ตอนที่แล้วตอนที่ 78 อหังการ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 80 ทำเนียบมังกรปฐพี

ตอนที่ 79 ซูหลี


ที่มุมหนึ่งบนลานประลอง ปากของหนานกงจี้นั้นเต็มไปด้วยเลือด เขายืนขึ้นช้าๆการแสดงออกของเขานั้นดุร้ายและเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

ใช่ เขาไม่เต็มใจ เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้แก่เจียงวู่เฉิงก็ตาม

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่าเขาได้พ่ายแพ้ให้แก่เจียงวู่เฉิง เขาไม่สามารถทำเป็นเล่นได้ ในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงแค่สั่นเทาด้วยความโกรธและจ่าย12000คะแนนให้เจียงวู่เฉิง

ในอีกด้านหนึ่ง ศิษย์สองคนที่ให้หนานกงจี้ยืมคะแนนไปนั้นมีใบหน้าซีดเซียว

หลังจากเห็นคะแนนมากถึง12000คะแนน เจียงวู่เฉิงก็ยิ้มกว้างและมองไปที่หนานกงจี้อีกครั้ง"หนานกงจี้ ข้ามีคำพูดที่จะบอกแก่เจ้า ความผิดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาตินั้นสามารถที่จะให้อภัยได้ แต่ความชั่วช้าที่เกิดขึ้นโดยมนุษย์นั้นไม่น่าจะให้อภัย"

หนานกงจี้สั่นเทาทั้งร่างกายและจิตใจ

ทันใดนั้น…

"มันเป็นคำพูดที่ดี ศิษย์ใหม่คนนี้เริ่มที่จะหยิ่งจองหองขึ้นเรื่อยๆ"

เสียงดังออกมาจากรอบๆลานประลอง ตามมาด้วยชายที่สวมเสื้อคลุมสีแดงที่สะพายดาบอยู่ด้านหลังของเขา

ทุกคนหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา

"ซูหลี!"

"เป็นเขา?"

"ทรราชซูหลี!"

หลังจากเห็นเขา ศิษย์หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจอย่างเย็นยะเยือก เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวผู้ชายคนนี้

"ซูหลี! ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?"การแสดงออกของหวางหยวนเปลี่ยนแปลงทันที หลังจากเห็นคนผู้นี้

"ใครคือซูหลี"ในช่วงเวลานั้น หยางจู่ซวน ผู้ที่มีนิสัยเย็นชาและเต็มไปด้วยความเงียบงันอยู่เสมอขมวดคิ้วและถาม เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่เหมือนที่เขาได้รับจากไป่เฉิงตั้งแต่ครั้งที่เข้าร่วมวังมังกรเมื่อสามเดือนที่แล้ว

"เขาเป็นคนที่เผด็จการอย่างมาก ซูหลีเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในหมู่ศิษย์ของวังมังกร ซูหลีเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถจะเทียบกับไป่เฉิงได้ ก่อนที่น้องสองจะเข้าร่วมวังมังกร"หวางหยวนกล่าว

เมื่อได้ยินอย่างนี้ หยางจู่ซวนก็อดไม่ได้ที่จะมองไป

"นักรบที่อยู่ในขั้นอาณาแก่นทองคำพ่ายแพ้ให้แก่ศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมวังมังกรได้เพียงสามเดือน ไม่เพียงเท่านั้นศิษย์ใหม่คนนั้นยังอยู่เพียงขั้นอาณาทะเลลมปราณเท่านั้น หนางกงจี้เจ้าต้องอับอายอย่างแน่นอน"ชายผู้แข็งแกร่งซูหลีพูดพร้อมกับหัวเราะ

หนานกงจี้มองหน้าเขาขณะที่ใบหน้าซีดขาว

หากเป็นคนอื่นพูด เขาคงจะโกรธเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมาโดยซูหลีซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม"ทรราช" เขากลัวที่จะแสดงอารมณ์ออกมาต่อหน้าซูหลี

ซูหลีเหลือบมองไปที่หนานกงจี้ แต่เขาขี้เกียจเกินไปที่จะพูดต่อ เขามองไปที่เจียงวู่เฉิงและพูดว่า"หนุ่มน้อย เจ้าคือนักดาบ?"

"ใช่"เจียงวู่เฉิงพยักหน้าอย่างจริงจัง

เมื่อซูหลีปรากฏตัวต่อหน้าเขา รูขุมขนทั้งหมดในร่างของเขาต่างตั้งชัน ความรู้สึกคล้ายกับถูกจ้องมองโดยสัตว์โบราณที่ดุร้าย

เจียงวู่เฉิงเข้าใจในทันทีว่าความแข็งแกร่งของซูหลีนั้นน่าหวาดกลัวอย่างมาก

"ข้าได้ยินเรื่องเจ้ามานาน เจ้าได้เข้าทดสอบประตูมังกรและผ่านเพียงชั้นที่สี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่ผ่านมาสามเดือนเจ้าควรจะสามารถผ่านชั้นที่เจ็ดได้ด้วยความเข้าใจในแก่นแท้แห่งสวรรค์และโลกของเจ้า ความก้าวหน้าของเจ้านั้นไร้ผู้เปรียบเทียบ ข้าอดไม่ได้ที่จะไม่สนใจอัจฉริยะอย่างเจ้า ทำไมเจ้าไม่มาสู้กับข้าล่ะ?"ซูหลีพูดอย่างเป็นทางการ

"ต่อสู้กับเจ้า?"เจียงวู่เฉิงเปลี่ยนสีหน้าของเขา แต่เขาส่ายหัวโดยไม่ลังเลและพูดว่า"ขอโทษ แต่ข้าไม่สนใจ"

เจียงวู่เฉิงไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับซูหลี

เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะความแข็งแกร่งของเขาน่ากลัวอย่างมาก

แม้ว่าเขาจะไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งออกมาต่อหน้าเจียงวู่เฉิง แต่เจียงวู่เฉิงก็รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายคนนี้

มันยากที่จะบอกว่าเขาจะสามารถรับกระบวนท่าของซูหลีได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว

ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมากเกินไป และเจียงวู่เฉิงก็ไม่ต้องการที่จะถูกทำร้าย

"เจ้าปฏิเสธข้างั้นเหรอ?"สีหน้าของซูหลีขุ่นมัว แต่ทันใดนั้นเขายิ้มและพูดว่า"ข้าไม่ต้องการที่จะเดิมพันกับเจ้า ข้าเพียงต้องการที่จะต่อสู้กับเจ้า เจ้ากลับปฏิเสธ...กล้าขนาดนั้น?"

บูม!

พื้นใต้เท่าของซูหลีระเบิดทันทีและร่างของซูหลีก็พุ่งไปข้างหน้า เมื่อเขามองแวบแรกดูเหมือนว่าเปลวไฟที่ร้อนแรงกำลังพุ่งเข้าหาเจียงวู่เฉิงอย่างดุเดือด

"ไม่นะ!"

ในขณะที่ซูหลีเริ่มเคลื่อนไหว ร่างสองร่างก็รีบพุ่งออกมาจากด้านหลังของเจียงวู่เฉิง

คนสองคนนี้คนนึงคือหยางจู่ซวน และอีกคนซูรู

สำหรับหวางหยวนเขาทำได้เพียงแค่ยืนมอง เพราะเขาผ่านเพียงแค่ชั้นที่สี่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะช่วยเจียงวู่เฉิงได้

ด้านหน้าของเจียงวู่เฉิงนั้นมีเงาสองร่างปรากฏขึ้นพร้อมกัน

ดวงตาของหยางจู่ซวนเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเขาก็ดึงดาบเขาเขาออกมา

ในมือซูรูปรากฏดาบยาวสองเมตร มันเป็นดาบที่ยาวและหนาเป็นอย่างมาก ร่างอันผอมเพรียวของนางยกมันขึ้นมาและฟันออกไป

"ฮ่าฮ่า พวกเจ้าคิดจะหยุดข้า?"

ซูหลีหัวเราะขณะที่กำลังกำมือ จากนั้นเปลวเพลิงที่น่ากลัวเต็มไปด้วยแก่นแท้แห่งไฟก็ถูกปลดปล่อยออกมา ราวกับว่ามันสามารถเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ จากนั้นซูหลีก็ใช้กำปั้นของเขาจู่โจมโดยตรง

ทันใดนั้นพลังที่รุนแรงก็พุ่งเข้าหาพวกเขา

หยางจู่ซวนเป็นคนที่ผ่านชั้นที่แปดของประตูมังกร

ซูรูเองก็ผ่านชั้นที่เจ็ด

สำหรับซูหลีความแข็งแกร่งของเขานั้นเทียบเท่ากับนักรบที่ผ่านชั้นที่เจ็ด

"ปัง!ปัง!"

สองเสียงดังขึ้นมาจากการปะทะ และร่างของหยางจู่ซวนและซูรูก็กระเด็นถอยหลัง

ในวินาทีต่อมาซูหลีก็ได้ออกหมัดอีกครั้ง กำปั้นนี้พุ่งเข้าหาเจียงวู่เฉิง เจียงวู่เฉิงรีบยกดาบของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและใช้เพลงดาบก่อเกิดด้วยพลังเต็มที่และพยายามที่จะหลบเลี่ยง

"ปัง!"

พลังที่น่าสะพรึงกลัวมาถึง พลังนั้นเกินกว่าที่เจียงวู่เฉิงจะสามารถหลบได้ แม้ว่าจะมีเพลงดาบก่อเกิดเข้ามาลดการปะทะ ต่อจากนั้นเจียงวู่เฉิงถูกทำให้กระเด็นกลับมาภายใต้แรงอันน่าสะพรึงกลัวและตกลงที่พื้นด้านหลัง

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ!

ทุกคนในลานประลองต่างตกใจ เสียงที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวคือเสียงกลืนน้ำลายจากศิษย์วังมังกร

"น่ากลัว!"

คำพูดที่คล้ายกันสะท้อนอยู่ในใจของทุกคน

มันช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ เพียงแวบเดียวเจียงวู่เฉิง,หยางจู่ซวนและซูรูก็พ่ายแพ้โดยไม่สามารถที่จะดิ้นรน

"แข็งแกร่ง!"เจียงวู่เฉิงลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆและเช็ดเลือดออกจากริมฝีปากของเขา ปรากฏร่องรอยความตกใจในดวงตาของเขา

"การบ่มเพาะพลังลมปราณของเขาได้ไปถึงขั้นสูงสุดอาณาแก่นทองคำ ไม่เพียงเท่านั้นความเข้าในแก่นแท้แห่งสวรรค์และโลกของเขาก็สูงกว่าข้ามาก!"เจียงวู่เฉิงคิดอย่างลับๆ

"ข้าผ่านชั้นที่แปดของประตูมังกรแล้ว แต่ด้วยการโจมตีของเขา ข้ารู้ว่าความเข้าใจแก่นแท้แห่งสวรรค์และโลกของเขานั้นต้องสูงกว่าข้าอย่างแน่นอน"หยางจู่ซวนกล่าวอย่างจริงจัง

"พวกเจ้าทั้งสอง"ซูหลีจับมือของพวกเขาและพูดกับเจียงวู่เฉิงและหยางจู่ซวน"ข้ามีคำแนะนำบางอย่างสำหรับพวกเจ้าที่เป็นศิษย์ใหม่ พวกเจ้าควรจะปิดบังความแข็งแกร่งเอาไว้ วังมังกรนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเจ้าคิด สิ่งที่พวกเจ้าเห็นมันเป็นเพียงส่วนเล็กๆของภูเขาน้ำแข็ง"

สิ่งที่พวกเขาเห็นในวังมังกรจนถึงตอนนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆของภูเขาน้ำแข็ง!

ซูหลีขี้เกียจเกินกว่าที่จะอธิบายสิ่งอื่นและเขาก็ต้องการที่จะจากไป แต่ก่อนที่เขาจะไป เขาก็ไปหันมองที่ด้านข้างยิ้ม เขายิ้มและพูดว่า"ไป่เฉิง เจ้าได้ดูมานานแล้ว เจ้าดูจนพอรึยัง? ถ้าเจ้าอยากจะสู้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสู้กับเจ้า"

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด