ตอนที่แล้วตอนที่ 186 รักษาได้ แต่ข้าไม่รักษาเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 188 ใช่ ข้าขู่กรรโชกเจ้า

ตอนที่ 187 หายนะในฤดูหนาว


ทางเหนือ?

เฟิงหยูเฮงหัวเราะ “นั่นไม่ใช่ตำหนักเย็นหรอกหรือ มันเป็นสถานที่ที่หนาวที่สุดและรกร้างที่สุดในภาคเหนือของพระราชวัง เรื่องมีอยู่ว่าพระสนมซึ่งเป็นที่โปรดปรานซึ่งถูกองค์ชายเก้าฆ่าตายแล้วถูกพาตัวออกจากพระราชวังผ่านประตูทางเหนือและนำไปฝังที่หลุมศพไร้ป้ายชื่อ นางไม่ได้แม้แต่เข้าไปในสุสานของฮ่องเต้”

ฮูหยินผู้เฒ่าสั่นด้วยความกลัว ตอนนี้นางอายุมากขึ้นและไม่ชอบฟังการพูดถึงคนตาย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพระชายาบุ ดูเหมือนว่าตระกูลบุกำลังจะพบกับหายนะ

ในความเป็นจริงตระกูลบุได้พบกับหายนะแล้ว เริ่มตั้งแต่วินาทีที่ใต้เต้าบุเสียชีวิตเพราะพระชายาบุตกลงมาทับ ฮ่องเต้ไม่ทรงเมตตาตระกูลบุอีกต่อไป แต่ยังคงมีตำแหน่งของพระชายาและตำแหน่งของบุชงที่ยังคงปรากฏอยู่ ดังนั้นความรู้สึกในการถูกลดความโปรดปรานจึงไม่เป็นที่สังเกตได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้พระชายาบุก็ได้สูญเสียอำนาจของนางไปแล้ว ตระกูลบุตกต่ำลง

“เจ้ากำลังพูดว่า…” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างลังเลว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าฮ่องเต้จะจัดการกับข้าราชสำนัก ? ถ้าอย่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับบิดาของเจ้า ?”

เฟิงหยูเฮงตอบว่า “ท่านพ่อได้สร้างปัญหาหรือไม่เจ้าคะ ?”

ฮูหยินผู้เฒ่าก็ตกใจเล็กน้อย เมื่อนึกถึงคำถามของเฟิงหยูเฮงอย่างรอบคอบ นางรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าคำถามที่นางถามคือเฟิงจินหยวนอาจทำสิ่งใดที่ทำให้ฮ่องเต้ขุ่นเคืองหรือไม่

แต่นางจะตอบอย่างไร ?

“ความประพฤติของบิดาเจ้าและสิ่งที่เขาทำนั้นเจ้าก็เห็นทุกวัน บางสิ่งได้แต่พูดคุยภายในคฤหาสน์เท่านั้น อาเฮง ตระกูลเฟิงของเราต้องไม่จบลงเช่นเดียวกันกับตระกูลบุ!”

เฟิงหยูเฮงนวดเสร็จแล้ว นางก็พูดว่า “ไม่ว่าเราจะจบลงเช่นเดียวกับตระกูลบุหรือไม่ หลานสาวก็ไม่อาจรู้ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนการของท่านพ่อ ท้ายที่สุดท่านพ่อก็เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่มีใครบอกเราว่ามันคุ้มค่าหรือไม่”

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่าเฟิงจินหยวนไม่ใช่คนที่ฟังคำแนะนำเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เขาจะฟังนางหรือไม่ว่าเขาจะจบลงด้วยการกลับกลายเป็นเรื่องอื่น ในท้ายที่สุดพวกเขาเป็นแค่ผู้หญิง ความรุ่งเรืองหรือตกต่ำของตระกูลไม่เคยพึ่งพาผู้หญิง

ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจแล้วก็ได้เฟิงหยูเฮงช่วยประคองเพื่อเอนหลังพิงหมอนอิงด้านหลังนาง จากนั้นนางก็ยื่นมือออกมาจากใต้หมอนของนาง

“นี่เป็นของเจ้า” ฮูหยินผู้เฒ่าส่งกระดาษให้เฟิงหยูเฮง “เรือนของเจ้ากลายเป็นสำนักงานมณฑล และข้าได้ยินมาว่ามีคนจำนวนมากไปแสดงความยินดีกับเจ้า นี่เป็นของขวัญที่ข้ามอบให้เจ้า”

เฟิงหยูเฮงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้นเปิดแผ่นกระดาษ มันเป็นร้านค้าในเมืองหลวง

“นี่เป็นหนึ่งในร้านค้าส่วนตัวของข้า มีอีกไม่กี่แห่ง พวกมันทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เมื่อเจ้าแต่งงาน และจะถูกนำมาใช้เป็นสินเดิม”

คำพูดของฮูหยินผู้เฒ่ามีความจริงใจมากซึ่งทำให้เฟิงหยูเฮงรู้สึกอบอุ่นในใจของนาง จากนั้นนางเก็บโฉนดในแขนเสื้อของนาง “ท่านย่า ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากร้านห้องโถงสมุนไพร ข้าจะคิดในภายหลังเกี่ยวกับร้านนี้ เมื่อถึงสิ้นเดือน หลังจากที่สรุปยอดขายของร้าน หลานจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งให้ท่านย่าเจ้าค่ะ”

นัยน์ตาของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นประกายเมื่อได้ยิน “เงินครึ่งหนึ่ง ?” จากนั้นนางก็พูดทวนและจำได้ว่านางไม่สามารถขอเงินนี้ และโบกมือ “ไม่ ไม่มันเป็นของขวัญสำหรับเจ้า ดังนั้นมันจึงเป็นของเจ้า คนอื่น ๆ ได้มอบของขวัญที่ดีมากมายมาสู่คฤหาสน์ของเจ้า ในฐานะที่เป็นย่าของเจ้า ข้าจะไม่ให้ของขวัญแก่เจ้าได้อย่างไร”

เฟิงหยูเฮงตบมือของฮูหยินผู้เฒ่าเบา ๆ “ท่านย่ามอบร้านค้าส่วนตัวให้อาเฮง อาเฮงจะไม่ให้เงินท่านย่าได้อย่างไร อาเฮงได้รับความรักจากท่านย่า และข้าหวังว่าท่านย่าจะสามารถยอมรับความรักของอาเฮงได้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินนางเรื่องนี้นางยิ่งรู้สึกว่าหลานสาวนี้ยิ่งใหญ่ นางอดไม่ได้ที่จะชมเชย “ในท้ายที่สุดต้องขอบคุณฮ่องเต้ที่มีดวงตาที่เฉียบแหลม ซึ่งรู้ว่าบุตรสาวแบบไหนที่มีคุณสมบัติเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิง อาเฮงนิสัยดีและรู้จักสัมมาคารวะ มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็นบุตรสาวที่ดีของตระกูลเฟิง”

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม บนพื้นผิว ดูเหมือนจะเป็นความสงบสุข อย่างไรก็ตามฮูหยินผู้เฒ่าคิดว่านางคงไม่สามารถทำให้หลานสาวคนรองนี้ขุ่นเคืองได้ ไม่ว่าตระกูลเฟิงจะรุ่งเรืองหรือพบกับความโชคร้ายก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นางคิด สำหรับเฟิงหยูเฮง นางกำลังคิดถึงเงินจำนวนนับไม่ถ้วนที่ฮูหยินผู้เฒ่านำเงินมาจากเฉินซื่อและเฉินหยู แต่นางก็ยังเป็นคนแรกที่เสียอารมณ์ ตอนนี้นางเรียกหลานสาวคนรองของนางอย่างใกล้ชิด แต่นางก็ยังเป็นคนแรกที่จัดการขับไล่พวกเขาไปหลังจากได้ยินนักพรตจื่อหยางทำนายว่านางเป็นดาวหายนะ

น่าเสียดาย ! นางกลับมา แต่เฟิงหยูเฮงตัวจริงเสียชีวิตแล้วในภูเขาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ นางสัญญากับเด็กผู้หญิงคนนั้นว่านางจะต้องแก้แค้นแน่นอน

ในวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณเที่ยง เฟิงหยูเฮงตื่นขึ้นมา เมื่อวังซวนเข้ามานางถือชุดเสื้อผ้าฤดูหนาวที่เพิ่งตัดมาใหม่ ดูเหมือนว่าจะหนากว่าชุดที่ผ่านมา

เฟิงหยูเฮงลุกขึ้นไปจับผ้าของนางแล้วพูดว่า “มันหนามาก หากใส่มันนาน ๆ มันจะร้อน”

วังซวนยิ้ม และพูดว่า “ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เกี่ยวกับมัน ข้างนอกหิมะตกและมันหนาวมากเจ้าค่ะ”

“หิมะตกหรือ?” เฟิงหยูเฮงตกตะลึงจากนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เป็นเรื่องดีที่หิมะตกลงมา หิมะที่เย็นจัดจะปิดบังเชื้อโรค ดังนั้นจำนวนผู้ป่วยจะลดลง”

วังซวนที่มองโลกในแง่ดีดูแลการแต่งตัวเฟิงหยูเฮง และพูดว่า “แต่มีคนจนบางคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว”

นางหยุดขณะสวมเสื้อและนึกถึงหายนะในฤดูหนาวที่ซวนเทียนหมิงกล่าว นางเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อยขณะสวมเสื้อคลุมด้านนอกแล้วเดินไปที่ประตู

วังซวนกังวลว่านางจะไม่สบาย ดังนั้นนางจึงรีบตามหลังมาและสวมเสื้อคลุมให้เฟิงหยูเฮง เปิดประตู หิมะตกลงมาเยอะมาก ลมหนาวพัดผ่านทำให้นางเริ่มไอ

“คุณหนูรองรีบกลับเข้าไปข้างในเถิดเจ้าค่ะ !” วังซวนดึงนางกลับ “ตอนนี้หิมะตกหนักมาก คุณหนูเพิ่งตื่น มันจะดีที่สุดถ้าคุณหนูจะไม่ออกไปข้างนอก”

เฟิงหยูเฮงไม่เถียงกับนาง นางถอดเสื้อคลุมออก ฉิงซวงนำอาหารเช้ามาให้นางทานในห้อง หลังจากที่นางทานเสร็จแล้ว ฉิงหลิงวิ่งมาจากด้านข้างของเหยาซื่อ หัวของนางปกคลุมไปด้วยหิมะ นางพูดว่า “ท่านฮูหยินใหญ่ให้คุณหนูไปหาที่เรือนเจ้าค่ะ ตอนนี้อนุอันและคุณหนูสามไปถึงแล้วเจ้าค่ะ”

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและเรียกให้วังซวนเอาน้ำอุ่นใส่ขวดไว้ถือ จากนั้นนางจึงติดตามฉิงหลิงไปที่เรือนเล็ก ๆ ของเหยาซื่อ

ดูเหมือนว่าหิมะจะตกมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่นางเดินไปตามทางนางพบว่ามันยากที่จะเห็นเส้นทาง ถ้านางไม่คุ้นเคยกับเรือนตงเซิง นางกลัวว่านางจะไม่กล้าเดินไปข้างหน้าเลย

เหยาซื่อยืนที่ประตูห้องเพื่อต้อนรับเฟิงหยูเฮง เมื่อเห็นพวกเขามาถึง นางก็รีบถือร่มและไปรับพวกเขา แต่ในพายุเช่นนี้ร่มก็ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงขณะที่ลมพัดร่ม

เฟิงหยูเฮงดึงเหยาซื่อเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เมื่อเรือนตงเซิงกลายเป็นสำนักงานใหญ่ของมณฑล จำนวนบ่าวรับใช้ก็เพิ่มขึ้นอีก เมื่อพวกเขาเข้ามา บ่าวรับใช้บางคนก็รีบเข้ามาถอดเสื้อคลุมให้และส่งชาอุ่นให้พวกเขา

อันชิก็เดินไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับพวกเขาและกล่าวโทษตัวเองว่า “ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ว่าหิมะจะตกลงมาอย่างหนัก ข้าก็คงไม่มาวันนี้และทำให้อาเฮงต้องลำบากเช่นกัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาเฮงป่วย”

เฟิงหยูเฮงจิบชาขณะที่ร่างกายของนางเริ่มอุ่นขึ้น นางให้ทุกคนนั่งลงอย่างรวดเร็วจากนั้นกล่าวว่า “แม่รองอันอย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะ การที่แม่รองอันและเซียงหรูมาเยี่ยมเป็นสิ่งที่ทำให้ข้ามีความสุขมาก ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดข้าจะต้องมาที่นี่เพื่อพบท่านแม่ของข้า”

เหยาซื่อยืนขึ้นแล้วหอบกองเสื้อผ้าไปให้เฟิงหยูเฮงพูดว่า “ดูสิ เสื้อผ้าเหล่านี้อนุอันตัดเย็บให้กับจื่อหรูเอง มีทั้งหมด 3 ชุด อนุอันใช้เวลาหลายวันในการตัด”

เฟิงหยูเฮงรับเสื้อผ้าและมองพวกมันด้วยความยินดี เป็นเสื้อผ้าฤดูหนาวทั้งหมด มีเสื้อคลุม, เสื้อคลุมด้านนอก ใช้ผ้าเนื้อดีและมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ฝีมือดีมากเช่นกัน นางอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญ “แม่รองอันฝีมือดีมาก!”

อันชิยิ้มและพูดว่า “นี่เป็นสิ่งเดียวที่คุ้มค่าที่จะนำออกมา ทุกวันข้าเห็นคนไปที่สำนักงานใหญ่ของมณฑลเพื่อส่งมอบของขวัญ ข้าไม่รู้ว่าจะมอบของขวัญอะไรเพื่อแสดงความยินดีกับคุณหนูรอง เจ้าไม่ขาดแคลนเงินและสิ่งของ ข้าคิดเรื่องนี้นานมาก ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าคุณชายรองอยู่คนเดียวในเซียวโจว จะไม่ตัดเสื้อผ้าให้เขาได้อย่างไร มันเป็นเพียงการแสดงความรักของเรา และข้ากลัวว่าคุณหนูรองและพี่เหยาจะไม่ชอบ”

เหยาซื่อกล่าวอย่างรวดเร็ว “เสื้อผ้าที่ดีเช่นนี้ข้าจะไม่ชอบมันได้อย่างไร พวกมันดีกว่าเสื้อผ้าที่ข้าส่งไปให้จื่อหรูด้วยซ้ำ”

เฟิงหยูเฮงชอบของขวัญที่นำมาแสดงความยินดีนี้มาก “แม่รองอันดีที่สุด” เมื่อมองไปที่เฟิงเซียงหรู นางกล่าวว่า “สองสามวันที่ผ่านมาเจ้ายังไม่ได้มาวิ่ง ข้ายังขี้เกียจอยู่พักหนึ่ง พรุ่งนี้มาเริ่มกันใหม่นะ”

เฟิงเซียงหรูมีความสุขมากและพยักหน้าซ้ำ ๆ “ได้ เราจะวิ่งเมื่อพี่รองพูดว่าเราควรวิ่ง”

จากนั้นพวกเขากุยกันต่อไปพักหนึ่ง อันชิพยายามที่จะออกไปสองสามครั้ง แต่ไม่เพียงแต่หิมะข้างนอกตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนท้ายราวกับว่าเทพบนสวรรค์กำลังเทถังหิมะลงมามันน่ากลัวมาก

เฟิงเซียงหรูรู้สึกกลัวเล็กน้อย ขณะที่นางถามอันชิ “ถ้ามันยังตกแบบนี้ เราจะกลับเรือนได้หรือท่านแม่ ?”

เฟิงหยูเฮงปลอบโยนนางอย่างรวดเร็ว “ถ้าเจ้ากลับเรือนไม่ได้ ก็นอนที่เรือนของข้า”

หวงซวนเปิดหน้าต่างแล้วโยนบางสิ่งออกไปข้างนอก จากนั้นนางก็สังเกตสักพักหนึ่งก่อนที่จะหันหลังเพื่อบอกพวกเขาว่า “ตอนนี้หิมะสูงถึงขาแล้วเจ้าค่ะ คงกลับเรือนไม่ได้ แม้แต่เปิดประตูก็เปิดไม่ได้เจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ เฟิงหยูเฮงและวังซวนก็รีบไปที่ประตูเพื่อดู พวกเขาพยายามเปิดประตูสองสามครั้ง แต่พวกเขาประสบความสำเร็จในการเปิดประตูเท่านั้น ทันทีที่พวกเขาเปิดมันออกหิมะเริ่มเข้ามาในห้องผ่านประตูที่เปิด

ทั้งสองปิดประตูอย่างรวดเร็ว และวังซวนพูดกับเฟิงเซียงหรูว่า “คุณหนูสามดูเหมือนว่าคุณหนูจะต้องอยู่ที่นี่จริง ๆ เจ้าค่ะ”

อันที่จริงแล้วมันไม่สำคัญกับอันชิและเฟิงเซียงหรูที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดพวกนางทิ้งคนไว้ที่ลานหน้าเรือนของพวกนางและก็บอกพวกเขาว่าพวกนางกำลังจะไปที่เรือนตงเซิง หากคนในตระกูลเฟิงถามพวกเขาจะสามารถให้คำตอบได้ ยิ่งกว่านั้นพวกนางไม่สามารถออกจากห้องได้ แล้วผู้คนในตระกูลเฟิงจะสามารถออกมาได้หรือ ? บางทีเฟิงจินหยวนอาจจะติดอยู่ในพระราชวังเพราะเขาไปราชสำนักในตอนเช้า

สำหรับเหตุผลที่แท้จริงอันชิเป็นห่วง มันเป็นหายนะที่จะมาพร้อมกับหิมะ

“ในปีก่อน ๆ หิมะไม่เคยตกหนักเช่นนี้ในเมืองหลวงเลย” อันชิพูดขณะที่กลับไปที่ที่นั่งของนาง รับขวดน้ำร้อนจากบ่าวรับใช้ นางส่งให้เฟิงเซียงหรูและพูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่ามีเพียงพื้นที่ทางตอนเหนือของราชวงศ์ต้าชุนเท่านั้นที่เห็นหิมะตกหนักเช่นนี้ราวกับถูกเทลงจากถัง ทุกห้าหรือหกมณฑลในภาคเหนือจะประสบภัยพิบัติจากฤดูหนาว ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกือบสิบคนจะประสบภัยพิบัติ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจะมุ่งหน้าไปทางใต้ ระหว่างทางจะมีบางคนที่เสียชีวิตจากความหนาวเย็นหรือจากความหิวโหย คนที่สามารถอยู่รอดได้อย่างแท้จริงนั้นมีอยู่น้อยมาก”

เหยาซื่อกล่าวต่อว่า “ถูกต้อง บิดาของข้าเคยไปทางเหนือครั้งหนึ่ง ท่านพ่อเปิดร้ายขายยาขึ้นระหว่างทาง เนื่องจากขาดกำลังคน ผู้คนที่รอดได้จึงอยู่ในชนกลุ่มน้อย ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการแข็งตายตามถนน แต่นั่นคือในมณฑลทางภาคเหนือ เคยมีใครเคยได้ยินว่ามีหิมะตกหนักในเมืองหลวง?”

เมื่อได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสอง เฟิงหยูเฮงก็ขมวดคิ้วและถามว่า “ท่านแม่กับแม่รองอันหมายความว่าหิมะนี้เคยตกหนักเช่นนี้แค่ในภาคเหนือหรือเจ้าคะ ?”

“ใช่” ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน

เฟิงหยูเฮงก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เป็นไปได้ไหมที่ภัยพิบัติฤดูหนาวในปีนี้จะมาถึงเมืองหลวง แต่ถ้าแม้แต่เมืองหลวงได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ สถานที่อื่น ๆ ก็คงไม่รอด สถานการณ์ของพวกเขาจะไม่เลวร้ายยิ่งกว่านี้หรือ?

นางไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้อีกต่อไป เมื่อนางเดินไปที่หน้าต่าง นางเปิดดูแล้วหันหลังกลับและพูดกับทุกคนว่า “ท่านแม่ช่วยจัดห้องให้แม่รองอันและเซียงหรูพักนะเจ้าคะ ข้าต้องไปที่ห้องเก็บยา อย่างน้อยที่สุดเรือนตงเซิงของเราต้องเตรียมยาไว้”

เหยาซื่อพยักหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะจัดห้องให้แม่รองอันและเซียงหรู เจ้าเดินกลับเรือน ระวังตัวด้วย”

วังซวนตอบว่า “ท่านฮูหยินใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เรามีบานซู เขาสามารถดูแลคุณหนูไปได้เจ้าค่ะ”

เหยาซื่อรู้ว่าเฟิงหยูเฮงย่อมมีวิธีการในการกลับไป ดังนั้นนางพยักหน้าและไม่พูดอะไรเพิ่มเติม

นางเห็นเฟิงหยูเฮงเปิดหน้าต่างและปีนขึ้นอย่างช่ำชอง ขณะที่นางบีบหน้าต่างออกไป เงาก็จับนางแล้วก็บินไปพร้อมกับการใช้พลังภายใน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่ทราบก็คือห้องเก็บยาเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของนางคือการออกจากคฤหาสน์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด