ตอนที่ 123 เปิดม่านแห่งสงคราม

ในสำนักงานใหญ่ ผู้อำนวยการใหญ่กู่หุ่ยและผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองจ้องโทรศัพท์บนโต๊ะเขม็ง ส่วนเฟิงจุนยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าประหม่า

 

“เราสามารถแกะรอยได้ไหม?”

ช่างเทคนิคตอบกลับอย่างลังเล“เราไม่อาจเจาะระบบป้องกันการแกะรอยได้ เขามีทักษะการเขียนโปรแกรมที่สูงมาก”

เส้นเลือดปูดบนขมับของกู่หุ่ย ไอหมอนั่นกลายเป็นแฮคเกอร์ไปตอนไหน?ทำไมฉันถึงไม่รู้?

หลังใคร่ครวญ กู่หุ่ยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“หานเซี่ยว คุณออกจากแผนก13ไปโดยไม่ได้รับอนุญาติ คุณได้ละเมิดกฏของเรา พฤติกรรมนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้!”

หานเซี่ยวหัวเราะและกล่าว“คุณอยากถามว่าผมจะกลับไปตอนไหน ใช่ไหม?”

“คุณควรรู้ดีกว่าผม!”กู่หุ่ยกล่าว

“ผมจะไม่กลับไป”

“คุณคิดแปรพักตร์?”ดวงตาของกู่หุ่ยมืดหม่น และน้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนไป

“คุณเข้าใจผิดแล้ว”หานเซี่ยวพูดช้าๆ“ผมยังอยากร่วมงานกับพวกคุณ แต่วิธีทำงานต้องเปลี่ยนไป”

กู่หุ่ยขมวดคิ้ว“คุณหมายความว่าไง?”

คนอื่นในห้องเงี่ยหูรอฟังคำตอบของหานเซี่ยว

ด้วยการกดแค่ครั้งเดียว หานเซี่ยวได้วางสายโทรศัพท์

ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองไม่แสดงอารมณ์ แต่ตาที่กระตุกไม่หยุดก็เผยให้เห็นพายุในใจเขา

กู่หุ่ยสูดหายใจลึกและคิดกับตัวเอง ฉันคือผู้อำนวยการใหญ่ ฉันไม่อาจทุบโต๊ะได้ ฉันคือผู้อำนวยการ ฉันไม่อาจทุบโต๊ะ

ติ้ง!

โทรศัพท์สั่นพร้อมข้อความใหม่

กู่หุ่ยหรี่ตาและเปิดข้อความ หน้าข้อมูลปรากฏในมุมมองเขา เขารู้สึกงุนงงกับเนื้อหามัน

มันคือข้อมูลทั้งหมดบนฐานขององค์กรต้นกำเนิดในทวีปทางใต้ มันมีรายละเอียดสมบูรณ์พร้อม!

นี่คือความหมายของการเปลี่ยนวิธีทำงาน?กู่หุ่ยไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม ความโกรธในใจเขาก็ลดลง

นี่คือข้อมูลที่พวกเขาต้องการมาตลอดและหานเซี่ยวก็มอบมันให้พวกเขาอย่างง่ายดาย

เขาจริงใจ!

กู่หุ่ยลบความคิด หานเซี่ยวแสดงความจริงใจอย่างไม่คาดฝัน ปัญหาคือเขาควรจัดการกับตัวตนของหานเซี่ยวยังไง หากเขาพูดว่าเขาเป็นผู้หลบหนี การกระทำเขาจะเป็นประโยชน์ต่อมังกรดารา แต่การพูดว่าหานเซี่ยวจะกลับแผนก13ย่อมไม่เป็นความจริง หานเซี่ยวพูดเป็นการส่วนตัวแล้วว่าเขาจะไม่กลับมา

หลังคิดสักพัก กู่หุ่ยก็ตัดสินใจ

 

“หยุดการค้นหาตัวหานเซี่ยว เก็บข้อมูลสายลับเขาไว้เป็นความลับ และย้ายไฟล์เขาไปยังไฟล์สายลับภาคสนาม”

เฟิงจุนตกตะลึง การตัดสินใจของผู้อำนวยการใหญ่หมายความว่าแผนก13จะคืนดีกับหานเซี่ยว พวกเขายอมรับพฤติกรรมของหานเซี่ยวและถือว่าเป็นหนึ่งในพวกเขา

แผนก13รับผิดชอบการจัดการสายลับภาคสนาม สายลับจะถูกว่าจ้างภายใต้แผนก13 แต่พวกเขาก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มีแค่สายลับที่เกษียณหรือสายลับพิเศษบางคนจึงได้รับสิทธิพิเศษนี้

แม้เฟิงจุนจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหานเซี่ยวมาก พวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์อันดี เฟิงจุนมีความสุข อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ต้องเป็นศัตรูกัน

ด้วยข้อมูลในมือ กู่หุ่ยอารมณ์ดีมาก เขาชมผู้อำนวยการข่าวกรองเบาๆและคิดออกไป แต่เลขาในแผนกข่าวกรองก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาเสียก่อน

 

“ผู้อำนวยการใหญ่!ผู้อำนวยการ!หน่วยสืบลับจากเฮสล่า เมเปิ้ล ออดิน่า ธีซุสและเรย์เร็นได้ยื่นเรื่องขอติดต่อสื่อสารกับเราครับ!”

 

สีหน้าของกู่หุ่ยแข็งค้าง

มีแค่เหตุการณ์เร่งด่วนจึงทำให้หน่วยลับของแต่ละประเทศติดต่อกัน มันนานหลายปีแล้วที่ไม่เกิดการประชุมระหว่าง6ประเทศขึ้น

ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ กู่หุ่ยเดินไปยังห้องประชุม บุคคลทั้งห้าปรากฏบนหน้าจอ พวกเขาคือผู้นำของหน่วยลับจากห้าประเทศ  พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับกู่หุ่ย

“เกิดอะไรขึ้น?”กู่หุ่ยถาม

 

ทันทีที่เขาพูด เขาก็พบว่าทั้ง5คนกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ ทำให้เขารู้สึกสับสน

ตัวแทนจากออดิน่าริเริ่มและพูด“อืม...ผู้อำนวยการแผนก13 คุณ...คุณรู้จักซีโร่ ชายที่องค์กรต้นกำเนิดต้องการตัวมากสุดไหม?”

กู่หุ่ยตกตะลึง เขารู้สึกไม่ดี

“สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราทั้ง5ได้รับข้อมูลจากซีโร่ รวมถึงแผนที่ของฐานลับองค์กรต้นกำเนิดทางใต้ ออก และทวีปตอนเหนือ เรามักระวังเกี่ยวกับข้อมูลจากแหล่งแปลกๆ แต่เขาได้เน้นยำคำหนึ่งกับเรา”

“แผนก13ของมังกรดาราสามารถเป็นพยานถึงความน่าเชื่อถือของผมได้”

“เรามาที่นี่เพื่อขอคำอธิบายกับคุณ”

 

แก!แกกลับส่งข้อมูลให้ทุกประเทศและยังหวังให้เราเป็นพยานให้อีกเรอะ!หานเซี่ยว แกหลอกเราอีกแล้ว!

กู่หุ่ยเกือบหมดสติจากความตกใจ ในหัวสมองเขามีแต่ใบหน้าที่กำลังแสยะยิ้มของหานเซี่ยว

....

ชุดอุปกรณ์เขา-ปืนไรเฟิลซุ่มยิงผีไม่สมบูรณ์ รองเท้าแม่เหล็กไฟฟ้า หน้ากากจำลองใบหน้า และเกราะแม่เหล็กเต็มชุด พวกมันสามารถรองรับสไตล์การต่อสู้หลากหลายรูปบบได้ นี่คือกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างกล เนื่องจากอุปกรณ์ที่เขาผลิตมีคุณสมบัติเกินระดับเขา มันจึงช่วยยกระดับความสามารถเขาไปมาก

ด้วยอุปกรณ์ที่เขาดัดแปลง พลังงานเขาอยู่ที่ประมาณ1100โอน่า เขาถือเป็นยอดมนุษย์ระดับกลางของอความารีน นอกจากนี้ หานเซี่ยวยังมีความสามารถของNPCอย่าง[รากฐานชีวิตขั้นพื้นฐาน]

[เจตจำนงค์แห่งเพลิง]ได้รับการอัปเกรดเป็นระดับ5 และการเพิ่มพลังต่ำสุดก็คือ138% แม้นี่จะดูไม่มาก ด้วยการลอบโจมตีและการโจมตีจุดอ่อน เขาก็ยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถได้มาก

ตราบเท่าที่เขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับพวกบ้าพลังเหมือนเบนเน็ต หานเซี่ยวก็ควรรับมือกับทุกคนได้ง่ายๆ ดังนั้น ภารกิจลอบสังหารจากสมาคมสนธิสัญญาโลหิตจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หานเซี่ยวทำภารกิจสำเร็จมากขึ้นและมากขึ้น เขาได้รับค่าประสบการณ์และทุนทรัพย์จำนวนมาก และเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน มิสเตอร์แบล็คกลายเป็นชื่อที่กองกำลังใต้ดินต่างหวาดกลัว เขาทำให้ตัวเองกลายเป็นอันดับ10บนกระดานนักฆ่า จนได้รับชื่อเสียง

ในขณะเดียวกัน โลกมืดก็ได้มอบฉายาใหม่ให้หานเซี่ยว-ปีศาจทมิฬ!

 

ตำนานชื่อเสียงสากล(อความารีน) : ปีศาจทมิฬ(รายชื่อนักฆ่าตาข่ายมืด)

ตำนานเล่าว่าเขามาจากความมืดมิด มีใบหน้านับพัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะมาตอนไหน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะหายไปตอนไหน

เมื่อคุณเห็นเขา รอยจูบแห่งความตายจะประทับบนหน้าผากคุณ ทิ้งรูกระสุนไว้ เขาทิ้งกระสุนไว้และพรากชีวิตไป

 

มันฟังดูเท่....

ในความจริง เมื่อเขารู้ว่าเขาได้รับฉายามา หานเซี่ยวก็ไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกยังไง

ปีศาจทมิฬ...ทำไมถึงไม่เรียกฉันว่าเทพบุตร?

หานเซี่ยวเป็นหนึ่งในสมาชิกที่โด่งดังสุดในโลกมืดตอนนี้ และเขายังได้รับหนังสือดีๆของสมาคมอีกด้วย พวกเขาแม้กระทั่งยื่นข้อเสนอต่างๆ ในที่สุดธุรกิจพวกเขาก็หยุดตกตั้งแต่ปีศาจทมิฬโด่งดัง ธุรกิจพวกเขายังเติบโตขึ้น ดึงดูดนักฆ่าคนอื่นให้เข้าร่วม

อย่างไรก็ตาม สองเดือนต่อมา ความสนใจของทั้งโลกก็ยุ่งอยู่กับอีกเหตุการณ์ใหญ่!

ในฐานะประเทศอารยธรรมสุดท้ายบนอความารีน 6ประเทศทรงพลังจนทุกอย่างที่พวกเขาทำจะส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกมืด พวกหัวรุนแรง หรือองค์กรต่างๆ ทุกคนมักจับตาดูการกระทำของ6ประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของด้านการทหาร

หลังสงครามจบลง สมดุลของระเบียบและความโกลาหลบนดาวก็เปราะบาง สงครามยังเกิดเป็นครั้งคราว เปิดเผยหรือซ่อนเร้น และมันก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของ6ประเทศที่จะปกปิดและแสร้งทำเป็นสงบสุข

สถานการณ์แสนเปราะบางได้พลิกเปลี่ยนหลังผ่านไปสองเดือน 6ประเทศได้ส่งกองกำลังออกมาเกือบพร้อมกัน กองทัพหวาดไปทั่วสามทวีป กวาดล้างฐานขององค์กรต้นกำเนิดทีละฐาน มันสั่นสะเทือนไปทั่วโลก

สงครามเกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า!

โลกตกอยู่ในความสับสบอลหม่าน หลายคนเริ่มกลัวว่าฝันร้ายของวันวานจะระเบิดอีกครั้ง บาดแผลของสงครามยังไม่ฟื้นตัวดีและไม่มีใครอยากให้เกิดภัยพิบัติอีกครั้ง

แม้แต่ภายใน6ประเทศ ประชาชนนับล้านก็ออกมาเพื่อประท้วงต่อต้านสงคราม แต่รัฐบาลกลับทำตัวเหมือนคนหูหนวก สำหรับพวกเขา องค์กรต้นกำเนิดคือเชื้อร้าย ในฐานะองค์กรก่อการร้ายที่สร้างขึ้นเพื่อล้มล้าง6ประเทศ ความขัดแย้งระหว่าง6ประเทศและองค์กรต้นกำเนิดจึงสืบย้อนไปสู่สงครามเก่าได้ องค์กรต้นกำเนิดได้ทำการรวบรวมพวกนอกกฏหมายและผู้ก่อกบฏที่คิดล้มล้าง6ประเทศ

จนถึงตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายเหมือนน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง มันเป็นโอกาสอันดีที่จะจัดการกับองค์กรต้นกำเนิด พวกเขาจะพลาดมันได้ยังไง?

สำหรับผู้ที่ได้รับข้อมูล พวกเขาไม่แปลกใจกับท่าทีดุดันของ6ประเทศ-ทำไม6ประเทศจึงลงมือพร้อมกัน และพวกเขารู้ฐานลับขององค์กรต้นกำเนิดได้ยังไง?

มีความเป็นไปได้เดียว-มีคนได้มอบข้อมูลให้กับเขา!

อีกทางหนึ่ง บุคคลลึกลับที่ให้ข้อมูลคือผู้ชักใยตัวจริง!

หลังการสอบถามจำนวนมาก ชื่อของชายคนนั้นก็รั่วไหลออกจาก6ประเทศ

ซีโร่!

คนทรยศขององค์กรต้นกำเนิด!

โลกมืดตกตะลึง

ในบรรดาคนนอกกฏหมายที่องค์กรต้นกำเนิดพาตัวไป มีคนทรยศในอดีตอยู่มาก แต่พวกเขาทั้งหมดต่างซ่อนตัวเหมือนหนูข้างถนนที่กลัวจะถูกตามล่า ซีโร่คือคนเดียวที่กล้าโต้กลับองค์กรต้นกำเนิดอย่างเปิดเผย

ซีโร่ได้ข้อมูลไปมากแค่ไหน?เขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์กรต้นกำเนิดก่อนแปรพักตร์?

หลายคนสับสน

ทั้งหมดเป็นเรื่องลึกลับ ไม่มีทางที่ใครจะหาคำตอบได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ป้องกันขุมอำนาจหลักจากการเพิ่มชื่อ’ซีโร่’ในรายชื่ออันตราย

...

“สงครามกำลังจะเริ่ม...”

เบนเน็ตเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยรอยย่นบนใบหน้า อารมณ์เขาหดหู่เหมือนท้องฟ้า

หวางหยวนกระซิบจากด้านข้าง“ดูเหมือนเราต้องเตรียมแผนพักพิงล่วงหน้าก่อนกำหนด”

“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่ได้เตรียมไว้...”เบนเน็ตส่ายหัว“ฉันคิดว่าเราไม่อาจเตรียมตัวได้เต็มที่ ลองดำเนินตามแผนก่อน ติดต่อพันธมิตรบางส่วนและรับนักสู้อิสระมาเข้าร่วมกับเรา เราต้องระดมกำลังทั้งหมด”