SH.8 – หลังเรือแตก

8 – หลังเรือแตก

แมทนั่งอยู่ข้างกองไฟ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหดหู่ เขาอยากจะโกรธแต่ไม่สามารถทำได้

ในขณะเดียวกัน โรดส์กำลังพิงต้นไม้โดยที่ดวงตาของเขาหลับอยู่ ไลซ์กำลังเตรียมอาหารอย่างเงียบๆ แม้ว่าท่าทางของเธอจะสงบ แต่ดวงตาที่บวมเปล่งของเธอเผยให้เห็นทุกสิ่งที่อยู่ในใจ

พ่อค้าร่างอ้วนเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว นอกจากโรดส์และไลซ์ ในฐานะพ่อค้า เขาเดินทางบ่อย ดังนั้นเขาจึงมีอุปกรณ์เวทย์ที่ใช้รักษาชีวิต ก่อนที่เรือจะตก เขาหยิบเอาเครื่องรางป้องกันออกมาและใช้ความสามารถของมัน นั่นเป็นสาเหตุที่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงน้อยกว่าทั้งสองคน

บาดแผลของโรดส์ก่อนหน้านี้ยังไม่หายดี เนื่องจากการต่อสู้และหลังจากตกจากเรือ บาดแผลของเขาเลวร้ายกว่าเดิมมาก ไลซ์เองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ที่เธอกระวนกระวายใจ เธอไม่รู้ว่าแขนขวาของเธอขยับได้ลำบาก ขาซ้ายของเธอยังมีบาดแผล เธอพบพวกมันหลังจากการค้นหาสิ้นสุด สำหรับพ่อค้าร่างอ้วน นอกจากรอยขีดข่วนและอาการมึนหัวเล็กน้อยแล้ว เขาออกจะสบายดี

ถ้าโรดส์เป็นคน ‘ปกติ’ บาดแผลเช่นนี้เพียงพอที่จะทำให้เขาใช้เวลารักษาตัวหลายเดือน โชคดีที่ไลซ์เป็นนักบวชและการรักษาคือหน้าที่หลักของเธอ ด้วยเวทย์รักษาของเธอ บาดแผลของเขาถูกปิด แต่โรดส์ยังต้องพักผ่อนฟื้นคืนพละกำลัง การมีอยู่ของนักบวชเป็นเสมือนพรจากสวรรค์ ด้วยการต่อสู้ก่อนหน้านี้อาจทำให้เขาพิการหรือตายได้ หลังจากเรือแตก โรดส์พยายามประคองอาการของแขนของเขาไว้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บได้ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นปกติเมื่อไลซ์รักษาแขนของเขา เธอประหลาดใจมากเพราะเธอไม่ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้

ไม่ใช่ไลซ์คนเดียวที่ตกใจ ตัวโรดส์เองก็ตกใจเช่นกัน แม้เขารู้ว่ามันเป็นเพราะเขามีเลือดผสม แต่เขาไม่คิดว่ามันจะผิดปกติขนาดนี้ เขาได้รับบาดเจ็บมาก่อน จากนั้นก็เข้าร่วมการต่อสู้และสุดท้ายก็ร่วงลงจากฟ้า เขายังสามารถขยับตัวได้…?

ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์ที่ถูกซ่อนไว้ของเขาเป็นเผ่าบาบาเรี่ยน...งั้นรึ?

แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่กวนใจเขา เหตุผลที่เขารับรู้ถึงสภาพร่างกายของตนเอง นั่นเป็นเพราะเขารู้จากค่าสถานะของเขา แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าอีกสายเลือดหนึ่งของเขาเป็นอะไร แต่ครึ่งหนึ่งในสายเลือดของเขาควรเป็นมนุษย์

อย่างไรก็ตาม แต่ไลซ์เองก็แปลกมาก เธอเป็นเพียงเด็กสาวที่บอบบาง เป็นนักบวชที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ เธอควรตายไปแล้วจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นเขา แน่นอนเขาสมควรรอดชีวิตเพราะร่างกายของเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่ทำไมเธอถึงรอดชีวิตมาได้? คงไม่ใช่เพราะเธอโชคดี

คำถามนี้ลอยอยู่ในใจโรดส์สักพักหนึ่ง จนกระทั่งเขาพบประกายสีทองที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีฟ้าของไลซ์ ทำให้เขาสามารถสรุปเหตุผลที่เธอสามารถรอดชีวิตมาได้ ไม่ใช่เพราะเธอโชคดี

“เอิ่มม....ท่านโรดส์?”

แมทถูมือไปมา ใบหน้าอ้วนๆของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างเชื่อฟัง

“ท่านคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?”

หลังจากที่ช่วยแมท ทั้งสามคนแยกกันออกค้นหาซากเรือทั้งหมด แต่ไม่พบผู้รอดชีวิตคนอื่นๆเลย เพื่อหลีกเลี่ยงให้ร่างกายของเหล่าสหายของเขาถูกกัดกินโดยสัตว์ป่า ไลซ์ขอให้เผาร่างของพวกเขา แม้ว่าแมทจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าสินค้าของเขาถูกเผา แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าเศร้าของไลซ์และท่าทางที่ไม่สนใจของโรดส์ เขาเปลี่ยนความคิด และมองเรือบินกำลังถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่าน สีหน้าของเขาราวกับว่าครอบครัวของเขาได้เสียชีวิตหมดแล้ว

พวกเขานอนพักในป่าเป็นเวลา 1 วันเพื่อฟื้นฟูร่างกาย พวกเขาไม่ได้พบกับปัญหาใดๆหลังจากการโจมตีของอสรพิษลม พ่อค้าอ้วนยังคงหวาดระแวง ก่อนหน้านี้เขาเชื่อว่าอสรพิษลมไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล แต่ตอนนี้ ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปทั้งหมด....ข่าวลือพวกนั้นเป็นเรื่องจริง!

คนพวกนั้นพูดกันว่า พวกเราอาจจะเจอกับอสรพิษลมบนเส้นทางนี้...พวกเราเจอมันจริงๆ! ข้าเองก็ได้ยินมาจากป่าพระจันทร์สีเงิน มีหมาป่าที่กินมนุษย์และนกประหลาด! พวกเราคงไม่เจอมันจริงๆใช่ไหม?!

หน้าผากของพ่อค้าร่างอ้วนเปียกไปด้วยเหงื่อ แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อค้ามาเป็นเวลานาน แต่เขาไม่ได้ประสบการณ์ในการผจญภัยเท่าไหร่ เมื่อมองไปรอบๆที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้และต้นไม้ ขาของพ่อค้าอ้วนไม่สามารถหยุดสั่นได้ เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ยินทหารพูดคุยกันเรื่องงูพิษ หมาป่าและสิ่งน่ากลัวมากมาย สิ่งทั้งหมดที่เขาคิดขึ้นทำให้เขากลัวมากขึ้นกว่าเดิม

ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ไม่สามารถใช้ได้แล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพึ่งพาผู้อื่น

ไลซ์เป็นคนที่ไม่น่าสนใจ ตอนแรกที่เขาเห็นเธอตอนที่เขาจ้างเธอครั้งแรก ในความคิดของเขาเธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก แต่ตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ใช่สายต่อสู้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา คงสายเกินไปที่เธอจะช่วยชีวิตเขาได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจพึ่งพาโรดส์ แม้ว่าเขาจะไม่เคยต่อสู้มาก่อน แต่ความสามารถของโรดส์ก่อนหน้านี้น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

ไลซ์ยังคงโศกเศร้าอยู่กับการเสียเพื่อนๆของเธอไป

“อย่างกังวลไป คุณแมท”

เมื่อมองไปที่ท่าทางหวาดกลัวของพ่อค้าร่างอ้วน แม้ว่ากับคนอื่น เขาจะหยาบคายเป็นอย่างมาก แต่โรดส์ไม่ได้เกลียดเขาเลย เพราะถ้าไม่ใช่เพราะเขาสั่งให้จอดเรือ เขาคงจะไม่สามารถรอดชีวิตมาได้ ดังนั้นเขาจึงมีความประทับใจกับชายร่างอ้วนอยู่บ้าง

“ผมคุ้นเคยกับป่าพระจันทร์สีเงิน บริเวณนี้ไม่น่ามีสิ่งมีชีวิตที่อันตราย คุณสามารถวางใจได้”

สิ่งที่โรดส์พูดไม่ได้ไร้เหตุผล ภายในเกม ทุ่งหญ้าภาฟิวด์เป็นสถานที่สำหรับมือใหม่เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงรู้จักมอนสเตอร์ในแถบนี้เป็นอย่างดี ในที่ราบภาฟิวด์ สิ่งที่อันตรายที่สุดไม่พ้น อสรพิษลม จำนวนที่มากมายของพวกมันเป็นฝันร้ายของเหล่าอาชีพประชิดและผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้เล่นเดี่ยว

ในป่าพระจันทร์สีเงิน สิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดคือ หมาป่าเงิน แต่มันไม่เหมือนกับอสรพิษลมที่เน้นพึ่งพาแต่จำนวน หมาป่าเงินมักออกล่าตัวเดียว ดังนั้นจึงง่ายต่อการจัดการ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากสังหารจ้าวแห่งอสรพิษลม โรดส์ได้รับค่าประสบการณ์มาอีก 3,000 หน่วยและเพิ่มระดับไปถึงระดับ 8 มอนสเตอร์ที่ระดับสูงที่สุดในพื้นที่นี้อยู่ที่ระดับ 10 ดังนั้นตราบใดที่พวกเขาไม่ได้พบกับมอนสเตอร์ระดับบอส พวกเขาสบายใจได้

“ดีแล้ว....ดีแล้ว....”

เมื่อได้ยินการยืนยันจากโรดส์ แมทถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขา จากนั้นเขาอ้าปากกว้างและอดไม่ได้ที่จะหาว ด้วยความกังวลของเขา เขาจึงหลับไม่เต็มอิ่มในหลายวันที่ผ่านมา แม้แต่เสียงลมพัด ที่คล้ายกับเสียงหมาหอน มันยังทำให้เขาใจสั่นได้ แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจเชื่อใจโรดส์ เขาเริ่มผ่อนคลายและตัดสินใจไม่กังวลอีกต่อไป เขาขดตัวนอนข้างกองไฟและหลับสนิทอย่างรวดเร็ว

หลังจากตรวจสอบให้แน่ใจว่าพ่อค้าคนนั้นหลับสนิท โรดส์ที่กำลังนั่งเงียบๆอยู่ข้างกองไฟก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในป่า