ตอนที่แล้วCLS ตอนที่ 7 สังหารในพริบตา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCLS ตอนที่ 9 กระบวนท่าเดียว!

CLS ตอนที่ 8 3 กระบวนท่า


#8: 3 กระบวนท่า

 

การสวนกลับอย่างเผด็จการแม้ว่าจะบกพร่องเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างเรียบร้อยดี มันสามารถจัดการกับการลอบโจมตีของฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนพากันตกตะลึง ถ้าเรื่องที่อี้เทียนหยุนไม่ใช่คนโง่ทำให้คนนอกตกใจแล้ว การแสดงออกของเขาในวันนี้ได้ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่า!

 

ขยะในตำนานกลับสวนกลับการลอบโจมตีของฟางหยุนได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพลังของฟางหยุนจะไม่สูงนัก แต่อย่างน้อยก็อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 7 ซึ่งเป็นมาตรฐาน มันไม่ได้ต่ำ ออกจะไปทางระดับกลางค่อนสูง

 

นี่หมายความว่าพลังของอี้เทียนหยุนต้องมีมาตรฐานอย่างน้อยระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 แม้พลังระดับนี้จะไม่อาจพูดได้ว่ามีพรสวรรค์ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ขยะ

 

ไม่มีใครสามารถดูออกว่าพลังของอี้เทียนหยุนอยู่ในขั้นไหน แต่พวกเขาก็พากันคาดเดาว่า ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป สิ่งที่ซ่อนอยู่จะค่อยๆ เผยออกมา

 

“นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน.....” ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจจนพูดติดอ่าง ไม่เพียงแต่จะตกใจเท่านั้น แต่พลังที่แสดงออกมาตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 เลย

 

นี่คือสภาพของคนที่เส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ?

 

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนสับสน ใครสามารถบอกได้กันว่านี่มันเรื่องอะไร?

 

อี้เทียนหยุนสัมผัสได้ถึงสายตาตกตะลึงของทุกคน ไม่ผิดไปจากที่เขาคาด ขยะในข่าวลือ อยู่ๆ ก็มีความสามารถขึ้นมา มันทำให้ทุกคนตกใจ

 

ฟางหยุนตายอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวฮัวหลง ความโกรธของจ้าวฮัวหลงพลันปะทุขึ้นมาทันที ท่าทางของเขาโกรธเกรี้ยวจนถึงที่สุด จิตสังหารพุ่งขึ้นเทียมฟ้า!

 

“ลงมือได้โหดเหี้ยมนัก ที่แท้เจ้าก็มีพลังสูงขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะสามารถสังหารฟางเฉินได้!” จ้าวฮัวหลงมองไปยังอี้เทียนหยุนอย่างเกลียดชัง แล้วพูดว่า “ไม่แปลกที่เจ้าจะออกมา ที่แท้เจ้าก็มีพลังอยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 เมื่อเทียบกับฟางหยุนแล้วเหนือกว่า! เจ้าแค่ลงมือสั่งสอนฟางหยุนก็ได้ ทำไมต้องสังหารเขาด้วย!”

 

อี้เทียนหยุนตอบกลับอย่างเหน็บแนมว่า “มันใช้มีดสั้นลอบสังหารข้า ถ้าข้าไม่สวนกลับก็โง่สิ! ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นการประลองเป็นตาย เจ้าคิดจะโทษใคร?”

 

ความจริงเรื่องนี้เขาเข้าใจดี ก่อนจะสู้ ถ้าคนอื่นไม่ตอแยเขา เขาก็จะไม่ตอแยคนอื่น หยิบมีดออกมาลอบสังหารข้า โชคดีที่พลังของข้าสูงกว่าทำให้ตอบสนองได้ทันท่วงที ไม่อย่างงั้นคนที่จะนอนตายอยู่ที่พื้นคงเป็นเขาไม่ใช่ฟางหยุน!

 

ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบเขาจะไม่ทำมัน การใจอ่อนเหมือนผู้หญิงมีแต่จะนำความตายมาสู่ตัวเอง! ไอ้เรื่องความเห็นใจต่อศัตรูนั้น เป็นดั่งผายลมสำหรับเขา ในเมื่อมันตั้งใจจะ “ฆ่า” เขา เขาก็ไม่มีทางปล่อยฟางหยุนไปอย่างแน่นอน!

 

ในสายตาของจ้าวฮัวหลงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง คำพูดนี้ถูกต้อง เขาทำได้เพียงกัดฟันกรอด แล้วกลืนความโกรธลงท้องไป

 

หลังจากอี้เทียนหยุนชนะ ตำหนักเทียนเฉวียนก็ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยชัยชนะ

 

“นี่น่ะเหรอขยะ? ขยะทำไมถึงได้มีพลังสูงขนาดนี้ แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”

 

“ดูท่าที่ได้ยินมาจะผิด เจ้าหนูนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ขยะ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพรสวรรค์ใช้ได้ทีเดียว!”

 

“นี่เป็นสมาชิกในครอบครัวของท่านเจ้าตำหนัก ดูท่าจะมีหลายเรื่องที่พวกเราไม่รู้......”

 

.................................

 

การแสดงพลังของอี้เทียนหยุนทำให้คนของตำหนักเทียนเฉวียนตกตะลึง ความรู้สึกข้างในยุ่งเหยิงเหมือนกับสถานการณ์ตรงหน้า ภาพประทับของอี้เทียนหยุนในหัวใจพวกเธอ ได้เปลี่ยนไปขนานใหญ่

 

โลกนี้ชื่นชมคนที่ความแข็งแกร่ง มีเพียงแสดงพลังออกมาเท่านั้น ถึงจะได้รับความเคารพจากคนอื่น!

 

“เทียนหยุน เจ้าทำได้แล้ว” ชิเสวี่ยอวิ๋นโล่งอก เธอไม่สนว่าทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้ แต่ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนปลอดภัย เท่านั้นก็พอแล้ว

 

“ท่านเจ้าตำหนัก ไม่ทราบว่าข้าสามารถประลองต่อได้หรือไม่?” อี้เทียนหยุนหรี่ตา พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าบางเบา ก่อนหน้านี้มีศิษย์นิกายเทียนหลิงนับไม่ถ้วน รวมทั้งผู้อาวุโส จ้าวฮัวหลงพูดจาดูถูกเขาว่าเป็นขยะ

 

“เป็นท่าทางที่น่าประทับใจมาก ดี! ข้ายอมรับคำขอของเจ้า ให้เจ้าประลองต่อได้!” จ้าวฮัวหลงหรี่ตามองไปยังอี้เทียนหยุน ในสายตาเผยให้เห็นจิตสังหารจำนวนมากที่อัดแน่นอยู่ข้างใน ความโกรธที่ปะทุอยู่ในใจ ถ้าที่นี่ไม่ใช่อยู่ในตำหนักเทียนเฉวียน เขาคงจะลงมือตบอี้เทียนหยุนจนตายคามือไปนานแล้ว

 

“เทียนหยุน รีบลงมารักษาตัวก่อน อย่าได้หักโหม.....” ชิเสวี่ยอวิ๋นมีสีหน้ากังวล เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนไม่สามารถทนได้ กลัวว่าเขาจะบาดเจ็บ

 

“ท่านเจ้าตำหนัก ข้าไม่เป็นไร ท่านไม่อยากให้ข้าเป็นขยะเหมือนที่พวกเขาคิดหรอกใช่ไหม?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความรู้สึกข้างในของชิเสวี่ยอวิ๋นก็ให้สั่นสะท้าน พลังอะไรกันที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้? หรือว่าจะไปเจอผู้อาวุโสบางคนรับเขาเป็นศิษย์?

 

เขาอยากจะแสดงพลังเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ใช่ขยะ เขาอยากจะแสดงศักดิ์ศรีของเขาออกมา! คำพูดนี้เขาพูดให้ชิเสวี่ยอวิ๋นมั่นใจในตัวเขา และไม่ขัดขวางเขา

 

จ้าวฮัวหลงพูดเยาะเย้ย “เจ้าจะประลองต่อเนื่องเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ใช่ขยะอย่างงั้นสินะ โม่เฉิง ตานี้เป็นของเจ้า!”

 

“ครับ ผู้อาวุโสจ้าว!”

 

เสียงรับคำเพิ่งจบ วัยรุ่นคนหนึ่งก็บินขึ้นไปยังเวทีประลอง ร่อนลงบนเวทีอย่างอ่อนโยน ท่าทางสุภาพถูกส่งออกมาจากในร่างของเขา รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาสง่างาม เขาจะต้องเป็นนักฆ่าผู้หญิงตัวยงแน่ๆ แต่ศิษย์หญิงตำหนักเทียนเฉวียนแห่งนี้ไม่ได้มองเขาด้วยสายตาแบบนั้น

 

กับศัตรูแล้ว มีเพียงแต่ความเป็นปรปักษ์ ไม่อาจมอบความรักให้!

 

เมื่อเทียบกับฟางหยุน เขาขึ้นบนเวทีได้อย่างเป็นธรรมชาติกว่า ยิ่งกว่านั้น พลังของเขาก็สูงกว่าฟางหยุน อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9! พลังระดับนี้ถือว่าเป็นที่น่าตื่นตะลึง ในหมู่ลูกศิษย์ที่นำมา นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

“โม่เฉิง ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ครั้งนี้คงโชคร้ายมากกว่าโชคดี”

 

“นี่เป็นศิษย์หลักที่นิกายเทียนหลิงฝึกมาอย่างดี ด้วยอายุเท่าพวกเรา แต่เขากลับมีพลังถึงระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9”

 

“แล้วแบบนี้อี้เทียนหยุนจะชนะได้เหรอ? นี่คือระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9 เชียวนะ!”

 

...............................

 

ตำหนักเทียนเฉวียนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น จ้าวฮัวหลงพูดได้ว่าโมโหสุดขีด เขาได้ส่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดลงไป ในฝั่งพวกเขา ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือโม่เฉิง ถ้าอี้เทียนหยุนมีพลังแค่ระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 งั้นการประลองรอบนี้เขาคงต้องแพ้โดยไม่ต้องสงสัย

 

“ข้าจะจัดการเจ้าใน 3 กระบวนท่า” โม่เฉิงพูดเบาๆ สายตาที่มองไปยังอี้เทียนหยุนเหมือนกับมองไปยังคนพิการ

 

อี้เทียนหยุนตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางเบา “3 กระบวนท่า ไม่คิดว่ามันโอ้อวดเกินไปหรอกเหรอ?” ศิษย์นิกายเทียนหลิงนี้ช่างอวดดีจริงๆ

 

โม่เฉิงพูดอย่างไม่แยแส “การเคลื่อนไหวของเจ้าแข็งเกินไป ไม่คล่องแคล่ว การระเบิดพลังอ่อนด้อย ความเร็วเชื่องช้า”

 

อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ดูเหมือนว่าข้าจะบกพร่องมากจริงๆ ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยชี้แนะ แต่คิดจะจัดการข้าใน 3 กระบวนท่า นี่ดูถูกกันมากจริงๆ”

 

“ตราบเท่าที่เจ้ารับมือข้าได้ 3 กระบวนท่า ข้าจะเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง!” โม่เฉิงพูดอย่างภาคภูมิ 3 กระบวนท่าพูดไปแล้วไม่นับว่ามาก แต่ถ้าพลังต่างกัน แค่กระบวนท่าเดียวก็ตัดสินกันได้แล้ว

 

“เมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นข้าจะจัดการเจ้าในกระบวนท่าเดียว!” อี้เทียนหยุนมีสีหน้าไม่แยแส คำพูดคำจายังอวดดียิ่งกว่า!

 

 

นี่ไม่ใช่เพราะเขาอวดดี แต่เป็นเพราะว่าเขามั่นใจ!

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด