ตอนที่แล้วบทที่ 16 ต้องขอบอกว่าหุ่นของสามีเธอเพอร์เฟ็กต์เกินจะบรรยาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 จั่วเชียนคนนี้สนใจเธอใช่หรือเปล่า

บทที่ 17 นึกถึงคำว่าผิดประเวณีขึ้นมา


บทที่ 17 นึกถึงคำว่าผิดประเวณีขึ้นมา

 

ด้วยความที่ฉางฉิงเขินจัด ดวงตากลมโตใสแป๋วของเธอจึงเบิกโตยิ่งกว่าเดิม

 

เมื่อวานเธอส่งเสียงร้องเมื่อไรกัน

 

ภาพต่างๆ ฉายแวบขึ้นมาในหัว แล้วใบหน้าเธอก็เดือดปุดๆ ดูเหมือนว่าเธอจะส่งเสียงร้องจริงๆ แต่เธอร้องเพราะตกใจต่างหากล่ะ

 

“ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะ” ฉางฉิงแก้ตัว แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด “แล้วซ่งฉู่อี๋ล่ะคะ”

 

“เขาต้องไปทำงาน ไปตั้งแต่แปดโมงแล้วล่ะ” ฉางซินยิ้มตาหยี “แถมยังห้ามไม่ให้พี่ส่งเสียงดังทำเธอตื่นด้วย เอาใจใส่จริงๆ เลย”

 

“ฉันก็ต้องไปที่สถานีโทรทัศน์แล้วเหมือนกัน” ฉางฉิงกลัวโดนพี่สาวพูดล้ออีก จึงหยิบขนมปังปิ้งกับน้ำเต้าหู้ แล้วเดินหนีไป

 

ระหว่างทาง เธอได้รับสายของซ่งฉู่อี๋ “พี่สาวคุณบอกว่าคุณไปทำงานแล้ว?”

 

“อืม” ฉางฉิงไม่รู้ว่าเขาจำเรื่องเมื่อคืนได้หรือเปล่า ใจเธอเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ

 

“เมื่อคืนผมเมา ผมคงไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินคุณใช่มั้ย” จู่ๆ ซ่งฉู่อี๋ก็ถามด้วยเสียงนุ่มนวล

 

“...ไม่เลยค่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ คุณนอนหลับเป็นตายเลย” ฉางฉิงโล่งอก

 

“งั้นก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ตอนเย็นคุณว่างมั้ย พ่อผมบอกว่าอยากให้คุณมาทานอาหารเย็นที่บ้านผม เดิมทีนัดวันนี้ แต่วันนี้ผมต้องเข้าเวรตอนกลางคืน” ดูเหมือนว่าที่ปลายสายอีกด้านหนึ่งมีคนเรียก “คุณหมอซ่ง” ด้วยความร้อนใจ แล้วซ่งฉู่อี๋ก็พูดว่า “ผมมีงานต้องทำนิดหน่อย งั้นไว้พรุ่งนี้จะโทรหานะ”

 

“ได้ค่ะ...” ฉางฉิงยังพูดไม่ทันจบ เขาก็วางสายแล้ว

 

เธอเบ้ปากใส่โทรศัพท์ ท่าทางไม่ค่อยพอใจ

 

_ _ _ _ _ _ _ _

 

สิบโมงเช้า ตอนที่ฉางฉิงเดินเข้าไปในห้องสตูดิโออีกครั้ง เธอรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย

 

นับแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอก็คือคนที่แอบแต่งงานแล้ว

 

“ฉางฉิง เมื่อวานคุณซ้อมดำเนินรายการมาเรียบร้อยแล้วหรือยัง” จั่วเชียนสวมชุดสูทสีแดงทั้งตัว ทั้งหล่อทั้งเท่

 

“ฉันซ้อมมาสองสามวันแล้วค่ะ ไม่มีปัญหา” ทั้งสองคนร่วมงานกันและทำงานเข้าขากันมาตั้งนานแล้ว ฉางฉิงรีบหยิบบทรายการออกมาทันที “อาจารย์จั่วคะ เรามาต่อบทกันหน่อยดีกว่าค่ะ ตอนบ่ายอัดรายการจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด”

 

“อืม” เวลาทำงาน จั่วเชียนดูเอาจริงเอาจัง แต่ว่าวันนี้ตอนที่พวกเขาสองคนยืนพูดคุยกัน มีพนักงานจำนวนไม่น้อยมองพวกเขาด้วยสายตาแปลกๆ

 

ฉางฉิงรู้สึกอึดอัดใจ แต่เมื่อเห็นจั่วเชียนดูจริงจังกับการทำงาน เธอก็ไม่อยากพูดแทรกเรื่องส่วนตัว

 

กว่าจะอัดรายการเสร็จก็หกโมงเย็นแล้ว ฉางฉิงเพิ่งจะล้างเครื่องสำอางออก จั่วเชียนก็เดินมาหา แล้วหัวเราะเบาๆ พลางพูดว่า “คราวที่แล้วคุณบอกว่าจะเลี้ยงข้าว งั้นไปเย็นนี้เลยแล้วกัน”

 

“ได้ค่ะ” ถึงเขาไม่พูด ฉางฉิงก็ตั้งใจจะชวนเขาอยู่แล้ว

 

เมื่อออกมาจากสถานีโทรทัศน์ ฉางฉิงนั่งรถของจั่วเชียนไป จั่วเชียนพาเธอไปที่ร้านอาหารชื่อดังแนวย้อนยุคร้านหนึ่ง ภายในร้านอาหารกลางแจ้งมีเงาต้นไม้พลิ้วไหว ลมยามเย็นพัดโชยอ่อนและบนโต๊ะมีเทียนไขจุดอยู่ ดูเหมาะกับคู่รักเป็นอย่างมาก

 

แต่เมื่อเห็นจั่วเชียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ฉางฉิงก็รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย

 

“ชอบที่นี่มั้ย” จั่วเชียนถามเสียงเบานุ่มนวล

 

ฉางฉิงพยักหน้าและพูดด้วยความเสียใจว่า “อาจารย์จั่วคะ คุณได้ยินข่าวลือพวกนั้นในบริษัทหรือเปล่าคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน”

 

จั่วเชียนมองดูดวงตาใสแป๋วของเธอ แล้วอมยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรหรอก ผมอยู่ในวงการนี้มาเก้าปีแล้ว แล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งสองครั้ง เพียงแต่คราวนี้ผู้อำนวยการทำเกินไปจริงๆ ผมได้ยินว่าฉืออี่หนิงยังไปเอะอะโวยวายที่ห้องทำงานคุณด้วย ถ้าผมอยู่ตรงนั้นด้วยล่ะก็ ผมจะไม่ให้คุณถูกรังแกอย่างแน่นอน”

 

“อาจารย์จั่วคะ ฉันจะมัวแต่ให้คุณคอยช่วยเหลือตลอดไม่ได้หรอกค่ะ ที่จริงแล้วไม่ว่าจะทำอาชีพไหน ช่วงแรกก็มักจะถูกรังแกอยู่แล้ว ฉันยังโอเคดีค่ะ” ฉางฉิงพูดเสียงหนักแน่นว่า “ฉันไม่มีทางเนรคุณที่ครั้งนี้คุณเสี่ยงเป็นปรปักษ์กับผู้อำนวยการเพื่อให้ฉันอยู่ในรายการต่อหรอกค่ะ”

 

จั่วเชียนยกถ้วยชาขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงเทียน “ฉางฉิง อย่าว่าแต่เป็นปฏิปักษ์กับผู้อำนวยการเลย ขอเพียงคุณยังอยู่ข้างกายผม ถึงแม้จะต้องพาคุณออกจากสถานีโทรทัศน์ ผมก็ไม่สนใจ ขอเพียงคุณอยู่ข้างกายผมได้ ไม่ว่าไปที่สถานีไหน ก็ได้รับให้เข้าทำงานในตำแหน่งสำคัญได้อยู่แล้ว”

 

จู่ๆ ฉางฉิงก็รู้สึกไม่สบายใจ

 

ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า คำพูดของอาจารย์จั่วเหมือนมีความหมายอื่นแฝงอยู่

 

“อาจารย์จั่ว...”

 

“ฉางฉิง ต่อไปคุณก็เลิกเรียกผมว่าอาจารย์จั่วได้แล้ว แล้วผมก็ไม่ต้องการเป็นแค่ผู้ที่มีสายตาแหลมคมในชีวิตคุณ ผมยังหวังว่าจะเป็นอย่างอื่นได้...” สายตาของจั่วเชียนดูอ่อนโยนมากขึ้น

 

ฉางฉิงตะลึงงัน เมื่อความคิดนั้นแวบขึ้นมาในสมอง เธอก็นึกถึงคำว่า ‘ผิดประเวณี’ ขึ้นมาเป็นอย่างแรก

 

.....................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด