ตอนที่แล้วChapter 13 : แผนล่อศัตรู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 15 : เดินทางด้วยรถไฟ

Chapter 14 : Aries Taurus Gemini


Chapter 14 : Aries Taurus Gemini

“นายวางแผนอะไรไว้มินจุน”

ไอรีนเป็นคนถามออกไป หลังจากที่ทั้งผมและเธอหายอึ้งจากการที่มินจุนบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนปล่อยรูปของตัวเองให้คนอื่นรู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน จริง ๆ ก็มีข่าวคราวของมินจุนหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากเสร็จคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของเขาเมื่อสามสี่สัปดาห์ก่อน จนผมมาพบเข้านี่แหละ มินจุนก็เก็บตัวอยู่ที่ร้านกาแฟของผมมาสักระยะแล้ว แต่ในที่สุด หลายคนน่าจะรู้แล้วว่ามินจุนอยู่ที่เมืองไหนสักแห่งในประเทศนี้ ตามที่ในรูปอ้างอิงถึงตำแหน่ง และชื่อร้านกาแฟของพ่อผมที่โชว์หราอยู่บนภาพโฮโรแกรมสามมิติ

“หรือจะให้ฉันเป็นตัวล่อเหมือนที่นายเคยทำไว้กับไอรีน” ผมพูดต่อ หันไปมองหน้าไอรีนอย่างขำ ๆ ซึ่งใบหน้านิ่ง ๆ ของเจ้าตัวก็มองผมกลับมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อนพูด

“โชคดีนะ ที่นายมีมินจุนคอยช่วย หึ ๆ ไม่งั้นนายได้ตายกลายเป็นศพไปแล้ว”

เวลาที่อยู่ด้วยกันไม่กี่สัปดาห์ มันทำให้ผมเลิกระแวงไอรีนไปเลย แม้เจ้าตัวจะขู่ฆ่าผมบ่อย ๆ ก็เถอะ ก็นะ คนอะไรเวลาไม่ได้ทำหน้านิ่ง ๆ แล้วน่ารักชะมัด

“จริง ๆ ก็ไม่มีแผนอะไรหรอก พวกที่ตามล่าฉันมีสาม พวกเราก็มีสาม จะได้ทำทุกอย่างให้มันจบ ๆ ไป ยังไงพวกมันก็กำลังตามหาฉันอยู่แล้ว อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อัปเดตตัวเองให้แฟนคลับรู้นานแล้วว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน จนมีคนปล่อยข่าวว่าฉันตายไปแล้วเนี่ย ทำแบบนี้พวกมันจะได้ตามหาฉันง่าย ๆ” มินจุนพูดออกมา

เดี๋ยวนะ !

ผมที่ฟังมินจุนพูดแล้วอยากจะเอามือทึ้งหัวตัวเอง ตอนแรกก็คิดว่าหมอนี่จะมีแผนอะไรเจ๋ง ๆ เหมือนตอนที่ล่อไอรีนเข้ามาติดกับแล้วตลบหลัง แต่นี่กลับไม่มีแผนอะไรเลย เพียงแค่ต้องการให้ศัตรูของตัวเองรู้ที่อยู่เนี่ยนะ ผมอยากจะบ้า

ดีหน่อยที่ในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีการเปิดเผยตัวว่ามีผู้ใช้เวทอยู่กับเราแบบคนปกติ แต่เราก็บอกไม่ได้อยู่ดีว่าคนคนนั้นคือผู้ใช้เวทหรือคนธรรมดา ยกเว้นบางเมืองที่เป็นเมืองของผู้ใช้เวท เช่นย่านเมืองเก่าที่มีผู้ใช้เวทอาศัยอยู่เยอะ จึงสามารถบอกได้ว่าเกือบทุกคนที่อยู่ที่นั่นเป็นผู้ใช้เวท ส่วนใครถือครองกุญแจจักรราศีอยู่ มีเพียงภูติแห่งดวงดาวจักรราศีด้วยกันเท่านั้นที่สัมผัสและรับรู้ได้ ไม่งั้นผมได้ตกเป็นเป้าหมายของใครหลายคนได้แบบง่าย ๆ แน่

“นี่นายพูดจริงพูดเล่น พวกเรามีสองต่างหาก หมอนี่ทำอะไรได้ที่ไหน” ไอรีนพูด หันมามองหน้าผมแวบหนึ่งแบบแขวะ ๆ

แต่ที่ไอรีนพูดมามันก็ถูก ผมไม่เถียงหรอก โลกของความจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น กับการฝึกหนัก ๆ สองสามสัปดาห์แล้วจะเก่งขึ้นมากมาย ผมต้องพยายามหนักกว่าคนอื่น แถมตัวเองก็ไม่มีเวทมนตร์อีก มันไม่ง่ายเลย ที่จากคนที่ใช้ชีวิตธรรมดาต้องมาเจอะเจอเรื่องอะไรแบบนี้

“เฮ้ย ! ไอ้มิน ฉันยังทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลยนะเว้ย จะให้ไปสู้กับใครอะไรจะไหวได้ไงวะ อีกอย่าง ... ฉันไม่เคยฆ่าคนด้วย” ผมพูดออกไป

ในใจลึก ๆ มันก็รู้สึกไม่ค่อยดี ถ้ามองว่าเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกฆ่ามันก็ใช่ แต่การที่ต้องไปฆ่าคนอื่นเพื่อเอากุญแจจักรราศีมาทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริง ใครมันจะไปทำลง ไอรีนหันมองหน้าผมแวบหนึ่งก่อนเจ้าตัวจะพูดออกมา ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมแสดงสีหน้าอะไรที่ดูเป็นกังวลมากมายออกไปหรือเปล่า แต่เหมือนเจ้าตัวจะจับสังเกตได้

“โลกมันไม่ได้สวยงามแบบที่นายเคยใช้ชีวิตอยู่กับพ่อหรอกนะวิน ถ้านายไม่เลือกที่จะฆ่า นายก็จะถูกฆ่า นายโชคดีมากนะที่เจอกับมินจุน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น คนที่เชื่อใจคนอื่นได้ง่าย ๆ และมองโลกในแง่ดีแบบนาย จะไม่ต่างอะไรไปจากคนโง่ ๆ คนหนึ่งเลย”

“ฉันก็มีเหตุผลที่ต้องทำ มินจุนเองก็มีเหตุผลที่ต้องทำ และนายเองก็มีเหตุผลที่ต้องทำ ทุกคนต่างมีเหตุผลด้วยกันทั้งงั้น ในเมื่อโลกมันสร้างเรามาเป็นแบบนี้ เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้” ไอรีนพูดออกมา ไม่ได้มีน้ำเสียงที่ดูแขวะผมเหมือนอย่างเคย แต่ทุกคำพูดที่เจ้าตัวพูดออกมาเต็มไปด้วยความจริงจัง เหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

“ก็อย่างที่ไอรีนว่า ฉันเองก็เคยคิด ว่าถ้าเราอยู่ของเราเฉย ๆ ทุกอย่างมันจะดี แต่นายเชื่อไหม กุญแจจักรราศีดอกที่สอง ฉันได้มันมาได้ยังไง ฉันได้มาจากเพื่อนสนิทของฉันที่พยายามจะฆ่าฉัน แล้วสุดท้ายฉันเองก็พลั้งมือฆ่าเขาไป ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ไม่ว่ายังไงนายก็ต้องเผชิญกับสงครามครั้งนี้ ไม่ว่านายจะต้องการมันหรือไม่ก็ตาม” มินจุนพูดเสริม ผมพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ ทุกอย่างมันเริ่มไปแล้ว ยังไงมันก็ต้องดำเนินต่อ

“แล้วสามคนที่กำลังตามล่าตัวนาย นายรู้ข้อมูลพวกมันมากแค่ไหน พวกเราจะได้เตรียมตัวรับมือได้” ผมถามมินจุนออกไปเพื่อทราบข้อมูล ไอรีนก็ดูเหมือนจะรอฟังอยู่ด้วย มินจุนพยักหน้าก่อนหยิบมือถือของตัวเองออกมา ก่อนเปิดภาพโฮโรแกรมสามมิติขึ้นมาตรงหน้าของพวกเรา ภาพที่ปรากฏขึ้นมาเป็นรูปของชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่หน้าตาดีพอสมควร จากที่คาดเดาอายุราว ๆ 30 ปี

“คนแรกชื่อฮิโรชิ เขาเป็นนักแสดงชาวญี่ปุ่น ฉันเจอกับเขาโดยบังเอิญตอนร่วมงานกันหนึ่งครั้ง แล้วเขาก็ชวนฉันเป็นพันธมิตรกับกลุ่มของเขาหลังจากทราบว่าฉันเป็นผู้ถือครองกุญแจจักรราศีเช่นกัน ฮิโรชิเป็นคนที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะใกล้โดยใช้ดาบซามูไรเสริมด้วยพลังเวทมนตร์ของเขา แผลของฉันที่นายเจอในวันนั้นก็ฝีมือของเขานั่นแหละ หมอนี่มีภูติดวงดาวคือ Aries [แอรีส] เด็กนรกที่ชอบความซาดิสต์ มีพลังในการควบคุมสนามโน้มถ่วง ถ้านายตกอยู่ในสนามโน้มถ่วงของเด็กนั่น ดาบของฮิโรชิฟันหัวนายขนาดแน่”

มือของมินจุนเลื่อนไปมาบนอากาศ ก่อนจะปรากฏรูปชองชายอีกคนออกมาอยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ ใบหน้านั้นส่งยิ้มออกมาให้พวกเราดู ดวงตาเรียวจากเชื้อชาติ ถึงแม้จะมองดูเป็นคนที่ใจดี แต่มันกลับดูเป็นใบหน้าที่ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไร มันดูเหมือนเป็นยิ้มปลอม ๆ กับแววตาเจ้าเล่ห์ที่มองกลับมา

“คนที่สอง เฉิน หมอนี่เป็นหมอชื่อดังทีเดียวแหละ มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ระยะประชิดเหมือนกัน หมอนี่สามารถทำให้นายเป็นอัมพาตได้ในพริบตาจากการกดจุด และฝังเข็มที่เจ้าตัวเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี พอผสมกับเวทมนตร์เข้าไป เฉินเป็นศัตรูที่น่ากลัวไม่ต่างอะไรจากฮิโรชิเลย ส่วนภูติดวงดาวของเฉินคือ Taurus [ทอรัส] ทอรัสมีหัวเป็นวัว แต่ตั้งแต่ช่วงคอลงมาเป็นมนุษย์ผู้ชายที่แข็งแรง กล้ามเป็นมัด ๆ และมีพละกำลังมหาศาลมาก สามารถควบคุมกระแสลมได้ ทอรัสมีอาวุธอีกอย่างเป็นค้อนยักษ์ ถ้าพลาดท่าเข้า หัวได้โดยทุบจนเละเป็นโจ๊กทันที”

เท่าที่ฟังมาถึงตอนนี้ แต่ละคนมีแต่น่ากลัว ๆ ทั้งนั้น ... ผมจะรอดไหมเนี่ย

มินจุนขยับมือเลื่อนไปมาบนอากาศอีกครั้ง คราวนี้ปรากฏขึ้นมาเป็นรูปของผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่ง ใบหน้าออกมาทางผู้หญิงฝั่งตะวันตก ดูเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายให้มองตามได้โดยง่าย ประกอบกับสายตาที่หวานราวกับน้ำผึ้งของเธอ พร้อมกับหุ่นที่ดีเหมือนกับเป็นนางแบบ มินจุนโชว์ภาพของผู้หญิงคนนั้นเต็มตัวในชุดทูพีชอยู่ริมชายหาดแห่งหนึ่ง

“จ้องตาไม่กะพริบเลยนะไอ้วิน ระวังจะโดนนังงูพิษนี่ฉกเหมือนที่ฉันเคย” มินจุนพูดขึ้นมาแบบขำ ๆ

“อย่ามาเว่อร์ไอ้มิน ไม่ได้จ้องอะไรขนาดนั้นเว้ย ตั้งใจฟังที่แกพูดอยู่เนี่ย” ผมพูดแย้งออกไป

“พวกโรคจิต ทีเป็นผู้ถือครองกุญแจจักรราศีผู้หญิงมีภาพเต็มตัว” ไอรีนพูดขึ้นมาบ้าง มองหน้าผมกับมินจุนสลับกันแบบหวาด ๆ จนทำเอาพวกเราหัวเราะออกมา

“คนสุดท้าย นิโคล ฉันเชื่อใจยัยนี่สุด แต่ก็นั่นแหละ โดนต้มซะเปื่อย นิโคลเชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกลธาตุน้ำ เหมือนกับเธอเลยไอรีน แต่นิโคลสามารถทำให้อุณหภูมิรอบตัวเย็นขึ้นจนน้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้ และทำให้เกิดหมอกจนวิสัยทัศน์ในการต่อสู้แย่ ภูติแห่งดวงดาวของนิโคลคือ Gemini [เจมิไน] เจมิไนเป็นผู้หญิงสาวสยองที่มีสองหัวอยู่ในร่างเดียวกัน หัวหนึ่งเมื่อพูดอะไรออกมา คนฟังจะทำตามและเชื่อทุกอย่าง ส่วนอีกหัวมักจะหลับตาตลอด แต่หากลืมตาขึ้นมามองไปยังใคร จะทำให้คนคนนั้นเป็นหิน ดูเหมือนจะเป็นภูติดวงดาวที่ไม่มีความสามารถเท่าไร แต่ก็สามารถปิดประสาทการรับรู้ของเราได้ถึงสองอย่าง คือหูกับตา นับว่าค่อนข้างยากเลยทีเดียวเวลาต่อสู้ด้วย”

“แต่ละคนรับมือด้วยได้ยากจริง ๆ” ไอรีนพึมพำออกมา

“ก็ใช่ แต่ฉันว่าพวกเราเอาชนะได้อยู่แล้ว”

“นี่นายอยู่กับวินเกินจนติดนิสัยมองโลกในแง่ดีของหมอนั่นไปแล้วนะมินจุน” ไอรีนพูด

นั่น ... มีโยงมาหาผมอีก

“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอกไอรีน ไอ้วินเองตอนนี้ก็เริ่มต่อสู้เป็นแล้วนี่ แถมพวกเรามีลุงการันต์ช่วยอีก ฉันรู้จักพวกนั้นดี พวกนั้นไม่กล้าทำอะไรใหญ่โตหรอก ยิ่งเข้ามาปะทะกันซึ่ง ๆ หน้ายิ่งไม่มีทาง พวกนั้นชอบเป็นหมาลอบกัด อาทิตย์นี้ฉันมีแพลนไปคอนเสิร์ตที่อีกเมือง พอมีรูปหลุดเมื่อวานฉันก็มีงานเลย หาเงินมาจ่ายค่าห้องให้หมอนี่หน่อย พวกนายก็ต้องไปกับฉันด้วย ถ้าไม่อยากเสียพันธมิตรหน้าตาดี ๆ คนนี้ไป”

ทำเอาผมกับไอรีนร้องแหวะออกมา ...

“ว่าแต่ไอรีน เธอทำงานอะไรหรอ ไม่เห็นเคยเล่าให้พวกเราฟังเลย” มินจุนพูดต่อ ผมมองหน้าไอรีน รอฟังคำตอบของเจ้าตัวเหมือนกัน อยู่ด้วยกันมาหลายอาทิตย์ก็จริง แต่ไอรีนไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้พวกผมฟังสักเท่าไร พวกเราก็ไม่อยากจะเซ้าซี้ถามเธอมาก ก็ได้แต่รอว่าสักวันกำแพงของไอรีนจะบางลงสักที เจ้าตัวทำท่าทางอึกอักสักพักก่อนพูดออกมา

“ฉันเป็นนักวิจัยเหมือนวินนั่นแหละ แต่ช่วงนี้งดรับงานแล้ว ว่างหลายเดือน” ไอรีนพูด

“จริงหรอ เธอทำงานวิจัยด้านไหน” ผมพูด หรี่ตามองไอรีน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอรีนก็เป็นนักวิจัยเช่นเดียวกันกับผม เพราะดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่

“พัฒนาอาวุธทางวิทยาศาสตร์น่ะ” เจ้าตัวตอบผมกลับมา

 

“อื้ม ๆ ก็ดี สรุปพวกนายตอนนี้ก็รู้คนตามล่าฉันแล้ว ตอนนี้เท่ากับว่า เราสามารถระบุตัวผู้ถือครองกุญแจจักรราศีได้ทั้งหมด 6 คนรวมฉันด้วย คือพวกเราสามคน และอีกสามคนคือ ฮิโรชิ เฉิน และนิโคล พวกนั้นคงจะตามฉันมาในไม่ช้า พวกนายก็ระวังตัวดี ๆ ส่วนผู้ถือครองกุญแจจักรราศีอีก 5 คนที่เหลือ ฉันก็ยังไม่ทราบข้อมูลมากเหมือนกันว่าเป็นใคร เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเราจัดการสามคนนั่นให้ได้ก่อนละกัน ก่อนที่พวกนั้นจะมาฆ่าฉัน” มินจุนพูด

“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน ฉันขอตัวไปพักละ” ไอรีนพูด ทำท่าจะลุกเดินออกไปนอกห้องของผม

“โอเค ๆ ฉันไปด้วย ง่วงละ” ตามมาด้วยมินจุน

“อื้ม ๆ เจอกันพรุ่งนี้ ฝันดีนะไอรีน” ผมพูด ก่อนหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เจ้าตัวทำหน้านิ่ง ๆ มองผมแวบหนึ่งก่อนพูดอืมกลับมาคำเดียวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป

“ทำไมไอรีนฝันดีแค่คนเดียวอะ ฝันดีนะไอรีน” มินจุนพูดขึ้นมา ทำท่าทางล้อเลียนผม

“เออ ๆ ฝันดีไอ้มิน !”

ว่าแล้วผมก็วิ่งไล่เตะมันให้ออกจากห้องไป ...

 

“เป็นอะไรวิน ทำไมยังไม่นอน” เสียงลีโอเรียกผมดังขึ้นมาจากข้างตัว

ตอนนี้ผมกำลังนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงไปมา คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไอรีนกับมินจุนกลับห้องของตัวเองไปได้สักพักแล้ว แต่ผมเองยังไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด

“เปล่า ไม่ได้เป็นไร” ผมพูด หันไปมองกุญแจดอกสีทองที่ถูกวางไว้ที่โต๊ะโคมไฟข้างเตียง

“ก็เห็นอยู่ว่านอนพลิกไปมาเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ ฉันเป็นภูติดวงดาวของนายนะ พันธสัญญาเลือดมันทำให้ฉันรับรู้ได้เวลานายอยู่ใกล้อันตราย หรือรู้สึกไม่ดี ... นายกำลังกลัวใช่ไหม” ลีโอพูดออกมา

 

ลีโอพูดไม่ผิด ใช่ ... ผมกลัว

มีใครบ้างที่ไม่กลัวตาย ...

“โลกมันไม่ได้สวยงามแบบที่นายเคยใช้ชีวิตอยู่กับพ่อหรอกนะวิน ถ้านายไม่เลือกที่จะฆ่า นายก็จะถูกฆ่า นายโชคดีมากนะที่เจอกับมินจุน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น คนที่เชื่อใจคนอื่นได้ง่าย ๆ และมองโลกในแง่ดีแบบนาย จะไม่ต่างอะไรไปจากคนโง่ ๆ คนหนึ่งเลย”

คำพูดของไอรีนยังคงดังอยู่ในหัวผม มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองควรจะจริงจังกับเรื่องกุญแจดอกที่ 13 มากยิ่งขึ้น ถ้ายังไม่อยากถูกฆ่าตาย ยอมรับว่าสิ่งที่ไอรีนพูดมันถูกทุกอย่าง ผมมันเป็นคนมองโลกในแง่ดี และไว้ใจคนอื่นง่ายจนเกินไป มันอาจจะเป็นเพราะผมเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี มีพ่อ มีฟินิกซ์สอนมาแบบนี้ แต่หลังจากที่ฟังมินจุนกับไอรีนพูดถึงเรื่องการฆ่าแบบง่ายดาย ผมก็เริ่มย้อนกลับมาคิด ว่าผมสมควรจะยืนอยู่ที่ตรงนี้จริง ๆ นะหรอ ผมไม่ได้อยากจะใช้ชีวิตคอยตามหนีหรือตามฆ่าใคร

ผมอยากให้เรื่องนี้มันผ่านไปเร็ว ๆ เหลือเกิน ...

“อื้ม ฉันกลัว” ผมพูดออกไปช้า ๆ

ลีโอนิ่งเงียบไปพักใหญ่ ๆ ไม่ตอบอะไรผมกลับมา

แต่สักพักหมอนั่นก็เริ่มพูด ...

“นายไม่ต้องกลัวหรอก ฉันอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ นาย ภูติแห่งดวงดาวทุกคน หลังจากทำพันธสัญญากับผู้ถือครองกุญแจแล้ว พวกเรารักเจ้านาย และพร้อมที่จะปกป้องพวกเขาเท่าชีวิต ขนลุกชะมัดที่ต้องพูดอะไรแบบนี้ แต่ฉันเห็นนายเป็นน้องชายของฉันนะวิน นายต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้อยู่แล้ว”

สิงโตเผือกพูดออกมาอย่างยาวเหยียด จนผมนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าไอ้สิงโตหน้าหม้อจะพูดอะไรจริงจังแบบนี้ออกมาได้ ผมหันไปมองกุญแจแล้วยิ้ม ผมมันเป็นลูกคนเดียว เพิ่งเข้าใจความรู้สึกคนมีพี่น้องก็วันนี้เอง

“นายว่า ฉันจะเก่งขึ้น และเอาชนะผู้ถือครองกุญแจจักรราศีคนอื่นได้ไหม” ผมถามลีโอออกไป

“นายทำได้อยู่แล้ว”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด