ตอนที่แล้วบทที่ 17 ค่าตอบแทนความดี (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 19 ค่าตอบแทนความดี (3)

บทที่ 18 ค่าตอบแทนความดี (2)


บทที่ 18 ค่าตอบแทนความดี (2)

 

        ระหว่างแหวนมิติกับเจ้านายมีสายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณอยู่ และมีเพียงเจ้านายเท่านั้นที่สามารถเปิดผนึกแหวนได้ พลังภายนอกฝืนกระแทกก็รังแต่จะทำให้แหวนเสียหาย คำอธิบายถึงสาเหตุที่แหวนหายไปมีเพียงอย่างเดียว ตอนนี้อินจู๋นึกออกแล้ว ตอนที่เราพยุงขอทานน้อยคนนั้นขึ้นมา เขาชนตัวเราเพื่อดึงดูดความสนใจ แล้วรูดแหวนมิติของเราติดมือไปด้วย

 

หลังออกมาจากทะเลโพรงมรกต เป็นครั้งแรกที่ความรู้สึกเดือดดาลปรากฏขึ้นในหัวของอินจู๋ ใจดีทำบุญทำทาน แต่กลับถูกขโมยของสำคัญไป เขาคือนักเทวคีตนะ! ไม่มีพิณเขาก็ไม่สามารถใช้พลังเวทมนตร์ได้เลย ยิ่งกว่านั้นพิณห้าตัวยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักพิณ มันอยู่กับเขามาสิบหกปี หายไปทั้งอย่างนี้ เขาจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?

 

และในขณะนั้นเอง ในมุมที่ไร้ผู้คนมุมหนึ่งของเมืองลัวร์ ขอทานน้อยปิดกล่องในมือให้เรียบร้อย ก่อนพูดพึมพำกับตัวเองว่า “นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแหวนมิติ น่าเสียดายที่เอาของข้างในออกมาไม่ได้ ช่างเถอะ เอาไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ สังคมสมัยนี้หาคนดีที่มีจิตใจบริสุทธิ์อย่างนี้ได้ยากจริงๆ ถือว่าให้บทเรียนกับเขาก็แล้วกัน แหวนมิติแล้วยังไง เฮอะๆ มีกล่องตะกั่วอันนี้อยู่ก็อย่าหวังว่าจะใช้คลื่นพลังจิตติดต่อได้ เหรียญทองตั้งหลายสิบเหรียญ พอสำหรับค่าเดินทางกับค่าเรียนของข้าแล้ว พ่อ อ้อไม่สิ ตาแก่เอ๋ย รอก่อนเถอะ สักวันหนึ่งข้าจะไปเอาของที่ข้าสมควรได้คืน” ดวงตาของเขาโตและเปล่งประกายมาก เพียงแต่ไม่แจ่มใสเหมือนกับอินจู๋ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชังและความรู้สึกแง่ลบที่ซับซ้อนต่างๆ

 

ถือกล่องที่ฉวยมาใส่แหวนเอาไว้แน่น รัศมีสีเขียวอ่อนประกายวาบ เงาร่างบอบบางหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“จบกัน ติดต่อไม่ได้” ถอนคืนพลังจิตที่ปล่อยออกมา สีหน้าของอินจู๋เปลี่ยนเป็นซีดเซียวไปหมด

 

แหวนมิติหายไปหมายความว่าอะไร? หมายความว่าเขาสูญเสียสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักพิณ หมายความว่าเขาสูญเสียค่าเดินทางทั้งหมดและจดหมายแนะนำไปยังโรงเรียนมิลาน “ไม่เหลืออะไรแล้ว ข้าควรทำยังไงดี? ตกลงข้าควรทำยังไงดี?” ตัวอยู่เบอร์บอน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไปมิลานต่อดีไหม? ไม่มีค่าเดินทางกับจดหมายแนะนำแล้ว กลับไปดีไหม? ไม่มีค่าเดินทางเหมือนกัน แถมยังเสียพิณห้าตัวไปอีก แล้วเขาจะสู้หน้าอาจารย์ฉินซางได้อย่างไรล่ะ?

 

เกิร์นกับฮาเธอร์ไม่ได้เยาะเย้ยอินจู๋เพราะเขาไม่มีเหรียญทอง ในทางกลับกัน ทั้งสองคนต่างเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อย

 

เกิร์นหยั่งเชิงถามว่า “น้องชาย เจ้าไม่เป็นไรนะ”

 

เย่อินจู๋กล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ลุงครับ เกรงว่าข้าจะซื้อวิลเดอร์บีสต์ไม่ได้แล้ว แหวนมิติของข้าหายไป เงินข้าอยู่ในนั้นทั้งหมด”

 

เกิร์นพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “น้องชาย ดูท่าทางเจ้าเมื่อกี้ เจ้าคงจะเป็นนักเวทระดับแดงขั้นสูงล่ะสิ”

 

เย่อินจู๋พลันนึกถึงคำเตือนที่ฉินซางกำชับไว้ขึ้นมาได้ จึงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “ใช่ครับ!”

 

สายตาของเกิร์นฉายแววปิติยินดี ก่อนเอ่ยถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เจ้ากำลังจะไปที่ไหน?”

 

เย่อินจู๋ลังเลเล็กน้อย แอบคิดในใจว่ากลับไปไม่ได้แน่นอน ไม่เจอแหวนมิติเรากลับไปหาปู่ฉินซางไม่ได้เด็ดขาด ไปมิลานก่อนดีกว่า ม่วงบอกว่าจะไปหาเราที่นั่น รอเจอกับม่วงแล้วค่อยปรึกษาเขาว่าจะทำอย่างไรดี

 

“ข้าจะไปโรงเรียนอัศวินเวทมนตร์มิลานที่จักรวรรดิมิลาน”

 

“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย โรงเรียนอัศวินเวทมนตร์มิลานอยู่นอกเมืองมิลานเมืองหลวงของจักรวรรดินี่เอง คราวนี้หน่วยทหารรับจ้างของเราก็ไปปฏิบัติภารกิจที่เมืองมิลาน เจ้าไปกับพวกเราดีกว่า ค่าใช้จ่ายระหว่างทางหน่วยทหารรับจ้างของเราจะรับผิดชอบเอง ถึงที่หมายแล้ว ข้าจะให้เหรียญทองเจ้าอีกยี่สิบเหรียญ เจ้าว่ายังไงบ้าง?” เกิร์นกล่าวอย่างตื่นเต้น

 

ขณะที่สะเทือนใจจากการสูญเสียทุกอย่างแบบกะทันหัน เมื่อได้รับข้อเสนอของเกิร์นก็จุดประกายความหวังขึ้นในใจของอินจู๋อีกครั้ง แต่ทุกอย่างประดังเข้ามากะทันหันเกินไป เขาจึงอดตะลึงงันไม่ได้

 

เกิร์นนึกว่าอินจู๋เป็นอย่างนี้เพราะเขาให้เงินน้อยเกินไป จึงรีบกล่าวว่า “เงินค่าวิลเดอร์บีสต์ตัวนี้พวกเราจะออกให้ด้วย ว่ายังไง? เจ้าไม่ยินดีหรือ?”

 

“เปล่า...เปล่าครับ ข้ายินดีอยู่แล้ว แต่ลุงเกิร์น ลุงบอกข้าได้ไหมว่าทหารรับจ้างคืออะไร?”

 

“เอ่อ...” เกิร์นมองอินจู๋ด้วยความรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเล็กน้อย เจ้าหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าคนนี้มองเราอย่างเอาจริงเอาจัง ดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นอยู่สักนิด

 

“เจ้าไม่รู้จักแม้กระทั่งทหารรับจ้างรึ? ข้าจะบอกเจ้าให้แล้วกัน” ฮาเธอร์ที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “ทหารรับจ้างเป็นอาชีพที่นับว่าแพร่หลายอย่างมากในทวีปลองกินุส หมายถึงนักรบที่ออกรบหรือปฏิบัติภารกิจให้ผู้ว่าจ้างเพื่อผลประโยชน์อย่างเดียว ไม่ว่าที่ไหนก็สามารถมองเห็นเงาของทหารรับจ้าง เหมือนอาณาจักรปาเลอร์โมทางตะวันตกของทวีปก็เรียกอีกชื่อว่าอาณาจักรทหารรับจ้าง เพราะหน่วยทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่ที่สุดหลายหน่วยในทวีปลองกินุสล้วนประจำการอยู่ในอาณาเขต ที่นั่นสวัสดิการและสถานะของทหารรับจ้างก็สูงที่สุดด้วย”

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง ลุงเกิร์น ลุงจะให้ข้าเป็นทหารรับจ้างเหรอ?” เย่อินจู๋เอ่ยถาม

 

เกิร์นพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เรียกว่าทหารรับจ้างชั่วคราวเถอะ พูดตามตรง หน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็กของเราไม่มีกำลังทรัพย์จะว่าจ้างนักเวทสักคนมานานแล้วจริงๆ ครั้งนี้พวกเราต้องคุ้มกันสินค้ากับเจ้าของไปส่งที่เมืองมิลาน ตลอดเส้นทางปกติไม่มีอันตรายอะไร ก็ถือเสียว่าพวกเราช่วยเหลือซึ่งกันและกันเถอะ เจ้าว่ายังไงบ้าง?”

 

พอเห็นสายตาจริงใจของเกิร์น ความรู้สึกอึมครึมที่เกิดขึ้นเพราะแหวนมิติหายในใจของอินจู๋ก็จางหายไปเล็กน้อย “ลุงเกิร์น ลุงช่างเป็นคนดีจริงๆ ข้ายินดีอยู่แล้ว” ตอนนี้เขาลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าเมื่อครู่นี้ตอนที่ขอทานน้อยขโมยแหวนของเขาก็บอกว่าเขาเป็นคนดี

 

“ดี พวกเราไปกันเถอะ ฮาเธอร์ อีกสักเดี๋ยวให้คนของเจ้าเอาวิลเดอร์บีสต์ไปส่งให้พวกเราด้วย ที่เดิมนะ” เกิร์นอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะกอดบ่าเย่อินจู๋เดินออกไปนอกตลาดทาส

 

พอมองแผ่นหลังของพวกเขา ฮาเธอร์ก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “เกิร์นนี่มีโชคไม่เลวเลยจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีนักเวทที่ใสซื่อขนาดนี้ ในที่สุดหนามเหล็กก็มีนักเวทเสียที ถึงจะแค่ชั่วคราว แต่ก็ช่วยให้พวกเขาเลื่อนระดับได้”

 

เย่อินจู๋ไม่รู้เลยว่าสถานะของนักเวทในทวีปลองกินุสสูงกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากมายนัก นั่นคืออาชีพที่สูงส่งที่สุด ต่อให้เป็นนักเวทระดับแดง สถานะก็ยังสูงกว่านักรบระดับเดียวกันมาก และนักเวทก็ทะนงตัวอย่างยิ่งกันทั้งนั้น สำหรับอาชีพอย่างทหารรับจ้างที่น้อยคนนักยินดีจะเข้าร่วม ส่วนใหญ่มักจงรักภักดีกับแต่ละประเทศ ส่วนมีนักเวทในสังกัดหรือไม่ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ใช้ตัดสินความเข้มแข็งของหน่วยทหารรับจ้างมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และอัตราค่าจ้างก็ยิ่งสูงเสียจนไม่สมเหตุสมผล

 

หน่วยทหารรับจ้างแบ่งออกเป็นแปดระดับ ไล่เรียงจากบนลงล่างได้แก่ เอส เอ บี ซี ดี อี เอฟ จี ในจำนวนนั้น ระดับอี เอฟ จีเรียกว่าหน่วยทหารรับจ้างชั้นต่ำ ระดับซีและดีเรียกว่าหน่วยทหารรับจ้างชั้นกลาง ระดับบีเรียกว่าหน่วยทหารรับจ้างชั้นสูง ระดับเอสและเอเรียกว่าหน่วยทหารรับจ้างชั้นยอด ตอนนี้หน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็กเป็นหน่วยทหารรับจ้างระดับอี ภารกิจที่ปฏิบัติเพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากเลื่อนจากชั้นต่ำขึ้นสู่ระดับดีของชั้นกลาง พวกเขาจำเป็นต้องมีนักเวทสักคนถึงจะสามารถผ่านการพิจารณาของสมาคมทหารรับจ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมเกิร์นถึงยอมจ้างอินจู๋ในภารกิจที่ไม่อันตรายแต่อย่างใดครั้งนี้

 

หน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็กประจำการอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่ประตูทิศเหนือของเมืองลัวร์ ประกอบด้วยสมาชิกผู้ชายทั้งหมด รวมเกิร์นซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยด้วยก็จะมีสมาชิกทั้งหมดหกสิบเจ็ดคน ในจำนวนนั้นมีนักรบดาบหนักสองมือยี่สิบคน มือธนูสิบคน ทหารม้าเบาสิบคน ที่เหลือคือนักรบทวนกับโล่ยี่สิบเจ็ดคนซึ่งมีจำนวนมากที่สุด นับว่าเหล่าทหารค่อนข้างครบถ้วน หน่วยทหารรับจ้างก่อตั้งมาหกปี ช่วงอายุของทหารรับจ้างส่วนใหญ่อยู่ระหว่างยี่สิบห้าถึงสามสิบปี เกิร์นเป็นนักรบปฐพีระดับเขียว เพราะว่ามีเขาอยู่หนามเหล็กจึงสามารถเลื่อนขั้นขึ้นมาถึงหน่วยทหารรับจ้างระดับอีได้ภายในห้าปี เป้าหมายของเขาคือเลื่อนขึ้นไปถึงระดับดี เข้าสู่แถวหน่วยทหารรับจ้างขั้นกลาง เงินค่าจ้างก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

……………………………………….

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด