ตอนที่แล้วบทที่ 28 เริ่มกลายร่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ช่วยให้หลุดพ้นหรือว่าทอดทิ้งดี

บทที่ 29 การกลายร่างที่แปลกประหลาด


บทที่ 29 การกลายร่างที่แปลกประหลาด

 

แต่รอมาสิบกว่านาทีแล้ว ซย่าน่าก็ยังคงเอาแต่จ้องมองหลิงม่อด้วยความงงงัน ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น ยังดีที่นอกจากดวงตาคู่แดงฉานแล้ว ร่างกายเธอก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอีก ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ปรากฏเค้าว่าจะเน่าเปื่อยด้วย เลยทำให้หลิงม่อเบาใจขึ้นเล็กน้อย

 

“เราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ”

 

หลิงม่อถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วดึงซย่าน่าขึ้นมา แน่นอนว่าก่อนที่จะดึงตัวเธอ หลิงม่อได้ลองควบคุมเธอเพื่อหยั่งเชิงดูว่าเธอยังมีสติอยู่หรือไม่ แรงต้านที่แข็งแกร่งทำให้หลิงม่อปวดหัวเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจ ตราบใดที่ยังมีสติอยู่ ก็แสดงว่ายังไม่ได้กลายเป็นซอมบี้โดยสมบูรณ์

 

อย่างไรเสียคนปกติกับซอมบี้ก็มีความแตกต่างทางด้านจิตใจมากทีเดียว คนปกติรู้จักคิดใคร่ครวญ มีอารมณ์ขึ้นลง แต่ซอมบี้เป็นเหมือนเครื่องจักรกลที่ถูกครอบงำโดยสัญชาตญาณ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ถึงแม้พลังจิตของหลิงม่อจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะสามารถยับยั้งความคิดของคนอื่นได้ ก่อนหน้านี้ที่ควบคุมซย่าน่าได้ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งหมดก็เป็นเพราะตอนนั้นเธออยู่ในสภาพที่ถูกกระตุ้นโดยสัญชาตญาณแทบจะโดยสิ้นเชิง การระลึกรู้ตัวเรียกได้ว่าอยู่ในระดับต่ำสุด

 

ถึงแม้ตอนนี้ซย่าน่าจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่เธอก็ยังคงรับรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้ทั้งหมด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าควบคุมเธอในสถานการณ์เช่นนี้

 

แล้วเพื่อความปลอดภัย หลิงม่อควบคุมเย่เลี่ยนให้จับแขนซย่าน่าด้วยกันกับเขาคนละข้าง แล้วแบกเธอขึ้นพาดบ่า ทีนี้ถึงแม้เธอจะคลุ้มคลั่งอาละวาดขึ้นมากลางคัน แต่มีเขากับเย่เลี่ยนร่วมด้วยช่วยกัน คงไม่ถึงกับปล่อยให้เธอไปทำร้ายใครได้

 

“พี่หลิง พี่จะพาซย่าน่าไปไหนเหรอครับ” ตอนนี้หลิวอวี่หาวคิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น เขาถามด้วยความลนลานเล็กน้อย

 

หลิงม่อหันไปมองเขาทีหนึ่งและพูดว่า “ที่นี่อันตรายมาก กลิ่นคาวเลือดจะดึงดูดซอมบี้ในโรงเรียนมาได้ ถึงตอนนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับซย่าน่าอีก พวกเราจะรับมือกันยังไงล่ะ ตอนนี้ไปหาสถานที่ที่มันปลอดภัยกว่านี้ก่อน”

 

“ใช่ พี่พูดถูก...” หลิวอวี่หาวงงงัน จากนั้นก็รีบพยักหน้าหงึกหงัก แล้วพูดต่อด้วยความจริงใจว่า “พี่หลิง แล้วก็พี่เย่เลี่ยนด้วย ขอบคุณพวกพี่นะครับ”

 

คำ “ขอบคุณ” นี้ครอบคลุมหลายเรื่อง หลิงม่อแค่ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร สำหรับเย่เลี่ยน เธอเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ ถึงแม้ภายนอกจะดูไม่ออก แต่แน่นอนว่าเธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อคำพูดของหลิวอวี่หาวอยู่แล้ว

 

โชคดีที่หลิวอวี่หาวไม่ได้ถือสา สำหรับเขาแล้ว เย่เลี่ยนคงเป็นแค่พี่สาวคนสวยที่เก็บเนื้อเก็บตัว

 

ขณะที่เดินผ่านหอพักหลังหนึ่ง จู่ๆ หลิวอวี่หาวก็ขอให้หลิงม่อรอสักครู่ แล้วเขาก็วิ่งเข้าไปในหอพัก จากนั้นไม่นานก็ถือมีดยาวของซย่าน่าพลางวิ่งหอบแฮกออกมา “มีดเล่มนี้ซย่าน่าเป็นคนทำเองกับมือ คุณภาพดีมาก ทิ้งไปแบบนี้น่าเสียดายออก เธอเองก็คงปวดใจมากแน่ๆ”

 

อย่าว่าแต่หาปืนยากเลย ถึงจะหาได้แล้ว แต่คนธรรมดาทั่วไปจะยิงปืนเป็นไหม แล้วฝีมือการยิงเป็นอย่างไร ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือการใช้ปืนผาหน้าไม้ในเขตตัวเมืองที่มีซอมบี้อยู่กันอย่างหนาแน่นแบบนี้ ถ้าไม่มีอุปกรณ์เก็บเสียงปืน มันก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

 

ในสถานการณ์เช่นนี้ อาวุธแบบประชิดตัวน่าจะคล่องมือมากกว่า แต่อาวุธแบบประชิดตัวที่ดีๆ มีไม่มากนัก แล้วการฟันซอมบี้ก็ไม่ใช่การสับเนื้อหมู อาวุธสึกหรอได้ง่ายมาก ถ้าออกแรงมากเกินไปก็อาจจะแตกหักได้ อย่างมีดสั้นเล่มนี้ของหลิงม่อ ไม่เพียงจะน้ำหนักเบา แต่ยังคมกริบและคุณภาพใช้ได้ทีเดียว

 

มีดทำมือของซย่าน่ากับของสกุลหวังล้วนมาจากแหล่งเดียวกัน ฝีมือการทำก็ดีมาก มีดยาวเล่มนั้นดูไม่ธรรมดาทีเดียว อีกทั้งทันทีที่มีเวลาว่างก็จะเห็นเธอบำรุงรักษาเป็นอย่างดี เธอรักและทะนุถนอมมีดยาวเล่มนี้มากจริงๆ

 

หลิวอวี่หาวแสดงความรู้สึกลึกซึ้งที่มีต่อซย่าน่า เป็นธรรมดาที่เขาจะไปเอามีดยาวเล่มนี้กลับคืนมาให้เธอ ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจว่าซย่าน่าจะกลายเป็นแบบไหนก็ตามที...

 

“นายดีกับซย่าน่าจังเลย มีน้ำใจ...” หลิงม่อพูดพลางทอดถอนใจเล็กน้อย เขาเองก็ดีต่อเย่เลี่ยนแบบนี้เช่นกัน แม้ว่าเธอจะกลายเป็นซอมบี้ หรือแม้กระทั่งเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ แต่เขาก็ยังคงไม่ละทิ้งความหวัง

 

แต่หลิวอวี่หาวกลับแสดงสีหน้าแปลกประหลาด “พี่หลิง พี่คงเข้าใจผิดแล้วละ ผมกับซย่าน่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น คือว่าซย่าน่าเธอ...เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น...”

 

เป็นอย่างนี้นี่เอง...ช่วงที่อยู่ด้วยกัน หลิงม่อก็ดูออกแล้วว่าความรู้สึกที่หลิวอวี่หาวมีต่อซย่าน่านั้นไม่ธรรมดา แต่ ซย่าน่ากลับมีท่าทีที่ค่อนข้างเย็นชากับเขา

 

“ผมไม่ได้ทำแบบนี้เพราะผมชอบซย่าน่านะครับ...” หลิวอวี่หาวรีบร้อนอธิบาย

 

“ฉันรู้” หลิงม่อพยักหน้าอย่างเข้าใจดี ในบรรดาความรู้สึกต่างๆ ที่หลิวอวี่หาวมีต่อซย่าน่าคงจะเป็นความรู้สึกซาบซึ้งใจและชื่นชมเสียมากกว่ากระมัง อย่างไรเสียมอดพวกนั้นก็อาศัยพึ่งพาซย่าน่าเป็นปกติอยู่แล้ว แม้ว่าหลิวอวี่หาวจะพยายามสักแค่ไหน แต่ด้วยความสามารถในการต่อสู้ของวัยรุ่นธรรมดาๆ อย่างเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเทียบเทียมซย่าน่าได้

 

หลิงม่อเห็นหลิวอวี่หาวเรี่ยวแรงน้อย แล้วยังต้องถือมีดยาวเล่มนั้นอีก ไม่เพียงสีหน้าจะซีดเผือด แต่ยังหายใจถี่รัว ทว่ากลับไม่คิดที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเลย หลิงม่อจึงรู้สึกประทับใจขึ้นมาทันที สำหรับชายหนุ่มที่มีน้ำใจ อีกทั้งจิตใจดีคนนี้ หลิงม่อรู้สึกชื่นชมพอสมควร เขาจึงให้เย่เลี่ยนรับมีดยาวมาถือไว้แทน

 

ทางด้านหวังเฉิง ถึงแม้จะเหนื่อยหอบ แต่เขาก็ฉลาดกว่าลู่ซินมาก เขากัดฟันยืนหยัดและติดตามอยู่ข้างๆ หลิงม่อโดยไม่ปริปากพูดสักคำ

 

จากนั้นไม่นานพวกเขาก็ออกมาจากรั้วโรงเรียน แล้วเดินเข้าไปในย่านชุมชนสุดหรูหราที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อพาร์ตเม้นต์แบบมีลิฟต์นี้มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ โดยพื้นฐานแล้วจะอยู่ในสภาพที่ปิดเป็นบางส่วน นอกจากนี้ซอมบี้ที่เดินเตร่อยู่ในชุมชนก็มีจำนวนไม่มาก แต่สำหรับหลิงม่อแล้ว สถานที่เช่นนี้ไม่ใช่ที่พักที่เหมาะสมนัก แต่เวลานี้พวกเขาพาซย่าน่ามาด้วย จึงจำต้องทนอยู่ไปพลางๆ ก่อน

 

หลิงม่อมองดูรอบๆ แล้วพาทุกคนเดินเข้าไปในอพาร์ตเม้นต์หลังหนึ่งที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อีกทั้งหาทางหลบหนีได้ค่อนข้างง่าย จากนั้นเขาก็เจอบันไดฉุกเฉิน

 

เดิมทีแค่ต้องการหาที่พักชั่วคราว หลิงม่อจึงไม่ได้ไปจัดการเก็บกวาดซอมบี้ในอพาร์ตเม้นต์ แล้วพวกเขาก็เข้าไปในห้องๆ หนึ่งบนชั้นสอง

 

ประตูห้องพักห้องนี้เปิดแง้มอยู่ ข้างในมีข้าวของยุ่งเหยิงระเกะระกะไปหมด แต่ไม่มีซอมบี้อยู่ในนั้น หลังจากล็อคประตูห้องและตรวจดูรอบๆ ห้องอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว หลิงม่อก็จัดแจงพาซย่าน่าไปอยู่ในห้องนอนห้องหนึ่ง

 

ตอนนี้อารมณ์ของซย่าน่ายังคงค่อนข้างคงที่ แม้ดูเหมือนว่าเธอจะมีความคิดว่างเปล่าเล็กน้อย หากไม่ใช่เพราะดวงตาคู่นั้นแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ ล่ะก็ หลิงม่อก็คงคิดว่าเธอกลับมาเป็นปกติโดยสมบูรณ์แล้ว แต่ขณะที่หลิงม่ออุ้มเธอไปที่เตียง เธอกลับดิ้นรนขัดขืนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง สองตาจับจ้องที่แผงอกของหลิงม่อเขม็ง

 

“ฉัน...ฉันอยากได้...”

 

“ยังอยากได้อีกเหรอ”

 

หลิงม่อประหลาดใจ แต่มือของซย่าน่าคว้าหมับเข้าให้แล้ว หลิงม่อจึงจำต้องหยิบก้อนเหนียวหนืดที่มีระดับความบริสุทธิ์ค่อนข้างต่ำออกมาอีกก้อน

 

พอก้อนเหนียวหนืดนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าซย่าน่า เธอก็อดรนทนไม่ไหวคว้าไปทันทีและใส่เข้าปาก จากนั้นสองตาก็เบิกโตทันที แล้วสักพักร่างกายก็อ่อนปวกเปียกและดวงตาค่อยๆ ปิดลง

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้หลิงม่อตกอกตกใจทันที ภายใต้ความกระวนกระวาย เขาไม่มีเวลาคิดอะไรมาก เขาเอาหูแนบกับอกของซย่าน่า

 

ค่อยยังชั่ว หัวใจเต้นอยู่...หรือว่าปฏิกิริยานี้จะเหมือนกับเย่เลี่ยน เธอกำลังจะเกิดวิวัฒนาการแล้วอย่างนั้นเหรอ แต่เธอยังไม่ได้กลายเป็นซอมบี้โดยสมบูรณ์เลยนะ!

 

ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลิงม่อเงยหน้าขึ้นมองซย่าน่าด้วยสายตาสับสนงุนงง ในใจเปี่ยมไปด้วยความงงงวย แต่ตอนนี้ซย่าน่าสลบไสลไปแล้ว ไม่รู้ว่าต้องรอนานแค่ไหนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมา ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาคงต้องอยู่ที่นี่กันสักพักแล้วละ

 

....................................................................................................................................................

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด