ตอนที่แล้วตอนที่ 200 กำไรมหาศาล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 202 บทเพลงแห่งการปลดปล่อย

ตอนที่ 201 มีแต่ผู้ที่สามารถพึ่งพาได้ทางการแพทย์เท่านั้น


วังซวนรู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้องกับเฟิงหยูเฮง นางกระซิบถามว่า “มีอะไรหรือเจ้าคะ คุณหนู ?”

เฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนางแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร”

ฮันชิไม่คิดว่าเฟิงจินหยวนจะเดินทางในวันพรุ่งนี้ นางรู้สึกว่าข่าวนี้มาอย่างฉับพลันและพบว่าเป็นการยากที่จะยอมรับ นางอดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วท่านพี่ะกลับมาเมื่อไหร่เจ้าคะ ?”

เฟิงจินหยวนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบว่า “ก่อนปีใหม่ การเดินทางไปทางเหนือจากเมืองหลวงใช้เวลานานมาก และไม่รู้ว่าทางเหนือประสบภัยพิบัติฤดูหนาวมากน้อยเพียงใด ทุกอย่างยังไม่มีใครทราบ” หลังจากพูดจบเขามองเฉินชิงแล้วพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า “เฉินชิงมาถึงเมืองหลวงในเวลานี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบจอหงวน ข้าหวังว่าท่านแม่จะดูแลเขาด้วยขอรับ”

เมื่อได้ยินเฟิงจินหยวนพูดถึงเขา เฉินชิงก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และโค้งคำนับต่อฮูหยินผู้เฒ่า “เฉินชิงคารวะท่านฮูหยินผู้เฒ่า”

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเฉินชิงจะมาพักอยู่ที่คฤหาสน์เฟิง ต้องบอกว่าเขาเคยมาอยู่ที่คฤหาสน์เฟิงมาก่อน ในช่วงสามปีที่เฟิงหยูเฮงไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เฉินชิงจะใช้เวลาในการเรียนกับเฟิงจินหยวน เขาเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากเฟิงจินหยวนอย่างแท้จริง

ในเวลานั้นเฉินซื่อเป็นฮูหยินใหญ่ และนางก็กระตือรือร้นในการให้ของขวัญ นางไม่ได้ขาดแคลนสิ่งต่าง ๆ และนางปฏิบัติต่อเฉินชิงดีกว่า

แต่วันนี้ไม่เหมือนในอดีต เฉินซื่อเสียชีวิตและตำแหน่งของนางในฐานะฮูหยินใหญ่ก็ถูกปลด ที่สำคัญนางสร้างปัญหามากมายให้กับตระกูลเฟิงในขณะที่นางยังมีชีวิตอยู่ ฮูหยินผู้เฒ่าเกลียดตระกูลเฉินมาก นางจะชอบเฉินชิงได้อย่างไร ?

นางเม้มปากเงียบ ๆ และไม่สนใจเขา

เฟิงจินหยวนย่อมเข้าใจความคิดของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นธรรมดา จึงได้แต่พูดว่า “ชิงเอ๋อเป็นเหมือนบุตรอีกคนของข้า ท่านแม่โปรดให้เขาอยู่ที่นี่เพื่อเตรียมตัวสอบจอหงวน เขาอยู่ในอันดับต้นๆ ของการสอบระดับมณฑล ถ้าเขาสอบจอหงวนได้ในอันดับที่ดี คฤหาสน์ของเราก็จะมีหน้ามีตาไปด้วย”

เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็รู้สึกปีติยินดีในใจของนาง ท้ายที่สุดถ้าคฤหาสน์สามารถสร้างคนที่ติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรก มันเป็นเกียรติอย่างแท้จริง

ดังนั้นนางพยักหน้า และพูดกับเฉินชิง “ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าอยู่ต่อได้”

เฉินชิงขอบคุณนางอย่างรวดเร็วสำหรับความเมตตาของนาง

เฟิงจินหยวนมองดูอนุของเขา จินเฉินยังเด็กและเดิมเป็นบ่าวรับใช้ ดังนั้นนางจะไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ ฮันชิดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัว อันชิที่ดูมีคุณสมบัติมากที่สุด นางเป็นคนที่เชื่อถือได้ หลังจากคิดไปครู่หนึ่งเขาก็พูดกับอันชิ  "เมื่อข้าจากไปแล้วจะไม่มีใครดูแลคฤหาสน์ เพราะสุขภาพของท่านแม่ อันชิ เจ้าต้องช่วยจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ตระกูลเฟิงด้วย"

อันชิยืนขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วตอบว่า “ได้รับความไว้วางใจจากท่านพี่เช่นนี้ อนุผู้นี้จะทำให้ดีที่สุดแน่นอนเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า “อืม เจ้าเป็นคนที่รอบคอบ เจ้าคงต้องมาพูดคุยกับข้าบ่อยขึ้น” นางหาข้อผิดพลาดของอันชิไม่ได้

อันชิโค้งคำนับและกล่าวว่า “อนุผู้นี้ต้องขอบคุณท่านแม่สามีที่ให้การสนับสนุนเจ้าค่ะ”

อย่างไรก็ตามเฟิงจินหยวนจำได้ว่าตอนที่เฟิงหยูเฮงหายไปในมณฑลเฟิงตง อันชิยืนหยัดอยู่ข้างเหยาซื่อเพื่อต่อต้านเขา เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาบีบรัดแน่นอีกครั้ง

เขามองไปที่ฮันชิและจินเฉินแล้วตัดสินใจที่จะกล่าวเพิ่มเติมว่า “พวกเจ้าทั้งสองคนก็ต้องช่วยจัดการด้วยเช่นกัน”

ฮันชิที่กำลังโกรธ แต่เมื่อได้ยินเฟิงจินหยวนพูดแบบนี้ นางรู้สึกดีขึ้นมาก นางยิ้มและตอบรับคำอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณท่านพี่ อนุผู้นี้จะมาหาท่านแม่สามีบ่อยขึ้นแน่นอนเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องการให้ฮันชิมาหานางบ่อยขึ้นได้อย่างไร นางตัดฮันชิออกอย่างรวดเร็ว “อาเฮงบอกว่าร่างกายของข้าต้องการพักผ่อนอย่างสงบสุข หากเจ้าสั่งคนมากมายมาอยู่ข้างข้า เจ้าไม่ต้องการให้ข้าหายดีหรือ ?”

เฟิงจินหยวนรีบส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ท่านแม่เข้าใจข้าผิดแล้วขอรับ ลูกชายต้องการให้พวกเขาเรียนรู้เพิ่มเติมจากท่านแม่เกี่ยวกับวิธีการจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์”

“ทำไมอนุต้องเรียนรู้ที่ต้องจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ล่ะ? พวกนางจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ของใคร ?” ฮูหยินผู้เฒ่ากลอกตา "คนที่ควรจะเรียนรู้อยู่ที่ไหน ! " จากนั้นนางก็ยื่นแขนของนางแล้วชี้ไปที่เฟิงหยูเฮง "อาเฮงเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิง นางเป็นบุตรสาวที่น่านับถือที่สุด ในอนาคตนางจะแต่งงานกับองค์ชายเก้า ในฐานะพระชายาของพระองค์ นางเป็นคนที่ควรเรียนรู้วิธีจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ ! ”

เฟิงจินหยวนพยักหน้าซ้ำ ๆ “ท่านแม่พูดถูก”

ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงพูดต่อไป “ข้าคิดเรื่องนี้แล้ว ข้าจะยังคงจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ต่อไปจนถึงสิ้นปี เมื่อปีใหม่ผ่านไป อาเฮงก็จะอายุ 13 ปี ถึงเวลานั้นข้าจะให้นางเป็นคนจัดการแทน”

ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดว่าฮูหยินผู้เฒ่าผู้รักความมั่งคั่งจะสละสิทธิ์ในการจัดการตระกูลและมอบหมายให้เฟิงหยูเฮงดูแลต่อ ทุกคนหันไปมองนาง แต่คนที่ได้รับมอบหมายนั้นกำลังพยายามคิดว่าเฟิงจินหยวนจะเดินทางไปทางเหนือเพื่ออะไร เฟิงหยูเฮงไม่ได้ฟังในสิ่งที่คนอื่นพูด

วังซวนสะกิดเฟิงหยูเฮง “คุณหนูเจ้าคะ ท่านฮูหยินผู้เฒ่าจะให้คุณหนูจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์ตระกูลเฟิงต่อหลังปีใหม่เจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงกระพริบตาสองสามครั้ง จัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในคฤหาสน์? นางไม่ต้องการมันสักนิด

“ท่านย่ายังไม่แก่มากจนไม่สามารถควบคุมเรื่องของคฤหาสน์ได้” นางยิ้มและมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านย่าแค่ปวดหลัง อาเฮงอยู่ที่นี่ ท่านย่าจะกลัวอะไรเจ้าคะ ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าชอบที่เฟิงหยูเฮงพูด นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง ๆ “ข้าไม่กลัวเลย ข้าคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เจ้ามีโอกาสฝึกฝนมากขึ้นเมื่อเจ้าแต่งงานกับองค์ชายเก้า”

“งั้นหลานสาวหาเวลามาเรียนกับท่านย่าเพิ่มเติม ตราบใดที่ท่านย่ายังคงเดินได้ก็จะไม่มีใครในคฤหาสน์ที่สามารถจัดการเรื่องของคฤหาสน์ได้” นางทำอย่างนั้นเพื่อไม่ให้มีการพูดคุยกันต่อไป นางไม่เพียงแสดงท่าทีของตัวเองในเรื่องนี้เท่านั้น นางยังตัดความหวังของคนอื่นที่จะควบคุม

ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้ารับฟังคำพูดเหล่านี้ ชื่นชมซ้ำ ๆ ว่า “มันไม่ใช่ความสูญเสียที่เจ้าเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิงของข้า ไม่ว่าเจ้าจะพูดหรือลงมือทำอะไร เจ้าก็ใจดีอยู่เสมอ” เมื่อนางพูดนางเหลือบมองไปที่เฟิงเฉินหยูอีกครั้ง

ในครั้งนี้เฉินหยูไม่รอให้ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะนางชิงพูดออกมาว่า "น้องรองมีไหวพริบตั้งแต่อายุยังน้อย หลานมีความสุขสำหรับน้องรองด้วย และจะเรียนรู้เพิ่มเติมจากน้องรองนับจากนี้เป็นต้นไป ท่านย่าวางใจได้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าและไม่พูดอะไรเลย อย่างไรก็ตามเฟิงเฟินไดก็เริ่มรู้สึกราวกับว่านางกำลังนั่งอยู่บนเข็ม ท่าทีของเฟิงเฉินหยูที่มีต่อเฟิงหยูเฮงนั้นทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ หากพี่สาวสองคนซึ่งทั้งสองเคยเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่วมมือกกัน สิ่งนี้จะเป็นเรื่องดีสำหรับนางได้อย่างไร

ทันทีที่พวกเขาออกจากเรือนซูหยา เฟิงเฟินไดลากฮันชิกลับไปที่เรือนเล็ก ๆ ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ฮันชิเกือบจะล้มลงสองสามครั้งในขณะที่ถูกลากไป หลังจากที่นางเข้ามาในห้องและปิดประตู นางก็ถามอย่างไร้ประโยชน์ “เจ้าทำอะไร?”

เฟิงเฟินไดหันกลับมาขณะที่นางจ้องฮันชิด้วยความโกรธ “ข้ากำลังทำอะไรหรือ เจ้ากำลังถามข้า ท่านพ่อจะออกจากเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ เมื่อเขาจากไป ท่านพ่อจะกลับมาก่อนปีใหม่ ทำไมเจ้าไม่รู้สึกกังวลอะไรเลยหรือ?”

“ข้าจะรู้สึกกังวลได้อย่างไร ?” ฮันชิสับสน “ท่านพ่อของเจ้าเป็นผู้แทนพระองค์ที่ได้รับมอบหมายจากฮ่องเต้ให้ไปทำงาน คนอื่น ๆ ในคฤหาสน์ต่างก็กำลังรอ เจ้ากำลังทำอะไร จะเอะอะไปทำไม ?”

“พวกเขากำลังรออยู่ ดังนั้นเจ้าจะรอหรือไม่” เฟินไดมองไปที่ฮันชิด้วยสีหน้าประหลาด ๆ “เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าขาดอะไรหรือ ? เจ้าไม่มีลูก ! ข้าไม่มีน้องชาย ! ทำไมข้าถึงต้องพูดซ้ำ ๆ ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ ?”

ฮันชิไม่รู้สึกเป็นกังวลได้อย่างไร นางวิตกกังวลแทบตาย ตอนกลางคืนเฟิงจินหยวนจะอยู่ที่เรือนหรูยี่ของจินเฉินทุกคืน ไม่ว่านางจะกังวลแค่ไหนนางก็ไม่สามารถไปที่เรือนหรูยี่เพื่อพาตัวเขามาได้ ยิ่งกว่านั้นแม้ว่านางจะไป นางก็ไม่สามารถดึงดูดเขาได้

“แม่รอง ! ท่านแม่ !” เฟิงเฟินไดอารมณ์เสีย “โอกาสนี้ช่างดีเหลือเกิน ! ตำแหน่งฮูหยินใหญ่นั้นว่างในคฤหาสน์ เฟิงเฉินหยูได้ถูกทำลาย เหยาซื่อได้รับตำแหน่งฮูหยินใหญ่กลับคืนมาด้วยความยากลำบากอย่างมาก แต่นางก็ได้รับพระราชโองการให้หย่าได้ อันชิไม่มีแรงผลักดันใด ๆ และจินเฉินเป็นเพียงแค่บ่าวรับใช้และไม่มีบุตร ใครในคฤหาสน์มีโอกาสมากที่สุด ? ไม่ใช่ข้าหรือ ตราบใดที่ท่านให้กำเนิดบุตรชายแก่ท่านพ่อ ท่านพ่อจะส่งเสริมให้ท่านอยู่ในตำแหน่งฮูหยินใหญ่อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ แม้ว่าเฟิงหยูเฮงจะเป็นลูกสาวของฮูหยินใหญ่ด้วยเช่นกัน บุตรสาวคนที่สองของฮูหยินใหญ่ก็ยังคงเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ !”

คำพูดของเฟิงเฟินไดทำให้ฮันซิใจเต้นอีกครั้ง นางรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของเด็กคนนี้ถูกต้อง ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการต่อสู้เพื่อความโปรดปรานและการต่อสู้เพื่อตำแหน่งฮูหยินใหญ่ นางใช้เล่ห์อุบายของนางเพียงเล็กน้อยและนางจะสามารถเอาชนะใจเฟิงจินหยวนได้ แต่… “ท่านพ่อของเจ้าจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าแล้ว กว่าจะเริ่มแผนได้ก็คงต้องรอท่านพ่อกลับมาก่อน”

“ท่านพ่อยังไม่ไปคืนนี้” เฟิงเฟินไดพูดเยาะเย้ย “คืนนี้ ใช้ประโยชน์จากเรือนร่างของเจ้าที่ไม่ได้ใช้มาหลายปี แม้ว่าเจ้าจะต้องใช้ยา เจ้าก็ต้องให้ท่านพ่ออยู่กับเจ้า !”

ฮันชิตกใจ ทันใดนั้นก็นึกถึงเวลาที่นางเพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์ เพื่อช่วยร่างกายของเฟิงจินหยวน นางเก็บสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมายในห้องนี้ หลังจากนั้นเฟิงจินหยวนก็ให้ความสำคัญกับนางเสมอ ดังนั้นนางจึงค่อยหยุดใช้พวกมัน หลังจากมีเฟิงเฟินไดนางกลัวว่าเด็กผู้หญิงที่เกิดมาจะไม่สามารถมัดเฟิงจินหยวนได้ ดังนั้นนางจึงเริ่มใช้อีกครั้ง เช่นนี้นางยังคงใช้มันต่อไปจนกระทั่งเฟิงเฟินไดอายุครบ 7 ขวบ ซึ่งหมายความว่านางหยุดใช้เมื่อสามปีก่อน

“ถ้าเจ้าพูดแบบนั้น ข้าจำได้ว่าดูเหมือนจะมีเทียนอีก 2 เล่มเหลืออยู่” นางมองเฟิงเฟินไดแต่จู่ ๆ นางก็ขมวดคิ้ว “เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร ?”

เฟิงเฟินไดกรอกตาของนาง “ข้ารู้สิ่งเหล่านั้นเมื่อข้าอายุ 6 ขวบ เอาล่ะไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตั้ง ท่านพ่อคงจะกลับไปที่เรือนไผ่หยก จะดีที่สุดถ้าท่านคิดหาวิธีได้ว่าท่านจะพาท่านพ่อมาที่เรือนแห่งนี้ได้อย่างไร”

ฮันชิไม่ได้พูดอะไรเลย นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของนางจะเป็นประกาย นางพูดกับเฟิงเฟินไดว่า “ข้าเข้าใจแล้ว กลับไปที่ห้องของเจ้า อย่าอยู่ที่นี่”

“เอาล่ะ มันเป็นเรื่องดีที่ท่านรู้ว่าต้องใช้ความพยายามอย่างไร” หลังจากพูดจบนางก็ออกจากห้องไป

ฮันชิรู้สึกมากขึ้นว่าจิตใจของลูกสาวนางเปลี่ยนไป แต่ไม่มีอะไรที่นางสามารถทำได้ นางหวังเพียงว่านางจะให้กำเนิดบุตรชายอย่างแท้จริง ตราบใดที่ตำแหน่งของพวกเขาในครอบครัวสูงขึ้น เฟิงเฟินไดก็จะดีขึ้นตามธรรมชาติ

นางตัดสินใจไปค้นดูชุดเสื้อผ้า นางเปิดลิ้นชักที่ต่ำที่สุดแล้วดึงชุดเสื้อผ้าออกมา

มันเป็นชุดเสื้อผ้าฤดูร้อนทำจากผ้าไหมและด้ายสีเงิน มีเส้นสีชมพูและสีเงินปรากฏอยู่ทั่ว มันเป็นประกายและสวยงามมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือเสื้อผ้ามีความโปร่งใสมาก จากข้างนอกจะมองทะลุเข้ามาเห็นเสื้อเอี้ยมที่ปกคลุมหน้าอกของนาง คอเสื้อก็กว้างเผยให้เห็นผิวขาวราวหิมะของนาง

ครั้งแรกที่เฟิงจินหยวนพบกับฮันชิ นางสวมเสื้อผ้าชุดนี้และบรรเลงพิณให้เขาฟังจากด้านหลังม่านผ้าไหมในเรือนฉิงหยู

ฮันชิไม่สนใจฤดูกาล เมื่อกลับไปที่ห้องข้างใน นางสวมเสื้อผ้าก่อนครุ่นคิดเล็กน้อย นางสวมเสื้อคลุมหนาแล้วจึงสั่งบ่าวรับใช้ของนางว่า “ไปบอกพ่อครัวเพื่อเตรียมอาหารและไวน์ อีกสักครู่ท่านพี่จะมาที่นี่” เห็นบ่าวรับใช้รับคำแล้วออกจากห้อง นางดึงเทียนสีแดง 2 เล่มออกมาจากลิ้นชักด้านล่างและนำมาสลับกับเทียนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จากนั้นนางก็สวมเสื้อคลุมและรีบออกไปที่เรือนไผ่หยกโดยไม่มีบ่าวรับใช้ติดตาม

ในเวลานั้นเฟิงหยูเฮงอยู่ในห้องเก็บยาของเรือนตงเซิง นางส่งยาที่เตรียมไว้วังซวนและสั่งว่า “เจ้าต้องส่งยาเหล่านี้ให้กับพี่เจ็ด ข้าได้เขียนคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้และปริมาณบนกระดาษ นอกจากนี้ข้ายังต้องการเยี่ยมชมค่ายทหารในเขตชานเมืองของเมืองหลวง กลับมาให้เร็วและหากมีเวลาเราจะไปคืนนี้เลย”

“คุณหนู เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างผิดปกติ?” วังซวนตระหนักกับความคิดของเฟิงหยูเฮงตอนที่อยู่เรือนซูหยา นางรู้สึกกังวล

เฟิงหยูเฮงขมวดคิ้วแน่นและดูหดหู่เล็กน้อยพูดว่า “มีบางอย่างผิดปกติ แต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทุกอย่างสามารถพูดคุยได้เมื่อข้าเห็นซวนเทียนหมิง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การเดินทางของเฟิงจินหยวนคงไม่ใช่แค่การบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติเพียงอย่างเดียว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด