ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 104 เคลื่อนไหว [อ่านฟรี 12-05-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 106 ล่อให้ออกมา [อ่านฟรี 16-05-2019]

The Dark King – Chapter 105 ความคิดของฟู่เทียน [อ่านฟรี 14-05-2019]


The Dark King – Chapter 105 ความคิดของฟู่เทียน

 

พวกเขามาถึงพื้นที่ลุ่มต่ำอย่างรวดเร็ว ตรงหน้าของพวกเขาเป็นถนนที่รกร้างและพังทะลายซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและพืชพรรณ ฟู่เทียนสามารถเห็นโครงร่างทางสถาปัตยกรรมของอาคารหลังนี้ได้อย่างชัดเจนแต่ส่วนบนของอาคารได้พังทลายลงไปแล้ว ที่ผนังชั้นแรกยังเหลือรอดมาได้นั้นก็เพราะมันถูกป้องกันเอาไว้โดยเศษหินและเศษคอนกรีตที่ถล่มลงมา

 

เกล็นหยุดเดินและตรวจสอบที่แห่งนี้ทันที เธอยกมือขึ้นและส่งสัญญาณ “แกสท์ ไปตรวจสอบที่นี่ดู!”

 

นักล่าที่มีชื่อว่าแกสท์นั้นคือหน่วยสอดแนมที่มีความสามารถชื่อว่า ‘สีสัน’ เขาพยักหน้าและร่างกายของเขาก็เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว ชุดเกราะสีดำที่เขาสวมใส่ก็หายไปพร้อมกับเขา

 

ฟู่เทียนยังคงรู้สึกตกตะลึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เขาได้เห็นความสามารถของแกสท์ เขาพูดออกมาเบาๆว่า “ความสามารถของเขาส่งผลถึงชุดเกราะที่เขาสวมใส่ด้วยหรือนี่?”

 

“แน่นอนว่าาไม่ สมาคมนั้นสรา้งชุดเกราะพิเศษสำหรับเขา มันสร้างขึ้นมาจากผิวหนังของ ‘กิ้งก่าเวทมนต์’ ซึ่งตอบสนองต่อความสามารถของเขา” ชายอีกคนที่อยู่ข้างๆกล่าวออกมา

 

เขาคิดถึงว่าถ้าหากแกสท์เป็นศัตรูกับเขา เขายังสามารถตามรอยของชายผู้นี้ได้ด้วยกลิ่น แม้ว่าเขาจะสามารถปกปิดกลิ่นของตนเองได้ก็ตามแต่หากสามารถโรยผงฝุ่นหรือสีลงบนเขาได้ก็จะสามารถรับมืออย่างง่ายดาย แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ความสามารถที่จะดูถูกได้เลย

 

เพราะแม้แต่ผู้ที่ทรงพลังที่สุดในโลกใบนี้ก็ไม่ได้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

 

ไม่นานหลังจากนั้นแกสท์ก็กลับมาที่นี่ เขาแจ้งว่า “มันเป็นสิงโตภูเขาจริงๆ มันกำลังล่าเหยื่อและกินอาหารกันอยู่ตอนนี้”

 

เกล็นพยักหน้า “ด้วยจำนวนที่ลดลงไปของสิงโตภูเขา ‘มัจจุราชทมิฬ’ จะต้องตามพวกมันมาถึงที่นี่อย่างแน่นอน เราต้องอยู่เงียบๆและไม่เข้าใกล้มันเกินไป” จากนั้นเธอก็นำขวดอะไรบางอย่างจากกระเป๋าหลังของเธอออกมา เธอเปิดขวดออกแล้วเทมันลงบนฝ่ามือของตนเองจากนั้นก็ชโลมไปที่ชุดเกราะของเธอ กลิ่นของเธอหายไปในตอนนี้

 

คนอื่นๆที่เหลือต่างก็ทำตามอย่างพร้อมเพรียง ทันใดนั้นกลิ่นของพวกเขาก็หายไปทันที

 

เกล็นโยนขวดในมือให้กับฟู่เทียนและกล่าวว่า “ใช้มันสิ มันมีชื่อว่าผงซอมบี้ซึ่งสามารถปกปิดกลิ่นของนายได้ แต่อย่าให้มันสัมผัสกับผิวของนายโดยตรงไม่อย่างนั้นนายอาจจะติดเชื้อได้”

 

ฟู่เทียนรับมันมาและใช้ทันที เขารู้ดีถึงความสามารถของของเหลวในขวดนี้เพราะเขาเองก็เคยใช้เลือดของซอมบี้ในตอนที่หนีจากการไล่ล่าของหมาป่าวิญญาณ เลือดของซอมบี้นั้นมีประสิทธิภาพมากแต่มันค่อนข้างสกปรกและล้างออกยากไปซะหน่อย

 

พวกเขาทั้ง 7 คนต่างก็ใช้ผงซอมบี้และกลิ่นของพวกเขาในตอนนี้คือกลิ่นของพวกซอมบี้

 

เกล็นมองมายังทีมของเธอทั้ง 6 คนและกล่าวว่า “หลุยส์พาอีก 2 คนไปเข้าโจมตีอีกทาง ระวังเปิดเผยตัวเองด้วย เราจะสื่อสารกันด้วยสัญญาณมือ”

 

“ครับ” ชายหนุ่มที่มีผมสีน้ำตาลที่มีชื่อว่าหลุยส์พยักหน้า เขาพาอีก 2 คนเดินฉีกออกไปอีกทาง

 

ฟู่เทียนเห็นการวางแผนของพวกเขาและถามออกไปว่า “แล้วยังไงต่อครับ?

 

“แค่เท่านี้แหละ” เกล็นพูดออกมาเบาๆ

 

“แล้วถ้ามัจจุราชทมิฬไม่ออกมาละครับ?”

 

“ก็รอต่อไป” เกล็นมองมาที่เขาและกล่าวต่อไปว่า “การล่านั้นต้องอดทน พวกสัตว์ร้ายมันต้องหิวอยู่แล้ว มันต้องมาตามล่าสิงโตภูเขาอยู่แล้วไม่ต้องห่วง”

 

ฟู่เทียนคิดว่าการอดทนรอนั้นก็ถูกแต่มันเป็นวิธีที่โง่เง่ามากเกินไปหน่อย “ผมมีความคิดเสนอแต่ผมไม่รู้ว่ามันจะได้ผลรึเปล่า”

 

“หืม?” เกล็นและคนที่เหลืออีก 3 คนต่างก็มองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ “ฉันคิดว่านี่จะเป็นการออกล่าครั้งแรกของนายซะอีก เจ้าเด็กใหม่ นายมีความคิดอะไร?”

 

ฟู่เทียนมองไปที่เกล็นและกล่าวว่า “พื้นที่หมายเลข 1 นั้นกว้างใหญ่เกินไป ยิ่งไปกว่านั้นการรอคอยมัจจุราชทมิฬเงียบๆนั้นเสียเวลามากเกิน บางทีมัจจุราชทมิฬอาจจะยังไม่หิวตอนนี้ก็ได้ สิงโตภูเขานั้นเป็นอาหารโปรดของมันผมคิดว่าสิงโตภูเขาเองก็น่าจะมีลูกเล่นอะไรบางอย่างที่ทำให้มันรอดชีวิตจากศัตรูตามธรรมชาติได้ ดังนั้นมันน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพื้นที่ไหนที่มัจจุราชทมิฬจะไม่ปรากฏตัวออกมา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้โอกาสที่มัจจุราชทมิฬจะออกมานั้นน้อยมาก แต่ถ้าหากพวกเราทำให้สิงโตภูเขาเป็นฝ่ายที่พามัจจุราชทมิฬมาหาพวกเราได้หละจะเป็นยังไง?”

 

เกล็นรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของฟู่เทียน จริงๆแล้วสิ่งที่เขาพูดนั้นก็สมเหตุสมผล สัตว์ทุกๆตัวต่างก็มีสัญชาตญาณเพื่อหลีกเลี่ยงศัตรูตามธรรมชาติ สิงโตภูเขาย่อมมีสัญชาตญาณและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างแน่นอน

 

“ทำไมนายพูดเหมือนง่ายเลยแต่มันคงไม่ง่ายแบบนั้น ถ้าหากพวกเราฆ่าสิงโตภูเขาแล้วพวกเราก้สามารถใช้เลือดของมันเพื่อล่อมัจจุราชทมิฬออกมาแต่สัตว์ร้ายตัวนี้นั้นชาญฉลาดมาก มันย่อมไม่สนใจสิงโตภูเขาที่ตายแล้วอย่างแน่นอน” เกล็นส่ายศีรษะของเธอ

 

ฟู่เทียนตอบกลับมาว่า “แน่นอนว่าพวกเราไม่ได้ฆ่ามัน พวกเราแค่ต้องทำให้มันบาดเจ็บ ลัตว์ร้ายพวกนี้ไม่ได้แตกต่างจากสัตว์ร่างทั่วๆไปมากนัก ผมหมายความว่าพวกเราสามารถทำให้มันหวาดกลัวและวิ่งหนีกระเจิงไปได้ เมื่อมันวิ่งหนีออกไปโอกาสที่มัจจุราชทมิฬจะสนใจและออกมานั้นก็จะสูงขึ้น”

 

เกล็นและอีก 3 คนที่เหลือต่างก็มองหน้ากัน

 

“นี่มันความคิดที่ดีเลย!” แกสท์ลูบไปที่ศีรษะของฟู่เทียน

 

คนอื่นๆต่างก็รู้สึกประหลาดใจกับมุมมองของฟู่เทียน

 

เกล็นมองมาที่ฟู่เทียนและจากนั้นก็หันไปมองแกสท์ “บอก 3 คนนั้นให้กลับมา”

 

แกสท์ พยักหน้าและหายไป

 

ฟู่เทียนรู้สึกลังเลในตอนนี้ “แม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลแต่มันก็ยังมีอุปสรรคอยู่”

 

“ฉันรู้ดี” เกล็นพยักหน้าเมื่อเธอก้าวเดินออกมา “ไม่ต้องกังวลไป หากพวกเราพบกับสัตว์ร้ายที่มีเลเวลต่ำกว่า 25 ฉันจะรับมือกับพวกมันเอง เราจะไม่ปล่อยให้สิงโตตัวนี้ตายเว้นแต่มันจะพามัจจุราชทมิฬมาหาพวกเราได้”

 

ฟู่เทียนรู้สึกโล่งใจเมื่อเธอก็คิดถึงประเด็นนี้ เพราะหากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาคนอื่นๆอาจมองว่าเป็นความผิดพลาดของเขา

 

ไม่นานหลังจากนั้นแกสท์ก็กลับมาพร้อมกับอีก 3 คนที่เหลือ หลุยส์มองมาที่ฟู่เทียนและกล่าวกับเกล็น: “เอาตามนี้หรอ?”

 

“ลงมือเลย” เกล็นกล่าวขณะที่เธอชี้ไปที่นักธนูที่อยู่ข้างหลุยส์ “ยิงมันเลย”

 

มีนักล่าอีกคนที่สามารถตามรอยของสัตว์ร้ายได้ แต่เขาไม่ได้ตามด้วยกลิ่นแต่ใช้คลื่นเสียงในการรับรู้แทน

 

นักธนูขึ้นไปยังซากปรักหักพังและขึ้นไปอยู่บนนั้น เขาเล็งธนูและยิงออกไป

 

“โฮก!” เสียงร้องของความเจ็บปวดดังขึ้นมาทันที

 

หลังจากนั้นก็มีเสียงควบฝีเท้าดังขึ้น ‘สิงโตภูเขา’ กำลังวิ่งหนีไปในตอนนี้

 

เกล็นและฟู่เทียนต่างก็รีบตามสิงโตภูเขาไป ซากสัตว์และอวัยวะของสัตวฺตัวอื่นๆกระจายอยู่บนพื้นในตอนี้

 

ทุกๆคนต่างก็รีบไล่ตามสิงโตภูเขาไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด