ตอนที่แล้วบทที่ 12 ที่แท้พวกเราก็คิดมากไปเอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 ชั้นยอมนายทุกอย่างเลย

บทที่ 13 ความเชื่อมั่นของสือเสี่ยวไป๋สั่นคลอนเสียแล้ว


บทที่ 13 ความเชื่อมั่นของสือเสี่ยวไป๋สั่นคลอนเสียแล้ว

 

        หลังจากที่บรรยากาศแปลกประหลาดในห้องดำเนินไปอยู่พักหนึ่งก็ค่อยๆ จางหายไป ที่แท้การทดสอบวัดระดับเด็กใหม่ยังไม่เสร็จสิ้น สำหรับการให้คะแนนเด็กใหม่ของ [ไกอา] โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ “คุณสมบัติ และ ความสามารถ” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีเด็กใหม่ไม่น้อยที่มี “คุณสมบัติ” สูงมาก แต่เนื่องจาก "ความสามารถ" ต่ำเกินไปจึงไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารอบ ด้วยเหตุนี้คะแนนรอบสุดท้ายของสือเสี่ยวไป๋ยังคงเป็นปริศนาลางเลือนอยู่

 

ทว่าตอนนี้กลับมีเรื่องหนึ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว

 

หลีจื่อยิ้มหวานอย่างมีเลศนัย แววตาแฝงความภูมิใจอย่างมาก “หงมู่ลี่ จำการเดิมพันของพวกเราได้อยู่ใช่ไหม? เธอรีบกลับไปเก็บของเถอะ ชั้นกำลังขาดสาวใช้อยู่พอดี คริคริ”

 

หงมู่ลี่สีหน้าหมองคล้ำ ดูท่าไม่พอใจเป็นที่สุด กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง “พวกเราเดิมพันที่คะแนนรอบสุดท้ายของเด็กใหม่ ตอนนี้เพิ่งจะแค่รอบแรกเท่านั้น”

 

หลีจื่อเบ้ปากใส่ กล่าวคัดค้าน “การทดสอบรอบแรกสือเสี่ยวไป๋มีคะแนนนำโด่งเจ้าสิงโตขนทองหลงตัวเองตั้งเยอะ นอกเสียจากว่าในรอบสองสือเสี่ยวไป๋จะได้ศูนย์คะแนนจนได้รับการตัดสินให้เป็น ‘ผู้ไร้ความสามารถ’ ไม่อย่างนั้นเจ้าสิงโตขนทองหลงตัวเองคงต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

 

หงมู่ลี่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าโอกาสชนะของข่ายเหวินนั้นมีน้อยนิด แต่ยังปากหนักไม่ยอมจำนนง่ายๆ จึงกล่าวตอบไปอย่างปากแข็ง “ไม่แน่ว่าสือเสี่ยวไป๋ได้ศูนย์คะแนนขึ้นมาจริงๆ”

 

หลีจื่อมองแรง สาดสายตามองใส่หงมู่ลี่ หงมู่ลี่เองก็อ้าปากจะเถียงแต่พูดไม่ออก โอกาสได้ศูนย์คะแนนสำหรับส่วนที่สองนั้นเธอเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ

 

แม้สือเสี่ยวไป๋จะโง่สักเท่าไรแต่ก็เป็นอัจฉริยะ คงไม่ถึงขนาดว่าทำไม่ได้สักคะแนนหรอกนะ?

 

......

 

ในตอนนี้สือเสี่ยวไป๋เต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีแห่งการรบ เพราะเขารับคำท้าจากหยางหยาง สำหรับเรื่องการแข่งขันจะเป็นอะไรนั้น เออะ ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้

 

“ข้าใช้กลยุทธ์ทหารม้าใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน”

 

แม้ในใจของสือเสี่ยวไป๋จะคิดเช่นนี้ แต่ใบหูของเขากลับตั้งผึ่ง ฟังผู้อาวุโสอธิบายถึงกฎกติกาการทดสอบความสามารถอย่างตั้งใจ

 

“การทดสอบความสามารถสนามที่สองนี้ เป็นการทดสอบหนึ่งในความสามารถขั้นพื้นฐานของฮีโร่ นั่นคือความสามารถการยิงปืน”

 

ประโยคแรกที่ได้ยินจากผู้อาวุโส สือเสี่ยวไป๋รู้สึกงุนงงนิดหน่อย ความสามารถการยิงปืนกลายเป็นความสามารถพื้นฐานของฮีโร่ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน?

 

หรือว่าฮีโร่ในโลกใบนี้พึ่งพาเพียงอาวุธร้อน[1] ถือปืนกลยิงกันปังๆ อย่างนั้นหรอกหรือ? ทันใดนั้นสือเสี่ยวไป๋รู้สึกผิดหวังอย่างมาก ฮีโร่ในใจของเขาควรจะจัดการปีศาจร้ายด้วยหมัด ใช้เท้าเตะอสุรกายจากอวกาศ ใช้ดาบสับยานอวกาศต่างดาว ไม่พึ่งพาเครื่องทุ่นแรงและเทคโนโลยีสิ

 

“ทำไมความสามารถการยิงปืนจึงเป็นความสามารถพื้นฐานของฮีโร่ไปได้? หรือว่าเหล่าฮีโร่ไม่ใช้อาวุธเย็น[2]แล้ว?” สือเสี่ยวไป๋วางมาดเคร่งขรึมของราชาลง หันไปถามหยางหยางไม่หยุด

 

“นายจริงจังใช่ไหม?” หยางหยางตอบกลับด้วยสายตาที่มองอย่างเหยียดหยาม

 

“ใช่น่ะสิ!” สือเสี่ยวไป๋พยักหน้าจริงจัง

 

“ไม่รู้ว่านายแกล้งโง่หรือโง่จริงกันแน่” หยางหยางแขวะใส่ทีหนึ่งอย่างอนาจใจ ลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง

 

“แม้ว่าผู้มีพลังจิตจะแบ่งออกเป็นหลายขั้น แต่ผู้มีพลังจิตส่วนใหญ่ล้วนยังอยู่ในขั้นปฐมจิตที่อ่อนแอที่สุด ความจริงแล้วฮีโร่จำนวนไม่น้อยก็ยังจัดอยู่ในขั้นปฐมจิต และแน่นอนว่าฮีโร่ขั้นปฐมจิตโดยทั่วไปแล้วเป็นฮีโร่ขั้น F ทว่าฮีโร่ขั้น F กลับเป็นความปลอดภัยพื้นฐานของโครงสร้างสังคมไปแล้ว และอาชญากรและผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่ต่างถูกกำราบโดยฮีโร่ขั้น F ทั้งนั้น แต่เนื่องจากฮีโร่ขั้นปฐมจิตยังป้องกันการโจมตีจากกระสุนไม่ได้อย่างสมบูรณ์ อานุภาพทำลายล้างของอาวุธเย็นยังเทียบเท่าอานุภาพของอาวุธร้อนไม่ได้ ดังนั้นสำหรับฮีโร่ปฐมจิตขั้น F แล้ว อาวุธร้อนก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”

 

“ด้วยเหตุนี้ สำหรับใครที่ตั้งใจจะเป็นฮีโร่ ความสามารถพื้นฐานที่ควรมีก็คือการยิงปืน เพราะคนส่วนใหญ่จะแข่งขันกันได้เพียงในขั้นปฐมจิตเท่านั้น”

 

หยางหยางกล่าวราวท่องตำรา ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “แม้ว่าผู้มีพลังจิตพิเศษจะค่อนข้างพิเศษกว่า โดยผู้มีพลังจิตพิเศษส่วนหนึ่งที่อยู่ในขั้นปฐมจิตนี้ต่างมีกลวิธีมากมายสำหรับใช้ต่อต้านอาวุธร้อน แต่โดยทั่วไปแล้วพลังทำลายล้างของผู้มีพลังจิตพิเศษในขั้นปฐมจิตยังเทียบพลังทำลายล้างของปืนกลไม่ได้ ดังนั้นความสามารถในการยิงปืนจึงเป็นวิชาหลักที่ผู้มีพลังจิตพิเศษต้องศึกษา สรุปก็คือ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีพลังจิตหรือผู้มีพลังจิตพิเศษ ก่อนที่จะข้ามขั้นปฐมจิตทะลวงสู่ขั้นปฐมวิญญาณ อาวุธร้อนก็ย่อมดีกว่าอาวุธเย็นอยู่ดี ทว่าเมื่อทะลวงผ่านอีกขั้นได้แล้ว เรื่องราวกลับเป็นคนละเรื่อง โดยทั่วไปแล้วเหล่าฮีโร่ขั้น D ขึ้นไปนั้นล้วนเลือกใช้อาวุธเย็นกันทั้งนั้นแหละ”

 

ได้ฟังชื่อเรียกที่ไม่คุ้นหูมากมายจากปากหยางหยาง สือเสี่ยวไป๋ได้ฟังก็รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ทว่าเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

 

ส่วนอีกฝากหนึ่ง ผู้อาวุโสได้อธิบายกฎกติการการทดสอบรอบที่สองจบลงแล้ว

 

ทันทีที่เสียงพูดของผู้อาวุโสเงียบลง จู่ๆ กำแพงโลหะที่มีข้อมูลกะพริบพลันถูกปกคลุมไปด้วยสีขาว คล้ายดั่งหน้าจอทีวีสีขาวขนาดมหึมา โดยมุมบนของหน้าจอสีขาวมีชื่อเด็กใหม่ทั้งสี่ปรากฎอยู่ พร้อมกับตัวเลข “0” ห้อยท้ายชื่อของพวกเขา

 

เนื้อหาการทดสอบความสามารถนั้นแสนง่าย แต่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของดินปืน เด็กใหม่ทั้งสี่ร่วมประลองบนเวทีเดียวกัน บนหน้าจอสีขาวขนาดยักษ์เป้าหมายสีดำจะสุ่มปรากฏขึ้นมา คนทั้งสี่ต้องใช้ปืนลำแสงยิงที่เป้าหมาย ใครยิงเข้าเป้าก่อนจะได้คะแนนนำไป เมื่อเป้าแรกถูกยิง เป้าหมายถัดไปจึงจะสุ่มปรากฎขึ้นมา รวมแล้วมีเป้าหมายทั้งหมดหนึ่งร้อยจุด

 

การสุ่มในที่นี้หมายถึง การสุ่มของตำแหน่งที่จุดเป้าหมายสีดำปรากฏขึ้น รวมถึงระยะห่างของเวลาการปรากฎตัวของแต่ละเป้าด้วย

 

การทดสอบเช่นนี้เป็นการทดสอบทักษะไหวพริบของเด็กใหม่ รวมถึงทดสอบความรวดเร็วและความแม่นยำในการยิงด้วย นี่ถือว่าเป็นบททดสอบที่ค่อนข้างครอบคลุมเลยทีเดียว

 

สือเสี่ยวไป๋รับปืนลำแสงจากมือของผู้อาวุโส มันมีลักษณะคล้ายกับปืนพก ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงลองเหนี่ยวไกดู ทันใดนั้นลำแสงสีแดงสายหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืน สือเสี่ยวไป๋นึกสนุกขึ้นมา ยกปืนลำแสงขึ้นมายิงไปยังผู้คนในห้องดังซวบๆ จนผู้อาวุโสดึงหน้าเข้มตึงให้หยุดเล่น เขาถึงได้เก็บมือลงอย่างไม่สบอารมณ์

 

เด็กใหม่อีกสามคนที่ยืนอยู่ในแถวเดียวกันกับสือเสี่ยวไป๋ ไม่มีใครจะรู้สึกโล่งสบายเหมือนเขาสักคน ในใจของพวกเขาต่างรู้สึกตื่นเต้นจริงจังเป็นที่สุด ด้วยคุณสมบัติระดับ S คู่จากการทดสอบรอบแรกทำให้สือเสี่ยวไป๋อยู่ลำดับที่หนึ่งของการจัดอันดับเด็กใหม่ในครั้งนี้ สำหรับพวกเขาแล้วการแข่งขันในรอบที่สองจึงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

 

ที่จริงสือเสี่ยวไป๋ไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดว่าเขากำลังคิดหาวิธีจะถอดชิ้นส่วนของปืนลำแสงนี้ได้อย่างไร

 

“เฮ้ เสี่ยวไป๋ ความสามารถการยิงปืนของนายเป็นอย่างไรบ้าง?”

 

น้ำเสียงเด็กสาวใสดุจระฆังเงินดังขึ้นข้างหู สือเสี่ยวไป๋หันหน้าไปพบว่าหลีจื่อได้มายืนอยู่ข้างหลังของตนตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

 

“วางใจเถอะ ไม่ว่าจะ CF หรือ CS[3] ข้าก็มีฝีมืออยู่ในระดับสุดยอดอยู่แล้ว ความสามารถการยิงปืนนั้นหาใครเทียบได้ยาก สาวน้อยเธออยากจะลองดูไหม? ”

 

สือเสี่ยวไป๋ตอบอย่างมั่นใจ ยกปืนลำแสงจ่อใบหน้าหญิงสาว

 

หลีจื่อได้ฟังคำนั้นถึงกับชะงักอึ้ง คิดว่าสือเสี่ยวไป๋จะว่าง่ายเชื่อฟังที่ไหนกันหล่ะ จิตใต้สำนึกของเธอคิดอยากจะฟาดหลังแหวนกลางกระหม่อมสักกำปั้น อีกอย่างบนโลกใบนี้ก็ไม่มีเกม CF กับ CS อะไรพวกนั้นสักหน่อย ดังนั้นหลีจื่อจึงไม่เข้าใจว่าสือเสี่ยวไป๋กำลังพูดถึงอะไรอยู่ แต่เพราะเห็นท่าทางมั่นใจจากคำพูดของสือเสี่ยวไป๋เช่นนั้น เธอก็อดวางใจไม่ได้เพียงแต่ปากยังคงกล่าว “ยังไงซะ ขอเพียงนายไม่ได้ศูนย์คะแนนก็พอแล้ว ได้สักหนึ่งคะแนนก็ยังดี”

 

“เหอะ!” สือเสี่ยวไป๋ไม่ค่อยพอใจกับคำพูดนี้ แต่ไม่รู้ทำไมยังถามกวนประสาทไปว่า “ได้ศูนย์คะแนนแล้วจะเป็นยังไง?”

 

หลีจื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่ามาถึงขนาดนี้แล้วจะมีอะไรต้องปิดบังอยู่อีก จึงกล่าวว่า “อะแฮ่ม ชั้นกับยัยอัปลักษณ์ชุดแดงนั่นได้เดิมพันกันไว้ สรุปคือขอเพียงว่านายได้เกินศูนย์คะแนน ชั้นก็จะชนะ”

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง วางใจเถอะสาวน้อย ในเมื่อข้าได้ทำพันธสัญญาโลหิตกับเจ้าแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยให้เจ้าชนะการเดิมพันครั้งนี้แน่นอน!” สือเสี่ยวไป๋พูดพลางตบหน้าอก

 

หลีจื่อกรอกตาใส่เขาทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าการทดสอบจะเริ่มขึ้นแล้ว จึงกล่าวกำชับอีกครั้งแล้วเดินกลับไปยังที่นั่งด้านขวาอย่างช้าๆ

 

“ล้อเล่นหรือเปล่า ข้าจะได้ศูนย์คะแนนได้อย่างไร? แม่สาวน้อยไร้เดียงสา”

 

เมื่อคิดว่าได้คะแนนเดียวก็พอแล้ว ในใจของสือเสี่ยวไป๋พลันรู้สึกโล่งยิ่งกว่าโล่งเสียอีก ล้อเล่นน่า แม้ว่าในการสอบที่โรงเรียนเขาไม่เคยทำได้เกินสิบคะแนนเลย แต่ว่าก็ไม่เคยได้ศูนย์คะแนนมาก่อน สำหรับเรื่องนี้แล้วสือเสี่ยวไป๋มั่นใจตัวเองเป็นอย่างมาก

 

“จงเลือกเถิด หนุ่มน้อย!”

 

ทันใดนั้นเสียงโอหังดังก้องในหัวของสือเสี่ยวไป๋ ห้วงเวลาหยุดชะงักลง ทุกคนในห้องต่างถูกแช่แข็ง

 

ตัวอักษรสีดำสองบรรทัดค่อยๆ ปรากฏต่อสายตาสือเสี่ยวไป๋

 

[ ตัวเลือกที่ 1 : ช่วงระหว่างการทดสอบความสามารถ ห้ามลืมตาและสามารถยิงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น (รางวัลระดับ E) ]

 

[ ตัวเลือกที่ 2 : สละสิทธิ์ผ่านการทดสอบด้วยศูนย์คะแนน (รางวัลระดับ D) ]

 

สือเสี่ยวไป๋มองดูตัวอักษรสีดำสองบรรทัดนี้แล้วอึ้งชะงักไปพักหนึ่ง

 

เวลานี้ ความเชื่อมันของสือเสี่ยวไป๋สั่นคลอนเสียแล้ว

[1] อาวุธร้อน หมายถึง อาวุธที่มี่อาณุภาพการทำลายล้างสูง เช่น อาวุธตระกูลปืน ระเบิด

[2] อาวุธเย็น หมายถึง อาวุธธรรมดาที่ไม่กลไลใดๆ และไม่ใช้ดินปืน หรือระบบอื่นๆ เช่น มีด หอก เป็นต้น

[3] CF ( Crossfire ) และ CS ( Counter-Strike ) เป็นเกมยิงปืนออนไลน์ชนิดนึง แนว FPS ย่อมาจาก First-person shooter หรือที่เรียกกันว่า เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ลักษณะของเกมยิงประเภทนี้จะนำเสนอความสมจริงในการเล่นด้วยมุมกล้องที่ผู้เล่นจะเห็นเพียงแค่มือที่ใช้ถืออาวุธของตัวละครให้อารมณ์เหมือนกับกำลังสวมบทตัวละครนั้นจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด