ตอนที่แล้วทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 30
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 32

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 31


ตอนที่ 31

หลี่หมิงเจิ้งเห็นหยางซิ่นเจ๋ออยู่ไกลๆ จึงตะโกน “ครูหยาง คุณพร้อมแล้วก็บอกให้พวกเขาเริ่มวิ่งเลยครับ”

หยางซิ่นเจ๋อก็ตะโกนกลับไป “ครับ!” ถือโทรศัพท์มือถือไว้ พูดกับหลี่กวงเย่าและคนที่เหลือ “วิ่งรอบสนามสิบรอบ เดี๋ยวนี้ เริ่ม !”

หลี่กวงเย่าตอบสนองเร็วที่สุด เมื่อหยางซิ่นเจ๋อพูดจบก็เริ่มวิ่ง “วิ่งช้าที่สุด เลี้ยงน้ำยี่ห้อSuper Supau!”

 

อีกด้านหนึ่ง หลี่หมิงเจิ้ง อู๋ติ้งหวาและเย่อวี้เฉิง ช่วยกันออกแรงย้ายตะกร้าใส่ลูกบาส เก้าอี้สิบตัวและลูกเทนนิสหลายลูก เริ่มจัดวางเก้าอี้ในสนามบาสตามตำแหน่งที่หลี่หมิงเจิ้งชี้

พอจัดวางเสร็จ หลี่หมิงเจิ้งมายืนข้างหยางซิ่นเจ๋อ “เป็นไง ทำได้ไหม?”

“ไม่มีปัญหาครับ ผมจัดการเอง” หยางซิ่นเจ๋อแสดงความมั่นใจออกมาให้หลี่หมิงเจิ้งเห็น ตอนนี้มีคนหนึ่งมาถึงสนามบาส ในมือ ถืออาหารเช้า ท่าทางสะลึมสะลือ

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?” หลี่หมิงเจิ้งไม่ได้ใส่นาฬิกามา เพราะว่าวิ่งมาจากบ้าน

“หกโมงสิบนาทีครับ”

“เฮ้ย เธอ! เธอนั่นแหละ มาสายสิบนาที วิ่งเพิ่มอีกสิบรอบ! หลังจากวอร์มร่างกายเสร็จ รีบวิ่งยี่สิบรอบ!” หลี่หมิงเจิ้งตะโกนใส่ผู้เล่นที่มาสาย

คนนั้นตกใจจนสะดุ้ง รีบวางกระเป๋านักเรียนกับอาหารเช้าไว้ด้านข้าง พอยืดกล้ามเนื้ออย่างคร่าวๆ เสร็จ ก็เริ่มวิ่ง

“ติ้งหวา ยังมีผู้เล่นอีกกี่คนที่ยังไม่มา?” หลี่หมิงเจิ้งถาม

“สี่คน” อู๋ติ้งหวาตอบ

“ซิ่นเจ๋อ ยึดตามนาฬิกาของคุณเป็นหลักนะ คนที่มาสาย สายหนึ่งนาทีวิ่งเพิ่มหนึ่งรอบ ผู้เล่นที่มาสาย ก็ไม่ต้องบันทึกเวลาของพวกเขาแล้ว ผู้เล่นที่มาสาย โดยทั่วไปแล้วไม่มีทางทนอยู่ภายใต้ข้อเรียกร้องของผมได้เกินหนึ่งอาทิตย์” หลี่หมิงเจิ้งทำมือไขว้กันที่ด้านหน้าของหน้าอก และมองอย่างเย็นชาไปทางหลี่กวงเย่าและคนที่เหลือที่กำลังวิ่ง

“ครูหยาง คุณเคยได้ยินชื่อ โคบี้ ไบรอันไหม?” หลี่หมิงเจิ้งถาม

“เคยได้ยินสิครับ”

“ถ้าอย่างนั้น เกี่ยวกับข้อมูลของเขา ผมก็คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะแล้วสินะ ที่ผมพูดถึงเขา เพียงเพราะว่าเขาเคยพูดมาประโยคหนึ่ง ‘เวลาที่ผมฝึกซ้อมทรมานตัวเอง เพื่อว่าในสนามจะได้ไม่ถูกทรมาน’ ครูหยาง ผมไม่ได้เรียกร้องให้ผู้เล่นทุกคนต้องได้ระดับเดียวกับเขา เขาอยู่ในเอ็นบีเอ ยังสามารถทำได้แปดสิบเอ็ดคะแนนอย่างน่าประหลาด แต่อย่างน้อย สำหรับบาสเกตบอลที่ตัวเองชอบ ต้องแสดงกิริยาที่มีความรับผิดชอบอย่างจริงจังออกมา นี่คือปรัชญาในการสอนบาสเกตบอลของผม”

“ผมคิดว่า นี่ไม่ใช่เพียงแค่ปรัชญาในการสอนบาสเกตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นปรัชญาชีวิตของคุณด้วย ในตัวของหลี่กวงเย่า ผมก็มองเห็นลักษณะพิเศษที่เหมือนกัน สำหรับบาสเกตบอลที่ชอบ การทุ่มเทแรงกาย แรงใจไม่ถือว่ามากเกินไปจริงๆ สำหรับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ขอปลีกตัวห่างเหมือนกับขยะ” หยางซิ่นเจ๋อตบไหล่ของหลี่หมิงเจิ้ง “ลูกชายของคุณ เป็นนักเรียนคนแรกที่สอบได้ศูนย์คะแนน ตั้งแต่ผมมาเป็นครูสอนวิชาเคมีในโรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ย” หลี่หมิงเจิ้งที่ท่าทางจริงจัง ก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ฮ่า

ฮ่า ฮ่า…”

พอหลี่กวงเย่าวิ่งครบสิบรอบ ผู้เล่นตัวสำรองคนสุดท้ายเพิ่งมาถึง และเขายังต้องวิ่งรอบสนามสามสิบห้ารอบ

“เอาล่ะ พักห้านาที ดื่มน้ำ” อู๋ติ้งหวาตบมืออย่างแรง น้ำหลายขวด ประมาณหนึ่งลิตร เตรียมไว้ให้พวกเธอเรียบร้อยแล้ว

“โค้ช หนึ่งรอบสนามนี้ยาวกี่เมตรครับ?” หลี่กวงเย่าหอบแฮกๆ หยาดเหงื่อคล้ายเม็ดถั่วเขียว หยดลงมาจากหน้าผากไม่หยุด

“สี่ร้อยเมตร” อู๋ติ้งหวาส่งน้ำขวดหนึ่งให้หลี่กวงเย่า

“ว้าว ถ้างั้นวันนี้ผมวิ่งมาแล้ว สิบสี่กิโลเมตร หวังว่าพ่ออย่าฝึกโหดเกินไป” หลี่กวงเย่ารับน้ำมา “ขอบคุณครับโค้ช”

อู๋ติ้งหวามองด้านหลังของหลี่กวงเย่า จำได้ว่าตอนที่หลี่หมิงเจิ้งวิ่งเข้าเรียน เลิกเรียน ยังคงเป็นผู้เล่นในทีมที่ฝึกซ้อมเสร็จเร็วที่สุด ในชั่วพริบตา ในสายตาของอู๋ติ้งหวา ด้านหลังของหลี่กวงเย่าทับซ้อนกับด้านหลังของหลี่หมิงเจิ้งในปีนั้น

“พ่อลูกสองคน แปลกประหลาดจริงๆ…”

หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที เว่ยอี้ฝานกับหยางเจิ้นอี้ก็มาถึง ไมค์ช้ากว่าหลี่กวงเย่าสองนาที แล้วก็เซี่ยหย่าซู เปาต้าเหว่ย ผ่านไปสามนาทีครึ่ง จันเจี๋ยเฉิงที่มาถึงคนสุดท้ายก็ได้มาถึง ในเวลานี้หลี่กวงเย่า ดื่มน้ำเสร็จแล้ว พักเพียงพอแล้ว กำลังจะเริ่มฝึกเลี้ยงบอล

หลี่หมิงเจิ้งมองที่ทางวิ่ง ที่เหลือล้วนเป็นผู้เล่นที่มาสายทั้งหมด ไม่สนใจ เดินมาที่ด้านหน้าของไมค์ ประกาศ “เดี๋ยวการฝีกซ้อมถัดไป คือ วิ่งไปกลับ มีสามช่วง ช่วงที่หนึ่งคือ วิ่งจากเส้นกลางสนามไปถึงเส้นสนามคะแนน ช่วงที่สองคือวิ่งจากกลางสนามไปสุดขอบสนาม ช่วงที่สามคือวิ่งจากขอบสนามอีกฝั่งไปยังอีกฝั่ง ผมจะจำกัดเวลาพวกคุณ คนที่ทำไม่ได้ภายในเวลาที่ผมกำหนด ต้องวิ่งเพิ่มหลายรอบ เวลาวิ่งไปกลับต้องแตะพื้นด้วย ผมให้เวลาพวกคุณพักสามนาที หลังจากสามนาทีแล้ว เริ่มซ้อม!”

พอพูดจบ หลี่หมิงเจิ้งกวักมือเรียกอู๋ติ้งหวาและหยางซิ่นเจ๋อมา “อีกสักครู่ ตอนที่เริ่มวิ่งไปกลับ ฉันกลัวว่าซิ่นเจ๋อคนเดียวจะไม่ไหว ติ้งหวา นายช่วยหน่อย พวกคุณสองคนยืนสองด้านของสนาม ดูว่าใครทำไม่ได้ตามมาตรฐานของผม”

“โอเค” หยางซิ่นเจ๋อกับอู๋ติ้งหวาพยักหน้าพร้อมกัน

“ไอ้กุ๊ยเย่ ทำอะไรอยู่?”

“เขาเป็นห่วงผู้เล่นที่วิ่งยี่สิบ สามสิบรอบอยู่ เลยไปยืนดูข้างๆ” อู๋ติ้งหวาอธิบาย

“อื้อ งั้นก็ปล่อยให้เขาดูเถอะ” หลี่กวงเย่ามองไปที่ทางวิ่ง

“เออ ฝึกซ้อมเสร็จ อย่าเพิ่งปล่อยทุกคนนะ ต้องให้พวกเขาเลือกเบอร์ก่อน” อู๋ติ้งหวาพูดเสริม

หลี่หมิงเจิ้งส่ายหน้า “เรื่องนี้ไม่รีบ หลังจากผ่านอาทิตย์นี้ไปค่อยว่ากัน” พูดจบ หมุนตัว ตบมืออย่างแรง ตะโกนพูด “หมดเวลาพักแล้ว เริ่มฝึกวิ่งไปกลับช่วงแรกได้แล้ว”

หลี่หมิงเจิ้ง แบ่งผู้เล่นออกเป็นสี่กลุ่ม ใต้แป้นแต่ละฝั่ง มีสองทีม “ไปกลับ นับเป็นหนึ่งรอบ ภายในสี่สิบวินาทีต้องวิ่งครบสิบรอบ คนที่ทำเกินเวลา ต้องวิ่งเพิ่มอีกห้ารอบ พร้อมยัง?”

 

หลี่กวงเย่าที่ยืนอยู่แถวที่หนึ่ง เซี่ยหย่าซู เว่ยอี้ฝานกับหยางเจินอี้พูดพร้อมเพรียงกัน “พร้อมแล้ว”

“ดี เตรียมพร้อม เริ่ม!”

หลี่กวงเย่าออกวิ่งเป็นคนแรกอีกครั้ง เร็วจนน่าตกใจ แม้ว่าหยางเจินอี้กับเว่ยอี้ฝานตอนที่ฝึกซ้อมบาสปกติ ก็ฝึกวิ่งไปกลับบ่อยๆ แต่ความเร็วก็ยังคงตามหลี่กวงเย่าไม่ทัน แต่เซี่ยหย่าซูที่วิ่งอยู่ด้านของหลี่กวงเย่า ตอนที่วิ่งครบรอบที่สอง หลี่กวงเย่าวิ่งครบ

สามรอบแล้ว

ใช้เวลาแค่ไม่ถึงยี่สิบวินาที หลี่กวงเย่าก็วิ่งครบสิบรอบ แต่ว่าเขาไม่หยุดก้าวขา ยังคงวิ่งต่อ

“หมดเวลาแล้ว!” หยางซิ่นเจ๋อไม่ยอมปล่อยเวลาให้ พอครบสี่สิบวินาทีก็รีบประกาศ แต่เซี่ยหย่าซูกับหยางเจินอี้ยังวิ่งไม่ครบ ยังคงวิ่งอีกห้ารอบอย่างตั้งใจ แต่ว่าในสนามยังมีคนวิ่งอยู่สามคน เพราะว่าหลี่กวงเย่าก็วิ่งกับพวกเขา

หลังจากที่หลี่กวงเย่า วิ่งเป็นเพื่อนกับเซี่ยหย่าซู หยางเจินอี้ครบห้ารอบแล้ว การฝึกซ้อมครั้งนี้ เขาวิ่งไปกลับทั้งหมดยี่สิบรอบ

นอกจากจริงจังกับมาตรฐานของตัวเองแล้ว หลี่กวงเย่าทำอย่างนี้ยังมีอีกหนึ่งเป้าหมาย ก็คือทำให้เพื่อนร่วมทีมของเขา รู้ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมคือเขา แม้ว่าเป็นเพื่อนร่วมทีม แต่ระหว่างเพื่อนร่วมทีมด้วยกันแล้วก็มีการแข่งขัน การแข่งขันในสนามนี้ หลี่

กวงเย่าก็ต้องการเป็นที่หนึ่ง

ขณะที่หลี่กวงเย่ารออีกเจ็ดคน ฝีกวิ่งไปกลับให้ครบ ผู้เล่นตัวสำรองที่สายไปสิบนาที ถูกทำโทษให้วิ่งเพิ่มอีกสิบรอบก็วิ่งครบพอดี

“รายการต่อไป เก็บลูกเทนนิส กวงเย่าออกมา” หลี่หมิงเจิ้งหยิบลูกเทนนิสสามลูกออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “เดี๋ยวแบ่งเป็นสามทีม ผมสาธิตให้ดูก่อนว่า ต้องทำอย่างไร”

หลี่กวงเย่าทำท่าป้องกัน ก้มต่ำอยู่ด้านหลังเส้น หลี่หมิงเจิ้งอยู่ห่างจากหลี่กวงเย่าประมาณสามเมตร กลิ้งบอลไปทางด้านซ้ายของเขา แล้วพอบอลกลิ้งไปถึงครึ่งทาง รีบกลิ้งบอลอีกลูกไปทางขวาของเขา หลี่กวงเย่าที่อยู่ตรงข้าม ใช้รูปแบบการเดินของปู เคลื่อนไหวไปทางซ้ายก่อน แล้วค่อยไปทางขวา กลิ้งลูกเทนนิสที่กลิ้งมาจากทั้งสองฝั่งกลับคืนไปอย่างรวดเร็ว

“ทำแบบนี้ ดูเข้าใจไหม?” หลี่หมิงเจิ้งตั้งใจกลิ้งบอล ไม่เงยหน้าขึ้น “เดี๋ยวแบ่งทีมละสองคน ยืนอยู่ด้านข้างเส้น นับเวลาหนึ่งนาที สลับกันกลิ้งลูกเทนนิส รับลูกเทนนิสไม่ได้หนึ่งลูก วิ่งรอบรอบสนามหนึ่งรอบ พร้อมแล้วก็เริ่มเลย” พูดจบ หลี่หมิงเจิ้งก็หยิบลูกเทนนิสออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กลิ้งออกไป “ผู้ช่วยหยาง ผมฝากคุณด้วยนะ”

เว่ยอี้ฝาน มองดูหลี่กวงเย่าที่เคลื่อนไหว ก้าวขา ในใจไม่ยอมพ่ายแพ้ รีบไปหาเพื่อน เว่ยอี้ฝานกับหยางเจินอี้ เซี่ยหย่าซูกับไมค์ เปาต้าเหว่ยกับจันเจี๋ยเฉิง ภายใต้คำสั่งของหยางซิ่นเจ๋อ การฝึกกลิ้งลูกเทนนิสก็เริ่มขึ้น

ส่วนคนที่เพิ่งจะวิ่งครบยี่สิบรอบ ภายใต้การนำของอู๋ติ้งหวา เริ่มทำงานฝึกวิ่งไปกลับ

“นี่ลูกฝืนไปไหม?” หลี่กวงเย่าที่วิ่งไปแล้วสิบสี่กิโลเมื่อเช้านี้ หลี่หมิงเจิ้งเกรงว่าร่างกายของเขาจะทนไม่ไหว

“นิดหน่อยเอง!” หลี่กวงเย่าก้าวขาอย่างว่องไว ตั้งใจตะโกนเสียงดัง “อีกสักลูกก็ไม่มีปัญหา”

พอหยางเจินอี้ได้ยินคำพูดของหลี่กวงเย่า เหมือนชีวิตรอดขึ้นมาทันที เพื่อไม่อยากจะแพ้หลี่กวงเย่า ความฮึกเหิมก็เพิ่มขึ้น หลังจากฝึกวิ่งไปกลับ วิ่งรอบสนามเสร็จ สองขาปวดร้าวไปหมด

“หมดเวลา เปลี่ยนกลุ่ม!”

พอได้ยินเสียงตะโกนของหยางซิ่นเจ๋อ หลี่กวงเย่ารีบพูด “เป็นยังไง มีใครอยากวิ่งรอบสนาม? ถ้ามี บอกฉันนะ ฉันจะวิ่งด้วย แต่ถ้าวิ่งแพ้ฉัน ต้องเลี้ยงน้ำฉันด้วย!”

หลี่กวงเย่ายั่วยุ่อีกครั้ง ทำให้เว่ยอี้ฝาน ใช้เวลาในการเปลี่ยนทีมไม่เกินสามนาที เริ่มฝึกอีกรอบ

หลังจากทั้งสามทีมฝึกกลิ้งลูกเทนนิสเสร็จ เว่ยอี้ฝานกับหยางเจินอี้ ต้องวิ่งสามรอบ เซี่ยหย่าซูห้ารอบ จันเจี๋ยเฉิงหกรอบ เปาต้าเหว่ยเจ็ดรอบ คนที่ผลงานดีที่สุดคือไมค์ รับพลาดไปหนึ่งลูก วิ่งรอบเดียว

แม้ว่าหลี่กวงเย่าไม่พลาดสักลูก แต่ก็ยังวิ่งกับคนอื่นๆ หกคน เขาเป็นคนแรกที่วิ่งนำหน้าสุด แล้วก็วิ่งครบเจ็ดรอบ

“โอเค ต่อไปคือการฝึกก้าวขาป้องกัน ในสนามมีเก้าอี้อยู่สิบตัว พวกเธอต้องใช้วิธีเคลื่อนไหวแบบวิ่งสไลด์ไปด้านข้าง ก็คือก้าวขาเหมือนปู วนรอบเก้าอี้พวกนี้ สองนาทีต้องวิ่งไปกลับให้ได้สามรอบ คนแรกเริ่มจับเวลาที่ออกจากขอบสนาม คนสุดท้ายที่ทำเสร็จจึงจะหยุดจับเวลา” หลี่หมิงเจิ้งมองหยางซิ่นเจ๋อแวบหนึ่ง หยางซิ่นเจ๋อพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ หลี่หมิงเจิ้งตะโกน “เข้าแถว เตรียมพร้อม เริ่ม!”

คนที่เข้าคิวคนแรกก็ยังคงเป็นหลี่กวงเย่า ความเร็วในการวนเก้าอี้ทีละตัวทีละตัวของเขา เหมือนกับว่าเขาใช้แรงไม่หมด ไม่นานก็อ้อมครบเก้าอี้ทั้งสิบ แต่ว่าการฝึกซ้อมนี้ ไม่ใช่นับคนแรกที่ทำเสร็จเป็นหลัก ดังนั้นหลี่กวงเย่าอ้อมเก้าอี้ไปด้วยตะโกนไปด้วย “รีบๆ ตามมา คิดว่าเก้าอี้เป็นคู่ต่อสู้ของนาย ตำแหน่งที่วางเก้าอี้คือเส้นทางการรุกของคู่ต่อสู้ นายต้องสกัดเขายังไง ในเวลานี้ ถ้าไม่ฝึกซ้อมให้ดี พวกนายอยากถูกคู่ต่อสู้คว่ำอีกครั้งเหรอ?”

หลังจากที่หลี่กวงเย่าใช้เวลาหนึ่งนาทีครึ่งวิ่งเสร็จ เขายืนอยู่ที่ขอบสนามพูดปลุกเร้าทุกคน “สู้ๆ เร็วๆ หน่อย!”

ผ่านการฝึกซ้อมต่อเนื่องกัน แม้แต่เว่ยอี้ฝานก็ยังรู้สึกขาไม่มีเรี่ยวแรง สำหรับจันเจี๋ยเฉิงกับเปาต้าเหว่ยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่สองคนนี้ยังคงมีจิตใจฮึกเหิมไม่ยอมแพ้ เว่ยอี้ฝานใช้เวลาสองนาทีฝึกก้าวขาป้องกันเสร็จ

หลี่หมิงเจิ้งทำมือไขว้กัน “พักสามนาที ค่อยฝึกอีกรอบ!”

 

พอถึงเจ็ดโมงห้าสิบนาที วันแรกของการฝึกซ้อมสุดโหดของหลี่หมิงเจิ้งเพิ่งจะเสร็จสิ้น นอกจากหลี่กวงเย่าแล้ว คนอื่นๆ เหนื่อยจนแทบจะล้มลงไปที่พื้น แต่เพื่อไม่ยอมแพ้หลี่กวงเย่า ไม่ว่าสองขาจะสั่น อ่อนล้าแค่ไหน ก็ยังคงยืนตระหง่าน

“โอเค การฝึกซ้อมวันนี้พอแค่นี้ อาหารเช้าเอาไปส่งให้ที่ห้องเรียนของพวกเธอแล้ว หากกินไม่อิ่ม สามารถบอกผู้ช่วยโค้ชหรือหัวหน้าโค้ช แล้ว…” หลี่หมิงเจิ้ง หยิบเอกสารชุดใหญ่ออกมาจากเป้ของตัวเอง “การฝึกซ้อมวันนี้ จริงๆ แล้วยังน้อยกว่าแผนที่ผมวางไว้ ประมาณหนึ่งส่วนสาม อีกสองอาทิตย์ก็เริ่มแข่งขันแล้ว การฝึกซ้อมต่อจากนี้ไปจะมากกว่าวันนี้ คือเยอะมากๆ”

หลี่หมิงเจิ้งมองผู้เล่นทุกคนอย่างจริงจัง “เอกสารชุดนี้คือใบลาออกจากทีม หยิบไปคนละใบ” เขาใช้สายตาคมกริบส่งสัญญาณบอกอู๋ติ้งหวากับเย่อวี้เฉิงว่า ไม่ต้องพูด “ผมต้องการผู้เล่น คนที่มีใจรักบาสเกตบอลจริงๆ ไม่ใช่ประเภทที่คิดว่าการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลคือคนที่วางมาด หยิ่ง ยโส สำหรับบาสเกตบอลผมเรียกร้องง่ายๆ ต้องถ่อมตัว

“ลักษณะท่าทางที่คุณแสดงออกมา ถึงแม้แค่การฝึกเลี้ยงบอลธรรมดา ก็ต้องตั้งใจทำ ยังมีเรื่องมุ่งมั่น ความมุ่งมั่นในบาสเกตบอลของคุณมีเท่าไหร่ นั่นหมายถึงว่าความสำเร็จที่จะได้รับในการเล่นบาสเกตบอลของคุณมีเท่านั้น ท่าทางของคุณที่แสดงออกมา ให้ผมเห็นความมุ่งมั่นของพวกคุณ รักษาความอ่อนน้อมถ่อมตนไว้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของคุณ จะสามารถได้เป็นแค่ผู้เล่นตัวสำรอง คุณก็ยังคงเป็นพี่น้องทหารของผม ในทางกลับกัน ไม่ว่าพละกำลังของคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน เพียงแค่ขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทีมของผมก็ไม่ต้องการคุณ

“ทุกคนหยิบใบลาออกจากทีมแล้วหรือยัง? ผมขอย้ำอีกครั้ง การฝึกซ้อมวันนี้ เบาที่สุด วันต่อๆ ไป จะหนักกว่านี้มากขึ้นทุกครั้ง คนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาดี วันนี้ก่อนเลิกเรียน ให้ยื่นใบลาออกจากทีมกับหัวหน้าโค้ชหรือผู้ช่วยโค้ช ทีมของผม ไม่ต้องการคนที่เอาบาสเกตบอลไว้เป็นของเล่น และก็ไม่ต้องการคนที่ไม่มีจิตสำนึกเรื่องความสามัคคี”

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด