ตอนที่แล้วChapter 20 : สนามโน้มถ่วงของแอรีส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 22 : การตัดสินใจของไอรีน

Chapter 21 : เสียงพิณจากอควาเรียส


Chapter 21 : เสียงพิณจากอควาเรียส

เพล้ง !

กระจกใสภายในห้องนอนของมินจุนแตกละเอียด เศษกระจกกระเด็นไปทั่วบริเวณตรงนั้น พร้อมกับผ้าม่านที่กั้นหน้าต่างเอาไว้ปลิวไสวตามแรงลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาภายในห้อง แสงจันทร์สีขาวนวลส่องผ่านให้เห็นเงาของร่างห้าร่างที่กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างบานนั้น ร่างของมินจุนและซาจิททาเรียสยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงทั้งคู่ เนื่องจากสนามโน้มถ่วงจากแอรีสที่ยืนกางเขตเวทมนตร์อยู่บนหลังคาของบ้านตอนนี้ ทำให้พวกเขาขยับตัวไปไหนไม่ได้ แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็รู้สึกตัวแล้วว่ามีอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาหา

ร่างของผู้ถือครองกุญแจจักรราศีทั้งสามเดินมาหยุดอยู่ที่เตียงของมินจุน โดยมีทอรัสและเจมิไนยืนอยู่ข้างหลัง

“ไง มินจุน คราวนี้นายคงหนีพวกเราไม่รอดแล้วล่ะ คิดถึงฉันไหม” เสียงใสดังออกมาจากปากของนิโคล ร่างบางเดินไปนั่งอยู่ข้างขอบเตียงของมินจุน ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นไปแตะบนหน้าอกของมินจุนวนไปวนมาเป็นเชิงหยอกล้อ

“หึ ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าพวกหมาลอบกัดอย่างพวกนาย ต้องทำอะไรแบบนี้” มินจุนกัดฟันพูดออกไป ไม่ได้แปลกใจเท่าไรที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมา มันก็ผิดที่เขาเองด้วยที่เปิดเผยตัวให้พวกนั้นรู้ แต่ยังไงล่ะ เขาไม่อยากหลบซ่อนอยู่ที่ร้านของกวินท์ตลอดไป อีกอย่างงานการก็ต้องทำ ใช่ว่าเขารวยจนไม่ต้องทำงานแล้วก็ได้ จะช้าหรือเร็วก็ต้องเผชิญหน้ากับคนพวกนี้อยู่ดี แต่ไม่อยากให้เป็นวันที่เขาได้มาทำงานที่เขารัก ได้มาพักผ่อนกับเพื่อน ๆ อย่างตอนนี้เลย วันดี ๆ แบบนี้ต้องถูกทำลายลงเพราะไอ้พวกบ้าสามตัวนี่

“คงไม่คิดล่ะสิ ว่าพวกเราจะตามมาจัดการนายถึงที่นี่ ก็อย่างว่า พวกฉันเองก็เป็นแฟนคลับนายเหมือนกันนะมินจุน แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้นักร้องชื่อดังจะถูกฆ่าตายเสียแล้ว” เฉินพูดต่อ เจ้าตัวยิ้มออกมาจนตาหยี

ในขณะที่ในมือของฮิโรชิปรากฏให้เห็นเป็นดาบซามูไรด้ามยาวมีออร่าสีแดงอยู่ในมือข้างขวา ปลายคมของดาบเล่มนั้นสว่างวับแม้จะอยู่ในความมืด

“นายท้าให้พวกเรามาหานายเองนะมินจุน” ฮิโรชิพูด ก่อนจะหันไปมองพันธมิตรทั้งสองของตัวเองให้ไปทำหน้าที่ของตนต่อ

“พวกนายไปจัดการพวกที่เหลือ ก่อนที่เขตเวทมนตร์ของแอรีสจะอ่อนลง ส่วนมินจุนฉันจัดการเอง”

“เสียดายจัง อยากอยู่เล่นกับมินจุงอีกหน่อย” นิโคลพูดขึ้นมายิ้ม ๆ มือเรียวลูบไล้ไปทั่วแผงอกของมินจุน

“เลิกเล่นได้แล้วนิโคล รีบไป” เฉินพูด รีบมาดึงตัวพันธมิตรตัวเองให้ลุกจากเตียงของมินจุนเพื่อไปจัดการผู้ถือครองกุญแจจักรราศีที่เหลือในบ้านหลังนี้ ไม่นานร่างของทั้งเฉินและนิโคลพร้อมกับภูติดวงดาวของตนเองก็เดินออกจากห้องของมินจุนไป ทิ้งไว้เหลือเพียงแค่คนสามคนในห้องคือ ฮิโรชิ มินจุน และซาจิททาเรียส

 

“นายไว้ใจสองคนนั่นจริง ๆ หรอฮิโรชิ” มินจุนพูดออกไป เมื่อตอนนี้ทั้งนิโคลและเฉินได้ออกไปจากห้องแล้ว พูดจบฮิโรชิก็หัวเราะขำออกมา มองตรงไปยังร่างของมินจุนที่นอนขยับไปไหนไม่ได้อยู่บนเตียง

มินจุนคิดว่า เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อถ่วงเวลาให้เพื่อน ๆ ได้รู้ตัว แต่ก็คิดว่าตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้ตัวกันหมดแล้วว่ามีศัตรูเข้ามาในบ้าน แต่อย่างน้อยก็น่าจะต่อเวลาให้ภูติดวงดาวของใครสักคนได้ทำอะไรได้บ้าง ถ้าพวกเขายังพอมีโชคเข้าข้างอยู่บ้าง มินจุนเคยเรียนรู้ความสามารถของอควาเรียสตอนที่เขาหลอกร่วมมือกับไอรีนเพื่อที่จะฆ่ากวินท์ เลยได้เรียนรู้ทักษะว่าภูติดวงดาวของแต่ละคนทำอะไรได้บ้างในยามคับขันแบบนี้

“ไม่ต้องมาปั่นหัวฉันมินจุน ฉันรู้จักสองคนนั้นดีกว่านาย แถมนานกว่านายด้วย และถ้านายอยากเล่นละครเพื่อถ่วงเวลาให้สนามโน้มถ่วงของแอรีสอ่อนลง นายต้องเล่นให้ดีกว่านี้เพื่อให้ฉันระแวงและจับไม่ได้ เพราะฉันเป็นนักแสดง นายก็รู้” ฮิโรชิพูดขึ้นมา มือของเขากำด้ามดาบแน่นเตรียมพร้อมจะพุ่งตัวไปตรงหน้า

“นายมั่นใจขนาดไหนกันเชียว ขนาดฉันที่คอยช่วยเหลือมาตลอดยังหักหลังได้ลง สองคนนั่นก็แค่ใช้ประโยชน์จากนายและภูติดวงดาวของนายให้ได้ครอบครองกุญแจจักรราศีของคนอื่นก็เท่านั้นแหละ พอนายหมดประโยชน์ ก็เตรียมตัวโดนหักหลังได้เลย นายคิดดี ๆ ว่าควรทำแบบนี้กับฉันไหม” มินจุนพูดต่อออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็อยากจะทำให้ฮิโรชิระแวงพันธมิตรของตัวเองได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันจะไม่ได้ผลเลย ไม่ว่าจะเป็นการชวนคุย หรือทำให้ฮิโรชิเอาคำพูดของเขาไปคิด

“หึ ฉันรู้ดี ว่าเกมเกมนี้มันเชื่อใจใครไม่ได้ ไม่มีมิตรแท้ หรือศัตรูที่ถาวร นายไม่ต้องมาสอนฉัน เลิกพูดได้แล้ว หมดเวลาของนายแล้วมินจุน” ฮิโรชิพูด กระชับดาบในมือแน่นพร้อมกับพุ่งตัวไปยืนอยู่เหนือร่างของมินจุน

มินจุนเมื่อเห็นร่างของอิโรชิขึ้นมายืนบนเตียงแบบนี้พร้อมกับดาบซามูไรที่มีออร่าสีแดงเป้าหมายเล็งตรงมายังหัวใจข้างซ้ายของเขาก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ นี่หมดเวลาของเขาแล้วจริง ๆ หรอเนี่ย

เขายังไม่อยากตายเลย ...

“มินจุน !”

เสียงของซาจิททาเรียสเรียกชื่อเจ้านายของตัวเองออกมาดังลั่น เมื่อเห็นปลายคมของดาบง้างขึ้นอยู่เหนือร่างของมินจุนพร้อมกับออร่าสีแดงรอบ ๆ ตัวดาบ

ก่อนปลายคมจะพุ่งลงมายังเป้าหมายที่เป็นตำแหน่งของหัวใจอย่างรวดเร็ว ...

 

“เธออยากได้ห้องไหน” เฉินหันไปถามนิโคลพลางมองระหว่างห้องตรงข้ามที่เขาเพิ่งเดินออกมา กับห้องที่อยู่ถัดออกไปอีกห้องตรงระหว่างทางเดินด้านขวามือ

“เอาห้องนู้นละกัน นายเอาห้องตรงข้ามมินจุนไป” นิโคลตอบเขากลับมา พร้อมกับเดินไปยังอีกห้องที่เยื้องถัดจากห้องของมินจุนออกไปนิดหน่อย

“ตามนั้น พวกนี้จัดการง่ายกว่าที่คิดแฮะเมื่อมีแอรีสอยู่ด้วย” เฉินพูดยิ้ม ๆ นึกถึงภูติดวงดาวของฮิโรชิที่ตอนนี้ยืนกางเขตเวทมนตร์อยู่บนหลังคาของบ้านพักหลังนี้

“จริงของนาย แอรีสทำให้งานมันง่ายขึ้นเยอะ คืนนี้เราคงได้กุญแจจักรราศีกันมาคนละดอก” ตามมาด้วยเสียงดังไล่หลังจากนิโคลที่กำลังเดินไปยังห้องที่เธอเลือก พวกเขาคิดว่าถ้าไม่ได้เป็นพันธมิตรกับฮิโรชิ ฮิโรชิกับแอรีสต้องกลายเป็นศัตรูที่จัดการด้วยยากแน่ ๆ แต่ในเมื่อตอนนี้เป็นพันธมิตรกับหมอนั่น พวกเขาก็ถือว่าได้ประโยชน์จากพลังเวทของแอรีสเต็มที่ ยังไงซะตอนนี้พวกเขาก็ได้เปรียบ กุญแจดอกที่สิบสามคงอยู่อีกไม่ไกลเกินเอื้อม

 

เกาะ ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาอย่างเป็นจังหวะแบบมีมารยาทสองสามครั้ง

ช่างเป็นคนที่มีมารยาทดีซะเหลือเกิน ...

ผมกับลีโอที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้ทันทีว่าศัตรูกำลังจะเข้ามาฆ่าพวกเราแล้ว ไม่สิ ผมคนเดียวต่างหากเพราะลีโอเป็นอมตะ ลีโอหันมามองหน้าผมเป็นเชิงให้ใจเย็น ๆ เจ้าตัวคงรับรู้ความรู้สึกผมได้ในตอนนี้ว่าผมยังไม่อยากตายแค่ไหน ทุกวันนี้ชีวิตมีแต่เรื่องเสี่ยง ๆ เหลือเกินตั้งแต่อัญเชิญลีโอออกมาได้ ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าวันนี้โชคจะช่วยพวกเราไว้ได้อีกครั้ง แถมที่ลีโอบอกว่าอควาเรียสมีเวทมนตร์ที่จะหยุดแอรีสได้ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย ร่างของทั้งผมและลีโอก็ยังคงขยับไปไหนไม่ได้อยู่ดี อควาเรียสรู้หรือยังเนี่ยว่ามีศัตรูอยู่ในบ้าน

“จะเข้าไปละนะ” เสียงทุ้มห้าวดังเข้ามาภายในห้องผมอย่างอารมณ์ดี ก่อนผมจะได้ยินเสียงบิดลูกบิดประตูสองสามครั้งจากฝีมือคนที่เคาะประตูเมื่อสักครู่ แต่นั่นก็ถ่วงเวลาได้ไม่นาน เพราะ ...

ตู้ม !

เสียงดังขึ้นมาจากบริเวณประตูไม้ที่ผมเคยล็อกเอาไว้ บัดนี้ประตูไม้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว บานประตูทั้งบานพังทลายลงมากับพื้น ปรากฏให้เห็นเป็นร่างสูงใหญ่ล่ำบึกของใครบางคนยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า แต่มันน่ากลัวขึ้นไปอีกตรงที่ใบหน้าของร่างร่างนั้นคือวัว ดวงตาของทอรัสมีสีแดงเหมือนวัวกำลังบ้าคลั่ง บนมือข้างขวาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามถือขวานด้ามใหญ่อยู่ในมือ ซึ่งผมคิดว่านั่นคืออาวุธที่ทำให้ประตูทั้งบานพังทลายลงมากับพื้นแบบนั้น

ใช่ นั่นคือทอรัสจริง ๆ ด้วย ...

ข้างตัวของทอรัส ผมเห็นชายอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เป็นชายที่สูงราว ๆ ร้อยแปดสิบ ดวงตาเรียวมองตรงมายังผมกับลีโอที่นอนขยับไปไหนมาไหนไม่ได้อยู่บนเตียง คนคนนี้คงเป็นเฉินตามที่มินจุนเคยเอาภาพของเจ้าตัวให้กับผมดู หมอนี่ดูโรคจิตแปลก ๆ เหมือนจะเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลา แต่อารมณ์ดีกับเรื่องการฆ่าคนผมว่ามันก็ไม่ใช่แล้ว

“เห เจอเจ้าของภูติดวงดาวจักรราศีสิงห์หรอเนี่ย” เฉินพูดออกมา พร้อมกับโบกมือเดินเข้ามาทักทายผมราวกับว่าเราไม่ได้เป็นศัตรูกัน ใบหน้าของหมอนั่นยิ้มออกมาจนตาหยี จนผมขนลุก

“นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย !” ผมร้องออกไป มองไอ้โรคจิตที่ยืนยิ้มอยู่ หมอนั่นมันน่ากลัวจริง ๆ นะ ในขณะที่ข้างตัวผมที่ลีโอนอนอยู่เตียงถัดไปมีแสงสีฟ้าสว่างออกมา รอบตัวลีโอมีออร่าสีฟ้าขึ้นมาเหมือนพยายามจะต่อสู้กับสนามโน้มถ่วงของแอรีสอยู่เพื่อขยับร่างกาย แต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้ผลอยู่ดี

“หืม นายว่าใครเป็นบ้า” เฉินพูดออกมา ดวงตาเรียวหรี่มองที่ผม หลังจากนั้นก็หันไปหาภูติดวงดาวของตัวเองแล้วพยักหน้าให้ ทอรัสดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้านายตัวเองบอกให้ทำเป็นอย่างดี ผมงี้ขนลุกไปหมดเมื่อร่างของทอรัสยกขวานยักษ์อันนั้นขึ้นมา พร้อมกับเดินตรงมาที่เตียงของผม

เฮ้ย ๆ จะทำอะไรวะนั่น !

ผมตกใจจนร้องอะไรไม่ออก ...

ก่อนขวานยักษ์ด้ามนั้นจะจามลงมาที่ข้างหัวผม เฉียดใบหูของผมไปหน่อยเดียว ขวานด้ามนั้นปักคาอยู่บนเตียงนอน ก่อนมือหนาของทอรัสจะดึงมันออก

“อุป ! ทอรัสพลาดไปหน่อย” เฉินพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับหัวเราะขำ ตามมาด้วยเสียงร้องของลีโอที่ดังโวยวายออกมาด้วยความเป็นห่วงผม

“วิน ! เป็นอะไรหรือเปล่า แน่จริงก็รอให้ฉันหลุดจากสนามโน้มถ่วงของแอรีสก่อนดิวะ”

ผมใจหายวาบเลยเมื่อกี้ ...

“คราวนี้ไม่พลาดนะทอรัส เอาให้หัวเบะไปเลย” เฉินพูดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับบอกทอรัส ผมเหลือบตาไปมองใบหน้าที่เป็นวัวที่กำลังคลุ้มคลั่ง ดวงตาสีแดงจ้องผมเหมือนเตรียมพร้อมจะขวิดใส่ ลมหายใจอุ่น ๆ ถูกพ่นออกมาจากสองรูจมูกนั่น ด้ามของขวานถูกง้างขึ้นเหนือหัวของผม คราวนี้ผมว่าทอรัสไม่เล็งพลาดเหมือนคำสั่งเจ้านายของตัวเองในตอนแรกแล้ว

ให้ตายเถอะ ... ผมไม่อยากตายในสภาพที่หัวกะโหลกถูกฟันแบะแยกกันออกเป็นสองส่วนแบบนี้

 

อยู่ ๆ มือที่ถือขวานของทอรัสก็ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ พร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังออกมาจากมุมไหนสักมุมในห้อง มันเป็นเสียงของพิณที่ดังกังวาน มีจังหวะนุ่มลึกเบาสบายจนผมเคลิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว แม้แต่ตัวผมที่ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ยังรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนสวรรค์ มันเป็นเสียงดนตรีที่เพราะจริง ๆ ผมไม่เคยฟังดนตรีอะไรที่เพราะขนาดนี้มาก่อนเลย

มันเหมือนกับว่าเราอยู่ภายใต้มนต์สะกด

เปลือกตาของผมหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกำลังจะหลับลงไป แต่สติของผมพยายามต่อสู้กับเสียงดนตรีนั้นไม่ให้เคลิ้มหลับตาม เพราะรู้ดีว่าทอรัสกำลังจะจามขวานลงมาที่หัวผม แต่ภาพที่ผมเห็นเหนือร่างของตัวเองก็คือร่างของทอรัสเริ่มเซไปเซมาเหมือนกัน ดวงตาสีแดงที่ดูคลุ้มคลั่งเริ่มปรือเหมือนกำลังจะปิดลง ก่อนขวานยักษ์ที่อยู่ในมือทั้งสองข้างของทอรัสจะร่วงลงไปบนพื้น ส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ผมเองก็ยังรู้สึกเพลินกับเสียงดนตรีที่ดังกลบมากกว่า

รวมถึงร่างของเฉินทื่ยืนอยู่ที่ปลายเตียงของผมกำลังขมวดคิ้วอย่างงุนงง พยายามเอามือปิดหูตัวเองแต่ก็เหมือนจะไม่ทันแล้ว เฉินค่อย ๆ ยิ้มออกมาเหมือนคนที่ตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองไปแล้ว ก่อนร่างที่อยู่ที่ปลายเตียงของผมจะค่อย ๆ ล้มลงพร้อมกับตาที่ปิดไปและรอยยิ้ม ผมเองก็เหมือนจะเริ่มฝืนเปลือกตาและความรู้สึกง่วงที่ถาถมเข้ามาไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

ผมมั่นใจแล้วว่าตอนนี้มีคนกำลังช่วยพวกเราอยู่ น่าจะเป็นอควาเรียสเหมือนที่ลีโอบอก แต่ดูเหมือนเวทมนตร์ของอควาเรียสจะส่งผลกระทบต่อทั้งผมและลีโอ รวมถึงศัตรูทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วย มันไม่แปลกไปหน่อยหรอที่ทำให้พันธมิตรตัวเองหลับไปด้วย ถ้ามองในแง่ดีคือไอรีนกำลังจะช่วยพวกเราไว้จากศัตรู แต่ถ้ามองในแง่ร้าย การที่ผู้ถือครองกุญแจจักรราศีอยู่รวมกันและหลับไปถึงห้าคนพร้อมกัน

มันคงจะง่ายไม่น้อยในการจัดการผู้ถือครองกุญแจจักรราศีทั้งหมด

และเอากุญแจจักรราศีไปครอบครองเสียเอง ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด