ตอนที่แล้วSH.18 – ผู้อัญเชิญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.20 – อัพเกรดดาบศักดิ์สิทธิ์

SH.19 - หัวใจกากอย


19 - หัวใจกากอย

“คุณโรดส์! พวกเราเจอแล้ว!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ โรดส์หันกลับไปมองทันทีและมองไปยังแมทที่ยืนอย่างมีความสุขอยู่ที่ประตูทางเข้าโบสถ์ เขาถือรูปปั้นที่งดงาม มันเป็นรูปปั้นของกากอยทั้งสองตัววกำลังโค้งคำนับ ดวงตาของพวกเขาทำมาจากทับทิม เปล่งแสงแวววาว

นั่นคืออุปกรณ์ควบคุม!

การกระทำของแมทดึงดูดความสนใจของกากอยทั้งสองตัวอย่างมาก ในฐานะสิ่งมีชีวิตเล่นแร่แปรธาตุ พวกมันรู้ดีว่ารูปปั้นพวกนั้นคืออะไร ดังนั้น กากอยทั้งสองเปลี่ยนความสนใจไปที่แมททันที

“ว้ากกก!”

เมื่อพบว่ามอนสเตอร์ทั้งสองกำลังพุ่งมาทางเขา แมทกรีดร้องออกมา เขาอยากจะวิ่งหนีแต่ในเวลานั้น โรดส์ตะโกนใส่เขา

“โยนข้ามมา!”

แมทหยุดชะงักเมื่อเขาได้ยินเสียงของโรดส์ และเมื่อเขามองไปที่กากอยทั้งสองที่กำลังตรงมาทางเขา เขาไม่มั่นใจว่าเขามีความสามารถในการทำลายมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาใช้ความคิดและขว้างรูปปั้นสีดำนั้นออกไป

พ่อค้าร่างอ้วนขว้างได้แย่มาก ถ้าเขาโยนให้มันลอยไปในวิถีโค้ง มันจะโค้งและร่วงลง แต่ทิศทางที่เขาโยนนั้นตรงข้ามกับที่เป้าหมายที่เขาตั้งใจไว้ อาจจะพูดได้เลยว่าเขาไม่ได้ตั้งใจขว้างไปที่โรดส์ แต่เขาโยนมันให้กับกากอยทั้งสองตัวแทน

ถ้าใครซักคนกำลังดูฉากนี้ เขาคงเชื่อว่าแมทกำลังช่วยกากอยทั้งสองแทนที่จะช่วยโรดส์ กากอยทั้งสองประหลาดใจและจ้องมองของขวัญที่กำลังลอยมาหาพวกมัน แต่ในขณะที่พวกมันกำลังเหยียดกรงเล็บไปคว้ารูปปั้นเล็กๆนั้น

ราวกับว่าพวกมันกำลังจะทำสำเร็จ ทันใดนั้นสายลมพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันคือวิหควิญญาณล่องหน! มันพุ่งผ่านอากาศและคว้ารูปปั้นไปก่อนที่กากอยจะทันสังเกต

การเคลื่อนไหวเหล่านี้โรดส์ใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย ไม่ว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดจะเหลือเท่าไหร่ เขาเก็บดาบและทำสัญลักษณ์มือด้วยมือขวา

วิหควิญญาณกำลังบินกลับมาหาโรดส์เมื่อได้ยินเสียง กากอยทั้งสองหยุดอยู่ระหว่างทาง สายตาของพวกมันมุ่งเป้าไปที่โรดส์อีกครั้ง

“วูซซซซ!!”

กากอยที่อยู่บนพื้นหมุนตัวและตวัดหางไปทางวิหควิญญาณ มันไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆได้ เนื่องจากเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตธาตุลมที่ก่อตัวขึ้น

ทันใดนั้น กรงเล็บโผล่มาจากท้องฟ้าและฟาดไปยังร่างของวิหควิญญาณ การคงอยู่ของธาตุลมไม่สามารถคงสภาพไว้ได้ มันสลายหายไป รูปปั้นสีดำลอยไปตามทิศทางเดิม เงาขนาดใหญ่ทั้งสองปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกมันพยายามใช้กรงเล็บและอ้าปากคว้ารูปปั้นที่อยู่ตรงหน้า แต่พบว่ามันได้ตกไปอยู่ในมือของโรดส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

[ได้รับอุปกรณ์ควบคุมกากอยที่กำหนดไว้]

[คำสั่ง---]

“Aig” (แปล : คำสั่งให้หยุด)

โรดส์พูดด้วยเสียงต่ำ กากอยที่มีท่าทีไม่เป็นมิตรหยุดทันที แสงสว่างจ้าสว่างบนร่างของกากอย ดวงตาสีแดงกล่ำหายไปในทันที เงาขนาดใหญ่ทั้งสองพุ่งผ่านโรดส์กระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง

ตูม!!! ตามมาด้วยอาการสั่นๆ กากอยสูญเสียพลังและถูกเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้น ตอนนี้พวกมันนั่งอยู่ข้างๆโรดส์ หลังจากสูญเสียพลังเวทมนตร์ พวกมันไม่น่ากลัวอีกต่อไป เศษซากของพวกมันกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

“เฮ้อออ....”

โรดส์ถอนหายใจออกมา ในขณะนั้น เขารู้สึกไม่มีแรง เนื่องจากเขาใช้พลังวิญญาณมากเกินไป เขาไม่มีแรงที่จะยืน แม้แต่แขนขวาที่ถือรูปปั้นอยู่ก็รู้สึกไม่มีแรง แต่ภายนอก เขายังมีสีหน้าสงบนิ่งและนั่งลงอย่างมั่นคง จากนั้นเขาเก็บรูปปั้นไว้ในกระเป๋าของเขา

“คุณโรดส์!”

ไลซ์และแมทวิ่งตรงมาทางเขาและมองเขาด้วยแววตากังวล

“คุณเป็นอะไรไหม!?”

“ผมไม่เป็นไร”

โรดส์หายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เขาอยากนั่งพักสักครู่ใหญ่ๆ ในเกมการใช้พลังวิญญาณมากเกินไปจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตัวละคร แต่การได้สัมผัสโดยตรงกับความรู้สึกแบบนั้นด้วยร่างกายที่แท้จริงนั้นหนักหนามากเกินไป เขาไม่สามารถล้มลงได้

โชคดีที่หลังจากตรวจสอบหมอกรอบๆ เขาไม่จบเจตจำนงแห่งหมอกบริเวณนี้อีกต่อไป เหมือนกับว่าพวกมันยอมแพ้และแยกย้ายกันออกไป

ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะยอมแพ้ไปทั้งหมด แต่ยังถือว่าเป็นข่าวดี โรดส์มักไม่แสดงอารมณ์ของเขาออกมาอย่างชัดเจน ในฐานะหัวหน้าทีม เขาต้องเยือกเย็นและไม่ตกใจกับเรื่องเล็กน้อย ถ้าเขากรีดร้องทุกครั้งที่มีเรื่อง ลูกน้องของเขาคงไม่ปฏิบัติของเขาอย่างจริงจัง แม้ว่าปัจจุบันโรดส์จะไม่ได้เป็นหัวหน้ากิลด์ของผู้เล่นหนึ่งพันคน แต่นิสัยนี้ยังมีผลกับเขา

เนื่องจากท่าทางที่สงบเยือกเย็น นั่นทำให้ไลซ์และแมทรู้สึกโล่งใจ เมื่อครั้งที่พวกเขากำลังค้นหาตัวควบคุม พวกเขากังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านนอก ไลซ์พยายามอย่างหนัก แต่ในกรณีของการระบุไอเทม เห็นได้ชัดว่าแมททำได้ดีกว่าเธอ สุดท้ายพวกเขาพบรูปปั้นเล็กๆมุมห้องๆหนึ่ง พกเขาต้องยอมรับว่าพวกเขาใช้เวลามากเกินไป ถ้าพวกเขาช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว สถานการณ์ในตอนนี้คงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ในตอนแรก โรดส์วางแผนจะผ่านซากปรักหักพังแห่งหมอกอย่างรวดเร็ว แต่เพราะกากอยทั้งสองตัว เขาจึงต้องเปลี่ยนความคิด การเผชิญหน้ากับพวกมันทั้งสองกินพลังงานอย่างมาก ถ้าเขาไม่ได้พัก การต่อสู้ครั้งต่อไปจะอันตรายมาก ดังนั้นโรดส์จึงตัดสินใจนอนพักในโบสถ์หนึ่งคืนและเดินทางต่อในวันถัดไป เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการซุ่มโจมตีอีกต่อไป เพราะในเกมผู้เล่นใช้โบสถ์แห่งนี้ในการพักผ่อนและจัดระเบียบสิ่งของ ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาใดๆตามมา

แม้ว่าภายในโบสถ์จะมืดมนและน่าขนลุก แต่อย่างที่รู้...แมทไม่มีสิทธิ์ต่อต้านการตัดสินใจของโรดส์

ท้องฟ้ามืดลง

หมอกหนาทึบปกคลุมรอบโบสถ์ เมื่อมองผ่านหน้าต่างไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ ทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงกลางโบสถ์ ไม้ที่ถูกทิ้งและม้านั่งที่พังกลายมาเป็นฟืนใช้ก่อไฟ แสงไฟส่องสว่างในยามค่ำคืน สร้างความอบอุ่นให้ทั้งสาม สายลมที่หนาวเหน็บพัดผ่านช่องหน้าต่างที่แตก แทรกผ่านกำแพง ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆทั้งร้อนๆหนาวๆ

ไลซ์เหยียดมือออกมาอย่างระมัดระวังและถอดผ้าพันแผลออกจากหน้าอกของโรดส์ คิ้วของเธอกระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นบาดแผลของเขา

“แผลของคุณเปิดอีกแล้วค่ะ คุณโรดส์”

“ผมรู้”

โรดส์พยักหน้าและไม่ได้พูดสิ่งใดต่อ ความจริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ตลอดทางเขาเป็นคนที่ต่อสู้อยู่ในแนวหน้าเสมอ แม้ว่าเขาจะระวังเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ เขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้มือซ้าย แต่เมื่อถึงสถานการณ์จวนตัว เขาจำเป็นต้องใช้ ดังนั้นมันจึงทำให้แผลของเขาเปิดอีกครั้ง ตามที่ไลซ์บอก บาดแผลของเขาควรจะหายดีภายใน 2-3 วัน แต่เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้เวลามากกว่า 10 วันหรือมากกว่านั้นในการรักษาให้หายดี

ไลซ์ไม่สามารถบ่นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอช่วยโรดส์ได้คือทำความสะอาดผ้าพันแผลเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ โชคดีที่ก่อนที่เรือบินจะตก ในฐานะนักบวชเธอมีชุดปฐมพยายามไว้บ้าง

เมื่อเธอถอนผ้าพันแผลออก เธอเห็นรอยแผลลึกที่หน้าอกของเขา แมทหายใจเข้าลึกๆ เมื่อมองไปที่แผลของเขา เขาแตะหน้าอกตัวเองด้วยความกลัว มันลึกมาก รอยลึกของกรงเล็บสีดำและร่องรอยบาดแผลอื่นๆ เนื่องมาจากการต่อสู้กับกากอยก่อนหน้านี้ แผลมากมายถูกเปิดออก เลือดสีแดงผสมเข้ากับเลือดสีดำที่แห้งเพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้คนทั่วไปสั่นกลัวได้

ไลซ์หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและเทน้ำจากหม้อ จากนั้นกดลงบนหน้าอกของโรดส์ ทำให้ร่างของเขากระตุกโดยไม่รู้ตัว แม้แต่แมทก็ไม่กล้ามองดูภาพตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงหันไปรอบๆโดยไม่กล้ามอง

“ขอโทษค่ะ เจ็บมากไหม?”

“ไม่เป็นไร”

ไลซ์ถามขึ้นด้วยความตกใจ โรดส์ส่ายศีรษะ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวด แต่เขายังคงทนได้อยู่

เมื่อเธอได้ยินคำตอบ เธอรู้สึกโล่งใจและเช็ดแผลต่อไป ในเวลาเดียวกันเธอแอบสังเกตชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างลับๆ

พูดอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน  เขาดูธรรมดามาก เนื่องจากเขาดูมีเสน่ห์และมีผิวขาวมากๆ เธอจึงคิดว่าเขาเป็นขุนนาง แต่ทัศนคติของเขาไม่เหมือนขุนนางหนุ่มทั่วไปที่เธอเคยพบ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอยอมรับเขา ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมองดูเขาอย่างจริงจังมาก่อน ที่ผ่านมาชายหนุ่มคนนี้ดูเหมือนกับผู้หญิงมาก ความประทับใจแรกที่เขามอบให้เธอคือ ‘อ่อนแอ’

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มุมมองของไลซ์เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ

เขาต่างจากขุนนางหนุ่มทั่วไป พลังของเขาพิเศษ เขาแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าของเธอ ตัวตนของเขาสงบ เยือกเย็น การติดตามเขาทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ แม้แต่ในสถานการณ์ที่อันตราย เขาก็ไม่ตื่นตระหนก ต่างไปจากรูปร่างของเขา เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง

ไลซ์รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงแค่ไหน ตั้งแต่ที่เธอเป็นนักบวชมา เธอรักษาบาดแผลมากมาย ชายหนุ่มที่ผ่านสนามรบกรีดร้องออกมาเมื่อเธอรักษาบาดแผลให้พวกเขา แต่กับโรดส์ที่ไม่เคยปริปากบ่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังต่อสู้ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรงอีกด้วย....

ทันใดนั้นมือของไลซ์หยุดลง

ฉันคิดอะไรกันเนี่ย? นี่มันบ้าไปแล้ว

เด็กสาวส่ายศีรษะไปท่แบะผลักความคิดในหัวของเธอออกไป หลังจากนั้นเธอทำงานของเธอต่อ

โรดส์ไม่ได้สังเกตท่าทางแปลกๆของไลซ์ ตอนนี้เขาสนใจเพียงมือขวาของเขาที่กำลังถืออัญมณีเรืองแสงทั้งสองชิ้น อัญมณีสีแดงเข้ม

มันเป็นของที่ได้รับมาจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หัวใจกากอย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด