ตอนที่แล้วGE85 ขอให้คนดีอย่างเจ้าปลอดภัย [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE87 ชูชิงตกตะลึง [ฟรี]

GE86 ไป๋ลู่ผู้ติดกับ [ฟรี]


ราตรีมืดสลัว หนิงฝานนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง เบื้องหน้าวางไว้ด้วยหญ้ากลั่นวิญญาณ

หญ้ากลั่นวิญญาณให้ผลที่น่าอัศจรรย์ นอกจากจะช่วยฝึกฝนวิชาลับสัมผัสเทพแล้ว ยังช่วยยกระดับพลัง

หากมีความรู้เข้าใจที่ลึกซึ้ง เมื่อยามก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งการฝึกตน ย่อมใช้โอสถช่วยยกระดับพลังได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การเก็บตัวฝึกฝนอยู่เป็นนิจก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ

หากตั้งมั่น คนผู้นั่นจะได้ในสิ่งที่ต้องการ หากไม่แล้ว ย่อมเสียเวลาอย่างสูญเปล่า แม้จะใช้โอสถไปเท่าใดก็ยากจะยกระดับพลัง

ผู้ที่แปรเปลี่ยนตนเองจากมดปลวก ให้กลายเป็นผู้ท้าทายสวรรค์ได้นั้น มีเพียงหยิบมือ

ดังนั้นหนิงฝานจึงหลับตาและเร่งดูดซับหญ้ากลั่นวิญญาณ

ความรู้สึกเย็นๆปรากฏขึ้นในทะเลสติอย่างช้าๆ ความคิดและความทรงจำกระจ่างชัด ความทรงจำเมื่อยามเป็นเด็กอายุ 3 ขวบหวนคืน เป็นครั้งที่ตนได้เข้ามาอยู่ในตระกูลหนิง

แต่ความทรงจำก่อนหน้านั้นกลับว่างเปล่า ราวกับไร้ซึ่งชีวิต

หนิงฝานประหลาดใจ สิ่งที่เห็นช่างน่าแปลก เมื่อตอน 3 ขวบ...ตระกูลหนิงรับตนเข้าตระกูล แต่ความทรงจำก่อนหน้านั้นดูราวกับถูกลบหายไป เหลือเพียงความทรงจำยามที่อยู่ในตระกูลหนิง… การลบความทรงจำเช่นนี้ มีเพียงโลกผู้ฝึกตนเท่านั้นที่ทำได้

ความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมทะเลสติมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความทรงจำในอดีตกลับยิ่งชัดเจน

สัมผัสเทพของหนิงฝานค่อยๆแผ่กระจายช้าๆ กระทั่งปกคลุมท้องฟ้ายามราตรี

ขีดจำกัดระยะสัมผัสเทพของหนิงฝานอยู่ที่ 500 จ้าง แต่เมื่อดูดซับหญ้ากลั่นวิญญาณเข้าไป ระยะสัมผัสของมันก็ยิ่งขยายกว้างมากขึ้น

หมื่นลี้… แสนลี้… ล้านลี้!

หนิงฝานไม่รู้ว่าสัมผัสเทพของตนแผ่นขยายไปไกลมากเท่าใด!

รู้เพียงว่ามันแผ่กว้างจนยากจินตนาการ คล้ายกับการบีบอัดให้สัมผัสเทพกลายเป็นเส้นบางๆ ที่ทำให้สัมผัสสิ่งที่อยู่ไกลออกไปจนเหนือจินตนาการได้

นี่คือวิชาเทพที่หายสาปสูญ… ‘วิญญาณท่องนภา’!  เป็นวิชาที่อย่างน้อย ต้องบรรลุขอบเขตเซียนจึงจะฝึกฝนได้ แต่ยามนี้หนิงฝานกลับใช้มันได้!

หนิงฝานสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยามนี้ เขาสัมผัสได้อย่างเบาบางว่า สัมผัสเทพที่บีบอัดจนบางเบาของตน ได้แผ่ไปไกลกว่า 9 ล้านลี้ ไกลราวกับเอื้อมไปถึงสวรรค์ ไกลราวกับผ่านม่านพลังของโลกพิรุณออกไปยังหมู่ดาว

ในหมู่ดาวบนฟากฟ้า ดวงดาวแต่ละดวงจะมีสถานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ แต่ระยะห่างระหว่างดวงดาวช่างแสนไกล ใช่ว่าผู้ฝึกตนจะเดินทางไปได้ทุกหนแห่ง แต่ยามนี้ หนิงฝานกลับมองเห็น

ในหมู่ดาวแต่ละดวงนั้น ผู้ฝึกตนได้พยายามสุดความสามารถ เพื่อจะได้ก้าวไปยังสถานที่ที่เรียกว่าแดนสวรรค์!

และยามนี้ สัมผัสเทพของหนิงฝานได้มาถึงขีดจำกัด ไม่สามารถมุ่งไปไกลกว่านี้ได้อีก

แต่อย่างน้อย เขาก็สัมผัสได้ถึงดาวดวงหนึ่ง ที่นั่นมีดินแดนที่กว้างใหญ่อยู่นับหมื่น แต่ละดินแดนใหญ่โตกว่าแคว้นเยว่

“หมู่ดาวแห่งเซียน!” คำที่อยู่ในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ได้ปรากฏ

แม้ขอบเขตไร้แบ่งแยกจะทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ได้ก้าวเหนือล้ำไปกว่านั้น!

ยามนี้ ได้มีเสียงที่เย็นชาของชายชราสายหนึ่ง ดังมาจากโลกแห่งเซียน ดังเข้ามาในสัมผัสเทพที่แผ่ไกลของหนิงฝาน

“ฮึ่ม! ผู้เยาว์ที่ใดกล้าใช้วิชาวิญญาณท่องนภา เข้าสำรวจ ‘ดวงดาวเต่าทมิฬ’ ของข้า… หืม? คนผู้นั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ในร่างยังไม่มี ‘แก่นเซียน’...”

เสียงนั่นแผ่วเบา แต่นั่นกลับทำให้สัมผัสเทพของหนิงฝานเกือบพินาศ นั่นหมายความว่า เจ้าของเสียงผู้นั้น แข็งแกร่งกว่าหนิงฝามากนัก

หนิงฝานตกตะลึงจนลืมตาตื่น แต่กลับยังไม่อาจถอนสัมผัสเทพของตนคืนมา มันยังลอยคว้างอยู่ในอวกาศ!

“ท่าไม่ดีแล้ว! วิชาวิญญาณท่องนภา ไม่ใช่วิชาที่ข้าจะจับต้องได้! ข้าถอนสัมผัสเทพกลับไม่ได้!”

หนิงฝานหน้าซีดขาวไร้โลหิต เขาคาดไม่ถึงว่าหญ้ากลั่นวิญญาณจะนำสัมผัสเทพของเขาออกนอกโลกพิรุณ กระทั่งไม่อาจถอนกลับ

ชายชราผู้หนึ่งในดวงดาวเต่าทมิฬยิ้มเล็กน้อย ราวกับมันพบบางสิ่ง

“น่าสนใจยิ่งนัก… เป็นเพียงผู้ฝึกตนในขอบเขตต่ำชั้น… ฮ่าฮ่า ขอบเขตประสานวิญญาณกลับใช้วิชาวิญญาณท่องนภาได้ ช่างมากพรสวรรค์นัก… อืม...ในสัมผัสเทพยังมีกลิ่นอายของหญ้ากลั่นวิญญาณ เจ้าเป็นผู้ใดกันถึงฝึกฝนกระทั่งได้ทะเลสติกระบี่… แต่ดูท่าเจ้าจะถอนสัมผัสเทพกลับไม่ได้ ฮ่าฮ่า.. ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

ชายชราแผ่สัมผัสเทพที่ทรงพลัง ออกนอกดวงดาวของตนและชักนำสัมผัสเทพของหนิงฝานกลับคืน

เมื่ออยู่ต่อหน้าสัมผัสเทพของชายชราแล้ว หนิงเพิ่งได้รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าตนเองช่างเล็กจ้อย!

พลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แม้จักรพรรดิไป๋กู่ยังไม่อาจเทียบเคียง… หนิงฝานสัมผัสได้ถึงว่า สัมผัสเทพสายนั้นลึกล้ำและยิ่งใหญ่ ความต่างที่ปรากฏ ทำให้สัมผัสเทพของตนไม่ควรค่าให้ยกยอ

สัมผัสเทพของชายชราชักนำสัมผัสเทพของหนิงฝานมายังโลกพิรุณ แต่เมื่อถึงโลกพิรุณ สัมผัสของชายชรากลับไม่อาจล่วงล้ำเข้ามา ราวกับมีบางสิ่งขวางกั้น แต่นั่นก็ทำให้หนิงฝานถอนสัมผัสเทพของตนกลับมาได้สำเร็จ

เมื่อสัมผัสเทพของหนิงฝานกลับคืนทะเลสติ เขาเร่งนำปะการังราชาที่แลกมา โยนลงกระถางแยกโอสถและกลั่นให้เป็นของเหลว จากนั้นดื่มเข้าไป

เกือบไปแล้ว! หากสัมผัสของหนิงฝานกลับมาช้ากว่านี้ ทะเลสติของเขาจะพังทะลายไปตลอดกาล

โชคดีที่ปะการังราชาช่วยเสริมทะเลสติของเขา ทำให้มันกลับคืนสู่สภาวะเสถียรและมั่นคง

ผ่านไปนาน หนิงฝานผ่อนลมหายใจ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม

“คาดไม่ถึงว่าหญ้ากลั่นวิญญาณจะนำข้าไปสู่อันตรายเช่นนั้น… แต่หมู่ดาวแห่งเซียน แท้จริงคือแดนสวรรค์ทั้ง 4 ที่กล่าวขาน น่าเสียดายที่ข้าไม่เห็นว่าที่นั่นเป็นเช่นใด… บางทีหากข้าก้าวล่วงขอบเขตไร้แบ่งแยก ข้าอาจก้าวไปยังหมู่ดาวแห่งเซียนแห่งนั้น...”

แม้จะพบอันตราย แต่หนิงฝานยังได้ประโยชน์ อย่างน้อยๆ เขาก็ใช้วิชาวิญญาณท่องนภาได้!

แต่หากหนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก การใช้วิชาวิญญาณท่องนภาอาจนำพาความตายมาสู่ตน

ดังนั้นยามนี้ หนิงฝานจึงดูดซับหญ้ากลั่นวิญญาณต้นที่สองอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นอีก

ในขณะที่หนิงฝานดูดซับหญ้ากลั่นวิญญาณอยู่นั้น ข่ายพลังที่เขาวางไว้ก็เปล่งแสง

สตรีผู้งดงามนางหนึ่ง อำพรางกลิ่นอายของตน แอบเข้ามาในที่พักของหนิงฝาน... นอกห้องที่เขาอยู่ ได้มีธูปหอมก้านหนึ่งถูกจุด ธูปหอมนั่นเป็นสิ่งล้ำค่าที่ใช้มอมเมา

กลิ่นของมันเหมือนดอกไม้ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณที่เป็นสตรี แม้จะสูดดมเข้าไปเพียงเล็กน้อย สติและความยั้งคิดของนางจะเสียไป ทำให้ราคะของนางเพิ่มพูน และร่วมรักกับผู้คนได้ไม่เลือกหน้า

ผู้ที่จุดธูปหอมนอกห้องของหนิงฝานคือไป๋ลู่!

“นางคิดจะมอมเมาข้า… คิดจะฆ่าข้าเช่นนั้นหรือ?”

แววตาหนิงฝานดูเย็นชา เขาเก็บหญ้ากลั่นวิญญาณและผ่อนลมหายใจ

เขาอยากรู้ว่านางจะทำยังไงกับเขา

เมื่อได้ยินเสียล้มตัวนอนคล้ายหมดสติ ไป๋ลู่ผู้รออยู่นอกห้องก็ยิ้ม

ยามนี้ นางสวมอาภรณ์ที่เบาบาง วาบหวิว และเย้ายวน กระทั่งเผยเรียวขาที่งดงาม

นางมั่นใจในเรียวขาของตน ไม่ว่าบุรุษใดได้พบเห็นย่อมหลงไหลไม่อาจวางตา เพียงแต่...คืนวานที่ผ่านมา หนิงฝานลงโทษนาง ร่วมรักกับนางอย่างรุนแรง กระทั่งขาที่ภูมิใจเป็นรอยช้ำ

“หนิงฝาน… ข้าเกลียดเจ้า! คืนนี้ข้าจะให้เจ้าต้องชดใช้!”

นางกล่าวด้วยความเกลียดชัง

เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป นางนำมีดเล่มหนึ่งออกมา เดินเข้าหาหนิงฝานที่นอนอยู่บนเตียง

แต่เมื่อไปถึงร่างหนิงฝาน มือของนางกลับสั่นเทา

“หากข้าสังหารมัน ศิษย์น้องในโถงขัดเกลาผสานอาจติดร่างแหไปด้วย...”

นางลดมีดลง ขบฟันแน่นด้วยความแค้น ก่อนจะหันกายเตรียมจากไป แต่ในขณะที่นางกำลังจะก้าวเดินนั้น แขนที่ทรงพลังข้างหนึ่งได้รวบเอวของนางไว้ ดึงนางลงมายังที่นอน ก่อนที่เจ้าของแขนข้างนั้นจะขึ้นคร่อมบนตัวนาง

“ช่างกล้านัก… เป็นกระถางขัดเกลาของข้า กลับกล้าคิดสังหารข้าผู้เป็นนาย...” หนิงฝานกางแขนของนางและใช้สองมือตรึงไว้ เขานอนทับร่างนาง หน้าอกสัมผัสหน้าอกที่นุ่มละมุน พลางเคลื่อนใบหน้ากล่าวกระซิบที่ข้างหู

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานไม่ได้รับผลกระทบจากธูปหอม นางก็เริ่มหวาดกลัว “เจ้า… เหตุใดธูปหอมไม่ได้ผลกับเจ้า...”

นางดิ้นขัดขืน แต่มือทั้งสองข้างที่ถูกหนิงฝานตรึงนั้น ทำให้นางไม่อาจดิ้นพ้น… ร่างกายของหนิงฝานที่กดทับร่างของนาง แผ่ปราณคลายหยิน ทำให้ร่างกายของนางเริ่มอ่อนกำลังไร้เรี่ยวแรง

นางเริ่มเสียใจ ต่อให้นางคิดร้ายและใช้วิชายั่วยวนเท่าใด ก็ไม่ได้ผลกับเขาแม้แต่น้อย

นางขบฟันด้วยความเกลียดชัง ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ไม่ดิ้นรนขัดขืน พลางกล่าวด้วยความสิ้นหวัง “ข้าแพ้แล้ว… หากจะฆ่า จงฆ่าเถิด!”

“เจ้าเป็นกระถางขัดเกลาของข้า… เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้า...”

“หากได้เป็นกระถางขัดเกลาของเจ้า ข้ายอมตาย...” นางกล่าว แต่ถึงอย่างนั้น นางกลับสับสน

นางราวกับเป็นสตรีผู้สูญเสียทุกสิ่ง นางเกลียดชังหนิงฝานอย่างที่สุด แต่เมื่อย้อนคิดว่าเขา ไม่ได้ล่วงเกินสตรีนางใดในโถงขัดเกลาผสาน ซ้ำยังทำหน้าที่เป็นผู้อาวุโสที่ดี ทำให้นางยิ่งสับสนในความรู้สึก กระทั่ง… นางไม่อาจหักใจฆ่าเขาได้ลง

“เจ้าเป็นกระถางขัดเกลาของข้า”

“ข้ามิต้องการ” นางกล่าวอย่างนักแน่น

“ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า… ข้าจะนอนอยู่นิ่งๆตรงนี้โดยไม่ตอบโต้สิ่งใด หากเจ้าดูดซับพลังของข้าได้หมด ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้าทำไม่ได้ เจ้าต้องยอมเป็นกระถางขัดเกลาของข้า...”

หนิงฝานปล่อยข้อมือนาง และนอนลงข้างๆ

แต่การกระทำเช่นนี้ ยิ่งทำให้นางโกรธเคือง

“ไร้ยางอาย! ถึงเจ้าจะกล่าวถ้อยคำเช่นใด ข้าก็ไม่ทางเชื่อเจ้า...”

นางเฉลียวฉลาด และระมัดระวัง

แต่ยิ่งเห็นสีหน้าสงบของหนิงฝาน นางกลับยิ่งไม่พอใจ

“ฮึ่ม… ถึงจะหักใจฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่หากข้าดูดซับพลังของเจ้าได้สำเร็จ ข้าอาจบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณขั้นกลาง… ข้าไป๋ลู่จะทำให้เจ้าเสียใจเอง!”

นางจ้องมองหนิงฝานอย่างเย็นชา ก่อนลุกขึ้นคร่อมบนตัวเขา

จากนั้นเริ่มปลดอาภรณ์ของตนทั้งหมด

ยามนี้นางเริ่มลังเล แต่สุดท้ายก็ขบฟัน ปลดกระโปรงของตน เผยให้เห็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามและเปียกชื้น

“เมื่อครู่ข้าแค่กอดเจ้าเอง...”

“หุบปาก!” นางกล่าวด้วยโทสะ

หากไม่เพราะปราณที่หนิงฝานแผ่เข้ามาในร่างของนางเมื่อครู่ นางย่อมไม่เป็นเช่นนี้

หากนางไม่สามารถดูดซับพลังหนิงฝานได้หมด หลังจากนี้นางต้องเป็นกระถางขัดเกลาของเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้เป็นฝ่ายดูดซับพลังของบุรุษ… เพราะก่อนหน้านี้ที่หนิงฝานร่วมรักกับนาง ไม่นับเป็นการดูดซับ เพราะหนิงฝานเป็นผู้กระทำฝ่ายเดียว

“ข้าจะเริ่มแล้ว...”

นางตื่นตระหนก มือน้อยๆเริ่มเอื้อมปลดอาภรณ์หนิงฝาน เมื่อปลดแล้ว มือข้างหนึ่งวางสัมผัสที่แผ่นอกของเขา อีกข้างสัมผัสกับความบุรุษของเขา เมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งของมัน ทำให้นางแทบจะเปลี่ยนใจไม่อยากทำต่อ

“ข้าจะล้มเลิกไม่ได้...”

นางหลับตา ดันตนเองให้สูงขึ้น ใช้มือข้างที่สัมผัสความเป็นบุรุษของหนิงฝาน จ่อเล็งไปยังพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของตนและเตรียมจะนั่งลง แต่ในระหว่างนั้น หนิงฝานกลับหยอกล้อนาง

“สาวน้อย… ในเมื่อเจ้าจะดูดซับพลังของข้าทั้งที เจ้าต้องทำให้ครบสมบูรณ์… ใช้ลิ้นของเจ้าเลียสัมผัสมันด้วย...”

“จะ… เจ้ากล่าวเรื่องอันใด!”

นางอับอายเป็นอย่างมาก

หากกล่าวให้ถูกต้อง การขัดเกลาผสานนั้น สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือการเล้าโลมอีกฝ่าย ยิ่งหากเป็นสตรีที่เป็นฝ่ายดูดซับพลังของบุรุษแล้ว การเล้าโลมยิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้แก่นหยางของบุรุษ ตื่นตัวและไหลเวียนได้ดีขึ้น

นางรังเกียจที่จะทำเช่นนั้น เหตใดต้องใช้ปากและลิ้นสัมผัสกับสิ่งนั้น ช่างน่าเกลียดนัก!

“เจ้า… ได้คืบอย่าเอาศอก”

“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด… เจ้าเป็นผู้ดูดซับพลังข้า ส่วนข้าเป็นเหยื่อของเจ้า หากไม่เล้าโลมข้าให้ดี ระดับพลังที่ห่างชั้นของเรา จะทำให้เจ้าดูดซับพลังจากข้าได้ยากขึ้น… และนั่น...จะทำให้เจ้าพ่ายแพ้”

“ข้าไม่มีทางแพ้!”

นางเผยแววตาหนักแน่น ก่อนจะหลับตา อ้าปาก และก้มหน้าลงหาสิ่งนั้น!

เมื่อลิ้นและปากสัมผัส ความร้อนจากสิ่งนั้นได้แผ่เข้ามาในปากของนาง กระจายไปทั่วร่าง กระทั่งทำให้นางเกือบขาดสติ

แต่ถึงอย่างนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางคืนสติและไม่พอใจ นั่นคือหนิงฝานขยับตัว

“อย่าขยับ… เจ้า… เจ้ากล้า...”

“ข้ากำลังช่วยเจ้า การเล้าโลมของเจ้ามันไม่เอาไหน...”

หนิงฝานแอบยิ้ม เพราะกระถางขัดเกลานางนี้ ไม่พ้นมือเขาอย่างแน่นอน

ด้วยที่หนิงฝานฝึกฝนวิชาแปลงหยินหยาง อย่าว่าแต่ไป๋ลู่ แม้เป็นสตรีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงยังดูดซับพลังของเขาไม่ได้

ดังนั้น สิ่งที่หนิงฝานให้นางทำ คือการทำให้นางยอมเป็นกระถางขัดเกลาด้วยตนเอง

นางติดกับเขาให้แล้ว!

ยามนี้ แม้หนิงฝานจะรู้สึกว่าตนชั่วร้าย แต่คิดไปก็ไร้ความหมาย

เขาจึงหยุดคิดทุกสิ่ง และตั้งมั่นมุ่งหน้า เพื่อจะเป็นปีศาจที่แท้จริง

แต่ยามนี้ เขากลับคิดว่าตนเองดูแคลนไป๋ลู่เกินไป

เพราะลิ้นอุ่นๆและนุ่มละมุนของนาง กำลังให้เขาเคลิ้บเคลิ้ม และรู้สึกราวกับนางจะดูดซับพลังของเขาไปจนหมด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด