ตอนที่แล้วตอนที่ 54 หลอกลอนราวกับภูติผี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 56 มอบความตายให้กับคนที่มาหยุดข้า

ตอนที่ 55 ทะลวงสู่อาณาทะเลยอดลมปราณ


มันเป็นเรื่องจริงที่เจียงวู่เฉิงกำลังจะทะลวงระดับ แต่มันไม่ใช่อย่างที่หยินมินและคนอื่นๆคิด ความก้าวหน้าของเขาไม่ใช่การก้าวเข้าสู่อาณาแก่นทองคำ แต่เป็นระดับอาณาทะเลลมปราณ

ไม่มีใครที่รู้ว่าเจียงวู่เฉิงที่สามารถสังหารผู้ที่อยู่ในขั้นสูงสุดอาณาทะเลลมปราณได้อย่างง่ายดายนั้น ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นอาณาทะเลลมปราณเลย

เขานั้นนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องใต้หลังคา พลังลมปราณทั่วทั้งห้องกำลังไหลมารวมตัวกันภายในร่างกายของเขา

เมื่อมาถึงจุดสูงสุดของขั้นที่9แห่งเส้นทางเซียนเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา การทะลวงขั้นของเขานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ก่อนหน้าในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับศัตรูทั้งสามคน เขาสังเกตเห็นถึงสัญญาณบางอย่างที่บอกว่าพลังลมปราณของเขากำลังจะก้าวหน้าขึ้น

นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา มันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เขาไม่กล้าที่จะทำให้เกิดความล่าช้า

คนอื่นก็แค่อาณาทะเลลมปราณทั่วไป แต่สำหรับข้าคืออาณาทะเลยอดลมปราณ

เพราะเจียงวู่เฉิงนั้นฝึกฝนเคล็ดบัญญัติสวรรค์ ที่เป็นเคล็ดการบ่มเพาะที่ท้าทายสวรรค์

การบ่มเพาะเคล็ดวิชานี้เป็นการบ่มเพาะที่ฝ่าฝืนกฏธรรมชาติอย่างมาก ในทุกย่างก้าวของเขาเป็นการท้าทายธรรมชาติและทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่พิเศษ

เคล็ดบ่มเพาะทั่วไปนั้นมีเพียงแค่7ขั้นของวิถีลมปราณ ในขณะที่เคล็ดบัญญัติสวรรค์นั้นมีถึง9ขั้นในเส้นทางแห่งเซียน

นักรบทั่วไปจะกลายเป็นขั้นอาณาทะเลลมปราณหลังจากที่ทะลวงขั้นวิถีลมปราณ แต่ผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดบัญญัติสวรรค์จะกลายเป็นอาณาทะเลยอดลมปราณ

"ข้าสงสัยจริงๆว่าอะไรคือขั้นอาณาทะเลยอดลมปราณ"เจียงวู่เฉิงรู้สึกตื่นเต้น ภายในตัวเขาก่อเกิดพลังลมปราณที่เข้มขนพุ่งทะลวงเข้าชนสิ่งกีดขวาดและบุกทะลวงทุกอย่าง

พลังลมปราณส่งผลกระทบกับร่างกายของเขาอย่างมากเมื่อพวกมันพยายามที่จะทำลายสิ่งกีดขวาง พลังลมปราณที่เหลือของเขาไหลเข้าสู่กล้ามเนื้อและเส้นเลือดของเขาในทันที

เขาได้มาถึงขั้นอาณาทะเลยอดลมปราณในทันที!

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าขั้นอาณาทะเลยอดลมปราณคืออะไร เมื่อเขาได้ผ่านการทะลวงขั้นมา

"มันคือพลังลมปราณ ข้าเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นอาณาทะเลลมปราณ แต่พลังของข้ากลับมากกว่านักรบทั่วไปที่อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณถึงสิบเท่า"ความประหลาดใจปรากฏขึ้นใบหน้าของเขา

เมื่อเปรียบเทียบกับอาณาทะเลลมปราณของนักรบทั่วไป พลังลมปราณของเขานั้นกว้างใหญ่กว่าอย่างมาก

อาณาทะเลลมปราณแบ่งออกเป็นสามระดับ แบ่งได้เป็นแรกเริ่ม,ลึกซึ้งและสูงสุด ภายในตันเถียนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อก้าวหน้าขึ้นทุกระดับ แต่มันเป็นเรื่องที่แตกต่างสำหรับระดับอาณาทะเลยอดลมปราณ

สำหรับเขาแล้ว แทนที่จะมีระดับแรกเริ่ม,ลึกซึ้งและขั้นสูงสุดของอาณาทะเลลมปราณ และจะมีพลังลมปราณเพิ่มขึ้นมาในแต่ละขั้น

ตอนนี้เจียงวู่เฉิงเพิ่งจะก้าวเข้าสู่ขั้นแรกของขั้นอาณาทะเลยอดลมปราณ พลังลมปราณของเขาก็มีมากกว่าถึง10เท่าของนักรบในขั้นอาณาทะเลลมปราณทั่วไป

ในขั้นที่สองของอาณาทะเลยอดลมปราณ พลังลมปราณของเขาจะเป็น100เท่าของคนทั่วไป

หากเขาไปถึงขั้นที่สามของอาณาทะเลยอดลมปราณ มันก็สามารถอธิบายได้ว่าพลังของเขาจะไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง

ปริมาณของพลังลมปราณที่อยู่มีอยู่ไม่สมควรที่จะมีอยู่น้อย นักรบนั้นต้องมีรากฐานของพลังลมปราณที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะต่อสู้กับผู้อื่นหรือการใช้วิชาการต่อสู้ของพวกเขา หากพลังลมปราณของพวกเขาหมดเพราะการต่อสู้ที่ยาวนาน พวกเขาก็ทำได้แค่รอที่จะถูกฆ่า

และพลังลมปราณที่ไม่มีที่สิ้นสุดหมายถึงอะไร?

นั่นหมายว่าถ้าเขากำลังต่อสู้กับใครบางคนที่มีความแข็งแกร่งเท่าๆกัน เขาสามารถที่จะใช้พลังลมปราณที่ไม่มีที่้สิ้นสุดของเขาเพื่อยืดเวลาการต่อสู้และรอให้คู่ต่อสู้หมดแรงได้

นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างแท้จริง มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ทั้งสามระดับของอาณาทะเลลมปราณจะเพิ่มเพียงแค่ปริมาณของพลังลมปราณเท่านั้น มันจะไม่เพิ่มความแข็งแกร่งแต่อย่างใด กล่าวคือความแข็งแกร่งของพลังลมปราณจะเท่าเดิมคงที่ตลอดไป สิ่งนี้แตกต่างจากขั้นวิถีลมปราณ ที่การก้าวหน้าในแต่ละขั้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังลมปราณให้พวกเขาในแต่ละระดับด้วย

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจียงวู่เฉิงกังวลใจแต่อย่างใด "มันเป็นเรื่องปกติที่ความแข็งแกร่งของพลังลมปราณจะไม่เพิ่มขึ้น"

ท้ายที่สุดแล้ว พลังลมปราณของเขานั้นก็ใกล้เคียงกับจุดสุดยอดอาณาทะเลลมปราณ เมื่อเขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นที่9 หากพลังลมปราณของเขาได้ไปถึงขั้นสูงสุดของอาณาทะเลยอดลมปราณ แล้วใครจะสามารถมีชีวิตรอดหลังจากการต่อสู้กับเขา?

"พลังลมปราณของข้าได้ปะทุขึ้นมา..."เขาหลับตาและกำมือแน่น เขารู้สึกถึงพลังลมปราณที่ระเบิดขึ้นบนมือของเขาอย่างฉับพลัน เขารู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา

"ตอนนี้ข้าได้มาถึงอาณาทะเลยอดลมปราณ ข้าอาจจะไม่เห็นความแตกต่างในการปะทุของพลังลมปราณ แต่ในอนาคตถ้าข้าเข้าสู่ขั้นที่2และ3 พลังลมปราณของข้าน่าจะปะทุขึ้นในระดับเดียวกับอาณาแก่นทองคำ

เขาเพิ่งมาถึงขั้นแรกของอาณาทะเลยอดลมปราณเท่านั้น แต่พลังลมปราณของเขาก็ปะทุขึ้นมาในระดับเดียวกับอาณาแก่นทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังลมปราณของเขานั้นเหนือกว่านักรบที่อยู่ในอาณาทะเลลมปราณ นี่คือเคล็ดการบ่มเพาะที่สุดยอด

...

ขณะที่เจียงวู่เฉิงกำลังรู้สึกประหลาดใจกับความก้าวหน้าของตัวเอง มีบางเรื่องเกิดขึ้นในห้องลับใต้ดินของสำนักเทียนหวน

เงาที่ถูกห่อด้วยเสื้อคลุมสีดำปรากฏขึ้นทีละจุด

"เสียงกรีดร้องจากด้านบนเริ่มจะลดน้อยลง ดูเหมือนว่าการต่อสู้ภายในนิกายเทียนหวนกำลังจะสิ้นสุดลง"ชายที่สวมหน้ากากสีเงินกล่าวขึ้น

นักรบของวังมังกรทองต่อสู้กันมาเป็นเวลานานกว่าสองชั่วโมง และมีเวลาเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะกวาดล้างสำนักเทียนหวน นักรบที่อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณส่วนใหญ่ของนิกายเทียนหวนล้วนถูกสังหารไปหมดแล้ว มีเพียงส่วนน้อยที่หนีรอดไปและยังคงกระจัดกระจายอยู่ทั่วนิกาย

โดยธรรมชาติแล้วการต่อสู้กำลังจะจบลงโดยไม่ช้า

แต่ทันใดนั้นก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

บูม!

ประตูห้องลับถูกเปิดออกและตามมาด้วยเสียงหัวเราะมากมาย

"ฮ่าฮ่า! ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะมีห้องลับอยู่ภายในนิกายเทียนหวน"

ทุกคนในห้องลับต่างรู้สึกเย็นวาบเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ

ประตูห้องลับเปิดออก และปรากฏเงาทั้งสี่ร่างก้าวขึ้นมา หากเจียงวู่เฉิงอยู่ที่นี่เขาจะจำได้ในทันทีว่าเงาทั้งสี่นั้นคือใคร

นาทีที่ชายทั้งสี่ก้าวเข้ามาในห้องลับ ชายทั้งเก้าก็จ้องมองพวกเขาด้วยความเย็นชา การจ้องมองมาของชายสวมหน้ากากสีเงินนั้นรุนแรงอย่างมาก สายตาของเขาเปรียบได้ดั่งดาบที่จะทะลุหัวใจของพวกเขา

"โอ้"

เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมอง ชายทั้งสี่ต่างรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของพวกเขากำลังจะหยุดเต้น

ชายอ้วนคนนั้นอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในทันใดนั้นชายสวมหน้ากากสีเงินก็หายตัวไปในทันที เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งข้างหลังของชายร่างอ้วน

ดวงตาของชายร้วงอ้วนเบิกกว้าง เขารู้สึกถึงความอุ่นที่คอของเขาและพบว่ามีเลือดอุ่นๆไหลออกมาจากลำคอของเขา

ฟึบ!ผู้บุกรุกทั้งสี่ต่างล้มลงบนพื้น

ทันใดนั้นชายสวมหน้ากากสีเงินก็พูดด้วยเสียงที่เย็นชาและกังวานไปทั่วห้องลับ

"เนื่องจากพวกเราถูกพบเจอแล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไป ตามข้ามาและออกไปฆ่าพวกมัน ข้าอยากจะรู้นัก ว่าจะมีใครกล้ามาหยุดข้า!"

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด