ตอนที่แล้วตอนที่ 44: เข้าพักในโรงแรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46: กล่องพิฆาต จอมขมังพลังอบแห้ง

ตอนที่ 45: เจ้าหญิงพริเซล่า


ตอนที่ 45: เจ้าหญิงพริเซล่า

 

ในห้องพักของเฮเซคียาห์ พริเซล่าขยับกายทำท่าเหมือนจะเดินไปเปิดประตู เขาจึงยืดมือไปคว้าแขนเธอไว้ หยุดเธอเอาไว้ก่อน เขารู้ดีว่าเธอไม่กลัวคนที่อยู่ด้านนอกแม้แต่น้อย แต่ถ้าปล่อยให้คนอื่นไม่ว่ามนุษย์หรือชาวมัสตินเห็นเธออยู่กับเขา เขาไม่รู้ถึงผลร้ายต่อเธอที่จะตามมา

 

“ไลฟ์ควอตซ์บอกอะไรกับน้องบ้าง มันพูดอะไรกับเธอ”

 

การได้รับรู้คำแนะนำของไลฟ์ควอตซ์ที่ให้แก่เธอ สำคัญอย่างมากกับการกระทำต่อๆ ไปของพวกเขา

 

“มันบอกไม่ให้ยุ่งกับเสด็จพี่ เพราะไม่เช่นนั้นเสด็จพี่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาวมัสตินจริงๆ ไม่ใช่แค่อาจจะเป็น”

 

“ถามมันซิว่าเราควรเปิดประตูดีไหม”

 

“ใช่เพคะ มันบอกว่าสมควรเปิด...” พริเซล่านิ่งไป กลืนคำพูดของตนลงอย่างกะทันหัน เธอมองไปที่ประตู ปากเผยอค้างน้อยๆ และทันใดนั้นก็สะดุ้งสุดตัว เพราะมีเสียงกระแทกประตูดังมาจากด้านนอก แขกไม่ได้รับเชิญกำลังพยายามเข้ามาในห้องของพวกเขา “โอ้! เข้าใจแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ไลฟ์ควอตซ์อยากให้น้องทำจะเป็นทุกอย่างที่สามารถกำจัดเสด็จพี่ออกไปจากเมืองได้”

 

“อย่างหนึ่งที่น้องควรทำตามที่มันแนะนำ คือเชื่อเรื่องการออกห่างจากพี่ไว้” เขาขยับออกห่างจากพริเซล่า ลุกไปหยิบเอาทุกอย่างออกจากชุดหนังสำหรับการล่องหน แล้วรีบผลัดเปลี่ยนไปสวมใส่ชุดหนังโดยหันหลังให้น้องสาว เวลานี้ไม่เหมาะที่จะเอียงอาย เขาต้องรีบเร่งเพื่อจะได้หนีออกไป

 

“ไม่ไป! น้องเลือกเสด็จพี่ น้องไม่กลัวที่จะถูกพวกมัสตินด้วยกันมองว่าเป็นคนทรยศ”

 

“ไลฟ์ควอตซ์ขู่เธอแล้ว เธอยังไม่เชื่ออีกเหรอ” เฮเซคียาห์เข้าใจดีว่าไลฟ์ควอตซ์ให้โอกาสกับสายเลือดขัตติยะที่มีสิทธิในราชบัลลังก์ มันต้องรอดูเหตุการณ์จนสุดว่าพริเซล่าสนับสนุนสัตว์ประหลาดอย่างเขาที่เป็นภัยต่อเผ่าพันธุ์อย่างไม่หันหลังกลับ จึงจะประกาศออกไปยังบุคคลทั่วไปให้เห็นเธอเป็นศัตรู

 

บรอธที่วางตัวนิ่งหลบมุมอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาพักหนึ่ง มันลอยมาอยู่ด้านหน้าของเขาซึ่งเป็นผลให้พริเซล่าเห็นมันชัดๆ ด้วย

 

“นี่มัน! เศวตศาสตราของเสด็จพี่” พริเซล่ายื่นมือไป ดวงตาสีแดงดั่งพลอยสีเลือดจับจ้องบรอธด้วยความพิศวง และบรอธก็ทำให้เฮเซคียาห์แปลกใจเพราะมันยอมให้น้องสาวของเขาจับได้ ประกายไฟฟ้าพุ่งออกมาจากตัวมัน และดูเหมือนจะเป็นในระดับที่รุนแรงมากด้วย แต่พริเซล่าเพียงครางเบาๆ กับไฟฟ้าที่ช็อตใส่เธอขณะเธอพลิกบรอธดูให้รอบด้าน

 

เสียงโครมครามที่ประตูดังต่อเนื่อง เขาหันไปดูแล้วพบว่าหมัดหนึ่งของคนตามล่าชกเข้ามาจนประตูเป็นรู

 

“ไปซะ พริส” เขาไม่อยากให้พริเซล่าถูกไลฟ์ควอตซ์ตัดสิทธิในราชบัลลังก์เพราะมาสาละวนช่วยเขา

 

เฮเซเคียวอาจได้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในเมืองตอนนี้ แต่ไม่แน่ว่าตำแหน่งผู้นำที่แท้จริงอาจตกเป็นของพริเซล่าในอนาคต

 

“ไม่!” พริเซล่าส่ายหน้า และเธอหันไปทางประตูที่ตอนนี้คนด้านนอกบุกเข้ามาแล้ว

 

มือของเธอข้างหนึ่งยกขึ้น และไอหมอกล่องลอยออกมาจากมือพุ่งตรงไปด้านหน้า ส่งผลให้ร่างที่พร้อมจู่โจมเข้ามาถูกแช่แข็งไปในชั่วพริบตา จากสรีระของแขกปริศนาในชุดมิดชิดปิดบังใบหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิง

 

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านอีกแล้ว ถ้าไม่มีเสด็จพี่!” พริเซล่าหันขวับมาบอกเขา และโยนบรอธมาให้

 

บรอธยั้งตัวมันไม่ให้ไปกระแทกกับเจ้าของ ลอยตัวในอากาศ

 

พริเซล่าสลัดมือของเธอสองข้างออกเหมือนกับสลัดน้ำหลังล้างมือ ร่างแช่แข็งนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ การที่อีกฝ่ายถูกจัดการง่ายดายเช่นนี้แปลว่าเธอน่าจะเป็นมนุษย์

 

“มันไม่จบง่ายๆ หรอกนะ” เสียงหนึ่งดังมาจากทางหน้าต่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เฮเซคียาห์รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ที่นั่น

 

สายตาของเขาประสานกับเอ็ดก้า ก่อนจะเอนกายไปด้านหลัง หลบกริชน้ำแข็งที่เอ็ดก้าส่งออกมา

 

กริชน้ำแข็งส่วนหนึ่งปักเข้าไปที่ด้านหลังของพริเซล่า

 

“บังอาจ! เจ้าคนไร้มารยาท” เธอตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด และหมุนกายมาพร้อมกับยกสองมือขึ้น สายลมกรรโชกแรงพัดออกจากมือเธอก่อนที่เขาจะเอ่ยห้ามทัน ฝาผนังโรงแรมปลิวกระเด็นลอยไปพร้อมกับเอ็ดก้า ทางด้านเฮเซคียาห์ก็เช่นกัน

 

ชายหนุ่มตะโกนเรียกบรอธ มันเข้ามาขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น หยุดเขาไม่ให้ปลิวไปไกล

 

แต่นั่นเท่ากับแผ่นหลังของเขากระแทกเข้าไปกับด้านข้างตัวบรอธอย่างแรง เขาถึงกับกระอักเลือดออกมาเพราะอาการช้ำใน แถมยังต้องเจ็บหนักอีกกับพวกเศษซากของตัวตึกที่ปลิวเข้ามาใส่ในเวลาเดียวกัน

 

“ขอโทษค่ะเสด็จพี่ น้องไม่ทันระวัง” พริเซล่าตะโกนเสียงแหลม และพยุงเขาไว้ด้วยลม ร่างของเขาจึงไม่ตกลงพื้น

 

“บรอธ...” เขาอยากด่าไอ้กล่องงี่เง่า

 

“วิเคราะห์: ชุดเกราะเพิ่มสมรรถนะในการรับแรงกระแทกได้มากขึ้น”

 

“เออ แล้วไง หาวิธีการช่วยที่มันนุ่มนวลกว่านี้ไม่ได้เหรอ” เขาหอบหายใจพลางต่อว่า ร่างกายตอนนี้อยู่ในท่ายืน รับรู้ได้ว่าลมของพริเซล่าพยุงใต้เท้าของเขาเอาไว้ น้องสาวของเขาเดินบนลมตามขึ้นมาอยู่ด้านข้าง และบอกกับเขาว่าให้รีบออกเดินไปพร้อมกัน

 

เบื้องล่าง ผู้คนโกลาหลวุ่นวาย ชี้มือมาทางพวกเขา ตลาดบริเวณหนึ่งวอดวาย เอ็ดก้ากำลังพุ่งขึ้นมาจากแผงขายของที่พังไปแล้ว และหางตาของเฮเซคียาห์เห็นร่างๆ หนึ่งกำลังพุ่งมาจากทางห้องพักของเขาซึ่งตอนนี้มันใช้พักอาศัยอีกไม่ได้แล้ว

 

“อะไรกัน!” เขาอุทานด้วยความตกใจ

 

เอ็ดก้าน่ะไม่เท่าไร แต่อีกร่างที่พุ่งเข้ามา น่าจะเป็นร่างมนุษย์ที่เคยแหลกเหลวไปแล้ว

 

“รายงาน: เอ็ดน่า เศวตศาสตราเป็นประเภทให้การรักษา ความสามารถของเธอทำให้เธอไร้เทียมทานเท่ากับชาวมัสตินที่มีไลฟ์ควอตซ์อยู่ในร่างกาย”

 

“ห๊ะ?” เฮเซคียาห์ไม่อยากเชื่อหู

 

เขาดึงเอาแก่นพลังกำเนิดอาวุธที่พกไว้ออกมาเปลี่ยนเป็นดาบ รับการโจมตีจากเอ็ดก้า ส่วนด้านพริเซล่า เธอรอจนร่างของเอ็ดน่าเข้ามาใกล้ ใช้มือรับหมัดที่ส่งเข้ามาไว้แล้วออกแรงผลักกลับทำให้เอ็ดน่าถลาถอยออกไปห่างๆ หลังจากนั้นพริเซล่าหันมามองเอ็ดก้า เพียงจ้องตา เอ็ดก้าสะดุ้งสุดตัว เลือดในตัวของเขาทิ่มแทงทะลุผิวหนังออกมา เขาร่วงหล่นลงไปกระแทกพื้น

 

“น่ารำคาญ!” พริเซล่ากระชากเสียงอย่างหงุดหงิด

 

เธอฉวยแขนของพี่ชาย และดึงเขาให้ออกเดินตามเธอไปบนอากาศ พลังธาตุของเธอแสนกล้าแข็งหวนให้เขารำลึกถึงตนเองในสมัยก่อน

 

“แน่ใจนะพริสที่จะทำแบบนี้ โลกข้างนอกนั่นไม่น่าอยู่เลยสักนิด” เขาเตือนน้องสาวที่เข้าพวกกับตน ไม่อยากให้เธอนึกเสียใจทีหลัง

 

“ถ้ามีเสด็จพี่ ที่ไหนก็น่าอยู่ทั้งนั้นแหละ” พริเซล่าหันมายิ้มใสๆ ให้เขา

 

เธอพาเขาวิ่งไปในอากาศ แต่ก็ค่อยๆ ลดระดับลง แล้วพวกเขาทั้งคู่ก็มายืนบนพื้น แต่ห่างไปจากตลาดพอสมควร คนบนถนนในชุมชนพากันหลีกไปยืนอยู่ข้างทาง พวกเขาจับจ้องมาที่เฮเซคียาห์ บรอธ และพริเซล่า หลายคนคุกเข่าลงกับพื้นเพราะยำเกรงฐานันดรศักดิ์ของเจ้าหญิง ขณะที่หลายคนลนลานและวิ่งหนีเข้าอาคารพักอาศัยไป

 

“พวกมนุษย์ดูน่ารักขึ้นนะ เพราะตอนนี้เสด็จพี่มีบางอย่างคล้ายๆ กับพวกเขา” เธอเบือนใบหน้ามาเหลือบมอง แล้วออกแรงดึงพี่ชายให้เดินเร็วขึ้นอีก “แต่น้องเห็นแล้วว่าเสด็จพี่ยังมีสิ่งที่เหมือนมัสตินอยู่ เมื่อครู่แผลหายเองได้ใช่ไหม”

 

“ใช่ แล้วถ้าพี่ตายก็ฟื้นได้เหมือนเดิม แต่เฉพาะในตอนกลางวันนะ”

 

“งั้นเสด็จพี่ก็ไม่ใช่มนุษย์”

 

“ฮะๆๆ พี่ชอบ ดีที่ได้ยินแบบนั้น”

 

“นี่มันผิดไปจากที่ไลฟ์ควอตซ์ต้นกำเนิดบอก มันบอกกับเราว่าเสด็จพี่เป็นมนุษย์ไปแล้ว เพราะไม่น่าใช่ เสด็จพี่ไม่น่าเป็นมนุษย์” พริเซล่ายังเดินเร็วขึ้นอีก เป็นผลให้เฮเซคียาห์ต้องเปลี่ยนเป็นวิ่งแทนเพื่อให้ก้าวทันเธอ “น้องไม่รู้จะบอกว่าเสด็จพี่เป็นอะไรกันแน่ เพราะก็รู้สึกได้ว่าเสด็จพี่ไม่ใช่ชาวมัสตินเหมือนกัน เสด็จพี่แปลกๆ”

 

“โอเค งั้นก็ไม่ต้องไปแคร์ว่าพี่เป็นอะไร แค่สนใจว่าพี่ต้องการเป็นเหมือนเดิม แล้วพี่แน่ใจว่าเสด็จแม่ทรงช่วยพี่ได้”

 

“น้องก็ว่าเสด็จแม่น่าจะทรงช่วยได้ แม้ว่าพระองค์จะไม่ทรงตรัสใดๆ ให้น้องฟังเลยก่อนหน้านี้ มีแต่บอกให้ลืมเสด็จพี่ไปซะ” น้ำเสียงของพริเซล่าแฝงความเป็นกังวล แล้วเธอก็เดินเร็วขึ้นอีก

 

“พริส...”

 

“อ้อ! เสด็จพี่เดินไม่ทัน ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องเดินแล้ว” พริเซล่าเบือนหน้ามามองเขา เธอปล่อยมือที่จับมือเขาออก และยกมือขึ้นกำ ในทันใดนั้นเอง ร่างของเขาเขาลอยขึ้น และพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว มีการเลี้ยวไปทางทิศทางต่างๆ น่าหวาดเสียวเป็นอย่างยิ่ง การบินเร็วนี้ทำให้ลมตีหน้าชนิดที่ปากและแก้มสะบัดได้พรึบพรับราวกับมีคนเอาเครื่องเป่าลมหญ้าเป่าใส่ปาก

 

“สนุกสุดๆ ไปเลย” บรอธพูดกับเขาเมื่อร่างของเขาอยู่ๆ ก็หยุดนิ่ง

 

ชายหนุ่มมึนศีรษะแปลกๆ เขาผงกศีรษะ และรีบตั้งหลักเมื่อร่างกายค่อยๆ ปรับเปลี่ยนมาอยู่ในท่ายืน เท้าแตะพื้นมาอยู่ในท่าทีที่มั่นคง ด้านหน้าของเขามียานสีดำดูหรูหรา บริเวณกระจกซึ่งใช้ทั้งเพื่อมองทะลุออกไปจากห้องคนขับและเปิดออกได้เป็นประตูมีสีมันปลาบสีดำเข้มกว่าตัวถัง หัวและท้ายด้านข้างทั้งหมดสี่ด้านมีวงล้อซึ่งจะทำงานร่วมกับกลไกพิเศษใช้พลังงานลมเพื่อให้ยานบินไปบนอากาศหรือวิ่งเหนือพื้นดินได้

 

“ขึ้นยาน” พริเซล่าป้องปากบอก เธอกำลังเดินมาทางด้านหลัง

 

เฮเซคียาห์พยักหน้า เขาเหยียบขอบด้านข้างล้อและพาตัวเองไปนั่งในยาน และส่งยิ้มเหนื่อยๆ ให้พริเซล่าที่พอขึ้นมาบนยานได้ ก็หอมแก้มของเขาฟอดใหญ่

 

“ไปกันค่ะ ถ้าใครมาขวางทาง น้องจะช่วยเขี่ยมันออกไป”

 

“ไปไหนดีล่ะ”

 

“ก็ไปให้พ้นทางไงคะ” พริเซล่าหัวเราะแล้วติดเครื่อง เธอยื่นหน้ามาหอมแก้มเขาอีกครั้ง ก่อนจะเร่งเครื่องติดกันอีกหลายครั้งทำให้เกิดเสียงไม่ต่างจากพวกขับยานซิ่ง แล้วเธอก็เหยียบคันเร่งแรงๆ อีกทีพายานทะยานขึ้นสูงไปบนฟ้า ก่อนจะใช้วิธีวิ่งนอกเขตถนน เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองหรือพระราชวังได้อย่างรวดเร็ว

 

 

 

ระหว่างทางเอ็ดก้าและเอ็ดน่า คู่พ่อลูกบุญธรรมคนละเผ่าพันธุ์ พร้อมกับเจ้าหน้าที่มหาดไทยและทหารอีกหลายนายขับยานทั้งแบบโดยสารและซ้อนขี่ติดตามยานของพริเซล่ามาติดๆ แต่ไม่มีการใช้กำลัง เพราะทุกคนคงยังเกรงใจพริเซล่าอยู่ ไลฟ์ควอตซ์ดูเหมือนสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวไว้เพื่อล้อมจับเฮเซคียาห์เท่านั้น เมื่อพวกเขาลงจากยาน

 

“สนุกดีเหมือนกันนะ ได้ขัดคำสั่งไลฟ์ควอตซ์แบบนี้” พริเซล่าหัวเราะหึๆ

 

“เฮซต้องรอเราอยู่แน่ พี่ขอโทษที่ทำให้น้องต้องมาพัวพันด้วย ถ้าสู้กัน...”

 

“พี่เฮซแข็งแกร่งกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้” พริเซล่ายักไหล่

 

“เธอคิดว่าจะเอาชนะเขาเชียวเหรอ เฮซไม่ใช่คู่มือของพี่ในสมัยก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นน้อง น้องมีโอกาสชนะน้อย” เขาไม่ได้ดูถูกน้องสาว แต่เฮเซเคียวเคยเข้าร่วมสงครามในอวกาศกับเผ่าพันธุ์ซึ่งชาวมัสตินพิจารณาร่วมกับไลฟ์ควอตซ์ว่าไม่มีอารยธรรมอันดีงาม ประสบการณ์ในสนามรบจริงๆ จะทำให้พริเซล่าพ่ายแพ้

 

“บรอธ เศวตศาสตราแห่งความรู้ มันน่าจะพอช่วยได้ ใช่ไหม” พริเซล่าหันมายิ้มให้บรอธ

 

บรอธเรืองแสงสีเขียว ดูท่าทีเหมือนพึงพอใจกับการถูกยอมรับว่ามีความสามารถ

 

“เฮ้! เธอเชื่อใจของพรรค์นี้เนี่ยนะ”

 

“โอ้! แต่เราไม่มีตัวช่วยอื่นนะ หรือพี่มีตัวช่วยอื่นให้” พริเซล่าไม่มองถนน เพราะด้านหน้าไม่มียานอื่นกล้ามาขวางทาง ทุกคนรู้ดีว่าพริเซล่าชนพวกเขาได้อย่างไม่ไว้ชีวิต ยานของเธอติดตั้งระบบสำหรับเข้าแข่งขันประชันความเร็วด้วย ถ้าถูกชนเข้า ยานอื่นจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

 

เฮเซคียาห์ส่ายหน้า แต่ไม่ค่อยสบายใจที่พริเซล่าให้ความเชื่อใจในตัวบรอธ และก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอทำใจยอมรับที่จะเห็นบรอธอยู่ใกล้ๆ ได้อย่างง่ายดาย

 

“แผนของเราคืออะไรนะ” พริเซล่าเริ่มสนใจสิ่งที่เธอจำเป็นต้องรู้ก่อนพวกเขาจะไปถึงจุดหมาย

 

“อ้อ...” ชายหนุ่มอุทานเพราะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้คุยกับเธอให้ดีก่อน “เดี๋ยวเรารีบเข้าไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ ถ้ามันมีทางให้พี่กลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ เราก็ทำ แล้วทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

 

“นั่นเป็นการมองโลกในแง่ดีไปหน่อยนะ”

 

“พี่รู้”

 

“เวลาที่เสด็จพี่บอกว่าเสด็จพี่ทรงทราบ ปกติมักมีพระดำริอีกด้านเอาไว้ด้วยนี่” พริเซล่ารู้จักเขาดีเช่นเดียวกับราชินีเอสเธอร์ “ถ้าทรงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้จะทำยังไงต่อ จะทรงออกไปอาศัยอยู่กับมนุษย์อย่างนั้นเหรอ”

 

“...”

 

“น้องไปด้วยนะ”

 

“พริส!”

 

“น้องไม่สนใจจะอยู่ที่นี่ต่อ ถ้าไม่มีเสด็จพี่ประทับอยู่” พริเซล่าดูมุ่งมั่นที่จะติดตามเขาไป ถ้าถึงที่สุด สถานการณ์เป็นไปในทางที่แย่ที่สุด “น้องอาจจะมีสิทธิได้ราชบังลังก์ แต่ดูจากรูปการ เฮซไม่ยอมให้น้องได้มาแน่ มันต้องหาทางฆ่าน้องเพื่อตัดตัวเลือกระหว่างที่ไลฟ์ควอตซ์ยังไม่ประกาศเลือกคนที่จะสืบทอดพลังของราชันย์ต่อ”

 

เฮเซคียาห์นิ่วหน้า เขาไม่ได้คิดว่าเฮเซเคียวจะกล้าฆ่าพริเซล่าเพราะราชินีเอสเธอร์ไม่มีทางยอม

 

พริเซล่าเร่งความเร็วจนถึงระดับสูงสุดแล้ว ยานทั้งลำสั่นไปหมด แต่พวกเขาก็ใกล้ถึงพระราชวังแล้ว ดูจากแผนที่บนแผงควบคุม

 

“หรือบางทีเราน่าจะฆ่าเขาก่อน วันนี้นี่แหละ”

 

“พริส...”

 

“ฆ่าเขา!” พริเซล่าจ้องไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น

 

เฮเซคียาห์เห็นแล้วว่าด้านหน้าเป็นประตูสูงใหญ่ราวตึกนับสิบชั้น วัตถุทำประตูเป็นอะลูมิเนียมที่ถูกดัดขึ้นรูปสวยงาม หน้าประตูที่เปิดออกเตรียมพร้อมให้ยานพุ่งเข้าไป มีร่างของเฮเซเคียวยืนอยู่ ฝ่ายนั้นยกมือขึ้นและดึงแส้ไฟฟ้าออกมาจากในอากาศ

 

ทว่า...

 

ปังงง

 

ยานชนเข้ากับร่างของเฮเซเคียว โดยเฮเซคียาห์คิดไว้แล้วเชียวว่าอีกฝ่ายไม่สามารถถูกจัดการได้ง่าย

แทนที่จะกระเด็นไป น้องชายตัวดีกลับใช้มือเดียวหยุดยานไว้สำเร็จ

 

“น้องจะฆ่ามันเอง!” พริเซล่าหันมาสบตากับเฮเซคียาห์ด้วยแววตาจริงจัง เธอกดปุ่มให้ประตูยานเปิดออก

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด