ตอนที่แล้วบทที่ 53 คุณไม่ได้รักฉัน ฉันก็ไม่ได้รักคุณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 55 วันนั้นบังเอิญเห็นคุณหมอซ่งคนนั้นอุ้มเธอเดินออกไปพอดี

บทที่ 54 อิจฉา


บทที่ 54 อิจฉา

 

“ฮ่าๆ กว่านอิงชวนฉันมาน่ะ นานๆ ทีเพื่อนซี้สองคนของฉันจะได้รับบทนางเอกกับนางรองในละคร พี่น้องที่ดีอย่างฉันถึงจะงานยุ่งขนาดไหน ก็ต้องมาคุมสถานการณ์หน่อย” พออ้าปากพูด ความสง่าผ่าเผยของเจียงตั่วเหยาก็มลายหายไปหมด

 

พิธีกรสองสามคนของสถานีที่นั่งรถมาด้วยกันต่างแย่งกันเข้ามาทักทาย

 

“คุณเจียงคะ ยังจำฉันได้มั้ยคะ คราวก่อนที่เกาะบาหลีฉันเป็นพิธีกรที่สัมภาษณ์คุณค่ะ” หลินอวิ้น พิธีกรรายการวาไรตี้วันอาทิตย์พูดอย่างเขินอาย “คิดไม่ถึงจริงๆ ค่ะว่าคุณกับฉางฉิงจะสนิทกันขนาดนี้”

 

“อ๋อ จำได้ค่ะ” เจียงตั่วเหยาอมยิ้ม แล้วจู่ๆ เสียงก็สูงขึ้น “พวกคุณรู้แค่ว่าฉันกับฉางฉิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่ไม่รู้ว่าตอนนั้นฉันกับฉางฉิงยังอยู่หอพักเดียวกันด้วย เราต้องสนิทกันอยู่แล้ว กระโปรงยังแบ่งกันใส่เลย”

 

เจียงตั่วเหยาเป็นดาราวัยรุ่นที่สองปีมานี้โด่งดังเป็นพลุแตก มีแฟนคลับมากมาย พอนักข่าวสองสามคนที่ยืนอยู่ในสวนดอกไม้ได้ยินที่เธอพูดก็พากันถ่ายรูป “แชะๆ” ทันที เยี่ยนฉางฉิงกับเจียงตั่วเหยาเป็นเพื่อนสนิทกัน นี่เป็นข่าวเด็ดเลย

 

“ฉางฉิง คิดไม่ถึงเลยนะ” เซี่ยนั่ว ผู้ประกาศข่าวภาคค่ำพูดด้วยความอิจฉาว่า “คนที่เรียนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกันกับพวกเธอมีคนดังไม่น้อยเลย ยังมีใครที่เป็นเพื่อนสนิทเธอแล้วยังไม่ได้บอกเราอีกมั้ย ปกติเธอก็ชอบเก็บตัวเงียบเสียเหลือเกิน”

 

“ใช่แล้วล่ะ ฉางฉิงของเราเป็นคนที่เก็บเนื้อเก็บตัวมาตลอดเลย” เจียงตั่วเหยาเหลือบมองฉืออี่หนิงที่ยืนอยู่ข้างหลังทีหนึ่งด้วยสายตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “เพราะแบบนี้แหละ คนอื่นก็เลยมักจะคิดว่าฉางฉิงไม่มีใครอยู่ข้างหลัง สามารถรังแกได้ง่ายๆ คุณฉือ คุณว่าอย่างนั้นมั้ยคะ”

 

ทุกคนมองไปทางฉืออี่หนิงเป็นตาเดียวทันที สีหน้าฉืออี่หนิงดูอึดอัดใจ เธอกำหมัดแน่น แต่ก็ไม่กล้าปะทะกับเจียงตั่วเหยา ได้แต่เค้นรอยยิ้มบางๆ ออกมา “ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ ที่สถานีพี่ฉางฉิงได้รับการเคารพจากรุ่นน้องอย่างพวกเราอยู่ตลอด โดยเฉพาะฉัน ฉันเคารพพี่เขาเป็นพิเศษเลยค่ะ”

 

เยี่ยนฉางฉิงลูบขนที่ลุกชูชันขึ้นมา ฉืออี่หนิงคนนี้ แสดงได้เก่งกว่าเธอเสียอีก

 

เจียงตั่วเหยาเองก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความสนอกสนใจ แต่ขณะที่กำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆ ฉางฉิงก็ดึงแขนเธอไว้พร้อมกับยิ้มแฉ่ง “ได้เวลาแล้วล่ะ เข้าไปในงานกันก่อนเถอะ ฉันชักหิวขึ้นมานิดๆ แล้ว”

 

ฉางฉิงกับเจียงตั่วเหยาเดินเคียงกันอยู่ด้านหน้า ตั่วเหยาไม่ค่อยพอใจ “เธอพูดอยู่ตลอดไม่ใช่รึไงว่าฉืออี่หนิงรังแกเธอน่ะ วันนี้ฉันอยู่ด้วยพอดี ฉันอยากจะช่วยเธอระบายความแค้นสักหน่อย”

 

“เธอแสดงออกชัดเจนพอแล้วล่ะ” ฉางฉิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ แต่ยังไงนี่ก็เป็นเรื่องในสถานีของเรา ฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาพัวพันด้วย ฉืออี่หนิงคนนี้ฉันสู้รบตบมือด้วยมาสองปีแล้ว เธอเป็นพวกคนพาล ทำได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตั่วเหยา ถึงตอนนี้เธอจะดังแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นคงขนาดหร่วนยั่ง เพราะงั้นเธอยิ่งควรระวังให้มากๆ ดีไม่ดีอาจจะได้ชื่อว่าวางท่าใหญ่โตกับรังแกกดขี่พิธีกรก็ได้”

 

เจียงตั่วเหยาตะลึงงัน แล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โห เด็กคนนี้ เดี๋ยวนี้หัวไวกว่าฉันซะอีก ตอนแรกฉันยังห่วงอยู่เลยว่าเธอดูซื่อบื้ออาจไม่เหมาะกับอาชีพนี้ แต่หร่วนยั่งบอกว่าเธอไม่ได้โง่ เธอมองทะลุปรุโปร่งเลย”

 

“เวลาที่ไม่ควรโง่ ฉันก็เข้าใจอะไรเป็นอย่างดีนะจะบอกให้” มุมปากของฉางฉิงอมยิ้มอย่างภูมิใจทันที

 

แต่พอเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นชายหญิงที่กำลังเดินมา ฉางฉิงก็ยิ้มไม่ค่อยออกสักเท่าไร

 

ภายใต้โคมระย้าแก้วที่สว่างไสว คืนนี้กว่านอิงมาในชุดกระโปรงยาวสีขาว ดูสวยงามสง่าผ่าเผยและใสบริสุทธิ์ ส่วนฟู่อวี้ที่อยู่ข้างกายเธอก็สวมชุดสูทสีดำสนิท ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีชมพู ไม่ได้ผูกเนกไท อีกทั้งยังปลดกระดุมออกสามเม็ดด้วย ในความเย็นยะเยือกนั้นก็มีกลิ่นอายความเป็นอันธพาลเจืออยู่เล็กน้อย

 

ฉางฉิงไม่เคยเห็นฟู่อวี้แบบนี้มาก่อน

 

แต่การที่ผู้ชายที่ดูนิ่งสุขุมเป็นผู้ใหญ่เผยกลิ่นอายความเป็นอันธพาลนิดๆ ออกมา จะมีแต่ทำให้ผู้หญิงยิ่งหลงใหลและใจเต้นโครมครามมากขึ้น

 

อย่างน้อยที่สุดในคืนนี้ฟู่อวี้ก็เป็นจุดสนใจเพียงหนึ่งเดียวในสายตาของสาวๆ

 

ทว่าเวลานี้ผู้ชายคนนี้กลับมีกว่านอิงควงแขนอย่างใกล้ชิดสนิทสนม รอยยิ้มที่หวานละมุนบนใบหน้าเธอดูมีความสุขเหมือนกับดอกไม้ที่เพิ่งผลิบาน

 

ในใจฉางฉิงเกิดความรู้สึกอิจฉาที่เจ็บปวดรวดร้าวขึ้นมา

 

ทำไมฟู่อวี้ถึงไม่ชอบเธอนะ

 

“พวกเธอสองคนทำไมป่านนี้เพิ่งจะมาถึงล่ะ” กว่านอิงยิ้มสวยหวาน

 

“เมื่อกี้คุยกับพิธีกรสถานีเดียวกับฉางฉิงที่ด้านนอกงานอยู่น่ะ” เจียงตั่วเหยากับฟู่อวี้จับมือทักทายกัน “ประธานฟู่ คืนนี้คุณดูหล่อเนี้ยบจริงๆ ค่ะ”

 

“งั้นเหรอครับ” หางตาของฟู่อวี้ค่อยๆ ฉายแววมีความสุขออกมา “แล้วฉางฉิงล่ะคิดว่าไงบ้าง”

 

จู่ๆ สายตาเขาก็มองมาที่เธอ ฉางฉิงถึงกับงงงัน ในใจของกว่านอิงเองก็บีบรัดแน่น พอนึกถึงสิ่งที่เสิ่นลู่พูดกับเธอที่โรงพยาบาล เธอก็หันไปมองฟู่อวี้ทันที

 

..............................................

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด