ตอนที่แล้วบทที่ 36 นายคือช่องโหว่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 38 ทุ่มทุนสุดๆ

บทที่ 37 ไอ้โรคจิต? มาโซคิสม์?


บทที่ 37 ไอ้โรคจิต? มาโซคิสม์?

 

ฉันเป็น...ช่องโหว่?

 

ทำไมคำนี้ฟังแล้วดูเหมือนคำด่าเลยล่ะ?

 

เหมือนมีคนมาด่าว่าคุณเป็นพวกกาก เป็นหลุมดำอะไรอย่างนั้น!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนดื่มหนักยิ่งขึ้น...

 

สุดท้าย เขาก็เมา

 

ไม่ต้องแปลกใจ...หากคนธรรมดาต้องมาได้ยินเรื่องพวกนี้ พบเจอเรื่องพวกนี้ ไม่สติแตกไปตรงนั้นเลยก็ยากมากแล้ว

 

ยังไงเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็เป็นแค่เด็กหนุ่มอายุสิบแปดเท่านั้น

 

ก่อนเมาพับไป เขาเกยอยู่บนโต๊ะ ได้ยินชายวัยกลางคนพูดทิ้งท้ายไว้ว่า

 

“หลังดันเจี้ยน 72 ปีศาจเคลียร์แล้ว ดันเจี้ยนก็ถูกรีเฟรช ร่างโฮสทั้งหมดฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

 

ตามกฎของระบบ ร่างโฮสทั้งหมดจะถูกลบความทรงจำในดันเจี้ยนทิ้งไป กลายเป็น NPC เหมือนเดิม

 

แต่ว่านายเป็นร่างโฮสส่วนหนึ่ง เป็น NPC ส่วนหนึ่ง เป็นผู้เล่นอีกส่วนหนึ่ง...สามตัวตน ดังนั้นนายจึงกลายเป็นช่องโหว่ที่สามารถแยกแยะได้ หลบพ้นการรีเซ็ตของระบบ ความทรงจำของนายก็ไม่ถูกลบไป

 

ส่วนหานปี้ที่เป็นผู้ตื่น ความทรงจำของผู้ตื่นจะขาดไปชั่วคราว เพราะตัวตนของผู้ตื่นคือบัคของระบบ และบัคพวกนี้ได้ส่งผลบางอย่าง ก็คือหลังจากผู้ตื่นกลายเป็นผู้ตื่นในครั้งแรก การรีเฟรชความทรงจำในครั้งแรกจะทำให้ชะงักล่าช้าออกไป

 

อืม ในเชิงด้านเทคนิคฉันจะไม่อธิบายกับนายละ

 

สรุปก็คือ นายต้องเข้าใจว่าความทรงจำของหานปี้จะฟื้นคืนมาภายในสองสามวันข้างหน้า นี่เป็นสิ่งที่เกิดจากบัคผู้ตื่น”

 

“งั้น...ซูซูล่ะ? เธอก็น่าจะเหมือนฉันใช่ไหม? ดูเหมือนว่าเธอก็ได้ความสามารถเหมือนกัน? ทำไมเธอก็สูญเสียความทรงจำเหมือนกันละ?”

 

“ฮ่าๆๆๆ! เด็กผู้หญิงคนนั้น การมีอยู่ของเธอน่าสนใจมาก ฉันบอกนายได้แค่ว่า เธอไม่ได้สูญเสียความทรงจำ!

 

เพียงแต่ว่าบนตัวของเธอมีการตั้งค่าที่ฉันคิดว่าน่าสนใจมาก เดี๋ยวนายก็จะค่อยๆ รู้เอง”

 

ชายวัยกลางคนลุกออกจากโต๊ะเดินไปทางประตูบาร์ พอถึงปากประตูก็หันกลับมามองเฉินเสี่ยวเลี่ยน

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนฟุบอยู่กับโต๊ะ พยายามยืดตัวให้ตั้งตรง แต่กลับดูโงนเงนไปมา

 

“ช่องโหว่แบบนาย สำหรับฉันแล้วนับเป็นการค้นพบโดยบังเอิญ ดังนั้นฉันไม่รู้ว่าในภายหน้า ช่องโหว่แบบนายจะช่วยเหลือฉันได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่า...การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ

 

ระบบของนาย ฉันช่วยลงทะเบียนใหม่ให้นายแล้ว ส่วนรางวัล 72 ปีศาจ ฉันก็ใช้ระบบส่งให้นายแล้ว เดี๋ยวนายก็จะเห็นเอง

 

แต่ว่า...ในส่วนของระบบแลกเปลี่ยน ฉันจะหาวิธีอื่นชดเชยให้นาย เพื่อหลบเลี่ยงทีมพัฒนา ระบบแลกเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นสำคัญของผู้เล่น ฉันเปิดให้นายไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนายก็จะเหมือนกับผู้ตื่นคนอื่นๆ ที่ถูกค้นพบอย่างรวดเร็ว ดังนั้นฉันจึงคิดจะใช้ไอเทมอื่นมาแทน ภายใต้ขอบเขตที่ฉันทำได้ แต่ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้อย่างสมบูรณ์

 

สรุปก็คือ...ดันเจี้ยนถัดไปจะเปิดในเร็วๆ นี้ ขอให้นายโชคดี

 

จะต้องเอาชีวิตรอดไปให้ได้ อย่าตายเสียล่ะ”

 

“ตาย...ตายแล้วจะทำยังไง?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนเงยหน้ามึนเมาขึ้น “เหมือนกับ NPC ร่างโฮส? ถูกลบความทรงจำ? จากนั้นก็ใช้ชีวิตไปอย่างที่ควร?”

 

“ไม่ใช่แน่นอน” น้ำเสียงชายวัยกลางคนจริงจังมาก “อย่าลืมล่ะ นายไม่ใช่ NPC ธรรมดาแล้ว ดังนั้น...ถ้านายตาย...ก็จะหายไปทั้งหมดจริงๆ”

 

……

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าตัวเองหลับฝันไปแสนยาวนาน

 

ในฝันเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย

 

เขาเห็นกระทั่งนิวตันเปลี่ยนเป็นโครงกระดูก มือถือดาบโค้ง เดินมาทางตนทีละก้าวๆ…

 

เขาฝันเห็นชิซูกะถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า อิงแอบแนบชิดอยู่บนตัวเขา…

 

เขาฝันว่าในบาร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ชายวัยกลางคนหน้าตาธรรมดาบอกตนว่า เขาเป็นเทพของโลก…

 

จากนั้น...เขาฝันเห็นตัวเอง…

 

เอ๋? เปียกจัง?

 

ทำไมลำตัวท่อนล่างถึงมีน้ำมากขนาดนั้น?

 

……

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนลืมตาตื่นขึ้น ลุกขึ้นนั่งทันที!!

 

มองไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือห้องในโรงแรม ตัวเขานอนอยู่บนเตียง

 

ส่วนที่ยืนอยู่ข้างเตียงคือ...หญิงสาวผมดำยาวที่ชื่อเฉียวเฉียวคนนั้น กำลังใช้สายตาเย็นเฉียบจ้องมองเขาอยู่

 

อืม ในมือของเธอถือน้ำเปล่าขวดหนึ่ง เทน้ำเปล่าราดตั้งแต่หัวลงไปจนถึงตัวเขา…

 

“เธอทำอะไรน่ะ!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนกระโดดลุกขึ้น ทว่ามันเร็วไปหน่อย อาการเมาค้างทำให้เขาเวียนหัวจนต้องนั่งแปะลงกับเตียงอีกครั้ง

 

ตอนนั้นเอง คนอีกคนที่อยู่ในห้องก็โผล่ออกมา รีบมาอยู่ขวางอยู่ด้านหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยนไว้ ยิ้มขื่นพูดว่า “อาเจ๊เฉียวเฉียว ฉันว่าเธออย่ารุนแรงไปเลยได้ไหม? คนกันเองทั้งนั้น...ค่อยๆ พูดค่อยๆ จาสิ”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนคลึงขมับที่ปวดจี๊ด มองดูคนที่ยืนขวางอยู่ด้านหน้า

 

เป็นร็อดดี้

 

เพื่อนซี้ของตน

 

“ร็อดดี้? นาย...มาที่นี่ได้ยังไง?”

 

ร็อดดี้ยิ้มขื่น “นายเมาอยู่ที่บาร์เหล้าข้างสถานีตำรวจ ไม่มีใครจ่ายบิล เงินในตัวนายก็มีไม่พอ ซ้ำนายยังบอกเบอร์โทรศัพท์ของฉันกับเจ้าของบาร์อีก ก็เลยมีคนโทรหาฉัน ให้ฉันไปจ่ายบิลแล้วก็พานายกลับมาด้วย… นายนี่มันสมกับที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่พกเงินไปแต่จัดชุดใหญ่ แถมยังจำเบอร์โทรฉันได้อีก? ฉันควรรู้สึกขอบคุณที่นายนึกถึงฉัน หรือว่าควรโกรธนายดี?”

 

“งั้น...เธอ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนชี้ไปที่เฉียวเฉียว

 

“ฉันเพิ่งลากนายออกมาจากบาร์ก็เห็นเฉียวเฉียวเดินออกมาจากสถานีตำรวจ พอเธอเห็นนายก็ควงหมัดควงเท้าเข้าใส่...ฉันห้ามไว้สุดชีวิตเลยนะ เฮ้อ ฉันโดนไปตั้งหลายดอกเนี่ย!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนคลึงหน้าไปมา มองดูร็อดดี้แล้วพูดเสียงเบาว่า “อือ ขอบใจนะเพื่อน ตอนนี้ฉันมีเรื่องบางอย่างที่ต้องคุยกับ...เอ่อ คุณหนูเฉียวอะไรนี่ นายช่วยออกไปซื้อของกินให้หน่อยได้ไหมอะ?”

 

ร็อดดี้ทำหน้ามึน มองดูเฉียวเฉียวที่เย็นชาทีหนึ่ง แล้วก็มองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยนทีหนึ่ง ยิ้มขื่นพูดว่า “พวกเธอสองคนแค้นอะไรกันแน่? ไม่สิ..พวกเธอสองคนรู้จักกันได้ยังไง? ได้ๆ...ฉันไม่ถาม! ฉันจะไปซื้อของดีไหม? ฮึ… แต่ว่าพวกเธอสองคนห้ามตีกันนะ!”

 

ว่าแล้ว ร็อดดี้ก็ขยับมาข้างหูเฉินเสี่ยวเลี่ยน “อย่ายั่วโมโหเธอนะ...เธอตีคนโคตรเก่ง!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น มองร็อดดี้พลางถอนหายใจพูดว่า “วางใจเถอะ...พูดถึงเรื่องตบตี...นายไม่รู้หรอกว่าคนที่เก่งตบตีจริงๆ ที่ฉันเจอมามันเป็นยังไง”

 

ร็อดดี้เดินไปก้าวหนึ่งก็หันกลับมามองทีหนึ่งจนออกประตูไป

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนพยายามลงจากเตียง สบตากับเฉียวเฉียวทีหนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปยังโซฟาในห้อง “นั่งคุยกันเถอะ”

 

“ได้!”

 

คำตอบของเฉียวเฉียวช่างฉับไวตรงไปตรงมา ผมดำยาวตรงตามธรรมชาติให้ความรู้สึกสงบนิ่ง เธอค่อยๆ นั่งลงบนโซฟา

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ไม่ขัดเขิน คว้าเอาน้ำเปล่าที่เฉียวเฉียวเพิ่งเทใส่เขาไปครึ่งขวดมากรอกลงคอ

 

ความรู้สึกปากคอแห้งผากหลังเมาค้างดีขึ้นเล็กน้อย

 

เขานั่งอยู่ตรงข้ามเฉียวเฉียว ขยี้ผมไปมา “เริ่มตรงไหนดีล่ะ...”

 

“เริ่มตั้งแต่ว่าทำไมนายรู้จักน้องสาวฉัน! นายรู้จักชื่อเธอได้ยังไง! แล้วนายก็ตามรังควานตั้งแต่สนามบินแล้ว นายคิดอะไรกับน้องสาวฉันกันแน่...เริ่มพูดจากเรื่องพวกนี้! ฉันขอเตือนนาย! ไอ้พวกโรคจิตใคร่เด็กแบบนาย ฉันตอนขาที่สามทิ้งได้ภายในวินาทีเดียว!”

 

ตอน...ขาที่สาม?

 

ช่างเป็นเด็กสาวผู้แข็งแกร่ง…

 

“ข้อแรก ฉันไม่ใช่ไอ้โรคจิตใคร่เด็ก” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น มองดูเฉียวเฉียว พูดเสียงต่ำอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้จักน้องสาวของเธอบนเครื่องบิน ฉันนั่งอยู่ด้านข้างเธอ”

 

“งั้นนายรู้ชื่อเธอได้ยังไง?” เฉียวเฉียวพูดเสียงเย็นชา “น้องสาวฉันกลัวคนแปลกหน้ามาก ปกติเธอจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าเลย แล้วก็ไม่เคยบอกชื่อกับคนแปลกหน้าด้วย”

 

“ฉัน...บังเอิญได้ยินเข้าตอนเธอคุยโทรศัพท์อ่ะ โอเคไหม?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถอธิบายเรื่อง ‘ดันเจี้ยน’ ‘ผู้เล่น’ ‘ผู้ตื่น’ พวกนี้กับคนธรรมดาได้… จะพูดออกไปก็ต้องมีคนเชื่อด้วยสิ!

 

“ฮึ ได้ยินเข้า? นายรู้ภาษาเกาหลีเหรอ?”

 

“เอ่อ...”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่มีอะไรจะพูด

 

เฉียวเฉียวยืนขึ้นอย่างช้าๆ จับจ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยสายตารังเกียจเหยียดหยามอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย “นายฟังให้ดี คำพูดต่อไปนี้ นายจะถือว่าเป็นคำเตือนจากฉันก็ได้!

 

ซูซูเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากคนหนึ่ง! ฉันรู้ดีว่าในสายตาของโรคจิตใคร่เด็กอย่างพวกนาย เธอดูดึงดูดมาก!

 

แต่นายจำไว้ให้ดี!

 

ถ้าหาก ถ้าหากว่านายกล้าเข้าใกล้น้องสาวฉันอีก ยังกล้าเหล่เธออีก ฉันจะฆ่านายให้ดู! เพื่อปกป้องเธอแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้น! ฮึ สวะอย่างนายไม่พอรองมือรองเท้าฉันหรอก!

 

อีกอย่าง ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่านายเป็นใคร! นายเป็นเพื่อนของร็อดดี้ นายชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน เรียนที่โรงเรียนอะไร...ฉันรู้หมดแล้ว!

 

จะตามหานายมันง่ายนิดเดียว!

 

เพราะฉะนั้น นายอย่ามารังควานกันอีก! ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้นายรู้ซึ้ง!”

 

พูดแล้วเฉียวเฉียวก็ลุกขึ้น ฉับพลับก็ยกเท้าซ้ายขึ้นเหยียบบนโต๊ะน้ำชา

 

พรึ่บ!

 

เธอดึงขากางเกงซ้ายขึ้นไปจนถึงเข่า

 

ชั่วขณะ ขาเล็กเรียวยาวก็เปลือยเปล่าอยู่ใต้สายตาของเฉินเสี่ยวเลี่ยน

 

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน นี่เป็นขาที่สวยสุดๆ ไปเลย!

 

ปลีน่องตึงแน่นแต่กลับเรียวยาว ข้อเท้าเล็กบาง ผิวพรรณเรียบลื่น…

 

ที่ชวนให้หนังตากระตุกที่สุดก็คือ บนขาของเฉียวเฉียวมีรอยสักสวยงามอันหนึ่ง เถากุหลาบสีเขียวร้อยรัดอยู่บนขาเธอ ที่ตรงปลายเถามีดอกกุหลาบสีแดงสดดอกหนึ่ง!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนเผลอมองจนตาแทบค้าง

 

แต่...เห็นได้ชัดว่าเฉียวเฉียวไม่ได้ตั้งใจอวดขาเรียวสวยให้เขาดู

 

ตรงข้อเท้าของเฉียวเฉียว ในรองเท้าบูท...เสียบมีดสั้นไว้เล่มหนึ่ง!

 

เธอดึงมีดสั้นออกมา จากนั้นก็ปักฉึกลงบนโต๊ะน้ำชา

 

คมมีดส่องประกายเย็นเยียบ!!

 

“นายดูไว้ให้ดี ถ้ามีคราวหน้าอีก ฉันจะใช้มีดนี้ตอนบางส่วนบนตัวนายทิ้งด้วยมือตัวเอง!”

 

พูดจบเฉียวเฉียวก็เก็บมีด มองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยสายตาเย็นชา หันหัวเดินไปทางประตู

 

ตอนที่เธอเปิดประตูก็พอดีกับร็อดดี้ที่เพิ่งกลับมา มองเห็นเฉียวเฉียวออกไป ร็อดดี้ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย “พวกเธอคุยกันจบแล้ว?”

 

“หลีกไป!” เฉียวเฉียวตาขวาง พูดเสียงเย็น “วันหลังนายอยู่ห่างๆ ฉันหน่อย! ฮึ ถ้านายมีเพื่อนโรคจิตแบบนี้ นายก็ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนกัน!”

 

ร็อดดี้หน้าเสียเดินเข้ามาในห้อง มองเห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนคิ้วขมวดนั่งใจลอยอยู่บนโซฟา

 

“นี่ เสี่ยวเลี่ยน! นายไปทำเรื่องเลวร้ายอะไรมา ถึงไปยั่วโมโหคุณหนูใหญ่คนนั้นเข้า?!”

 

ร็อดดี้ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา หยิบขนมปังที่เพิ่งซื้อมาจากล่างตึกออกมาหนึ่งอันส่งให้เฉินเสี่ยวเลี่ยน

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนรับไว้ กัดลงไปอย่างแรงคำหนึ่ง จากนั้นมองดูร็อดดี้ พูดช้าๆ ว่า “นายมาพอดี...บอกฉันทีสิ ผู้หญิงที่ชื่อเฉียวเฉียว แล้วก็น้องสาวของเธอ สองคนนี้เป็นยังไงมายังไง”

 

“เหอ? ชิบหาย! นายคงไม่ได้เป็นโรคใคร่เด็กจริงๆ ใช่ไหม?! หรือว่านายชอบเฉียวเฉียว? งั้นนายก็เป็นมาโซคิสม์เหรอ?”

 

…………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด