ตอนที่แล้วบทที่ 34 เชิญนายทุบมันให้แตก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 หมัดตระกูลเย่ของเย่เจียเฉวียน

บทที่ 35 เกมเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น


บทที่ 35 เกมเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

 

        ในเมื่อสือเสี่ยวไป๋คือคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาเด็กใหม่ของหน่วย [ผู้ทำลาย] เช่นนั้นขนาดการทำลายโล่พิทักษ์วิญญาณให้แตกสลายไปยังทำไม่ได้ เช่นนั้นก็คงอ่อนแอยิ่งกว่าผู้อ่อนแอที่สุดอีกนะซิ?

 

เดิมทีจิตใต้สำนึกของบรรดาเด็กใหม่ต่างก็หลงลืมความเป็นไปได้ข้อนี้ไปแล้ว ในเวลานี้กลับถูกสือเสี่ยวไป๋พูดถึงข้อนี้ออกมาเอง แม้ว่าพวกเขาจะยังคงดูถูกเย้ยหยันความเป็นไปได้ข้อนี้อยู่ แต่ก็ไม่อาจไม่พูดถึงประเด็นนี้ได้ สายตาของพวกเขาจึงฉายแววความฉงนสงสัยอยู่หลายส่วน

 

ชัดเจนมากว่า สือเสี่ยวไป๋ฆ่าตัวเองโดยการผลักตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากยิ่งขึ้น

 

ซีซือเองก็คล้ายกับกำลังมองดูฉากนี้อย่างมีความสุข แม้ว่าจะรู้สึกเหมือนยังสาแก่ใจไม่พอ เขารีบผลักดันสือเสี่ยวไป๋อย่างหนักอีกครั้ง

 

“ฉันจะเป็นคนตัดสินระดับความเสียหายจากการโจมตีด้วยพลังจิตของพวกนายเอง จากนั้นค่อยเรียงรายชื่อในทีมของพวกนายอีกครั้ง” เมื่อซีซือพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าของบรรดาเด็กใหม่ที่นั่งอยู่พลันเปลี่ยนไป มีบางคนที่แอบขี้เกียจก็พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังมากขึ้น

 

เกมของซีซือนั้นมักจะเกี่ยวพันกับการเรียงลำดับรายชื่อในกลุ่มอยู่เสมอ รายชื่อที่อยู่หน้ามักจะมีเป็นรายชื่อที่ยอดเยี่ยมที่สุด ไม่มีใครอยากล้มเหลวในเกมของซีซือหรอก เพราะว่าซีซือไม่เคยปราณีกับ ‘ของเล่น’ที่พ่ายแพ้

 

และในเวลานี้ซีซือยังยึดตามระดับความเสียหายของการโจมตีด้วยพลังจิตเป็นเกณฑ์วัดการเรียงลำดับชื่อใหม่อีกด้วย ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งโอกาสสำหรับเด็กใหม่ที่มีรายชื่ออยู่อันดับท้ายๆ อย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับเด็กใหม่ที่มีรายชื่ออยู่หน้าๆก็คงไม่พอใจอย่างมากเช่นกัน

 

ครั้งนี้ซีซือกำลังบีบให้บรรดาเด็กใหม่ทุ่มพลังทั้งหมดที่มีอยู่

 

คำประกาศอย่างฆ่าตัวตายของสือเสี่ยวไป๋กับกฎกติกาที่เพิ่งประกาศใช้ของซีซือ ทำให้เกมที่น่าเบื่อนี้ก้าวไปสู่การพัฒนาอีกขั้นหนึ่ง ตอนนี้มันไม่ใช่ “การเป็นคู่ฝึก”แล้ว ในทางกลับกันสือเสี่ยวไป๋กลายเป็นหินฝนทองของพวกเขาไปแล้ว

 

“เกมดำเนินต่อ คนต่อไปคือ ซ่งหนาน”

 

เมื่อเห็นว่าไปได้สวย ซีซือจึงพลิกเปิดตำราเล็กหน้าแรกขึ้น

 

...

 

สือเสี่ยวไป๋กำลังพยายามดับไฟโทสะในใจให้สงบลง ในตอนที่บรรดาเด็กใหม่หัวเราะเยาะกล่าวเหยียดหยามหลิงฉุนนั้น เขาโกรธจัดจริงๆ แม้ว่าตัวเขาจะรู้จักกับหลิงฉุนได้ไม่นาน แต่หลิงฉุนก็เป็นแฟนคลับที่กระตือรือร้นเป็นสุดของสือเสี่ยวไป๋

 

แล้วแฟนคลับมาโดนคำด่าเหยียดหยามเช่นนี้ แน่นอนว่าสือเสี่ยวไป๋จะต้องนั่งดูเฉยๆ ไม่ได้แน่ ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้วิธีที่ง่ายและไร้สมองที่สุด

 

พวกเขาหัวเราะเยาะว่าหลิงฉุนเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดงั้นเหรอ?

 

เช่นนั้น ข้าคงต้องทำให้พวกนายได้ลิ้มรสชาติการโดนเย้าเย้ยว่าเป็น“ไอ้อ่อน”สักหน่อยแล้ว

 

สือเสี่ยวไป๋ตั้งปณิธานแน่วแน่ในใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถ “ทำลายก่อนแล้วสร้าง”ได้หรือไม่ แต่ขอเพียงเขาไม่หวั่นกลัว“ที่ถูกทำลาย”แต่ปรารถนา“จะสร้าง” แค่เพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพออีกเหรอ?

 

ในเวลานี้ สาวน้อยค่อนข้างอวบอันคนหนึ่งได้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสือเสี่ยวไป๋

 

“ซ่งหนาน โปรดชี้แนะด้วย!” ซ่งหนานเปล่งเสียงเตือนสติสือเสี่ยวไป๋ที่ใจลอยอยู่

 

สือเสี่ยวไป๋เรียกสติกลับมาได้ แล้วจึงยื่นมาขวาออกไปพลังสายหนึ่งพลันพุ่งออกมา โล่พิทักษ์สีขาวปรากฏขึ้นอีกครั้ง ดูไปแล้วมันยังคงเก่าทรุดโทรมเหมือนเดิม และโปร่งใสเปราะบางมากด้วย

 

“ฮึบ!”

 

ซ่งหนานสูดหายใจลึกไปทีหนึ่ง มืออวบอันพลันยื่นออกมาดุจดั่งกระบี่ยาว สือเสี่ยวไป๋เห็นเพียงมืออวบอันนั้นชูสองนิ้วออกมา จังหวะที่แทงเข้ามาก็ได้ปลดปล่อยแสงสีขาวเรียวเล็กสายหนึ่งพุ่งเข้าโจมตีโล่สีขาว

 

“ฟุบ!”

 

เพียงครู่เดียวโล่พิทักษ์สีขาวก็ถูกแทงทะลุเป็นรู ตามด้วยเสียงแตกละเอียดดังลั่น ก่อนจะสลายไปอย่างไร้ร่องรอย ทว่าแสงสีขาวกลับไม่ยอมหยุด มันตรงเข้าไปกรีดยังใบหน้าของสือเสี่ยวไป๋ลากยาวโจมตีเข้าลำตัวของสือเสี่ยวไป๋

 

จังหวะที่โล่พิทักษ์แตกสลาย สือเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกเจ็บที่กลางอก คล้ายกับว่าเลือดทั้งตัวไหลทะลักออกมาจนแทบจะหายใจได้ยาก จิตใต้สำนึกมึนงงไปชั่วขณะเพราะความเจ็บปวด ครั้นเมื่อเรียกสติกลับมาได้ใจก็ยังคงหวาดผวาอยู่ เขาสูดหายใจอย่างยากลำบากอยู่หลายที

 

“ขออภัย!”

 

ใบหน้าของซ่งหนานออกอาการอย่างอดไม่อยู่ พลางกล่าวเตือนสติว่า “ทางที่ดีนายควรกางโล่พิทักษ์ไว้ข้างกาย ในบรรดาเด็กใหม่มีบางคนที่ ‘สปิริตเบรค’ยาวเหมือนกับฉัน หากไม่ระวังการโจมตีสู่ร่างกายแล้วล่ะก็ เกรงว่า...”

 

ซ่งหนานไม่ได้พูดผลลัพธ์อันน่ากลัวนั้นออกมา เธอเพียงถอนลมหายใจยาว ก่อนจะหันหน้าไปยังซีซือ เมื่อเห็นซีซือจดอะไรบางอย่างลงในตำราเล่มเล็ก จึงรู้ว่าเขากำลังบันทึกคะแนนของเธออยู่ ในใจจึงกังวลขึ้นมาว่าการลงมือเมื่อครู่เธอไม่ได้ปราณีเลยสักนิด แทบจะไม่ได้ควบคุมทิศทางเลย จึงไม่รู้ว่าคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่ารายชื่อจะอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นหรือไม่

 

“คนต่อไป ฮวาเผิงจวี๋”

 

ซีซือตวัดมือเป็นความหมายให้ซ่งหนานถอยไป พลิกตำราเล่มเล็กไปหน้าที่สอง

 

ณ ที่นั่ง วัยรุ่นย้อมผมคนหนึ่งยืนขึ้นมา ยิ้มพลางพยักหน้าตอบกลับคนที่นั่งข้างกันสองสามคน ท่าทางคันไม้คันมือดูท่าอยากจะลองสนาม

 

แต่สือเสี่ยวไป๋บนเวทีหน้าอกยังคงกระเพือมไม่หยุด คล้ายกับความเจ็บปวดเมื่อครู่ยังไม่ดีขึ้นมาเลย

 

“ยิ่งโล่พิทักษ์ถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์แบบ ก็เป็นการยิ่งเพิ่มกำลังโหลดให้กับผู้ใช้ การโจมตีของซ่งหนานอย่างเต็มกำลังได้ทำให้สือเสี่ยวไป๋เกิดความเจ็บปวด และหากเป็นการโจมตีอย่างสุดกำลังของหวางหลิน ซ่งเซียว เซี่ยงอู่ล่ะ สือเสี่ยวไป๋จะทนรับได้อย่างไร?” บนที่นั่ง นัยต์ตาของหลิงฉุนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

 

ในเวลานี้ วัยรุ่นย้อมผมได้เดินมาหยุดตรงหน้าของสือเสี่ยวไป๋แล้ว

 

“เป็นไง? แค่นี้ก็ไม่ไหวซะแล้วเหรอ? เร็วสิ ไม่ใช่อยากกจะ ‘สำเร็จหลังพังทลาย’ หรอกหรอ? โล่พิทักษ์ของนายล่ะ?”วัยรุ่นย้อมผมเห็นว่าสือเสี่ยวไป๋ยังคงหอบหายใจไม่หยุด จึงด่ากระแซะเหน็บแนมขึ้นมา

 

“ข้าจะไม่ไหวได้อย่างไร!” สือเสี่ยวไป๋กัดฟัน แล้วยกโล่พิทักษ์สีขาวของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ในครั้งนี้สือเสี่ยวไป๋ฟังคำแนะนำของซ่งหนาน โดยการกางโล่พิทักษ์ไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากข้างกายออกไปสักหน่อย

 

“เอ๋? นี่นายไม่รู้เหรอว่าการกางโล่พิทักษ์วิญญาณให้ใกล้ตัวมากเท่าไร ระดับความแข็งแกร่งก็จะสูงมากเท่านั้น? ทำไม ถือไกลซะขนาดนั้น นายจะยอมแพ้แล้ว? หรือว่าจะถอยแล้ว? ไม่ใช่บอกว่าอยากพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้อ่อนแอที่แท้จริงเหรอ? นายพอจะมีความกล้าหาญอยู่ไหม? เป็นแบบที่ชายชาตรีเป็นได้หรือเปล่า?”

 

วัยรุ่นย้อมผมเอ่ยถ้อยคำเสียดแทง สีหน้าเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

 

สือเสี่ยวไป๋ตะลึงอึ้งเล็กน้อย นัยต์ตาแวบความเย็นชาขึ้นสายหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงแต่สลายโล่พิทักษ์ในมือไป แล้วกางโล่พิทักษ์ตัวใหม่ขึ้นมาไว้ข้างกาย โล่พิทักษ์ครั้งนี้เกือบจะแนบติดกับตัวเขาเลย สือเสี่ยวไป๋แอบรู้สึกว่าโล่พิทักษ์ในสองครั้งก่อนหน้ามีระดับความแข็งแกร่งที่ต่างกันอยู่บ้าง

 

ทันใดนั้น หัวใจของสือเสี่ยวไป๋พลันกระตุกวาบ คล้ายกับหยั่งรู้ถึงอันตรายบางอย่างที่ใกล้เข้ามา เขาหันหน้าไปมอง รูม่านตาพลันหรี่เล็กลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เห็นเพียงวัยรุ่นย้อมผมโจมตีเข้ามาด้านข้างเขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ หมัดของเขาอยู่ใกล้เข้ามาเกือบประชิดแล้ว!

 

การมาของหมัดนี้ช่างกะทันหันเกินไป สือเสี่ยวไป๋ไหวตัวไม่ทัน หมัดพลังสีขาวนั้นทะยานเข้าชนกับโล่พิทักษ์ที่เปราะบางอย่างรุนแรง!

 

“ตึง!”

 

โล่พิทักษ์แตกกระจายดังสนั่น แต่หมัดนั้นกลับไม่ยอมหยุด มันโจมตีต่อยเข้าไปยังหัวไหล่ของสือเสี่ยวไป๋อย่างจัง ครู่เดียวแสงสีขาวพลันระเบิดขึ้น คล้ายกับพลุไฟสีขาวเบ่งบานขึ้นอย่างสุกใสบริเวณหัวไหล่ของสือเสี่ยวไป๋

 

เพียงแวบเดียวร่างกายของสือเสี่ยวไป๋ลอยกระเด็นไปตกกระแทกลงบนพื้นเหล็กที่แข็งทื่อไกลหลายเมตร เกิดเป็นเสียงตกกระทบดังสนั่น สือเสี่ยวไป๋รู้สึกเพียงว่าในร่างกายมีพลังแตกกระจายบางอย่าง คล้ายกับว่ามันจะพุ่งทะลวงออกมาให้ได้

 

“ถุย!” สือเสี่ยวไป๋บ้วนเลือดอุ่นๆ ออกมาคำหนึ่ง

 

“เหอะ ช่างเป็นเศษสวะที่กำจัดง่ายเสียจริง” วัยรุ่นย้อมผมยิ้มเยาะอย่างดูถูก ก่อนจะหันไปมองซีซือด้วยใบหน้าแสดงอาการประจบสอพลอ จ้องมองอย่างกระหายไปยังตำราเล่มเล็กในมือซีซือ

 

สีหน้าของผู้คนที่นั่งอยู่ดูเปลี่ยนไปไม่น่าดูเล็กน้อย วัยรุ่นย้อมผมผู้นี้มีนามว่าฮวาเผิงจวี๋ มีเพียงคนศีลธรรมต่ำเหมือนกันกับเขาไม่กี่คนที่นับถือเรียกเขาว่าเป็นพี่น้อง การกระทำของฮวาเผิงจวี๋ในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่ายิ่งกระตุ้นความรังเกียจของผู้คนมากขึ้น

 

“ไม่เลว ในฐานะที่เป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง นายถือว่ามี ‘ความบันเทิง’อย่างเพียงพอ”

 

คำชมของซีซือทำเอาบรรดาเด็กใหม่ที่คิดจะเอ่ยปากตำหนิฮวาเผิงจวี๋ต่างพากันปิดปากไปอย่างว่าง่าย ฮวาเผิงจวี๋สีหน้าดีใจอย่างยิ่ง ก่อนจะหัวเราะได้ใจขึ้นมา

 

แต่ทางด้านข้างนั้น สือเสี่ยวไป๋ที่กำลังชันขาขึ้นคุกเข่าข้างหนึ่ง ทั้งยังสำลักไอไม่หยุด บางทีก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด แล้วทั่วทั้งร่างของเขาก็มีอาการสั่นเทาขึ้นอย่างรุนแรง

 

ซีซือเหลือบมองสือเสี่ยวไป๋ทีหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วจึงยกมือขึ้นปัดเบาๆ ไพ่โป๊กเกอร์ปรากฎขึ้นกลางอากาศเข้าโจมตีใส่สือเสี่ยวไป๋ แล้วหลอมรวมเข้าสู่ร่างกายของเขา ทันใดนั้นแสงสีแดงพลันพุ่งออกมาจากแผ่นหลังของสือเสี่ยวไป๋ กลายเป็นเงามายาไพ่โป๊กเกอร์ “สามโพแดง”

 

 

“จงยืนขึ้น ของเล่นชิ้นโปรดของฉัน เกมเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเอง”

 

ซีซือพลิกเปิดหน้าที่สามของตำราเล็มน้อยอย่างตื่นเต้นเป็นที่สุด

 

“คนต่อไป เย่เจียเฉวียน”

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด