังนั้นเขาจึงพร้อมสำหรับจุดประสงค์ที่แท้จริงในการออกมาจากโรงแรมในครั้งนี้!

------------------------------------------