ตอนที่แล้วบทที่ 31 ฟื้นขึ้นมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 กลุ่มผู้รอดชีวิต

บทที่ 32 สติแตก


บทที่ 32 สติแตก

 

ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ภายในห้องมืดสนิท แต่ทันใดนั้นเองซย่าน่าที่สงบนิ่งไม่ไหวติงมาตลอดกลับลืมตาขึ้นมา

 

แม้จะอยู่ห่างกันช่วงระยะหนึ่ง แต่หลิงม่อก็มองเห็นดวงตาคู่แดงก่ำแปลกประหลาดคู่นั้นของซย่าน่าได้อย่างชัดเจนแม้แต่ในความมืด ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกถึงการก่อตัวของบางอย่างจากปฏิกิริยาตอบสนองทางสัญชาตญาณของเย่เลี่ยน ซึ่งนี่เป็นปฏิกิริยาที่ปรากฏขึ้นเฉพาะเวลาที่เธอเผชิญหน้ากับพวกเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอมบี้กลายพันธุ์

 

ซย่าน่ากลายร่างเสร็จสมบูรณ์แล้วอย่างนั้นน่ะเหรอ หลิงม่อค่อยๆ เข้าไปใกล้ด้วยความระมัดระวัง เขาอยากจะสังเกตดูปฏิกิริยาของซย่าน่าให้ละเอียดกว่านี้

 

แต่เขาเพิ่งจะเดินไปถึงด้านหน้าเตียง ซย่าน่าก็พลิกตัวลุกขึ้นทันที แล้วพุ่งกระโจนเข้าใส่หลิงม่อท่ามกลางความมืดมิดที่แทบจะมองไม่เห็นนิ้วมือตัวเอง

 

ถ้าเป็นคนทั่วไป ก็คงแค่รู้สึกว่ามีลมแรงพัดมาปะทะหน้า จากนั้นก็ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น ท่ามกลางความมืดมิดซอมบี้แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามาก แล้วพวกมันก็ได้เปรียบทางด้านการมองเห็นโดยสิ้นเชิง

 

แน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้หลิงม่อไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของซย่าน่าได้อย่างชัดเจน แต่เขากลับสามารถมองเห็นทุกอากัปกิริยาของซย่าน่าได้อย่างแจ่มชัดผ่านทางมุมมองของเย่เลี่ยน นอกจากนี้เขาก็ได้ตื่นตัวเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนที่เดินเข้าไปใกล้เตียงแล้ว

 

พอซย่าน่าขยับเขยื้อนตัว หลิงม่อก็รีบกระโดดไปทางด้านข้างทันที ขณะเดียวกันเย่เลี่ยนที่นั่งเงียบอยู่ที่ข้างเตียงตลอดก็พลันกระโดดออกมา แล้วคว้าจับแขนของซย่าน่าเอาไว้จากทางด้านหลัง แม้ว่าปฏิกิริยาของซย่าน่าจะรวดเร็วว่องไวมาก เธอหันไปโจมตีเย่เลี่ยนทันทีทันควัน แต่ขณะนั้นเองหลิงม่อก็ได้พุ่งเข้าไปและกระโจนใส่ซย่าน่าจนล้มลงบนเตียง

 

นี่เป็นจุดอ่อนของซอมบี้ ซึ่งก็คือขาดความสามารถในการตัดสินใจ พวกมันโจมตีโดยอาศัยสัญชาตญาณเท่านั้น อีกทั้งยังถูกเบนความสนใจได้ง่ายมาก

 

แต่การต่อสู้ขัดขืนของซย่าน่าทำให้หลิงม่อเปลืองแรงไปมากทีเดียว หากไม่ใช่เพราะเขารีบควบคุมเย่เลี่ยนให้กดตัวซย่าน่าไว้ล่ะก็ ป่านนี้ซย่าน่าก็คงจะดิ้นหลุดไปแล้ว

 

ทว่าขณะที่หลิงม่อพลิกตัวเธอขึ้นมาและเตรียมควบคุมเธอ จู่ๆ ซย่าน่ากลับพูดเสียงพร่าเบาๆ ว่า “จะทำอะไรน่ะ”

 

“เฮือก!”

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี้นี้เพิ่งเห็นพลังการโจมตีสุดแข็งแกร่งของซย่าน่าล่ะก็ หลิงม่อคงจะคิดว่าซย่าน่ายังเป็นคนปกติอยู่นะเนี่ย!

 

ภายใต้ความประหลาดใจอย่างแรง หลิงม่อก็มองไปที่ดวงตาคู่นั้นของซย่าน่าด้วยความงงงันเล็กน้อย แต่แล้วก็พบว่าดวงตาที่เมื่อครู่ยังแดงก่ำคู่นั้น บัดนี้ได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว!

 

ตอนนี้สายตาของหลิงม่อเริ่มคุ้นชินกับความมืดแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังมัวสลัวอยู่เล็กน้อย แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เขาจึงยังพอมองเห็นสีหน้าและแววตาของซย่าน่าได้ชัดเจนอยู่ ดูจากปฏิกิริยาของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเธอยังค่อนข้างงงงวยกับเหตุการณ์ในตอนนี้อยู่ แต่เมื่อหลิงม่อเห็นท่าทางสับสนงุนงงของเธอ ยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกฟ้าผ่าใส่ในชั่วพริบตา!

 

ก่อนหน้านี้ตอนที่เกิดวิวัฒนาการ เย่เลี่ยนก็เคยมีสีหน้าแบบนี้อยู่พักหนึ่งเหมือนกัน ทั้งดูเหมือนว่าจะฟื้นคืนสติขึ้นมาเลาๆ แล้วก็คล้ายกับว่าเริ่มเกิดการแตกหน่อความคิดขึ้น สรุปคือไม่ใช่ซอมบี้ที่รู้จักแต่การฆ่าฟันอีกต่อไปแล้ว! แม้ว่าแววตาแบบนั้นจะหายไปจากดวงตาของเย่เลี่ยนอย่างรวดเร็ว แต่มันได้สลักฝังลึกลงไปในใจของหลิงม่อแล้ว สำหรับหลิงม่อแล้ว นี่เป็นความหวังอย่างหนึ่ง หวังว่าเย่เลี่ยนจะสามารถฟื้นคืนสติกลับมาโดยสมบูรณ์!

 

ทว่านึกไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะเห็นแววตาแบบเดียวกันในดวงตาของซย่าน่า แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับเย่เลี่ยนก็คือเธอพูดได้ด้วย...

 

“ซย่าน่า ซย่าน่า?” เป็นเวลานานทีเดียวกว่าหลิงม่อจะได้สติกลับมา เขารีบคว้าจับไหล่ของซย่าน่าและออกแรงเขย่าสามสี่ที แล้วร้องเรียกเธอเบาๆ

 

เสียงความเคลื่อนไหวภายในห้องนอนทำให้หวังเฉิงที่เฝ้าเวรอยู่ที่ห้องรับแขกสะดุ้งตกใจ และแม้กระทั่งทำให้หลิวอวี่หาวพลอยตกใจตื่นไปด้วย

 

“พี่หลิง! มีอะไรเกิดขึ้นกับซย่าน่าเหรอครับ” หลิวอวี่หาวถามด้วยความกังวลร้อนใจอยู่ที่ด้านนอกประตู

 

หลิงม่อพูดโดยไม่แม้แต่จะหันหน้าไปว่า “อย่าเข้ามา!”

 

ตอนนี้สถานการณ์ยังคลุมเครือ ให้พวกเขาเข้ามารังแต่จะยิ่งอลหม่านวุ่นวาย นอกจากนี้หลิงม่อก็อดรนทนไม่ไหวอยากจะรู้ว่าตกลงตอนนี้ซย่าน่าเป็นซอมบี้หรือว่าเป็นคนธรรมดากันแน่

 

สงสัยว่าจะถูกเสียงกระตุ้น ในที่สุดซย่าน่าที่อยู่ในสภาพสับสนงงงวยก็มีการตอบสนองบ้างเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้พูดตอบหลิงม่อ เธอกลับต่อสู้ขัดขืนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง สองตาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำไปหมด ความดุร้ายคลุ้มคลั่งแบบซอมบี้ได้เข้าครอบครองจิตใจของเธออีกครั้ง

 

หลิงม่อรีบให้เย่เลี่ยนควบคุมตัวซย่าน่าไว้ให้มั่น ส่วนตัวเขาก็ใช้ความสามารถในการควบคุมหุ่นซอมบี้มาลองควบคุมซย่าน่าดู ขืนปล่อยให้เธออาละวาดแบบนี้ต่อไป สุดท้ายจะต้องบอบช้ำทั้งสองฝ่าย ตอนนี้จำเป็นที่จะต้องหยุดยั้งเธอไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่น

 

ดวงแสงแห่งจิตของซย่าน่าแตกต่างจากของเย่เลี่ยนเป็นอย่างมากเหมือนอย่างที่คาดไว้ พูดให้ถูกคือในสายตาของหลิงม่อแล้ว ดวงแสงของซย่าน่าช่างดูสับสนยุ่งเหยิงเสียจริงๆ! เมื่อเทียบกับซอมบี้ที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะแล้ว ดวงแสงของซย่าน่าไม่ได้พร่ามัว มันกลับดูสว่างไสวเสียด้วยซ้ำ แต่ภาพที่สีแดงกับสีขาวสลับกันไปมาไม่หยุดนี้ หลิงม่อเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก! เวลานี้เห็นได้ชัดว่าสีแดงครอบครองพื้นที่มากกว่า ซย่าน่าจึงเปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่งสุดขีด ตอนที่ลองควบคุมเธอ หลิงม่อก็ประสบกับความกดดันอันมหาศาลแบบที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน

 

ดีที่พลังจิตผ่านการวิวัฒนาการมาแล้ว แม้ว่าจะไม่ง่าย แต่ตอนที่หลิงม่อเกือบจะตาเหลือกนั้น ในที่สุดเขาก็ยับยั้งสัญชาตญาณของซย่าน่าไว้ได้ และช่วงชิงอำนาจในการควบคุมร่างกายของซย่าน่ากลับคืนมา!

 

แต่เนื่องจากซย่าน่ายังคงหลงเหลือสติอยู่บ้าง หลิงม่อจึงไม่ได้ใช้กำลังเข้าควบคุมเธอ แต่เขาทำเหมือนกับตอนที่ควบคุมเย่เลี่ยน เขาแค่สร้างสายสัมพันธ์ทางจิตกับเธอ ทำให้เธอโจมตีทำร้ายไม่ได้ นอกจากนี้เวลาที่เธออยากจะโจมตีทำร้ายคนอื่น ก็สามารถยับยั้งไว้ได้ทัน

 

หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายจนเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว ในที่สุดก็ทำให้ซย่าน่าสงบนิ่งลงได้ หลิงม่อนวดขมับพลางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากเตียงอย่างช้าๆ แล้วมองซย่าน่าด้วยสายตาสับสนงุนงง

 

ลักษณะท่าทางของซย่าน่าที่เดี๋ยวก็เป็นซอมบี้ เดี๋ยวก็ดูมีสติสัมปชัญญะนี้ ทำให้หลิงม่อนึกคำๆ หนึ่งขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว คำนั้นคือสติแตก

 

หลังจากติดเชื้อไวรัส ซย่าน่าที่เริ่มกลายร่างก็กลืนกินก้อนเหนียวหนืดไปสองก้อนติดต่อกัน แต่เชื้อไวรัสในร่างกายไม่ได้สลายหายไป มันกลับกัดกร่อนความรู้สึกนึกคิดของเธอ แต่ก็เนื่องด้วยซย่าน่ากลืนกินก้อนเหนียวหนืดเข้าไป ร่างกายของเธอจึงถูกเชื้อไวรัสโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่ากลับยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ดีเหมือนเดิม ไม่ได้เกิดการเน่าเปื่อยเหมือนกับลู่ซิน นี่เรียกได้ว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายเลย

 

หลังจากถูกหลิงม่อควบคุมและใช้กำลังสะกดความปรารถนาที่จะโจมตีเอาไว้ ซย่าน่าก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง แม้แต่ตาทั้งสองข้างก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพปกติด้วย แต่ดวงตาของเธอยังคงมีความงงงวยอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะยังฟื้นตื่นไม่เต็มที่ ถึงกระนั้นก็ตามการจะควบคุมเธอในสถานการณ์เช่นนี้ หลิงม่อยังคงต้องทุ่มเทพยายามเป็นอย่างมาก

 

แน่นอนว่าการที่เธอสามารถรักษาสายสัมพันธ์ทางจิตกับเขาได้ขณะที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ก็นับว่าใช้ได้แล้ว แต่จะให้ควบคุมการเคลื่อนไหวของเธอ มันออกจะยากอยู่สักหน่อย

 

สำหรับหลิงม่อแล้ว การควบคุมซอมบี้กลายพันธุ์และซอมบี้ที่ค่อนข้างสติแตกพร้อมกันเป็นอะไรที่กดดันมากจริงๆ

 

ตอนนี้หลิวอวี่หาวอดรนทนไม่ไหวพุ่งถลาเข้ามาในห้อง แต่ทันทีที่เห็นสภาพภายในห้อง เขาก็อึ้งไปสนิท

 

แน่นอนว่าเขาไม่สนใจเตียงที่รกระเกะระกะ แต่ซย่าน่าที่นั่งงงงันอยู่บนเตียงกลับทำให้หลิวอวี่หาวส่งเสียงร้องด้วยความดีใจระคนประหลาดใจทันที “ซย่าน่าไม่ได้กลายเป็นซอมบี้ เธอไม่ได้กลายเป็นซอมบี้จริงๆ ด้วย! ฮ่าๆๆ ซย่าน่า!” เขาพูดพลางพุ่งเข้าไปหาซย่าน่า แล้วยื่นมือไปดึงตัวเธอด้วยความตื่นเต้นสุดๆ

 

“อย่าแตะต้องเธอ!”

 

น่าเสียดายที่หลิงม่อช้าไปหนึ่งก้าว เมื่อมือของหลิวอวี่หาวสัมผัสโดนแขนของซย่าน่า ซย่าน่าที่เดิมทียังอยู่ในสภาพงงงวยก็พลันคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้งทันที ความแดงก่ำในดวงตาก็ยิ่งเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ใช่เพราะซย่าน่าถูกหลิงม่อควบคุมเอาไว้ ป่านนี้เธอคงลงมือทำร้ายหลิวอวี่หาวไปแล้ว

 

เหตุการณ์นี้ทำให้หลิวอวี่หาวตกใจจนถอยกรูดไปหลายก้าว จากนั้นก็หันไปมองหลิงม่อด้วยความตื่นกลัวสุดขีด “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

 

แน่นอนว่าหลิงม่อไม่อาจบอกเรื่องที่ตัวเองมีความสามารถในการควบคุมหุ่นซอมบี้ได้ แต่เรื่องเกี่ยวกับสภาพของซย่าน่า เขากลับคิดหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลมาได้ “ฉันเดาว่าตอนนี้เธอยังคงมีอาการแทรกซ้อนอยู่ละมั้ง...ทางที่ดีนายอย่าไปกวนเธอ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะขาดสติขึ้นมา”

 

“อาการแทรกซ้อน?” หลิวอวี่หาวเบิกตาโต แต่ไม่ได้สงสัยคำพูดของหลิงม่อเลยแม้แต่น้อย

 

ใช่แล้ว นอกจากคำว่าอาการแทรกซ้อนแล้ว ก็ไม่มีคำอธิบายไหนที่จะบรรยายสภาพของซย่าน่าในตอนนี้ไปได้ดีกว่านี้แล้ว ในเวลานี้ดวงตาของซย่าน่าฉายแววกระหายเลือดและจับจ้องหลิงม่อเขม็ง ไม่ได้แตกต่างไปจากซอมบี้ที่รู้จักแต่ฆ่าฟันพวกนั้นเลย แต่เธอกลับเอาแต่นั่งนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน สภาพเช่นนี้บ่งบอกว่าเธอยังคงหลงเหลือสติสัมปชัญญะอยู่บ้างละมั้ง...

 

.........................................................................................................................................................

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด