ตอนที่แล้วตอนที่ 40 ปฏิบัติการแรก 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 42 ความโลภของแผนกวิจัย

ตอนที่ 41 ปฏิบัติการแรก 3


“แค่ลองดู”

แลมเบิร์ตกล่าวตัดหลี่ ย่าหลินขณะก้มลงเพื่อถอดหน้ากาก และนั่นก็ทำให้พวกเขาตื่นตัว ชายคนนั้นไม่มีใบหน้าหรือกล่าวให้ถูก เขาไม่มีอะไรเลย

 

“อะไรกัน---นี่มันอะไร?!”

หลิน เหยาขนลุก พวกเขาพากันถอดหน้ากากของชายอีก9คน และพวกเขาทุกคนก็ไร้ใบหน้า!

ทันใดนั้น การเปลี่ยนแปลงก็เกิดกับชายคนแรกที่หานเซี่ยวบอกให้พวกเขาถอดหน้ากาก เมื่อรอยสักแมงมุมดำค่อยๆปรากฏบนหน้าเขา รูปลักษณ์ใบหน้าเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น และในไม่ช้ามันก็เกิดเป็นใบหน้าของแมงมุมดำ ต่อมา บาดแผลบนตัวก็เริ่มรักษา และหลังจากนั้นไม่นาน เปลือกตาของ’ศพ’ก็เริ่มขยับ!

“ระเบิดสมองเขาซะ!”หานเซี่ยวสั่งอย่างใจเย็ฯ

 

แลมเบิร์ตยิงโดยไม่ลังเล

พวกเขาเชื่อฟังหานเซี่ยวและทำเช่นเดียวกับชายไร้ใบหน้าคนอื่นๆ หลี่ ย่าหลินและหลิน เหยาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาก็ระงับความสงสัยและทำตามคำแนะนำของหานเซี่ยว

แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าหานเซี่ยวล่วงรู้ความลับของแมงมุมดำได้ยังไง แต่พวกเขาก็ยังทำตามโดยไม่กังขา

เมื่อเหลือชายไร้ใบหน้าคนสุดท้าน หานเซี่ยวก็หยุดพวกเขา

 

“อย่าฆ่าเขา แค่ทำให้เขาหมดสภาพ”

เมื่อรอยสักแมงมุมดำและใบหน้าของแมงมุมดำก่อตัวขึ้นบนชายไร้ใบหน้า เขาก็ลืมตาขึ้นอย่างหวาดกลัวและตะโกน“พวกแกรู้พลังของฉันได้ยังไง?!”

ชื่อของความสามารถเขาคือ[กาฝากลอกเลียน]

มันช่วยให้เขาสร้างบุคคลไร้ใบหน้าออกจากตัวเองระยะเวลาหนึ่ง กาฝากจะไม่มีสติปัญญาและสามารถทำได้แค่ปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆภายในขอบเขต

แต่ละกาฝากที่แมงมุมดำมีก็เหมือนชีวิตพิเศษและเขาสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆตราบเท่าที่กาฝากยังดำรงอยู่ นี่ทำให้เขาเป็นอมตะ

ด้วยความที่ความสามารถนี้ไม่ได้มีผลโดยตรง สิ่งที่มันทำคือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตของแมงมุมดำและปลดปล่อยเขาจากพันธนาการของเลือดเนื้อ เปลี่ยนเขาเป็นกลุ่มก้อนจิตสำนึกที่สามารถสถิตอยู่ในกาฝากของเขาได้

ตราบเท่าที่กาฝากยังอยู่ เขาก็เป็นอมตะ!

มันคือความลับสุดยอดของเขา และเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเปิดเผยกับใคร

มีคนรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!

หานเซี่ยวหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าโง่งมของแมงมุมดำและความหวาดกลัว หากมันเป็นมินิบอสตัวอื่น เขาอาจไม่สามารถนึกถึงความสามารถของพวกเขาได้ แต่แมงมุมดำได้สร้างความปวดหัวให้ผู้เล่นมามาก ดังนั้นเขาจึงมีความประทับใจต่อมัน

ในปัจจุบัน แมงมุมดำยังไม่อาจควบคุมพลังเขาได้เต็มที่ ทำให้มันถือเป็นช่วงเวลาอันดีในการฆ่าเขา อย่างไรก็ตาม มันคือพลังพิเศษที่มีศักยภาพสูงมาก ใครจะรู้ว่าหากมีคนควบคุมพลังมันได้เต็มที่ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ไม่แม้แต่หานเซี่ยว ด้วยความที่แมงมุมดำตายไปตั้งแต่เริ่มเกมได้ไม่นาน-มันจึงไม่มีใครรับรู้

เขาตายได้ยังไง?

พลังของแมงมุมดำอาจจัดการได้ยาก แต่ก็ยังมีวิธีในการจัดการอยู่ เนื่องจากเขาได้แปลงสภาพร่างเนื้อให้เป็น’วิญญาณ’ ใครก็ตามที่สามารถสร้างความเสียหายให้วิญญาณเขาได้ก็จะเท่ากับการฉีกปีกเขาโดยตรง ถึงกระนั้น พลังพิเศษเช่นความสามารถการทำลายดวงวิญญาณก็ยังมีน้อยมากในกาแล็กซี่ ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงยังไม่อาจฆ่าเขาได้ง่ายๆ นี่ทำให้เขาถูกพิจารณาเป็น’หนึ่งในมินิบอสที่ฆ่ายากสุด’ในเวอร์ชั่น1.0

และแน่นอน แมงมุมดำคิดว่าเขาไร้เทียมทานมาตลอด...จนกระทั่งเขาได้พบกับฮีล่า

จากทุกสาย ผู้ใช้พลังจิตคือคนที่ครอบครองความสามารถพิเศษทุกประเภท ไม่เหมือนกับยอดมนุษย์อีก4สายอาชีพ ผู้ใช้พลังจิตแค่ต้องกินยากระตุ้นยีนเพื่อเรียนรู้การปลดล็อคความสามารถ ตัวละครแต่ละตัวในกาแล็กซี่จะได้รับโอกาสครั้งเดียวเพื่อได้รับยากระตุ้นยีน และหากมันล้มเหลว ตัวละครนั้นก็จะไม่สามารถเปลี่ยนสายอาชีพให้เป็นผู้ใช้พลังจิตได้อีก

อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับประเภทของยากระตุ้นยีน และอย่างที่คุณอาจเดาได้ นี่ต้องมีค่าตอบแทน

แม้กระทั่งยากระตุ้นยีนเกรดต่ำสุดยังมีราคาถึง398เหรียญ และ[อีลิกเซอร์กระตุ้นยีนรุ่นสุดยอดสมบูรณ์] ยากระตุ้นที่มีอัตราความสำเร็จสูงสุดก็จะมีราคากว่า5000เหรียญ แม้จะมีอัตราความสำเร็จเพียง18%เท่านั้น

มันคือเครื่องปั่นเงินสำหรับบริษัทเกมดีๆนี่เอง

ก่อนหน้านี้ หานเซี่ยวเคยลองเปลี่ยนเป็นผู้ใช้พลังจิต โชคไม่ดี ผลลัพธ์เดียวที่เขาได้คือผู้เล่นพลังจิตล้วนเต็มไปด้วยความโสมม

แมงมุมดำรีบตั้งสติและข่มขู่“ฉันมีกาฝากไร้จำกัด แม้แกจะทำลายร่างนี้ แกก็ไม่อาจฆ่าฉันได้!จำคำฉันไว้!ฉันจะตามล่าพวกแก!”

แลมเบิร์ตกำลังจะยกปืนขึ้นแต่หานเซี่ยวกลับหยุดเขาไว้

“ทำตามคำแนะนำผม...”

ขณะที่หลี่ ย่าหลินฟังหานเซี่ยว เธอก็เริ่มทำตัวสูงส่งและเป็นผู้รู้ทุกอย่างพลางตอบแมงมุมดำ“กาฝากไร้ขีดจำกัด?อย่าพยายามขู่กันหน่อยเลย แกสามารถมีได้มากสุดแค่50ร่าง!นอกจาก10ร่างตรงนี้ ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ทั่วโลก!”

 

ดวงตาของแมงมุมดำเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา การตระหนักถึงธรรมชาติของพลังเขาเป็นอีกเรื่อง แต่การรู้ข้อมูลลับเช่นนั้น?มันเป็นไปได้ยังไง?!หัวสมองของแมงมุมดำหมุนเคว้ง

มีบางคนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพลังฉัน!

ใคร?ใครกัน?

หรือมันจะเป็น...ผู้ใช้พลังจิตที่สามารถอ่านใจได้?

หลี่ย่าหลินพูดต่อ“ตราบเท่าที่เราไม่ฆ่าร่างนี้ของแก เราก็สามารถจับกุมตัวแกไว้ได้ตลอด!”

 

สีหน้าของแมงมุมดำเปลี่ยนไป และเขาก็พยายามกัดลิ้นตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรม น่าเสียดาย แลมเบิร์ตเร็วกว่าและเขาก็สามารถยับยั้งได้

ไม่แม้แต่จะจบชีวิตตัวเอง แมงมุมดำทำได้เพียงมองหลี่ ย่าหลินอย่างเกลียดชัง

เมื่อมาถึงจุดๆนี้ ทั้งสามคนล้วนมีความคิดเดียวกัน

หานเซี่ยวเป็นใครกันแน่?

ทำไมแผนก13ถึงปฏิบัติต่อตัวตนเขาด้วยความลับเช่นนี้?

เขามีข้อมูลลับเช่นนั้นได้ยังไง?

...

ในไม่ช้าหน่วยเก็บกวาดก็มาถึงเพื่อนำตัวแมงมุมดำกลับไป

ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวที่กำลังนั่งอย่างผ่อนคลายในฐานก็ได้รับการแจ้งเตือน

ท่านทำภารกิจคลาสE’แมงมุมดำ’เสร็จสิ้น ได้รับค่าประสบการณ์5000หน่วย

ท่านได้ทำตามเงื่อนไขลับ ‘จับแมงมุมดำแบบเป็นๆ’ได้รับค่าประสบการณ์50000หน่วยหรือจิตมั่นคง(แก้จากจิตสงบนิ่ง)

จิตมั่นคงมีผลในการเพิ่มความต้านทานทางจิตวิญญาณ ทำให้ผู้ใช้มีความต้านทานต่อการโจมตีทางจิตและวิญญาณ มันถือเป็นของทีท่มีประโยชน์โดยเฉพาะกับผู้ใช้เวทย์

เนื่องจากไม่มี ผู้ใช้เวทย์หรือผู้บงการจิต(psychics)บนดาวอความารีน จิตมั่นคงจึงไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อหานเซี่ยวในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกรางวัลค่าประสบการณ์40000หน่วย (แมงมุมดำคือesper)

แล้วฮีล่าละ?นั่นคงเป็นการคิดไกลเกินไป

ไม่เลวเลย หานเซี่ยวยิ้มให้ตัวเอง

...

ในที่สุดทั้งสามก็กลับมายังกองบัญชาการลับ หลี่ย่าหลินรีบวิ่งไปที่ห้องและถามหานเซี่ยวด้วยดวงตาเบิกกว้าง“นายรู้ได้ไงว่าแมงมุมดำคือยอดมนุษย์?”

หานเซี่ยวหัวเราะอย่างลึกลับ

“ผมจะบอกคุณหากคุณจ่ายมา1ล้านเหรียญ”เขาเสนอ

“ช่างมันเถอะ แล้วเราจะทำยังไงกับเขา?”

หลิน เหยาส่ายหัว

“ฉันได้ยินว่าเบื้องบนต้องการส่งเขาไปยังเกาะประตูแห่งความตายและขังเขาไว้ตลอดกาล”

 

เกาะประตูแห่งความตายคือคุกที่มีความปลอดภัยสูงสุดที่6ประเทศก่อตั้งร่วมกัน มันตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทร ทำให้ไม่อาจหนีออกมาได้ มีเพียงเหล่าคนที่6ประเทศเล็งเห็นว่าเป็นอันตรายจึงจะถูกส่งไปที่นั่น-บุคคลชั่วร้าย แม่ทัพของกองทัพเร่ร่อน และบุคคลสำคัญอื่นๆ

เกาะประตูแห่งความตายถูกขนานนามให้มีชื่อนั้นเพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไป มันก็เปรียบเสมือนตายไปแล้ว

ท้ายที่สุด ปฏิบัติการแรกของกลุ่มก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และหลังจัดการธุระ ทุกคนก็กลับไปบ้านของตัวเอง

หานเซี่ยวเองก็คิดกลับเช่นกันแต่เฟิง จุนกลับเดินมาหาเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

 

“แผนกกิจการภายใน(กระทรวงภายใน)ต้องการถามคำถามคุณสักเล็กน้อย”

“การพิสูจน์ของผมไม่น่าเชื่อถือพอ?”หานเซี่ยวถาม

“กิจการภายในได้ยื่นเรื่องสอบสวนครั้งที่สอง เพราะมันมีเหตุผลอยู่ เบื้องบนจึงไม่ได้คัดค้าน อย่างที่คุณรู้ ตัวตนของคุณค่อนข้างละเอียดอ่อน”

“เบื้องบนได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายในเรื่องของคุณ”เขากล่าวเสียงเบา“ขณะที่แผนกข่าวกรองและโลจิสติกส์คิดว่าความสัมพันธ์เป็นมิตรมีประโยชน์กว่า พวกหัวแข็งที่นำโดยแผนกกิจการภายในกลับคิดต่าง”

หานเซี่ยวถอนหายใจ ไม่ว่าที่ไหนก็ย่อมมีความขัดแย้ง

...

ที่แผนกกิจการภายใน(กระทรวงภายใน) หานเซี่ยวถูกวัดน้ำหนักและส่วนสูงอีกครั้งก่อนนำไปยังห้องสอบสวน ซึ่งมีผู้สืบสวนเพียงคนเดียวกำลังนั่งรอ

“ชื่อ”

“หานเซี่ยว”

“เพศ”

“หญิง”

เส้นเลือดของผู้สืบสวนปูดขึ้น

“อายุ”

“30..ไม่สิ..31มั้ง”

ปัง!

ผู้สืบสวนทุบโต๊ะ

“หยุดเล่นได้แล้ว!”

“ทำไมคุณถึงถามเรื่องไร้ประโยชน์เหล่านี้?เราสามารถเข้าเรื่องเลยได้ไหม?”

“ต่อไป ความสัมพันธ์ครอบครัว”ผู้สืบสวนยังคงพูดผ่านไรฟัน

“ผมเป็นเด็กกำพร้า ไร้ญาติ”

“เกิดที่ไหน?”

“ภูเขาปูโจว”

“ไร้สาระ!เราไม่พบบันทึกการเกิดอะไรทั้งนั้น!”

“ไปถามหัวหน้าของคุณเอา”หานเซี่ยวตอบอย่างอดทน

 

เห็นได้ชัดว่าเบื้องบนไม่คิดเปิดเผยข้อมูลของหานเซี่ยวต่อเจ้าหน้าที่ธรรมดา การซักถามครั้งนี้เป็นเพียงความคิดของแผนกกิจการภายในเพื่อเตือนเขา

ผู้สืบสวนได้รับคำสั่งผ่านหูฟังเขา และระงับความโกรธตัวเองเพื่อประเมินจิตใจ

ผู้สืบสวนได้ให้สถานการณ์สมมติสำหรับหานเซี่ยว แต่ทว่า หานเซี่ยวก็ตอบแบบมั่วๆและไม่ให้ความร่วมมือ

...

ในที่สุด การซักถามก็จบลง

ผู้สืบสวนปิดผนึกข้อมูลที่รวบรวมไว้ในซองและบอกหานเซี่ยวด้วยน้ำเสียงเย็น“แผนกกิจการภายในจะเฝ้าจับตาดูคุณเสมอ เฝ้าอธิษฐานไว้ให้เราไม่พบอะไร”

“งั้นหมายความว่าตอนนี้คุณไม่มีอะไร และไม่อาจดำเนินการอะไรกับผมได้?”หานเซี่ยวยั่วยุก่อนเดินออกจากห้องไป

 

สีหน้าของผู้สอบสวนมืดลง มือของเขาสั่นด้วยความโกรธขณะบีบซองในมือแน่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด