ตอนที่แล้วบทที่30: ไขคดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่32: ไป่ยู่ปราบปีศาจ

บทที่31: งักโยว


บทที่31: งักโยว

ชั่วชีวิตตั้งแต่เกิดมา สิ่งที่คุณชายสามบ้านสกุลงักรับรู้คือ ตัวเองไม่มีความสำคัญ...

ผู้คนมากมายชอบบอกว่า ลูกคนเล็กมักได้รับการเอาใจ พวกเขารู้ไม่จริง หรือถ้าคำพูดนั้นเป็นจริงก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตของงักโยว แม้เขาจะลูกคนเล็ก อายุห่างจากพี่ชายคนละปีสองปี แต่กลับไม่ได้รับการใส่ใจจากใคร

ยิ่งพี่ชายมีอาการป่วยหนักด้วยโรคประหลาดตั้งแต่เกิด ยิ่งทำให้พ่อแม่ใส่ใจ ครั้นเมื่อรักษาจนดีขึ้นทว่าร่างกายไม่หายขาด ความหวังความใส่ใจทั้งหมดก็ไปตกอยู่ที่พี่ชายคนรองแทน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีท่านย่าฝูคอยใส่ใจ จนกระทั่ง... เสี่ยวจือถูกเก็บมาเลี้ยง ท่านย่าที่เคยเอาใจใส่เขาก็ใช่เวลาในการดูแลนาง

งักโยวได้แต่มองครอบครัวที่ตัวเองเป็นเพียงส่วนเกิน เรื่องยิ่งหนักหนาขึ้นไปอีก เมื่องักฮัวเกิด ไม่มีที่ยืนให้กับเค้าอีกแล้วในสกุลนี้ ทุกวันผ่านไปโดยได้พูดจากับพี่น้อง พ่อแม่เพียงไม่กี่คำ นานวันเข้าครอบครัวในบ้านก็ไม่ต่างกับคนแปลกหน้าในความรู้สึก

หลายปีผ่านไป ตระกูลเริ่มเกิดปัญหา ผู้ใหญ่เริ่มถกเถียงกัน โดยปัญหามาจากเงินทองที่ร่อยหรอลงทุกวัน พ่อจึงเข้าไปในป่าเพื่อหาสมบัติ แม้ว่าท่านย่าฝูจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำนั่น แต่เพราะเรื่องเสี่ยวจือที่ท่านย่าฝูคิดแก้ไขปัญหาเองเพียงลำพังโดยไม่อธิบายหรือปรึกษากับพ่อ ทำให้เรื่องในครั้งนี้พ่อก็ไม่ฟังคำค้านเช่นกัน

พ่อพางักฮัวเข้าไปด้วยทุกครั้ง โดยปล่อยให้แม่ดูแลลูกๆ ที่เหลือ ไม่ใช่แค่งักโยวที่แปลกใจ แต่พี่ชายอีกสองคนก็เช่นกัน เขาเข้าใจว่าแม่รู้สาเหตุ แต่สิ่งที่นางบอกคือแค่งักฮัวติดพ่อเพียงเท่านั้น จึงให้ตามกันไป

ครั้งหนึ่งเขาเคยลองพยายามทำสิ่งที่หวังว่ามันจะช่วยให้สัมพันธ์ดีขึ้น คือการแอบตามเข้าไป พอแม่รู้เข้า จึงได้ตามมาด้วย ทว่าเขาหลงทาง แม่จึงไปเจอกับพ่อและงักฮัวก่อน เมื่อเขาตามไปถึงสิ่งที่เกิดทำให้เขาตัดสินใจแกล้งที่จะกลายเป็นคนฟั่นเฟือนมีสติไม่สมประกอบ

“ท่านพี่ งักโยวหายไป ข้าเห็นเขาเข้ามาในป่า คิดว่าน่าจะตามท่านมา” แม่ร้อนรนใจเอ่ยขึ้นคำแรกทันทีที่พบกับพ่อซึ่งยืนอยู่ที่ปากทางเข้าถ้ำ

“อาฟาน เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ เจ้าดูสิข้าพบอะไร” คำนั่นทำให้ภรรยาคู่ชีวิตมองตาม สิ่งที่เห็นคือสมบัติมากมายในหีบใบหนึ่งที่ถูกดึงออกมาจากในถ้ำ

“ข้างในนั้นยังมีอีก” งักหลอกล่าวกับภรรยา สีหน้าทั้งคู่เต็มไปด้วยความยินดีโดยลืมเรื่องร้อนใจ ในขณะที่งักโยวเห็นทุกอย่างได้ยินทุกคำ

เขารู้แล้ว ว่าตัวเองด้อยค่ากว่าพี่น้องร่วมท้อง แต่เพิ่งรู้ว่าตนไร้ค่าไม่สามารถเปรียบได้กับสมบัติของสกุล เด็กหนุ่มใจสลายเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ

ระหว่างนั้นเกิดเหตุประหลาดขึ้น เมื่อหีบสมบัติที่ถูกเปิดเกิดกลุ่มควันสีแดงกลายเป็นวิญญาณตนหนึ่งในชุดแม่ทัพ พ่อและแม่ต่างตะลึงผงะถอย ร่างนั้นจ้องเขม็งมองดวงตาแดงก่ำแสดงความเกรี้ยวกราดในใจ โดยทันใดวิญญาณตนนั้นซัดฝ่ามือใส่งักหลอ ร่างของเขากระเด็นไกลลอยกระแทกต้นไม้ตายในทันที

แม่กรีดร้องเสียงลั่นเตรียมวิ่งหนี แต่ชะงักไว้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลูกสาวตัวน้อยยังอยู่ตรงนั้น งักโยวจะออกไปช่วย แต่เมื่อเห็นแม่ตนเองเอาร่างเข้าบังไม่ให้งักฮัวถูกทำร้าย เขาจึงหยุดนิ่งและเพียงมองดู คล้ายมีความรู้สึกบางอย่างในใจ... ความริษยา ความกลัว เด็กหนุ่มไม่แน่ใจ ทว่ามีชั่วแวบหนึ่งที่ความคิดนี้เกิดขึ้น

หากทุกคนตายไปเสียให้หมด...

ยังไงก็ไม่มีใครเห็นค่าเขาอยู่แล้ว ถ้าหากทุกคนตายไป เขาจะได้ใช้สมบัตินั่นเพียงคนเดียว เป็นคนที่มีคุณค่ายิ่งกว่าใคร

งักโยวยืนหลบในพุ่มไม้รอดู หวังให้วิญญาณแม่ทัพฆ่าน้องสาวตนเอง แต่เพราะเหตุใดก็ไม่อาจรู้ได้ ร่างนั้นสลายไปก่อนที่จะได้กระทำสิ่งที่เด็กหนุ่มหวัง เขาคาดเดาเอาเองว่า อาจเป็นเพราะวิญญาณแม่ทัพนั่นไม่ได้แกร่งกล้ามากพอ

พอเห็นทุกอย่างสงบลง งักโยวตัดสินใจออกจากที่เร้นกาย เขามองสมบัติในหีบ เมื่อแน่ใจว่าวิญญาณร้ายตนนั้นจะไม่ปรากฏตัวอีกจึงตัดสินใจปิดฝาที่เปิดค้างแล้วดันมันกลับเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเรียบร้อย พอออกมาเห็นน้องสาวตัวเองนั่งเดียงสาอยู่ข้างแม่ตน จึงหยิบท่อนไม้ที่อยู่บริเวณนั้นขึ้นมา

ทว่ายังไม่ทันจะลงมือกระทำสิ่งใด เสียงแม่ก็เอ่ยขึ้นแผ่วเบา

“ชะ ช่วยด้วย” งักโยวสะดุ้งตกใจ คิดเข้าประคองช่วยเหลือ ทว่าคำถัดมาของผู้ให้กำเนิดทำให้เขาเปลี่ยนใจ

“ช่วย ช่วยน้องเจ้าด้วย”

โทสะทำให้ขาดสติ เขาง้างไม้ในมือขึ้นสูงก่อนจะระบายความอดอั้นทั้งหมดฟาดลงไปยังร่างที่ใกล้สิ้นลมหายใจนั่นอย่างรุนแรง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่หยาดโลหิตสาดกระเซ็นเปื้อนตนเองและน้องสาว นางมองดูพี่ชายที่คลุ้มคลั่งโดยไม่รู้เรื่องอะไร

นานเท่านาน...

ร่างของแม่แหลกเละ งักโยวทรุดลงร้องไห้สลับกับหัวเราะอยู่อย่างนั้น ฟ้ามืดครึ้ม ฝนโปรยปราย คล้ายสะท้อนความรู้สึกที่อยู่ในใจเด็กหนุ่มขณะนี้ หม่นหมองเศร้าโศกเกินถอยหลัง ฝนชะล้างจนร่างเปียกปอน โลหิตจางหายจากร่าง งักโยวคิดฆ่าปิดปากงักฮัวอีกคน ทว่าก่อนจะลงมือ มีเสียงของผู้คนเดินเข้ามา

คุณชายสามสกุลงักจำต้องทำเป็นสติฟั่นเฟือนแกล้งบ้าราวกับคนไม่สมประกอบทางความคิด ข่าวลือเรื่องนั้นดังไปไกล แต่ไม่มีใครรู้ปริศนาดำมืดที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านรู้แค่ว่ามีบางสิ่งอยู่ในป่านั่น ไม่ว่ามันจะเป็นสมบัติหรือวิญญาณ พวกเขาแน่ใจว่ามันอันตรายเกินกว่าจะเข้าไปค้นหาความจริง

ท่านย่าฝูโศกเศร้าที่สูญเสียลูกชายและลูกสะใภ้ ในใจเชื่ออยู่ลึกๆ ว่างักฮัวเป็นตัวอัปมงคล หนึ่งเพราะนางเกิดในวันที่เกิดอาเพศรุนแรง สองคือนางเป็นคนเดียวที่ปกติในขณะที่พ่อแม่ต้องตายและพี่ชายกลายเป็นคนเสียสติ นั่นทำให้ท่านย่าฝูหมางเมินใส่หลานคนนี้ในเวลาต่อมา

ส่วนคุณชายสามของสกุลงัก เมื่อกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ กลับทำให้ผู้คนในครอบครัวใส่ใจเขามากยิ่งขึ้น กระทั่งงักเจียงพี่รองที่ไม่เคยใส่ใจอะไรใดๆ รอบตัวนอกจากตนเอง ก็ดูคล้ายจะเอาใจเขาอย่างที่ไม่เคยทำ ราวกับเรื่องตลกร้ายที่สวรรค์กลั่นแกล้ง เพราะเวลานี้งักโยวไม่ต้องการใครอีกแล้ว สิ่งเดียวที่เขาคาดหวังมีเพียงสมบัติที่พ่อเป็นคนพบเจอ

เขาพยายามกลับเข้าไปเอาสมบัตินั่นมาหลายครั้ง ทว่าทุกสิ่งไม่ง่ายเช่นเดิม เมื่อวิญญาณในชุดแม่ทัพดูจะแกร่งกล้าขึ้นและค่อยเฝ้าหวงสมบัติของบรรพชน กระทั่งหมาป่าที่หลงเข้าไปในถ้ำนั้นยังถูกเข่นฆ่าจนไม่เหลือชิ้นดี งักโยวจึงทำได้เพียงหาทางไปเรื่อยๆ ที่จะเอาสมบัติออกมา

ระหว่างนั้นก็ยอมแกล้งเล่นละครดังเช่นที่เป็น ก่อนจะพบมาการบรรลุเป้าหมายช่างยากเย็นยิ่งกว่าเดิม เมื่องักฮัวเริ่มเข้าไปในป่าเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดข่าวลือจนถูกท่านย่าฝูและพี่ใหญ่ว่ากล่าวและสั่งห้าม แต่ก็ไม่ได้ผล

งักโยวอาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่รู้ตัว ตามน้องสาวเข้าไปจึงได้เห็นว่าแท้จริงเหตุผลที่ทำให้งักฮัวยอมฝ่าฝืนคำสั่ง เพราะที่นั่นคือที่ๆ ทำให้นางได้พบกับดวงวิญญาณของแม่และพ่อ ดวงวิญญาณที่กลายเป็นดวงไฟที่คอยเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง กระนั้นงักฮัวก็ยังกอดทั้งสองไว้โดยไม่กลัวเกรง อาภรณ์ของนางลุกไหม้จนไม่เหลือ ทว่าดวงไฟนั่นไม่ได้ทำอันตรายใดๆ กับร่างกายของนาง

เหตุการณ์นั้นคล้ายปลุกจิตสำนึกบางอย่างในตัวให้งักโยวรู้สึกละอาย หลายครั้งที่เขาคิดจะแอบเข้าไปหาดวงวิญญาณผู้ให้กำเนิดของตนเอง แต่ก็ไม่กล้าพอ ยังมีความเสียใจอยู่ในความรู้สึกนั้น นั่นทำให้เขาล้มเลิกความคิดเรื่องการฆ่าน้องสาวลงได้ในที่สุด

ยอมใช้ชีวิตแบบที่แกล้งเป็น ระลึกผิด จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี และนานขึ้นไปเรื่อยๆ หวังว่าวันหนึ่งจะสามารถเอ่ยปากขอโทษกับดวงวิญญาณของทั้งสองได้ จนกระทั่ง...

วันที่มีชายฉกรรจ์ห้าสิบกว่าคนรุกล้ำเข้ามาในป่าเพื่อหวังตามหาสมบัติ งักโยวไม่รู้ว่าพวกมันรู้อะไรมาบ้าง เขาแอบตามดูอยู่เงียบๆ แม้จะรู้ว่ามีวิญญาณในชุดแม่ทัพที่เฝ้าสมบัติบรรพชน แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้ และพอตามไปจนพวกนั้นพบถ้ำตังกล่าวก็เป็นจริงดังที่คาด

ส่วนหนึ่งในกลุ่ม เป็นจอมเวทที่ใช้คาถาบางอย่าง มันจ้องจะผนึกวิญญาณแม่ทัพนั่นก่อนที่จะเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดไป ระหว่างที่เกิดการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย วิญญาณแม่ทัพเกิดเพลี่ยงพล้ำ เกิดเสียงหนึ่งขึ้นในหัวของงักโยวที่แอบดูอยู่บริเวณนั้น

“ช่วยข้า! แล้วสมบัติทั้งหมดจะเป็นของเจ้า!”

งักโยวลังเล แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจช่วยวิญญาณแม่ทัพ เขาทำลายพิธีของพวกจอมเวทจริงคาถาหมดความศักดิ์สิทธิ์ใช้ไม่ได้ผล เหตุการณ์ชุลมุน ทว่าแม้จะรอดพ้นจากการผนึก แต่วิญญาณแม่ทัพก็สิ้นกำลังที่จะกำจัดศัตรู จึงเข้าสิงร่างของงักโยวจนทำให้เขากลายเป็นปีศาจร้าย เข่นฆ่าทุกคนอย่างไร้ปราณี

ดวงวิญญาณของพ่อและแม่ของงักโยวพยายามจะช่วยลูกตนเอง แต่ไม่ได้ผลเพราะวิญญาณแม่ทัพนำศพทั้งหมดไปแขวนไว้ให้เลือดของคนตายโหงชโลมผืนป่าจนตัวมันมีอำนาจแกร่งกล้าขึ้น ดวงวิญญาณของแม่ที่เป็นไฟ จึงยิ่งอ่อนกำลังลงจนไม่สามารถทำอะไรได้

ความโลภที่ถูกเก็บซ่อนกดลึกไว้ในใจของงักโยวถูกวิญญาณแม่ทัพหยิบขึ้นมาใช้เป็นเครื่องมือในการบงการการกระทำให้ทำตามทุกสิ่งที่มันต้องการ เขาเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็พยายามขัดขืนไม่ยอมทำในสิ่งที่เลวร้ายอีก ทว่าเมื่อรู้ว่างักเจียงจะหาทางสืบค้นหาสมบัติ นั่นยิ่งทำให้วิญญาณแม่ทัพใช้จุดนี้ในการกล่อมให้งักโยวเห็นถึงภัยร้าย

“คนอย่างพี่รองของเจ้า มันจะนำสมบัติไปทำอะไร นอกจาก...”

ต่อให้วิญญาณร้ายไม่ต่อคำ งักโยวก็รู้ว่าไม่พ้นการล้างผลาญจมอยู่ในบ่อน เขาไม่ยอม เขาเป็นเจ้าของสมบัตินั่น เขาทำทุกอย่างเพื่อมัน กระทั่งฆ่าคนที่รัก เขาจะไม่ยอมให้ใครมาเอาสมบัตินั่นไป

สุดท้ายจิตสำนึกก็พ่ายแพ้ งักโยววางแผนโดยใช้ยานอนหลับใส่ลงในน้ำชา ในขณะที่เห็นงักเจียงจะใส่ยานอนหลับแล้วเสี่ยวจือจับได้ก่อน จึงเป็นเมนูน้ำแกงนั้นทิ้งไป

เมื่อทุกคนหมดสติ งักโยวฆ่างักเจียงอย่างเลือดเย็น นำเลือดไปป้ายมือใส่ร้ายไป่หลง ก่อนที่จะไปซ่อนตัวเพื่อรอเวลา

ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คาดคิด งักหลิวพยายามทำตัวเป็นที่พึ่งนำทุกคนในบ้าน ทว่าเพราะนิสัยเก็บตัวไร้สัมพันธ์จึงทำให้คนเยี่ยงเขา เอาแต่ความคิดตนเองเป็นใหญ่และดูถูกคนอื่น ไม่ยอมรับความคิดใคร สิ่งหนึ่งที่งักโยวกังวลใจมากที่สุดในการนี้ คือไป่ยู่ ที่คนร่ำลือว่าไม่เพียงเป็นจอมเวท แต่ยังมีความคิดวิเคราะห์และไหวพริบที่ชาญฉลาด

แต่พองักหลิวเป็นอย่างที่งักโยวคาดเดาไว้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน ไป่ยู่ถูกจับกุมกันให้ออกจากเรื่องราว ระหว่างนี้งักหลิวย่อมต้องแสดงความสามารถ หากไม่เจอเขาในคฤหาสน์ สถานที่ต่อไปที่งักหลิวจะให้คนตามหาย่อมเป็นในป่า และที่นั่น เขาจะได้ทำให้ทุกคนได้เห็นว่าที่ป่าที่คนร่ำลือว่ามีสมบัติ มันอันตรายแค่ไหน เท่านี้สมบัติทั้งหมดก็จะเป็นของเขาโดยไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวอีก

ทว่าทุกอย่างผิดแผนไป งักโยวไม่คาดคิดว่าจะมีปีศาจหัวหมูป่าอาศัยอยู่ในนี้ด้วย ตอนที่เห็นงักฮัวถูกฆ่าตายและดวงวิญญาณของพ่อและแม่ช่วยให้นางฟื้นคืนชีพ งักโยวไม่ประหลาดใจอะไร เพราะเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งในตอนที่น้องสาวตัวเองเข้ามาในป่าแล้วพลัดตกจากเขาจนตาย นางฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้งด้วยความสามารถเช่นนี้ของดวงวิญญาณพ่อและแม่ แต่นั่นทำให้เขาเสียจังหวะในการโจมตีใส่เจ้าหน้าที่มือปราบ

ปีศาจหัวหมูป่าตนนั้นเข้าขัดขวางและจ้องเล่นงานเขา ดีที่สุดท้ายพวกเจ้าหน้าที่มือปราบเข้าโจมตีมันจนการเป็นการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายไปในที่สุด เช่นนั้นก็นับได้ว่าไม่ผิดแผนที่จะทำให้คนกลัวป่านี้ เขาจึงหลบรอดออกมาได้และไปซ่อนตัวในคุกศิลาเพื่อดำเนินการแผนขั้นสุดท้ายของตน

เมื่อถูกช่วยเหลืออกมาจากคุกศิลาได้ แค่ใส่ร้ายพี่ใหญ่ตัวเอง ทุกสิ่งก็จะเป็นของเขา แม้หลังเรื่องราวจะเป็นไปอย่างใจคิด แต่ในค่ำคืนนั้นวิญญาณแม่ทัพยังคงสร้างความกังวลใจให้ไม่น้อย มันคอยย้ำเสียงดังอยู่ในหัวว่าให้กำจัดงักหลิว นั่นจึงเป็นที่มาของฝูงผีดิบที่มีรอยฝ่ามือเลือดเป็นเหมือนประกาศิตของบงการให้ทำอย่างที่ต้องการ

ไม่คาดคิด ว่าหลังดีใจได้เพียงแค่คืนเดียว นอกจากงักหลิวจะไม่ตาย เขายังโดนไป่ยู่เผยตัวตนทั้งหมดที่ซ่อนเร้นไว้ ก็ดีแล้ว เพราะเขาเหนื่อยเหลือเกินที่จะทนเป็นคนบ้าและเก็บกลั้นความรู้สึกที่วิญญาณแม่ทัพพยายามปลุกเร้าขึ้นมา

วันนี้ ทุกคนต้องตายทั้งหมด...

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด