ตอนที่แล้วบทที่ 11 เสี่ยงถูกเปิดโปง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 13 ฉันเป็น NPC?

บทที่ 12 จากแฟนคลับสู่แอนตี้แฟน


บทที่ 12 จากแฟนคลับสู่แอนตี้แฟน

 

“ไม่เชื่อเหรอ? ชื่อจริงของฉันคือหานปี้ เลขประจำตัวประชาชน 3301xxxxxxx... บ้านอยู่ซีหู เมืองหางโจว... เรียนอยู่ม.6 ห้อง 1 โรงเรียนมัธยม XX ที่ 12 เดินทางครั้งนี้เพราะเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งจำลองการบินนานาชาติ ฉันเคยเห็นนายบนเครื่องบิน นายนั่งอยู่ที่ชั้นเฟิร์สคลาส แหงละ ฉันจำนายได้เพราะว่าคนที่นั่งข้างๆ นายเป็นโลลิน้อยที่สวยมากคนหนึ่ง ใช่ไหมละ? ดูสิ ฉันจำทุกอย่างได้ชัดเจน ถ้าฉันเป็นแบบคนพวกนั้น ฉันคงจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนฟังแล้ว หมัดที่กำไว้ก็ค่อยๆ คลายออก

 

จากนั้นเขาเริ่มเปิดปากถาม “ถ้างั้น...งั้นทำไมนาย...”

 

หานปี้ไม่ได้ตอบทันที เขาวิ่งไปทางหนึ่ง มองสำรวจรอบๆ พอแน่ใจว่าไม่มีคนแล้วก็โบกมือใส่เฉินเสี่ยวเลี่ยน “ตามฉันมา ที่นี่อยู่ใกล้ค่ายเกินไป เราไปหาที่คุยกัน”

 

......

 

หลังจากเดินมาตามลำห้วยไม่กี่ร้อยเมตร มีก้อนหินก้อนใหญ่ริมน้ำ ทั้งสองซ่อนอยู่หลังก้อนหินยักษ์ นั่งหันหน้าคุยกัน

 

หานปี้เริ่มพูดก่อน

 

“ตอนที่เครื่องบินเสียการควบคุมฉันสลบไป ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ เหมือนร่างกายรับไม่ไหว หัวใจเต้นอย่างรุนแรง” เขาชี้ไปที่หน้าอก “หัวใจเหมือนกลายเป็นเครื่องปั๊มน้ำขนาดใหญ่ ฉันรู้สึกเหมือนหลอดเลือดทั้งตัวจะระเบิดออกมา จากนั้น... ตอนที่เครื่องบินดิ่งลง ฉันก็พบว่าคนรอบๆ ตัวมีอาการไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่ แต่ละคนดูทรมานมาก

 

หลังจากเครื่องบินตกลงบนพื้น กัปตันคนนั้น นายนิวตันน่ะ ก็ออกมาจากห้องนักบิน แล้วฉันก็ค้นพบว่าคนรอบๆ ตัวดูแปลกๆ

 

อืม พูดยังไงดีล่ะ เหมือนกับว่ากลายเป็นคนแปลกหน้า เหมือนกับว่า...

 

พวกเขาไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว”

 

“นายมั่นใจได้ยังไง?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนถาม

 

หานปี้ยิ้มขื่น “นายคงเห็นผู้หญิงผอมแห้งที่อยู่ในทีมเด็กใหม่ของเราแล้วสินะ? เธอเป็นครูผู้ควบคุมทีมที่ฉันเข้าร่วมในครั้งนี้ แต่ว่าหลังเครื่องบินตก เธอก็ไม่รู้จักฉันขึ้นมาซะงั้น”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนหนาวเยือกในใจ... รู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง

 

“ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าเห็นทุกคนดูสงบมาก เหมือนกับ... นี่ไม่ใช่ประสบอุบัติเหตุทางอากาศ แต่เป็นการเดินทางที่ถึงจุดหมายอย่างราบรื่นครั้งหนึ่ง

 

ทุกคนล้วนตื่นเต้นยินดี ส่วน... นิวตันคนนั้นก็พาทุกคนออกจากเครื่องบินอย่างรวดเร็ว อืม คนในนั้นส่วนหนึ่งดูคล้ายกับรู้จักกันมาก่อน ก็จับกลุ่มกันกลายเป็นทีมย่อยๆ

 

ตอนนั้นฉันกลัวมาก ฉันพบว่าท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นมีฉันแค่คนเดียวที่ต่างออกไป ดังนั้น... ฉันเลยไม่กล้าเผยความแตกต่างใดๆ ทำเป็นนิ่งเงียบไว้ก่อน

 

เพราะแบบนี้ พวกเขาเลยเข้าใจว่าฉันเป็น ‘เด็กใหม่’ อะไรนั่น”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนปากคอแห้งผาก “จากนั้นล่ะ?”

 

“หลังจากนั้น... ฉันก็ถูกดึงเข้ากลุ่มของนิวตัน เขาเป็นเจ้าหน้าที่นำทาง ค่อนข้างยินดีรับ ‘เด็กใหม่’ เอาไว้ ฉันจะบอกให้ กลุ่มอื่นๆ ไม่มีใครอยากรับเด็กใหม่เลย นอกจากคนในทีมของพวกเราแล้ว กลุ่มอื่นๆ ไม่มี ‘เด็กใหม่’ สักคน”

 

“เด็กใหม่คืออะไร?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนถาม

 

“เด็กใหม่ก็คือ... น่าจะหมายถึงคนที่เข้าร่วม ‘เกม’ นี้เป็นครั้งแรก” หานปี้ยิ้มขื่น “ฉันแกล้งทำตัวเหมือนท่อนไม้ทื่อๆ ไม่พูดไม่จามาโดยตลอด บางทีก็จงใจทำตัวให้ดูโง่ๆ หน่อย แล้วก็พูดน้อยมาก ฉันเลยสืบข้อมูลมาได้ แต่ก็ไม่ละเอียดมากนัก เวลาส่วนใหญ่ฉันเอาแต่นิ่งเงียบแล้วก็ตั้งใจฟังคนอื่นพูด คอยเดาไปทีละนิด”

 

พูดถึงตรงนี้หานปี้ก็ยิ้ม “อย่างเสื้อป้องกันนี่ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ว่าต้องสวมยังไง แต่ฉันแกล้งทำเป็นอืดอาดชักช้า ด้อมๆ มองๆ เด็กใหม่คนอื่นสวมก่อนแล้วค่อยเลียนแบบ... หางถึงไม่โผล่ออกมา”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนพูดด้วยเสียงหนักอึ้ง “ถ้างั้น ‘เกม’ นี้คืออะไรล่ะ? พวกเราอยู่ที่ไหนกันแน่ ยังอยู่บนโลกหรือเปล่า? หรือว่าทะลุมิติมาโลกอื่นแล้ว?”

 

หานปี้ยิ้ม “ตอนแรกฉันก็อยากรู้เรื่องนี้ที่สุดเหมือนกัน”

 

ไม่รู้เขาไปเอาด้ายเส้นเล็กแปลกๆ มาจากไหน มันแขวนตะขอเล็กๆ ไว้หลายอัน แล้วก็หยิบเอาน้ำยาเหนียวๆ บางอย่างออกมา ค่อยๆ ทาลงไปบนตะขอ จากนั้นก็โยนด้ายลงลำห้วย จับปลายด้ายเอาไว้ในมือ

 

เขาทำไปพลางพูดไปพลาง

 

“ตอนแรกฉันเดาว่า พวกเรารวมทั้งคนที่อยู่ในเครื่องบินพากันทะลุมิติมายังโลกอื่น คนบนเครื่องบิน รวมทั้งนายและฉัน เป็นมนุษย์โลกที่โดนพาตัวมา แต่ว่ามีบางอย่างที่ฉันคิดไม่ตก”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนพยักหน้า “อืม ทำไมคนพวกนั้นถึงรู้จักกันหมด?”

 

“ใช่” หานปี้พูด “เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้เจอ ‘เกม’ แบบนี้ครั้งแรก พวกเขามีสมาพันธ์ มีทีมเป็นของตัวเอง อืม เหมือนกับกิลด์[1]ในเกมออนไลน์ที่พวกเราเล่นกัน พอเป็นแบบนี้ คำถามก็คือ... เกมนี้ใครเป็นคนสร้าง โลกนี้จะมีทีมไหนที่เทพจนสร้างเกมที่น่าอัศจรรย์แบบนี้ออกมาได้? นายคงรู้จักพลังพิเศษใช่ไหม? แล้วยังมีสัตว์ประหลาดพิลึกพวกนั้นอีก นายเคยเจอเรื่องแบบนี้ในโลกความจริงบ้างไหมล่ะ?”

 

“ไม่เคย” เฉินเสี่ยวเลี่ยนสั่นหัวอย่างจริงจัง

 

“ดังนั้น... ฉันคิดว่าต่อให้เป็นรัฐบาลอเมริกาก็ทำเกมแบบนี้ออกมาไม่ได้หรอก”

 

“หรือว่า พวกเราอาจจะทะลุมิติมาโลกอื่นแล้วจริงๆ แบบนี้ก็จะอธิบายได้ว่าทำไมมีสัตว์ประหลาดพวกนั้น ทำไมถึงมีพลังพิเศษพวกนั้น” เฉินเสี่ยวเลี่ยนถาม

 

นี่เป็นเรื่องในสายงานของเขา เป็นถึงนักเขียนนิยายออนไลน์ เรื่องออกแบบการทะลุเวลาผ่ามิติอะไรนี่ เขาย่อมนึกถึงมันก่อนอยู่แล้ว

 

“บางทีนายอาจจะเดาถูกก็ได้ แต่ว่าฉันมีความคิดอีกอย่างหนึ่ง”

 

“ว่ามาสิ” เฉินเสี่ยวเลี่ยนหรี่ตา

 

“นายดู ที่นี่ตอนกลางวันมีดวงอาทิตย์ดวงเดียว ตอนกลางคืนก็มีพระจันทร์ดวงเดียว ทะเล ผืนดิน แล้วก็สิ่งมีชีวิต อุณหภูมิ เวลาในแต่ละวันมี 24 ชั่วโมง... ทุกอย่างเหมือนกับการใช้ชีวิตปกติของเราบนโลกไม่มีผิดเลยใช่ไหมละ?

 

หรือว่าโลกต่างมิตินี่จะ ‘บังเอิญ’ อยู่ในกาแลคซี่ที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางเหมือนกัน? แล้วยัง ‘บังเอิญ’ มีดวงจันทร์เป็นบริวารอีกต่างหาก? อีกอย่างดาวดวงนี้ก็หมุนรอบตัวเองเร็วพอๆ กับโลกด้วย? แล้วบังเอิญขนาดที่ว่าแม้แต่แรงดึงดูดก็มีเหมือนกัน? นายไม่คิดว่านี่มันออกจะบังเอิญมากไปหน่อยเหรอ?

 

เพราะอย่างนี้ ตอนแรกฉันเลยคิดว่าพวกเรายังอยู่บนโลก

 

หรือบางที... ที่นี่อาจใช้ดาวโลกเป็นต้นแบบก็ได้ พวกนั้นสร้างโลกเสมือนขึ้นมา พวกเราโดนพลังลึกลับบางอย่างส่งเข้ามาในโลกเสมือนนี้ เหมือนกับ... เกมออนไลน์เกมหนึ่ง หรือหนังเรื่องหนึ่ง หรือนิยายเรื่องหนึ่ง”

 

“นายหมายถึงโลกไร้จุดจบ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนพูด ‘ศัพท์เทคนิค’ ในสายงานของเขาออกมา

 

“ถูกต้อง คำนี้แหละ นายก็อ่านนิยายออนไลน์ด้วย?” หานปี้ยิ้ม

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มๆ ไม่ตอบคำถามนี้

 

“ฉันแค่เคยได้ยินว่าเราเอาคนส่งไปในโลกไร้จุดจบได้... แต่ไม่เคยได้ยินว่าสามารถดึงเอาเครื่องบินโบอิ้งทั้งลำใส่เข้าไปในโลกไร้จุดจบที่เป็นโลกเสมือนได้...” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น “พวกนี้ก็เป็นแค่เรื่องที่เราคาดเดากันเท่านั้น ยังไงซะโลกไร้จุดจบก็มีแค่ในนิยายออนไลน์เท่านั้นแหละ”

 

“ก็จริง” หานปี้คิดแล้วคิดอีก เห็นด้วยกับเฉินเสี่ยวเลี่ยน “พวกเราค่อยๆ คิด ค่อยๆ หาคำตอบเถอะ อืม... แต่ว่าต้องระวังไม่เปิดเผยตัวตนด้วย ฉันรู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนดีอะไร นายเคยอ่านนิยายแบบโลกไร้จุดจบเหมือนกัน คงรู้นะว่าในนั้นนองเลือดแค่ไหน...”

 

“แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมพวกเราไม่เหมือนเด็กใหม่คนอื่นๆ” เฉินเสี่ยวเลี่ยนครุ่นคิด “เข้ามาเกมนี้ครั้งแรกเหมือนๆ กัน ทำไมเด็กใหม่คนอื่นๆ ดูจะรู้เรื่องพื้นฐานบางส่วนแล้ว แต่พวกเรากลับ...”

 

“เรื่องนี้ก็ทำฉันปวดหัวเหมือนกัน” หานปี้ยิ้มขื่น “ฉันพบว่าพวกเขาทุกคน... รวมทั้งเด็กใหม่ด้วย พวกเขารู้ดีว่าทำไมถึงมาที่นี่ และรู้ดีว่าพวกเขาควรทำอะไร แต่ว่าพวกเราสองคนเหมือนกับหลุดเข้ามาด้วยความผิดพลาด... เหมือนกับ...”

 

“นายหมายถึงมั่วเข้ามา?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนตาเป็นประกาย แต่หลังจากนั้นสายตาก็พลันมืดทะมึนลง “ถ้าที่นี่เป็นโลกในโลกไร้จุดจบจริงๆ แล้วพวกคนบนเครื่องบินมาจากดาวโลกในโลกความเป็นจริงแบบพวกเรา นายเข้าใจความหมายแฝงของมันหรือเปล่า”

 

หานปี้อึ้งไป

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนถอนหายใจ ยิ้มขื่นพูดว่า “มันหมายความว่าบนดาวโลกปัจจุบันของเรามีกลุ่มโลกไร้จุดจบอยู่จริงๆ นายลองคิดดูสิว่ามันน่ากลัวขนาดไหน?”

 

หานปี้หน้าเหวอ ทั้งสองคนนิ่งเงียบ บรรยากาศอึมครึม

 

ตอนนั้นเองเส้นด้ายในมือหานปี้ก็กระตุก เขารีบออกแรงดึง เส้นด้ายที่ทิ้งลงในน้ำแล้วถูกดึงขึ้นมานั้น บนตะขอสิบกว่าอันตรงปลายมีตัวสีดำๆ บางอย่างที่ดูคล้ายกับกบติดอยู่จนเต็มแน่น

 

ทุกตัวมีขนาดใหญ่ประมาณกล่องไม้ขีดไฟ

 

“นี่... นี่คือกบหิ่งห้อย?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนเบิกตาโต

 

“อือ พวกมันจะเปล่งแสงในที่ที่มืดมิดที่สุด ฉันจำจากที่คนอื่นพูดมาน่ะ เหยื่อล่อที่ฉันทาไว้บนตะขอก็เป็นเดม่อนที่ให้มา เจ้าพวกนี้จับง่ายมาก แค่ทาเหยื่อล่อไว้ก็จะมาติดเบ็ดเอง” หานปี้ที่พูดอยู่ก็เอาตะขอชุดหนึ่งกับเหยื่อล่อขวดเล็กๆ ส่งให้ “นายก็ลองดูสิ”

 

“พวกมันทำร้ายคนไหม?”

 

“ระวังอย่าไปโดนน้ำเมือกในปากมัน ผิวหนังจะเป็นตุ่มแดงๆ คันๆ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไร”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองหานปี้โยนกบหิ่งห้อยลงกระเป๋าทีละตัวๆ จู่ๆ ก็รู้สึกสะกิดใจขึ้นมา “ฉันคิดว่า... แผนต่อไปของพวกเขาจะต้องเป็นการเข้าไปในที่มืดๆ ไร้แสงสว่างแน่ๆ”

 

หานปี้พยักหน้า “เมื่อวานฉันก็คิดเรื่องนี้ สองสามวันนี้พวกเขาส่งคนออกไปจับเจ้านี่ทุกวัน”

 

ทั้งสองยุ่งอยู่สักพักก็จับได้ครบทั้งยี่สิบตัว

 

ตอนที่กำลังเดินกลับนั้น จู่ๆ หานปี้ก็ถามขึ้นมาว่า “ใช่สิ นายบอกว่านายชื่อเสียวเหลี่ยน แล้วชื่อจริงนายชื่ออะไร”

 

“...เฉินเสี่ยวเลี่ยน ตัวเฉินแบบคำว่าเอ่อร์ตงเฉิน ตัวเลี่ยนแบบคำว่าเลี่ยนสี[2]

 

หานปี้เลิกคิ้ว เอียงศีรษะค่อยๆ ครุ่นคิด “เฉินเสี่ยวเลี่ยน เฉินเสี่ยวเลี่ยน... ทำไมชื่อนี้คุ้นหูจัง”

 

เขามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยความสงสัย “เอ๋ ฉันจำได้ว่ามีนักเขียนนิยายออนไลน์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนหนึ่งใช้นามปากว่าพั่งจื่อซู (ลุงอ้วนห้า) เหมือนกับว่าชื่อจริงชื่อเฉินเสี่ยวเลี่ยน คงไม่ใช่ว่า...”

 

“...เหอๆ” เฉินเสี่ยวเลี่ยนหัวเราะแห้งๆ ลังเลเล็กน้อยถึงพยักหน้ายอมรับ “เป็นฉันเองแหละ”

 

“เชี่ยละ!! นายไม่ใช่ลุงอ้วนอายุสามสิบกว่าหรอกเหรอ?” หานปี้เต้นผาง “แล้วนายก็ไม่อ้วนด้วย แล้วก็ไม่ได้เป็นตาลุงสักหน่อย!!”

 

“เอ่อ ก็แค่เรื่องล้อเล่นตลกๆ น่ะ ฉันตั้งใจปกปิดตัวตนจริงๆ ของฉัน”

 

หานปี้ถอนหายใจ จ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยสายตาแปลกๆ “งั้นก็หมายความว่า... เป็นนายจริงๆ สินะ? เรื่อง ‘บัญญัติxxx’ กับเรื่อง ‘xxxไร้เทียมทาน’ ก็เป็นนายเขียนจริงๆ สินะ? ฉันเคยเป็นเจ้าสำนัก[3]ที่คอยตบรางวัลให้นายด้วยนะเว้ย”

 

“เอาจริงดิ? นายเคยเป็นเจ้าสำนักของฉันด้วยเหรอ?! สวรรค์ นายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของฉันเหรอ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนตกตะลึง

 

“แฟนคลับน้องสาวแกสิ! นายชอบตัดตอนปั่นตั๋วเดือนอยู่เรื่อย พ่อเปลี่ยนจากแฟนคลับไปเป็นแอนตี้แฟนตั้งนานแล้วโว้ย!! ไอดีที่โดนแบนในช่องคอมเมนต์หนังสือเพราะว่าโพสด่านายก็คือฉันเองนี่แหละ!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยน “...”

 

…………………………

[1] กิลด์ (Guild) คือ กลุ่มสมาคมที่ผู้เล่นรวมตัวกันจัดตั้งขึ้นมาภายในเกม เป็นเสมือนครอบครัวใหญ่ คอยช่วยเหลือและร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน

[2] วิธีการแนะนำชื่อตัวเองแบบจีน เป็นการนำเสียงของคำในชื่อ เทียบกับคำศัพท์โดดอื่น เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าชื่อของตนเขียนด้วยตัวอักษรใด

[3] ตำแหน่งแฟนคลับระดับสูงสุดของนิยายออนไลน์บนแพลตฟอร์มอ่านนิยายชื่อดังในประเทศจีน ตำแหน่งแฟนคลับจะถูกจัดโดยการใช้จ่ายของผู้ใช้ที่เกิดขึ้นต่อนิยายเรื่องนั้นๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด