ตอนที่แล้วบทที่ 37 มีดแลกกับคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39 ทิ้งเครื่องหมายเล็กๆ ไว้บนตัว

บทที่ 38 สัญญา


บทที่ 38 สัญญา

 

เมื่อถึงคราวที่หลิวอวี่หาวต้องตัดสินใจ เขามีท่าทางลังเลเล็กน้อย

 

จากสีหน้าของเขาดูออกได้ไม่ยากว่าเขาทิ้งซย่าน่าไม่ลง แต่ในใจเขารู้ดีว่าลักษณะท่าทางของซย่าน่าในตอนนี้ไม่อาจที่จะอยู่ด้วยกันกับเขาได้

 

ส่วนหลิงม่อ...ความสัมพันธ์ระหว่างหลิงม่อและพวกเขาไม่อาจเรียกได้ว่าใกล้ชิดสนิทสนม เพียงแต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถูกชะตากันเท่านั้นเอง

 

การที่เก็บคนอันตรายอย่างซย่าน่าไว้ข้างกาย เท่านี้ก็ทำให้หลิวอวี่หาวซาบซึ้งใจหลิงม่อสุดๆ แล้ว หากเป็นคนอื่น ถึงแม้จะไม่ลงมือฆ่าซย่าน่า แต่ก็คงขีดเส้นแบ่งกับพวกเขาและรีบเผ่นหนีไปทันทีแน่นอน

 

ใช่แล้ว นี่เป็นเพราะว่าหลิวอวี่หาวไม่รู้ว่าหลิงม่อมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งนั่นคือการควบคุมหุ่นซอมบี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าระหว่างที่ซย่าน่ากลายร่าง หลิงม่อได้เคยหยิบก้อนไวรัสที่ได้มาจากในสมองของซอมบี้กลายพันธุ์ออกมาสองก้อนและป้อนให้ซย่าน่ากิน...

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหลิวอวี่หาวคิดว่า หากซย่าน่าต้องการที่จะมีชีวิตเหมือนกับคนทั่วไปต่อไป ก็มีอยู่วิธีเดียวนั่นคือติดตามอยู่ข้างกายหลิงม่อ ซึ่งเขาไม่อาจมอบสิ่งเหล่านี้ให้เธอได้

 

ไปกับหลิงม่อ? หลิวอวี่หาวเคยครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ท่าทีของหลิงม่อนั้นชัดเจนมาก เขาไม่ต้องการตัวภาระมาอยู่ข้างกาย

 

ว่าแต่เขานับว่าเป็นตัวภาระหรือเปล่านะ หลิวอวี่หาวถามใจตัวเอง แน่นอนว่าเขาประจักษ์ในกำลังความสามารถของหลิงม่อ ถึงแม้เย่เลี่ยนจะลงมือโจมตีน้อยมาก แต่ก็ดูออกว่าเธอมีฝีมือไม่เบาทีเดียว ส่วนซย่าน่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง หลังจากกลายเป็นซอมบี้ กำลังความสามารถของเธอไม่เพียงจะไม่ลดน้อยถอยลง ทว่ากลับแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกันแล้ว หลิวอวี่หาวก็เป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ค่อนข้างใจกล้าและมีทักษะในการต่อสู้เล็กน้อย

 

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลิวอวี่หาวก็หันไปมองหลิงม่อด้วยแววตาสับสน เขาอยากได้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากหลิงม่อ

 

หลิงม่อเองก็สังเกตเห็นทันทีเช่นกัน หลิงม่อรู้สึกชื่นชมหลิวอวี่หาวพอสมควรทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเขา แต่หลิงม่อพาซอมบี้สองตัวไปด้วย แล้วยังต้องออกล่าซอมบี้กลายพันธุ์อีก แน่นอนว่าเขาไม่สะดวกที่จะพาหลิวอวี่หาวไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้หลิงม่อยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องที่เขาสามารถควบคุมซอมบี้ได้ ดังนั้นนับตั้งแต่วินาทีที่เขาเข้าควบคุมซย่าน่าได้สำเร็จ เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะหาหลักแหล่งและที่ทางให้กับหลิวอวี่หาว

 

ซึ่งในสายตาของหลิงม่อ แคมป์ผู้รอดชีวิตที่ซ่งเทียนก่อตั้งขึ้นนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก!

 

ดังนั้นเมื่อหลิวอวี่หาวมองมาทางเขา หลิงม่อก็มองลึกเข้าไปในตาของหลิวอวี่หาว จากนั้นก็ทำทีเป็นไม่สนใจหันไปมองซย่าน่า แล้วถึงค่อยพยักหน้า

 

ความผิดหวังฉายแวบขึ้นมาในดวงตาของหลิวอวี่หาวทันที แต่ขณะเดียวกันก็เจือความแน่วแน่เด็ดขาดอยู่ในนั้น

 

“อืม ฉันก็เข้าร่วมด้วย!”

 

แม้ว่าตอนนี้จะยังเป็นตัวภาระอยู่ แต่สักวันหนึ่ง...

 

ถึงแม้หลิงม่อและเด็กสาวทั้งสองจะไม่ยอมเข้าร่วม แต่การที่ได้หนุ่มแน่นแข็งแรงสองคนมาเข้าร่วม ซ่งเทียนก็ดีใจมากแล้ว แคมป์ที่เพิ่งก่อตั้งของเขาต้องสูญเสียกำลังคนไปทุกวันจากการออกไปหาข้าวของ การพาผู้รอดชีวิตที่เหมาะสมกลับมายังแคมป์จึงกลายเป็นกฎข้อหนึ่งไปแล้ว แต่นอกจากพวกคนส่วนน้อยอย่างหลิงม่อแล้ว คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เข้าร่วมแคมป์ด้วยความลิงโลดดีใจกันทั้งนั้น อย่างไรเสียกำลังความสามารถในการเอาชีวิตรอดของคนๆ หนึ่งนั้นมีอยู่อย่างจำกัดเสียเหลือเกิน

 

“ถึงจะไม่เข้าร่วม แต่คุณซย่าน่าคนนี้ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังหลิ่นไม่ใช่เหรอ ยังไงวันนี้ก็พักอยู่ที่นี่เถอะ” ข้อเสนอของซ่งเทียนนับได้ว่าสมเหตุสมผลอยู่ แต่ซย่าน่าไม่สามารถพูดตอบได้

 

ทว่าหลิงม่อรู้สึกอยู่ตลอดว่าสภาพของซย่าน่ายังไม่คงที่นัก ยิ่งอยู่ที่นี่นานมากเท่าไร ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น ถ้าเกิดมีใครดูออกขึ้นมา จะไม่งานเข้าหรอกเหรอ

 

เขาจึงยิ้มพลางเอ่ยปฏิเสธ “ฉันเองก็อยากให้พวกเธอได้ย้อนรำลึกเรื่องในวันวานด้วยกัน แต่เรามีธุระด่วนจริงๆ เอาอย่างนี้แล้วกัน หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว ฉันจะพาซย่าน่ากลับมาที่นี่อีกครั้ง”

 

คำพูดนี้เป็นคำพูดหลอกตบตา หลิวอวี่หาวและหวังเฉิงต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็รู้ด้วยว่าพอไปแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่ภายในเร็ววันนี้ หลิงม่อจะปรากฏตัวตรงหน้าพวกเขาอีกครั้ง เผลอๆ พวกเขาอาจจะไม่ได้เจอหลิงม่ออีกเลยตลอดชีวิต

 

นี่เป็นช่วงวันสิ้นโลกนะ! ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยซอมบี้และมีอันตรายซ่อนแฝงอยู่ทุกที่! พูดได้ว่าผู้รอดชีวิตที่อยู่บนโลกนี้สามารถตายได้ทุกเมื่อ สัญญาที่ให้กันไว้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้จึงล้วนแล้วแต่ดูไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไร

 

หวังเฉิงแอบถอนหายใจโล่งอก เขาเกรงกลัวหลิงม่อ แต่ที่เขากลัวยิ่งกว่าก็คือซย่าน่า หญิงสาวที่กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว!

 

หลิวอวี่หาวขอบตาแดงเรื่อเล็กน้อย สายตาจับจ้องอยู่ที่ซย่าน่าตลอดเวลา แต่กลับไม่กล้าเข้าใกล้เธอเลยแม้แต่น้อย นอกจากหลิงม่อแล้ว ซย่าน่าก็จำใครไม่ได้เลย...

 

“งั้นเหรอ...งั้นฉันก็จะไม่บังคับฝืนใจพวกนายแล้วกัน แต่ก่อนจะไป ให้คุณซย่ากับหวังหลิ่นได้พบหน้ากันอีกสักครั้งเถอะนะ จริงสิ ปากหวังหลิ่นเป็นอย่างนั้นเอง นายอย่าถือสาเลยนะ” เมื่อเห็นว่าไม่อาจรั้งตัวไว้ได้จริงๆ ซ่งเทียนก็เลยเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น

 

อย่าถือสา? ลักษณะท่าทางแบบนั้นจะไม่ให้ถือสาได้อย่างนั้นเหรอ แม้ว่าก่อนหน้านี้หลิงม่อจะรู้สึกสงสารหวังหลิ่นอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ได้เจอกันครั้งนี้ เขาก็ไม่ค่อยรู้สึกประทับใจหวังหลิ่นสักเท่าไรแล้ว

 

แต่ซ่งเทียนพูดถูก อย่างไรเสียซย่าน่าก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังหลิ่น ก่อนที่จะไป หากไม่ให้พวกเธอได้เจอหน้ากันอีกสักครั้ง มันก็ออกจะดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

 

เมื่อซ่งเทียนลุกขึ้นเดินออกไป จู่ๆ หลิวอวี่หาวก็ดึงตัวหลิงม่อและกระซิบพูดด้วยความจริงใจว่า “พี่หลิง ผมหวังว่าพี่จะดูแลซย่าน่าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะเป็น...ซอมบี้ แต่พี่ก็เห็นแล้ว เธอไม่มีทางทำร้ายพี่ ถ้าพี่สามารถทำให้เธอฟื้นคืนสติกลับมาได้ ก็จะเยี่ยมสุดๆ ไปเลย แต่ถึงจะทำไม่ได้ พี่ก็อย่าทอดทิ้งเธอนะครับ...ขอร้องละครับ”

 

เมื่อมองแววตาของหลิวอวี่หาว หลิงม่อก็รู้สึกซาบซึ้งใจทีเดียว เขาแอบถอนหายใจหนึ่งที แล้วยื่นมือไปตบบ่าของหลิวอวี่หาวเบาๆ “นายเองก็รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ ล่ะ”

 

“เดี๋ยวก่อน...” หลิงม่อกำลังจะออกเดิน หลิวอวี่หาวก็ดึงรั้งตัวเขาไว้อีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้น้ำเสียงฟังดูหนักแน่นขึ้นมาเล็กน้อย “ผมเองก็จะแข็งแกร่งกว่าตอนนี้ ดังนั้นผมคิดว่าสักวันผมจะต้องไปตามหาพวกพี่ให้ได้”

 

คำพูดประโยคนี้สร้างความประหลาดใจให้หลิงม่อทันที แต่จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มออกมา “งั้นนายก็สู้ๆ นะ!”

 

ความเป็นไปได้ที่หลิวอวี่หาวจะตามหาพวกเขาเจอนั้นน่าจะน้อยมากๆ เลย แต่การที่คนๆ หนึ่งมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้และยังมีความหวังเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว...

 

ซ่งเทียนเดินตามหาในตึกหนึ่งรอบ จากนั้นสักพักใหญ่เขาก็พาหวังหลิ่นที่มีสีหน้าไม่เต็มใจเดินมา แต่ในเวลานั้นพวกหลิงม่อได้เดินไปที่ประตูทางเข้าตึกและเตรียมตัวที่จะไปแล้ว

 

ไม่สามารถทวงมีดสั้นกลับคืนมาได้ แล้วยังเสียหน้าต่อหน้าหลิงม่ออีก สีหน้าของหวังหลิ่นขณะที่มองหลิงม่อจึงดูไม่เป็นมิตรอย่างแรง ส่วนสายตาเวลาที่เธอมองซย่าน่าก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่ากันเลย

 

คงจะเป็นเพราะรู้สึกไม่ยอม หวังหลิ่นจึงเดินพุ่งตรงเข้าไปหาหลิงม่อและซย่าน่า แล้วยื่นมือไปทุบตัวหลิงม่ออย่างแรงหนึ่งที แม้ว่าหลิงม่อจะสามารถหลบหมัดนี้ได้สบายๆ แต่หมัดเบาๆ แบบนี้ของเด็กผู้หญิง ทำอะไรเขาได้ซะที่ไหนกัน ถึงจะโดนทุบแต่ก็ไม่เจ็บหรือระคายเคือง เจ้าหลี่อวี้เกรงกลัวหวังหลิ่นเสียเหลือเกิน แถมยังพูดว่าเธอ “แข็งแกร่งมาก”? แต่นอกจากมาดแล้ว หลิงม่อก็ไม่เห็นว่าเด็กสาวคนนี้จะแข็งแกร่งตรงไหนเลย

 

“อย่าคิดว่าพวกนายสองคนร่วมมือกันแล้วจะมารังแกฉันได้! มีดสั้นเล่มนั้น ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้นายคายออกมาให้ได้!”

 

หลังจากพูดทิ้งท้ายอย่างเลือดเย็น หวังหลิ่นก็หมุนตัวเดินขึ้นข้างบน ทว่าเพิ่งจะก้าวขึ้นบันไดได้สองขั้น จู่ๆ เธอก็หันหน้ามาและพูดว่า “อย่ารังแกคนในครอบครัวฉัน ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”

 

หลิงม่อตะลึงอ้าปากค้างพลางมองหวังหลิ่นเดินขึ้นบันไดเสียงดัง “ตึงตัง” เด็กสาวคนนี้ช่างพูดจาเลือดเย็นได้เก่งเหลือเกิน แต่ก่อนหน้านี้ที่ร้องเอะอะโวยวายเสียงดัง เธอก็ยังคงถูกซ่งเทียนหักหลังอยู่ดีไม่ใช่เหรอ

 

ส่วนเรื่องรังแก...หลิงม่อหันไปมองซย่าน่าที่อยู่ข้างกาย แล้วทันใดนั้นมุมปากก็เผยรอยยิ้มประหลาดออกมา

 

ด้วยสภาพของซย่าน่าในตอนนี้ มีบางเรื่องที่เขาจำเป็นต้องคอยช่วยเหลือเธอ ถ้าอย่างนั้นจะนับว่าเป็นการรังแกหรือเปล่านะ

 

..................................................................................................................................................

 

 

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด