ตอนที่แล้วบทที่ 13 ตัวภาระก็ควรมีจิตสำนึกของการเป็นตัวภาระ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 เจตนาที่แท้จริง

บทที่ 14 เกมในห้องนอนผู้หญิง


บทที่ 14 เกมในห้องนอนผู้หญิง

 

นับตั้งแต่ได้เจอเย่เลี่ยนที่กลายร่างเป็นซอมบี้ หลิงม่อก็ได้ประสบกับเรื่องราวที่ทั้งเจ็บปวดและมีความสุขอยู่ตลอดไม่ขาดสาย

 

แต่ก่อนเรือนร่างของเย่เลี่ยนอยู่แค่ในจินตนาการ แต่ตอนนี้เขากลับสามารถจับต้องได้ตามใจชอบ ขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขาโดยไร้ซึ่งการป้องกัน

 

ทว่าทุกครั้งที่สบสายตาที่ปราศจากความรู้สึกคู่นั้นของเย่เลี่ยน หลิงม่อก็อดที่จะปวดใจไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามความรู้สึกสงสารนี้จะปรากฏขึ้นเฉพาะเวลาที่เผชิญหน้ากับเย่เลี่ยนเท่านั้น...

 

ดังนั้นตอนที่ซย่าน่าพาเย่เลี่ยนไปที่ข้างเตียงนอนแบรนด์ซิมมอนส์ตรงมุมห้อง หลิงม่อจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

 

“พี่สาว พี่นอนกับฉันก็แล้วกันนะ เพราะตอนนี้หาเตียงเพิ่มให้ไม่ได้” ซย่าน่าขมวดคิ้วมุ่นพลางมองไปรอบๆ แล้วพูดน้ำเสียงเจือแววเสียใจเล็กน้อย

 

เด็กผู้หญิงคนนี้พูดจาน้ำเสียงก้าวร้าว อีกทั้งมีสีหน้าเย่อหยิ่ง แต่ท่าทีที่มีต่อเย่เลี่ยนกลับอ่อนโยนเป็นพิเศษ เรื่องนี้ทำให้หลิงม่ออดที่จะถอนหายใจยาวอยู่ในใจไม่ได้

 

ถ้าเธอรู้ตัวตนที่แท้จริงของเย่เลี่ยน ไม่รู้ว่าจะมีสีหน้าอย่างไรกันนะ...

 

ในฐานะที่เป็นซอมบี้ ไม่ใช่ว่าเย่เลี่ยนไม่ต้องการพักผ่อน แต่การพักผ่อนของเธอไม่เหมือนกับคนทั่วไปที่ต้องการการนอนหลับเป็นเวลานานเพื่อฟื้นฟูกำลัง

 

หลังจากโดนเชื้อไวรัสเล่นงานและกลายร่างเป็นซอมบี้ ภายใต้สภาพที่ร่างกายถูกควบคุมโดยสัญชาตญาณอย่างสิ้นเชิง ซอมบี้พวกนี้กลับยิ่งรู้จักวิธีการใช้พลังงานของตัวเองมากขึ้น

 

พวกซอมบี้ที่เดินเตร่บนท้องถนนดูเคลื่อนไหวเอื่อยเฉื่อย แต่เมื่อใดก็ตามที่เหยื่อปรากฏตัวขึ้น พวกมันก็จะปลดปล่อยพลังอันแข็งแกร่งและความเร็วออกมาในชั่วพริบตา กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวไปในทันที

 

ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้จักล่าถอย บวกกับการเคลื่อนไหวที่ปราดเปรียวว่องไว ทันทีที่ซอมบี้เหล่านี้เปิดฉากโจมตี ก็จะไม่มีทางหยุดจนกว่าเป้าหมายจะหายไป

 

แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเหยื่อ การเคลื่อนไหวของพวกมันก็จะเชื่องช้าลงทันที ซึ่งภายใต้สภาพเช่นนี้ การเผาผลาญพลังงานของพวกมันจะลดลงถึงขีดต่ำสุด เมื่อเทียบกับการนอนหลับที่คนทั่วไปต้องการแล้ว พวกซอมบี้แค่ต้องการการพักผ่อนระดับนี้ก็เพียงพอแล้ว

 

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซย่าน่าและเด็กผู้หญิงเหล่านี้ จะปล่อยให้เย่เลี่ยนแสดงท่าทีประหลาดไม่ได้ หลิงม่อจึงควบคุมเย่เลี่ยนให้พยักหน้า แล้วเอนกายลงนอนชิดด้านในของเตียงซิมมอนส์

 

แล้วเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอะไรขึ้น หลิงม่อก็เลยจงใจควบคุมเย่เลี่ยนให้นอนชิดกำแพง จะได้รักษาระยะห่างกับพวกเธอไว้ระดับหนึ่ง

 

แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าซย่าน่าจะล้มตัวลงนอนใกล้กับเย่เลี่ยน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “พี่สาวจะนอนทั้งๆ แบบนี้เหรอ”

 

เธอพูดพลางยื่นมือมาถอดเสื้อโค้ทของเย่เลี่ยนออก “สวมเสื้อผ้านอนแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก มาฉันช่วยถอดให้”

 

จะเป็นลม น้องสาวนี่เธอคิดจะทำอะไรของเธอเนี่ย...

 

หลิงม่อคิ้วกระตุก อดไม่ได้ที่จะตะโกนร้องอยู่ในใจ

 

การที่เขายินยอมให้เย่เลี่ยนนอนด้วยกันกับซย่าน่านั้น ก็เพียงเพื่ออยากลองสัมผัสถึงความรู้สึกเวลาที่นอนอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะต้องมาเล่นเกมที่น่าอายแบบนี้!

 

เมื่อเห็นว่าซย่าน่าเขยิบเข้ามาช่วยถอดเสื้อผ้าให้เย่เลี่ยน แล้วเย่เลี่ยนก็ดูท่าทางค่อนข้างอึดอัดเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ ราวกับว่าสัญชาตญาณจะเกิดการตื่นตัวขึ้นเลาๆ ในใจหลิงม่อก็พลอยเริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมา

 

เขากัดฟัน แล้วจู่ๆ ก็ควบคุมมือเรียวยาวขาวเนียนของเย่เลี่ยนให้ไปคว้าจับคอเสื้อของซย่าน่าและดึงเธอเข้ามาหาเย่เลี่ยนทันที

 

ซย่าน่าตะลึงงันในฉับพลัน ด้วยความรวดเร็วและพละกำลังของเย่เลี่ยน บวกกับไม่ได้เตรียมป้องกันตัว เธอจึงถูกดึงมาอยู่ตรงหน้าเย่เลี่ยนโดยไม่ทันได้โต้ตอบ

 

“อ๊ะ!”

 

ซย่าน่าส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ แต่ไม่ได้ผลักเย่เลี่ยนออกไป เห็นได้ชัดว่าซย่าน่าอึ้งไปเสียสนิท

 

ตอนนี้เธอกับเย่เลี่ยนอยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร จนลมหายใจที่เธอพ่นออกมาถึงกับพัดเส้นผมของเย่เลี่ยนให้พลิ้วไหวได้เลย แต่เธอไม่สังเกตเห็นเลยว่าอัตราการหายใจของเย่เลี่ยนต่ำอย่างน่าประหลาด ซึ่งมันต่ำมากจนคนอื่นแทบสัมผัสไม่ได้...

 

แต่เมื่อเย่เลี่ยนยื่นมือออกมา ซย่าน่าก็ได้สติกลับคืนมาทันที

 

“พี่สาว พี่นี่ร้ายกาจจริงๆ!”

 

ซย่าน่าหัวเราะพรืดออกมา แล้วกระโจนเข้าใส่เย่เลี่ยนจนล้มตัวลงบนเตียง จากนั้นก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมา “มาฉันช่วยถอดให้ ฮ่าๆๆ...”

 

เด็กผู้หญิงที่เหลือต่างก็มองมาทางนี้ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มด้วยเช่นกัน แม้แต่เด็กหญิงชั้นมัธยมคนก่อนหน้านี้ก็เข้ามาร่วมแจมด้วยทันที...

 

แต่หลิงม่อที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงคนเดียวกำลังหางตากระตุกไม่หยุด ห้องนอนพวกเด็กผู้หญิงนี่ช่างน่าอายจริงๆ...

 

หลังจากหยอกล้อกันนานสิบกว่านาที ในที่สุดซย่าน่าก็มุดเข้าไปนอนคลุมโปงในผ้าห่มและนอนลงข้างๆ เย่เลี่ยน

 

“ว้าว...” ซย่าน่าพ่นลมหายใจยาว แล้วพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ไม่ได้สนุกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”

 

เย่เลี่ยนไม่ได้พูดอะไร แต่เธอพยักหน้าเล็กน้อยตามที่หลิงม่อสั่งการ

 

“พี่สาว พี่ตัวเย็นจัง”

 

ซย่าน่าใช้เท้าอุ่นๆ แตะเย่เลี่ยน แล้วพลิกตัวไปพูดเสียงเบากับเธอ

 

ทำมาก็ต้องทำกลับ...หลิงม่อก็ให้เย่เลี่ยนยื่นมือไปแตะตัวซย่าน่าเหมือนกัน แต่เพิ่งจะขยับเขยื้อนตัว ศอกก็โดนเข้ากับเนื้อนุ่มนิ่มเสียแล้ว

 

ถึงแม้จะไม่ได้ชนโดนด้วยตัวเอง แต่หลิงม่อก็ยังคงอดกระแอมไอแห้งๆ ไม่ได้

 

“ฮ่าๆ เลิกเล่นได้แล้วละ!”

 

ทั้งๆ ที่โดนจู่โจมที่หน้าอกกะทันหัน แต่ซย่าน่าก็ไม่โกรธเคืองอะไร แค่หัวเราะเบาๆ นิดหน่อย “นึกไม่ถึงว่าพี่สาวจะเป็นคนเปิดเผยขนาดนี้! ถ้ายิ้มให้มากกว่านี้ก็จะยิ่งดีใหญ่ พี่สวยออกขนาดนี้ ยิ้มแล้วจะต้องดูดีมากแน่ๆ เลย แต่เจ้าคนแซ่หลิงนั่นดูแล้วไม่คู่ควรกับพี่เอาเสียเลย ตอนแรกฉันยังนึกว่าเขาบีบบังคับพี่ด้วยซ้ำ”

 

ให้ตายเถอะ!

 

น้องสาวเลิกล้อเล่นได้แล้ว! พี่ชายคนนี้ก็มีขีดจำกัดนะ!

 

ที่แท้สาวน้อยคนนี้ก็มองเขาแบบนี้หรอกเหรอนี่ มิน่าล่ะถึงได้มีท่าทีแย่อย่างนั้น แล้วก็ไม่ค่อยมีเหตุผล...

 

ตอนนี้ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังแล้ว แต่หลิงม่อก็ไม่ได้ขุ่นเคือง กลับรู้สึกว่าซย่าน่าน่ารักไม่น้อยทีเดียว

 

อย่างน้อยน้องสาวคนนี้ก็เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม เมื่อเทียบกับมอดพวกนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าดีกว่ากี่เท่าต่อกี่เท่า...

 

หลิงม่อแอบกลอกตา ขณะเดียวกันก็ควบคุมเย่เลี่ยนให้ส่ายหน้า

 

“ฮ่าๆ ฉันรู้ค่ะ ตอนหลังฉันเห็นพี่เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน แต่งตัวเรียบร้อย ไม่มีบาดแผลอะไร แล้วก็ได้ยินที่เขาพูดถึงพี่...ฉันก็เลยรู้ว่าเขาไม่ใช่พวกเศษสวะ” ซย่าน่าเขยิบเข้าใกล้เย่เลี่ยนขึ้นอีกนิด จนแทบจะตัวแนบชิดกับเย่เลี่ยนอยู่แล้ว “นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปที่โรงเรียนซานจงอีก ยังไงก็ขอขอบคุณพวกพี่ล่วงหน้านะคะ”

 

เวลาที่อยู่ต่อหน้าเขากับเวลาที่อยู่ต่อหน้าเย่เลี่ยน เด็กผู้หญิงคนนี้นิสัยต่างกันสุดขั้วไปเลย!

 

คงจะเป็นเพราะช่วงกลางวันใช้เรี่ยวแรงไปมาก หลังจากพูดจบได้ไม่นาน ซย่าน่าก็ส่งเสียงหายใจยาวสม่ำเสมอกัน เห็นได้ชัดว่าเธอผล็อยหลับไปเรียบร้อยแล้ว

 

แต่หลิงม่อกลับจ้องมองเธอผ่านทางสายตาของเย่เลี่ยนอยู่พักใหญ่ ใบหน้ายามหลับของซย่าน่าไม่เพียงจะปราศจากซึ่งความเย่อหยิ่ง แต่ยังเผยให้เห็นความอ่อนแอบอบบางเล็กน้อยด้วย

 

การให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งแบกรับความหวังที่จะมีชีวิตรอดของหลายคนแบบนี้ เธอคงลำบากแย่ คนทั่วไปแค่ดูแลรับผิดชอบชีวิตตัวเองก็รับความกดดันมหาศาลแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบ่าที่บอบบางของซย่าน่าแบกรับภาระที่หนักอึ้งขนาดไหน

 

แม้ว่าทั้งหมดนี้เธอจะหาเรื่องใส่ตัวเองก็ตามที...

 

หลังจากยื่นมือไปลูบศีรษะของซย่าน่า หลิงม่อก็พลิกตัวแล้วสูดหายใจลึก จากนั้นก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

อย่างที่ซย่าน่าพูดนั่นแหละ ยังมีวันพรุ่งนี้อีก!

 

แล้วเพื่อให้แน่ใจว่ามีพละกำลังมากพอ ฉะนั้นก็รีบพักผ่อนจะดีกว่า

 

......................................................................................

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด