ตอนที่แล้วซัพที่35: ตื่น ตื้น ตื่น ตื๊นนน กระเป๋าวิเศษมาแล้วจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปซัพที่37: หยั่งเชิงพี่จ๋ากันเถอะ!

ซัพที่36: แรงบันดาลใจแบบนี้ข้าไม่เอาด้วยนะ!


ซัพที่36: แรงบันดาลใจแบบนี้ข้าไม่เอาด้วยนะ!

รุ่งเช้า ไป๋ฮวารีบตื่นมาก่อนกุ้ยเหรินเพื่อใส่คอนเทคเลนส์และทามาสคาร่าสีดำที่ขนตากับคิ้ว ก่อนจะมาเตรียมอาหารเช้า เช้านี้ไป๋ฮวาเลือกทำเป็นไข่กระทะและไส้กรอก กลิ่นหอมของมันทำให้กุ้ยเหรินตื่นขึ้นมาจากนิทรา

กลิ่นอะไรหอมจัง

กุ้ยเหรินขยี้ตา ทำให้เห็นภาพของไป๋ฮวาไม่ชัดเจน เส้นผมสีดำไม่คุ้นตาทำให้เธอตกใจ รีบตั้งท่าเตรียมต่อสู้

“ใครน่ะ!!” กุ้ยเหรินโวยวาย ทำเอาไป๋ฮวาสะดุ้งตกใจ

“ท่านพี่นี่ข้าเอง!” เธอร้องตะโกนบอก กุ้ยเหรินหรี่ตา รอให้ภาพชัดเจน ก่อนจะต้องตกตะลึงอีกครั้งกับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของน้องสาว

ดวงตากลมโตที่เคยเป็นสีครามประกายแดง เปลี่ยนเป็นสีดำประกายแดง ไม่ต่างจากเส้นผม คิ้ว และขนตาสีขาวที่กลับกลายเป็นสีดำ ผิวที่เคยขาวอยู่แล้วกลับถูกสีดำขับให้ขาวยิ่งขึ้น

“ไป๋ฮวา...นั่นเจ้าหรือ?” กุ้ยเหรินคลานฟุบฟับไปหาน้องสาว ก่อนจะยื่นหน้าตนเข้าไปใกล้กับใบหน้าของไป๋ฮวา จนเจ้าตัวถึงกับต้องถอยห่างกับระยะที่ใกล้กันเกินไป

โคสอัพไปแล้วค่ะ!!

ไป๋ฮวาร้องท้วงในใจ

“ไป๋ฮวาจริงๆ ด้วย! เหตุใดรูปลักษณ์เจ้าจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้” กุ้ยเหรินตกตะลึง เอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมของไป๋ฮวา

“ข้าเองก็ไม่รู้ เพียงแต่ตื่นมาก็เป็นเช่นนี้แล้ว” ไป๋ฮวาตอบ กุ้ยเหรินจึงเปลี่ยนมานั่งคุกเข่า พนมมือไหว้ฟ้าดิน

“สวรรค์ช่างมีตายิ่งนัก ในที่สุดไป๋ฮวาของข้าก็หายป่วยแล้ว!” สววรรค์น่ะไม่ได้มีแค่ตาหรอก แต่มาเป็นร่างเลย แล้วก็ไม่ต้องมาขอบคุณสวรรค์เลย เพราะที่ข้าเป็นอย่างนี้ก็เพราะสวรรค์โง่ๆ นั่นแหละ!

“เอาเป็นว่าท่านมากินข้าวก่อนเถอะ วันนี้ท่านพี่ต้องออกไปข้างนอกอีกนี่” ไป๋ฮวาเปลี่ยนประเด็น

“จริงด้วย ขืนไม่รีบไปมีหวังโดนลงโทษแน่” กุ้ยเหรอนรีบหยิบจานขึ้นมาตักกิน

“โดนลงโทษ?” ไป๋ฮวาทวนคำ ทำเอากุ้ยเหรินที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรไปถึงกับสำลัก

“แค่กๆๆ แค้กๆ” ไป๋ฮวารีบเข้าไปลูบหลังให้พี่สาวหยุดสำลัก

“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องรีบกินก็ได้!! นอกจากจะไม่รู้รสยังสำลักอีก!” ไป๋ฮวาเอ็ด เมื่อกุ้ยเหรินเอาแต่สำลักอาหาร

“ข้า ข้าไม่เป็นอะไร เจ้ากินเถอะไป๋ฮวา เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดเอา” กุ้ยเหรินเปลี่ยนประเด็น รีบหยิบจานไป๋ฮวาขึ้นมาตักแล้วยกจ่อที่ปากน้องสาว

“เอ้าอ้าปากเร็วข้าป้อนให้” ไป๋ฮวาหรี่ตามองคนเปลี่ยนประเด็น ก่อนจะยอมอ้าปากแต่โดยดี

เอาเถอะท่านพี่คงไม่ทำอะไรไม่ดีหรอก

“แล้วอาหารที่ข้าทำอร่อยไหม?” ไป๋ฮวาถามทันที่กลืนอาหารลงท้อง กุ้ยเหรินหน้าซีด เมื่อครู่นางรีบร้อนจนกินไม่รู้รส เธอจึงรีบตักอีกคำเข้าปากแล้วหันไปทำตาเป็นประกายให้น้องรัก

“อร่อย!! อร่อยมากๆ เลยไป๋ฮวา เจ้านี่ช่างมีพรสวรรค์นัก!” ไป๋ฮวายังคงมีสีหน้านิ่งเฉยกับคำพูดของกุ้ยเหริน เธอตักอาหารเข้าปาก มองหน้าพี่สาวนิ่งๆ

กุ้ยเหรินเหงื่อตก รู้สึกถึงภัยคุกคามที่จะมาเยือน เธอจึงรียโกยอาหารเข้าปาก คว้าอุปกรณ์ล่าสัตว์ ก่อนจะวิ่งหนีออกไปข้างนอก

“ข้าไปล่าสัตว์ก่อนนะ” ว่าแล้วเธอจึงรีบเผ่นออกไป ทิ้งให้ไป๋ฮวามองค้อน

แหม่...ชิ่งเลยนะ!

กุ้ยเหรินเมื่อวิ่งมาได้สักพักก็ต้องถอนหายใจโล่งอก เธอนึกว่าความจะแตกเสียแล้วซะอีก เด็กหญิงเลียริมฝีปาก รสชาติอาหารเมื่อครู่ยังติดค้าง

ไม่น่าหลุดปากไปเลย จะได้นั่งกินให้นานอีกหน่อย

กุ้ยเหรินถอนหายใจ แต่เมื่อนึกว่ากลับไปก็ยังมีอาหารดีๆ ให้กิน เธอจึงเริ่มมีกำลังใจมากขึ้นในวันนี้

เด็กหญิงในคราบเด็กชายเดินตรงมุ่งหน้าเข้าป่าดิบชื้น ลัดเลาะไปยังหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีแต่เด็กและวัยรุ่น...

“เหรินอี้เจ้ามาสาย!” เสียงของหยางเค่อหรืออี้เทาวัยสิบแปดปีดังลั่นจนผู้มาใหม่สะดุ้งเฮือก

“ก็บ้านข้าอยู่ไกลนี่ ไม่เหมือนพวกเจ้า” กุ้ยเหรินแอ๊บเสียงทุ้ม เดินไปหาหยางเค่อที่ยืนกอดอกทำหน้าไม่พอใจ

“ข้าถึงได้บอกไง ว่าให้เจ้าย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านจินหู่เจ้าก็ไม่ย้าย” หยางเค่อย้อนกลับ

“โธ่ ก็ข้ามีความจำเป็นย้ายมิได้” กุ้ยเหรินที่ปลอมเป็นเด็กชายนามเหรินอี้ตอบ

“ความจำเป็นงั้นหรือ? มีอะไรให้พวกข้าช่วยหรือไม่” หยางเค่อถามด้วยความเป็นห่วง กุ้ยเหรินจึงส่ายหน้า

“ไม่จำเป็นหรอก ข้าจัดการทุกอย่างได้” ไม่ว่ายังไงข้าก็ไม่ให้เจ้ามาพบน้องสาวข้าหรอก!

กุ้นเหรินได้มาเข้าร่วมกับหมู่บ้านจินหู่เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว เธอบังเอิญพบกับเด็กจากหมู่บ้านจินหู่จึงได้รู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลจินและได้เข้าร่วมฝึกฝนวรยุทธ์กับพวกเขา แต่ทว่ากุ้ยเหรินกลับเลือกที่จะไม่อาศัยอยู่ที่นั่น เนื่องจากรูปลักษณ์ของไป๋ฮวาอาจทำให้เป็นที่รังเกียจ รังแต่จะทำให้น้องรักเสียความรู้สึก

“เอาเป็นว่ามีอะไรก็มาบอกข้าได้แล้วกัน ข้าจะได้หาทางช่วย” หยางเค่อตอบ ก่อนเสียงอีกเสียงจะดังขึ้นจากต้นไม้

“ฮึ อย่างเจ้าเนี่ยนะจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้” เสียงของหย่งเล่อหรือเจียงสงวัยสิบเก้าปี ทำให้เส้นขมับบนหัวหยางเค่อเริ่มปูด ทั้งยังหน้ายิ้มๆ นั่น ยิ่งทำให้เขายิ่งไม่พอใจ

“แล้วเจ้าจะมายุ่งทำไม หน้าที่ดูแลคนในตระกูลมันหน้าที่ข้า” หยางเค่อย้อน

“ข้าเข้าใจ ก็เหมือนหน้าที่ดูแลนายน้อยที่เป็นหน้าที่ข้า” หย่งเล่อฉีกยิ้มกว่าเดิมทำเอาหยางเค่อแทบดิ้นพล่าน

เขาน่ะอยากเป็นคนดูแลนายน้อยแทนจะแย่อยู่แล้ว!!

“ถ้าเจ้ามาที่นี่ แปลว่านายน้อยเหอก็มาสินะ” หยางเค่อชะเง้อคอมองไปโดยรอบ

“ไม่ มีแค่ข้าเท่านั้นที่มา” หยางเค่อเบะปากแสดงท่าทีไม่พอใจ

“งั้นเจ้ามาทางไหนก็กลับไปทางนั้น” หยางเค่อไล่ ครั้งนี้เป็นหย่งเล่อที่เส้นขมับปูดแทน ทว่าใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้ม

“เช่นนั้นข้าก็ไม่ขัดข้อง ทั้งที่นายน้อยมีข้อความส่งถึงเจ้าแท้ๆ” หย่งเล่อชูกระดาษสองแผ่นขึ้นมาโบกไปมา ทำเอาหยางเค่อตะลึง รีบพุ่งตัวใช้วิชาตัวเบาหมายจะแย่งจดหมายมา ทว่าหย่งเล่อกลับหมุนตัวหลบได้อย่างสบายๆ

“เอามานี่!!” หยางเค่อตวาด

“ก็เจ้าไล่จ้ากลับเองนี่ ข้าก็กำลังจะกลับ เหตุใดต้องรั้งไว้” รอยยิ้มกวนประสาทของหย่งเล่อ ยิ่งทำให้หยางเค่อเกิดโทสะ

“ตัวเจ้าน่ะกลับไป ทิ้งจดหมายไว้ที่นี่พอ!” หยางเค่อแปลความ แต่หย่งเล่อกลับอ่านจดหมายนั่น แล้วเก็บลงไปในแขนเสื้อ

“เนื้อความไม่สำคัญนัก แค่บอกว่านายน้อยถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน ฝากเจ้าดูแลที่เหลือด้วย” หยางเค่ออ่านเสียงเรียบด้วยรอยยิ้ม

นี่นายน้อยจะโดนกักบริเวณบ่อยไปแล้วนะ!

“ข้าจะอ่านเองเจ้าไม่ต้องมาบอก” หยางเค่อตวาดแล้วพุ่งเข้าไปเตะหย่งเล่อ ทว่าหย่งเล่อกลับยกแขนขึ้นกันได้อย่างทันท่วงที แล้วใช้แขนอีกข้างจับขาหยางเค่อเหวี่ยงลงน้ำ

ตูม! เสียงวัตถุขนาดใหญ่ตกลงน้ำดังลั่นไปทั่ว หยดน้ำกระเด็นสาดกระจาย กุ้ยเหรินและเด็กหน้าใหม่หมู่บ้านจินหู่ต่างตกตะลึง ในกลุ่มพวกเขาหยางเค่อมีฝีมือเก่งกาจเป็นที่หนึ่ง แต่กลับถูกชายหน้าสวยอย่างหย่งเล่อเหวี่ยงกระเด็นจนตกน้ำ

“ข้าบอกแล้ว ฝีมือเจ้ากับข้ามันต่างกัน” หย่งเล่อเอียงคอยิ้มหวานเมื่อเห็นหยางเค่อว่ายขึ้นมาพ้นน้ำ

“ก็เจ้าเล่นได้ฝึกกับนายน้อยทุกวัน ข้าก็มีแต่ต้องแพ้สิ!” หยางเค่อแค้นเคือง นึกอิจฉาหย่งเล่อนัก

“แน่นอน วิทยายุทธ์แทบทั้งหมดข้าล้วนได้รับถ่ายทอดจากนายน้อย” หย่งเล่อยืนพิงต้นไม้มองหยางเค่อด้วยสายตาเย้ยหยัน

“จินหย่งเล่อ!!” หยางเค่อคำรามลั่น พุ่งตัวเขาไปซัดฝ่ามือใส่หย่งเล่อ ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบทัน ทว่าแรงอัดจากฝ่ามือนั้นกลับทำให้เกิดลมรุนแรง บริเวณที่ต้นไม้ถูกฝ่ามืออัดกระแทกจึงหักโค่น

“เก่งขึ้นนี่” หย่งเล่อชมเชย ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “แต่ข้าไม่บอกนายน้อยให้หรอกนะ”

“ข้าไม่ได้อยากได้คำชมจากเจ้า!” หยางเค่อพุ่งเข้าปะทะกับหย่งเล่ออีกครั้ง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของเด็กใหม่หลายๆ คน

“พวกนั้นทำได้ยังไงน่ะ” กุ้ยเหรินหันไปถามเด็กโตที่ไม่สนใจทั้งสองคน เขาหันมา ก่อนจะตอบว่า

“ท่านหัวหน้าตระกูลเป็นคนสอนน่ะ แต่ท่านก็สอนทุกคน มีแค่ไม่กี่คนที่ทำได้” เขาตอบ

“ยากขนาดนั้นเชียวหรือ?” กุ้ยเหรินถามต่อ หากมีคนทำได้เพียงไม่กี่คน ก็น่าจะยากนัก

“ไม่รู้สิ ข้าเองก็ยังฝึกไม่ถึงขั้นนั้น แต่เห็นว่าคนทำได้ก็ทำได้เลย” เขาตอบ กุ้ยเหรินถึงกับเครียด ในเวลานี้สิ่งที่เธอต้องการคือพลังที่จะปกป้องไป๋ฮวาได้

เธอเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งพ่อยังสาบสูญ ไป๋ฮวาจึงเป็นดั่งครอบครัวเพียงคนเดียว ทว่าน้องน้อยคนนี้กลับอ่อนแอนัก มิอาจต้องแดด ร่างกายอ่อนแอไร้พละกำลัง กลัวว่าวันนึงจะจากไป

“ข้าจะต้องฝึก ข้าจะต้องทำให้ได้!”

หลังหย่งเล่อกลับมาถึงตำหนักซื่อเหริน ตำหนักที่ฮ่องเต้ประทานให้กับจินหลงเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเจ้าตัวแสบที่สามารถเติมเต็มท้องพระคลังได้ในเวลาไม่นาน ทั้งยังทำให้สถานการณ์ในวังหลังเป็นไปด้วยดี มีการทะเลาะเบาะแว้งกันน้อยลง เนื่องจากทุกคนเอาแต่อ่านหนังสือ

เมื่อจินหลงวัยสิบห้าปีเห็นหย่งเล่อกลับมา จึงชะโงกหน้าขึ้นมาจากกองกระดาษ ขอบตาดำคล้ำจากการอดนอน

“บอกหยางเค่อแล้วใช่ไหม” เมื่อเห็นบาดแผลฟกช้ำตามตัวขอบหย่งเล่อ จินหลงก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องพบหยางเค่อมาแล้วแน่ๆ

“บอกแล้วพะยะค่ะ” หย่งเล่อตอบอย่างหัวเสีย

“เห้อ พวกเจ้านี่ก็นะ เจอหน้าก็มีแต่ทะเลาะกัน” จินหลงส่ายหน้าหน่ายๆ

“ข้าก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มนี่” หย่งเล่อตอบ พร้อมตีหน้าเนียน จินหลงหรี่ตามอง ก่อนถอนหายใจ

“เอาเถอะ ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร” เจ้าตัวแสบยักไหล่ ก่อนก้มหน้าวุ่นวายกับกองกระดาษตรงหน้า

“แล้วนี่พระองค์ทรงทำอะไร เขียนนิยายเสร็จแล้วหรือ?” หย่งเล่อเดินมาดู ก่อนพบว่าเด็กชายเอาแต่ขีดเขียนอะไรบางอย่าง

“ยัง ไม่มีอารมณ์เขียน ตอนนี้ข้ากำลังกลุ้มเรื่องเลือกตัวฮ่องเต้อยู่” จินหลงนวดขมับ

“แล้วได้เรื่องว่าเยี่ยงไรบ้าง” เจ้าตัวแสบถอนหายใจ ก่อนจะหมุนกระดาษทั้งสี่ใบให้หย่งเล่อดู

“องค์ชายใหญ่เจิ้งเฟิงหยางไม่ผ่าน เพราะฝักใฝ่อำนาจ มีอัตราการกดขี่ข่มเหงประชาชนและพี่น้องสูง องค์ชายรองเจิ้งเหวินหลง บ้าอำนาจ บ้าพลัง ขี้อิจฉา อาการหนักสุด องค์ชายสามเจิ้งฮุ๋ยเจี๋ยดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่ก็ดูเฉยเมยเกินส่วนองค์ชายห้าเจิ้งจิ้งฉวี่นี่กากได้โล่ ไม่กล้าสู้คน เห้อ..ทำไมไม่มีองค์ชายที่เพอร์เฟคแบบข้าอีกสักคนนะ” จินหลงถอนหายใจ ไม่ต่างจากหย่งเล่อ

“เลิกชื่นชมตัวเองได้แล้ว พระองค์เองก็ติดเล่นจนเกินไป” หย่งเล่อแย้งด้วยรอยยิ้ม จินหลงพองแก้มไม่พอใจ

“รู้สึกช่วงนี้เจ้าจะปากกล้ากว่าเดิมนะหย่งเล่อ” จินหลงจิกกัด แต่อีกฝ่ายไม่สะท้าน ทั้งยังส่งยิ้มหวานให้องค์ชาย

“หากข้าไม่พูดตรงๆ กับพระองค์ มีหวังพระองค์ได้หาเรื่องแถยาวอีกแน่” จินหลงเบ้ปาก เอนกายยืดตัวไปด้านหลัง

“แล้วเดือนนี้มีเด็กตระกูลจินเข้าออกกี่คนล่ะ” เจ้าตัวแสบถาม

“เข้าใหม่สามคน ส่วนออกไปใช้ชีวิตในเมืองห้าคน เข้าวังมาสามคนพะยะค่ะ” หย่งเล่อรายงาน

หลังจากจบเรื่องของหย่งเล่อแล้ว จินหลงจึงได้ปรึกษากับเขาเรื่องที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวในวังและในเมืองได้อย่างอิสระ หย่งเล่อจึงเสนอให้พาเด็กตระกูลจินเข้ามาในวัง โดยเลือกเฉพาะเด็กกำพร้าที่มีใบรับรองตัวตน ส่วนใครที่ไม่มีก็อาศัยอยู่ในเมือง คอยสืบข่าวคราว

“นี่หย่งเล่อ เจ้าพอจะมีวิธีช่วยข้าเลือกตัวฮ่องเต้องค์ต่อไปไหม?” หย่งเล่อวางกระดาษลง ก่อนนิ่งคิด

“ก็คงมีแต่ต้องอยู่ด้วยกันกับองค์ชายแต่ล่ะองค์ จึงจะรู้จักนิสัยของเหล่าองค์ชายได้ดี จากที่ข้าเห็นที่ท่านเขียน ล้วนมีแต่อคติและความเห็นส่วนตัว” หย่งเล่อเอ่ย ก่อนจะชี้ไปที่รูปวาดบนกระดาษที่จินหลงเขียนเกี่ยวกับพี่ชายแท้ๆ

“ดูอย่างกระดาษขององค์ชายรอง พระองค์วาดรูปสัตว์ประหลาดพ่นไฟไว้ ทั้งยังมีรูปล้อเลียนอีก เห็นได้ชัดเลย” หย่งเล่อชี้ไปที่รูปก็อตซิล่าพ่นไฟของจินหลง

“เห็นได้ว่าข้าไม่ชอบพี่รอง?”

“เห็นได้ว่าท่านอู้งาน”

ตึ่งโป๊ะ!

“..ข้าเปล่าอู้ซะหน่อย” เจ้าตัวแสบบ่นอุบ

“หากท่านไม่อู้ มีหรือฝ่าบาทจะสั่งกักบริเวณพระองค์ ช่วงนี้ข้าเห็นแต่พระองค์หนีไปอย่ที่ตระกูลจิน ไม่ลงมือเขียนหนังสือ จนหมดกำหนดที่ฝ่าบาทตั้งขึ้น” หย่งเล่อยิ้มหวาน เพราะครั้งนี้เขาเองก็เตือนองค์ชายแล้วหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง

“ก็ข้าไม่มีแรงบันดาลใจนี่ ตอนนี้สมองข้าพะวงแต่เรื่องฮ่องเต้องค์ต่อไป” หย่งเล่อเลิกคิ้ว

“ง่ายๆ เช่นนั้นข้าจัดการให้ได้” จินหลงหันขวับมาทำตาเป็นประกาย

“มีวิธีด้วยหรือ” หย่งเล่อพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยทิ้งท้ายไว้ก่อนเดินออกจากตำหนัก

“จะไปทูลฝ่าบาทว่าพระองค์ต้องการแรงบัลดาลใจ ช่วงนี้จึงต้องการพบองค์ชายองค์อื่น” จินหลงตะลึงอ้าปากค้าง

“เห้ยยย เดี๋ยววว อย่างนั้นไม่อ๊าววววว”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด