ตอนที่แล้วMoney Monster Episode X [มุ่งหน้าสู่วอลสตรีท!]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMoney Monster Episode XII [ความโลภสีขาว]

Money Monster Episode XI [ศูนย์ฝึกอบรม]


Money Monster

Episode XI

[ศูนย์ฝึกอบรม]

ณ สถานที่ซึ่งรายล้อมไปด้วยตึกอาคารสูงดูอลังการ มากไปด้วยแสงสีโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางโลกที่มืดมิดไร้แสงตะวัน บนท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวมีนาฬิกาเรือนยักษ์ตั้งแทนตำแหน่งของดวงจันทร์ ส่งผลให้ทุกคนสามารถดูเวลาได้ทุกเมื่อขอเพียงแหงนหน้าขึ้นมองเท่านั้น

บนถนนที่ว่างเปล่า รถแท็กซี่สีดำสุดหรูคนหนึ่งพุ่งแหวกอากาศออกมาวิ่งลงสู่บนท้องถนน เมื่อชายหนุ่มผมสีทองทำขาวเห็นสภาพบ้านเมืองที่ไม่คุ้นตาก็พลันรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจากเด็กน้อย ที่เพิ่งเคยมาเที่ยวยังสถานที่ที่ไม่เคยพบเจอ เขาใช้สายตากวาดมองสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่มากมายตลอดทาง

“นายท่านของกระผม ยินดีต้อนรับท่านสู่วอลสตรีท มิติทับซ้อนสำหรับพบปะพูดคุยของเหล่าโบรกเกอร์ ที่นี่มีทุกอย่างให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงแรมหรู สถานที่ท่องเที่ยว เขตการเงิน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดขอเพียงมีเงินก็สามารถหามาได้ทั้งหมด”

“อืมๆ!” ไลท์พยักหน้าเหมือนไม่ได้ตั้งใจฟังที่อเดมัสอธิบายเลยแม้แต่น้อย

“หึหึ ช่างปวดใจเหลือเกิน นายท่านของกระผม หากท่านไม่ตั้งใจฟังที่ผมพูดดีๆ จะส่งผลเสียต่อท่านอย่างแน่นอนครับ”

“พูดเลย ฉันฟังอยู่” ไลท์พูดทั้งสายตายังจับจ้องทิวทัศน์ตรงหน้า

“ครับ” อเดมัสยิ้มก่อนจะเสกหนังสือปกหนามาไว้ในมือและกล่าวขึ้น

“เนื่องจากนายท่านของกระผมได้ทำสัญญาพิเศษกับท่านมาม่อน ระยะเวลาที่ต้องจ่ายเงินงวดแรกจึงถูกเลื่อนออกไปเป็นระยะเวลาสามเดือน ในขณะที่โบรกเกอร์คนอื่นจะถูกเว้นการจ่ายเงินงวดแรกแค่เดือนเดียวครับ”

“สรุปคือ ฉันมีเวลาเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นสินะ แล้วฉันต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่”

“ครับ ที่จริงหนี้สินที่นายท่านถือครองอยู่นับว่ามหาศาลที่สุดเป็นลำดับหนึ่งของโบรกเกอร์ทุกคน ปริมาณเงินที่ต้องจ่ายจึงสูงมาก แต่หากต้องจ่ายเงินก้อนโตตั้งแต่เริ่มอาจโหดร้ายเกินไปสักหน่อย เราจึงใช้วิธีค่อยๆ เพิ่มจำนวนเงินที่ต้องจ่ายมากขึ้นทีละนิด แต่ระยะเวลาที่ต้องจ่ายก็จะสูงมากขึ้นไปด้วย นายท่านของกระผมสามารถดูจำนวนเงินที่ต้องจ่ายได้ในบัตรMMC(Money Monster Card) ได้เลยครับ”

เมื่อได้ยินอเดมัสพูดจบไลท์หยิบบัตรสีดำขึ้นมือแล้วแตะสัมผัสเบาๆ ส่งผลให้มีจอบางอย่างปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาลากนิ้วกดดูช่องส่งค่างวดแล้วพบเห็นตัวเลขหกหลักที่เขาจำเป็นต้องจ่ายส่งทุกเดือน ชายหนุ่มจึงทำหน้าถอดสีเล็กน้อย

“สรุปหนี้สินของฉันมีเท่าไหร่กันแน่”

“สามารถกดดูได้ที่ช่องจำนวนหนี้สินของท่านครับ นายท่านของกระผม” อเดมัสเอ่ยตอบก่อนที่ไลท์จะทำตาม เมื่อได้เห็นตัวเลขที่มีเลขศูนย์ต่อกันยาวเป็นหางว่าวก็ทำให้หัวใจของเขาแทบจะดิ่งลงสู่ก้นเหว รู้สึกคล้ายกับร่างกายกำลังจะกลายเป็นทรายหายไปเสียดื้อๆ

“จะเยอะเกินไปแล้ว! หาเป็นชาติฉันก็ใช้ไม่หมดแหง แน่ใจนะว่าตัวเลขนี้ถูกต้องแล้ว”ไลท์หันหน้าควับมามองนายธนาคารส่วนตัวด้วยใบหน้าตกใจสุดขีด อเดมัสได้แต่ยิ้มจางๆ แล้วพยักหน้าให้ผู้ที่ตนเรียกว่านายท่านเป็นการยืนยัน

“ตามค่าเฉลี่ยแล้วคนที่ชะตากรรมมีอำนาจพอจะคืนชีพคนหนึ่งคนมีอยู่ประมาณ1.8%ของประชากรทั้งหมดครับ ส่วนนายท่านของกระผมคืนชีพบิดา มารดา น้องชาย และน้องสาวฝาแฝดรวมกันทั้งหมดห้าชีวิต หนี้สินของท่านย่อมมหาศาลตามไปด้วย ทิ้งห่างลำดับหนึ่งคนก่อนไปราวสองเท่าครึ่งครับ”

“....” ไลท์ได้แต่นิ่งเงียบหมดอารมณ์จะพูดจาอะไรออกมา

ความรู้สึกตอนนี้เหมือนมีภูเขาสูงเสียดฟ้าที่มองไม่เห็นปลายยอดแล้วต้องปีนป่ายต่อไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น เสมือนว่าต่อให้ชาตินี้จะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจหนีพ้นจากชะตากรรมอันแสนโหดร้ายไปได้ จนเผลอคิดไปครู่หนึ่งเลยว่าใช้ปืนเป่าสมองตัวเองหนีความจริงไปดีไหม?

‘แต่เราเลือกไปแล้ว ก็ต้องสู้ต่อล่ะ’

“ที่จริงมีวิธีที่ทำให้ชดใช้หนี้เร็วขึ้นอยู่นะครับ”

“ยังไงเหรอ?”

“ในอนาคตนายท่านอาจกลายเป็นคนใหญ่คนโตของวอลสตรีท ทำให้มีทรัพย์สินและมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น พอถึงเวลานั้นท่านสามารถยื่นเรื่อง[ปรับโครงสร้างหนี้]เพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่จะส่งให้กับทางเรา วิธีนี้จะทำให้ท่านสามารถใช้หนี้ขึ้นได้”

‘แบบนี้เอง’ ไลท์คิดในใจก่อนจะถอนหายใจเฮือกโตก่อนจะมากล่าวกับอเดมัสว่า

“เงินที่ได้จากการฆ่ากรีดสามารถเอาไปใช้ในโลกจริงได้ไหม?”

“อืม..ไม่ได้ครับ เงินของMoney Monsterต้องใช้เฉพาะในโลกของMoney Monsterเท่านั้น เหตุใดจึงถามคำถามนี้หรือ? นายท่านของกระผม”

“ฉันกำลังคิดหาวิธีหารายได้เพิ่ม รายได้ของฉันมาจากงานพิเศษเป็นหลักแต่ฉันรู้จากเมซูลว่าปกติพวกกรีดจะไม่โผล่หัวออกมาตอนกลางวัน ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องใช้เวลาตอนกลางคืนทั้งหมดในการไล่ล่ากรีด ต่อให้จัดสรรเวลาดีขนาดไหนก็ลำบากมากถ้าต้องทำงานพิเศษไปด้วยและล่ากรีดไปด้วย เลยกำลังหาช่องทางเพิ่มรายได้จากMoney Monster แต่เหมือนจะไม่มีสินะ”

“อืม..เหมือนจะมีอยู่นะครับ”

“มีจริงๆ งั้นเหรอ!” ไลท์ทำตาลุกวาวเสมือนกับมีทองคำมาวางอยู่ตรงหน้า อเดมัสพยักหน้าให้ก่อนจะเริ่มอธิบาย้

“ที่จริงนี่ไม่ได้เป็นวิธีที่ทางเราคิดเอาไว้ แต่เป็นวิธีที่โบรกเกอร์สร้างขึ้นมาเองครับ”

“อืมๆ”

“ปกติเมื่อได้สิ่งของที่อยากได้ ก็ต้องไปซื้อมาใช่ไหมล่ะครับ กรณีนี้ก็ไม่ต่างกัน เช่น การ์ดใบหนึ่งหายากมากมีมูลค่าสูง แต่คนขายไม่ยอมขายด้วยเงินMoney Monster คนที่อยากได้เลยต้องใช้เงินของโลกภายนอกมาจ่ายเพื่อจะได้การ์ดใบนั้นมา”

“หา! เรียบง่ายขนาดนั้นเลยเรอะ”

“ครับ และสมมุติเกิดบางกรณีเช่น เดือนนี้ล่ากรีดได้นิดเดียวทำให้มีเงินMoney Monsterไม่พอจะส่งค่างวดรายเดือน เลยใช้เงินจริงไปซื้อเงินMoney Monsterจากโบรกเกอร์คนอื่นที่ยินดีขาย กรณีนี้ก็เกิดขึ้นเหมือนกัน”

“อะ..เอ่อ”

‘แบบนั้นก็ไม่เลวแฮะ’ ไลท์ครุ่นคิดในใจ หากเขาสามารถใช้ความสามารถที่มีในการหาเงินMoney Monsterและการ์ดหายากมาได้ บางทีอาจไม่ต้องทำพาร์ทไทม์ไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ หลังจากนั้นก็ใช้สมองหาทางคิดช่องทางสร้างรายได้ต่อไปจนกระทั่งเกิดคำถามขึ้นในใจว่า

“อเดมัส”

“ครับ? นายท่านของกระผม”

“สมมุติถ้าฉันเป็นนักเขียน ฉันทำสัญญากับมาม่อนให้ตัวเองมีทักษะการเขียนดีเลิศ จนผลงานของฉันมียอดตีพิมพ์หลายล้านเล่ม ถูกดัดแปลงเป็นละคร หนังภาพยนตร์ อนิเมชั่นและมีเงินมากมายเป็นกอบเป็นกำ ฉันไม่ต้องฆ่ากรีดสักตัวแต่ใช้เงินซื้อเงินจากโบรกเกอร์คนอื่นๆ มาส่งค่างวด แบบนี้ก็ได้ใช่ไหม?”

“ครับ ก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าหากไม่สังหารกรีดเลยทางเราก็ลำบากใจเช่นกัน เลยหามาตรการมารับมือไปเรียบร้อยแล้ว”

“ยังไง?”

“เช่น ถึงท่านจะสามารถหาเงินมาชำระได้ครบทุกเดือน แต่ท่านก็ต้องมีคะแนนขั้นต่ำตามที่เรากำหนดให้ทำ”

“คะแนน?”

“ครับ คะแนนจะได้จากการล่ากรีด เข้าสนามประลองอารีน่า หรือกิจกรรมที่ทางธนาคารแห่งความมืดจัดขึ้น หากคะแนนไม่ถึงที่กำหนดเราจะไม่รับส่งเงินงวดนั้นและถูกนับว่า[ยังไม่ส่งเงิน]”

“โฮ..โหดเอาเรื่องแฮะ เป็นการบังคับไม่ให้โบรกเกอร์อยู่ติดบ้านเกินไปสินะ”

“ครับ เป็นแผนการรับมืออันชาญฉลาดของท่านมาม่อน”

“แต่ก็ไม่น่าเป็นปัญหามากมั้ง ก็นั่นไง ถ้ามีเงินก็ไปซื้อการ์ดเก่งๆ มาล่ากรีดซะ เรื่องเก็บคะแนนก็น่าจะเป็นเรื่องหมูๆ ใช่ไหมล่ะ”

“ก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปครับ นายท่านของกระผม”

“หมายความว่ายังไง?”

“อีกไม่นานเท่าก็จะรู้เองครับ..เมื่อไปถึงศูนย์ฝึกอบรม” อเดมัสยิ้มออกมาอย่างเป็นเลศนัย ทิ้งท้ายให้ไลท์ได้แต่มึนงงแก่คำพูดของนายธนาคารแห่งความมืด บอกไว้เพียงว่าสิ่งที่เขาต้องทำต่อไปนั้นมีอะไรบ้าง

 

ศูนย์ฝึกอบรมคือสถานที่ที่ต้องไปเรียนรู้ ฝึกงานก่อนจะออกไปทำงานจริง ที่วอลสตรีทเองก็มีศูนย์ฝึกอบรมเฉพาะของโบรกเกอร์ มีหน้าที่ฝึกสอนการใช้พลัง แกะรอยกรีด และอื่นๆ อีกมากมายที่ควรจะขัดเกลาก่อนออกไปไล่ล่าเหล่าอมนุษย์ที่โลกภายนอก

โดยโบรกเกอร์มือใหม่ทุกคนจะต้องเข้าฝึกที่ศูนย์อบรมเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ไลท์เองก็ไม่มีข้อยกเว้นทำให้แท็กซี่สีดำวิ่งมาจอดยังสถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นโดมขนาดใหญ่กว้างอาจใหญ่กว่าหรือเทียบเท่ามหาวิทยาลัย

ไลท์ก้าวลงจากแท็กซี่และชื่นชมสิ่งปลูกสร้างตรงหน้า แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“นายท่านของกระผม ขอเสียมารยาทแต่พอจะมีเวลาตอบคำถามผมสักประโยคจะได้ไหมครับ?”

“คำถามอะไรงั้นเหรอ?”

“ท่านอยากจะเป็นราชาไหม?”

“....”

“ว่าไงครับ นายท่านของกระผม” อเดมัสถามย้ำอีกทีแต่ชายหนุ่มกลับยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะตอบกลับไปว่า

“ขึ้นอยู่กับว่าเป็นแล้วจะได้อะไรบ้าง”

“งั้นเหรอครับ..ขอให้ท่านโชคดี” อเดมัสโน้มศีรษะให้ก่อนที่ประตูรถจะปิดลง แท็กซี่วิ่งแล่นออกไปอย่างรวดเร็วทำให้ไลท์หันหลังกลับมามองที่ประตูทางเข้า ที่ซึ่งมีผู้คนจำนวนหลายร้อยถึงพันคนยืนกันแออัดเหมือนช่วงสมัครสอบเข้าโรงเรียนไม่มีผิด

ไลท์ได้แต่ยิ้มเจื่อนก่อนจะเดินเข้าไปภายในอย่างไม่รีบร้อน ยื่นบัตรสีดำให้กับพนักงานก่อนจะได้รับบัตรยืนยันตัวตนเขียนเอาไว้ว่า[Light005]สีเหลือง แล้วให้เข้าไปยังภายในโดมที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่ยืนกันจนแทบจะเบียดกันเป็นปลากระป๋อง

และที่น่าตกใจคือ เขาเห็นเด็กอายุสิบสามอยู่ด้วยและไม่เห็นคนที่มีอายุมากกว่าสามสิบเลยแม้แต่คนเดียว

‘มาม่อนให้สัญญาเฉพาะคนที่อายุ13ถึง29สินะ’ ไลท์ครุ่นคิดก่อนจะเดินหาที่ยืนที่เหมาะที่สุด ในระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นโดยไม่สนผู้คนโดยรอบเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเวลาล่วงผ่านไปไฟทั้งหมดก็ถูกดับลง

พรึบ!

เมื่อความมืดเข้าแทนที่ทุกคนก็รู้สึกตื่นตัวกันโดยสัญชาตญาณ แสงสปอตไลท์หันส่องไปทางเดียวกันบนพรมสีน้ำเงินที่ลอยอยู่กลางอากาศ ตรงนั้นมีชายสูงอายุสวมชุดพ่อมดสีดำยืนถือไม้เท้าพร้อมแผ่บรรยากาศน่าเกรงขามออกมาให้ได้เป็นที่ประจักษ์ ก่อนจะเอ่ยเสียงก้องกังวานว่า

“ยินดีต้อนรับ โบรกเกอร์มือใหม่ทุกคน ข้ามีนามว่า[มาสเตอร์อินเวสเตอร์] เป็นเจ้าของศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้และจะรับหน้าที่ฝึกฝนพวกเจ้าทุกคนให้กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ยอดเยี่ยม”

“อึก” เหล่าโบรกเกอร์มือใหม่พากันกลืนน้ำลายลงคอกันเฮือกโตเมื่อมาสเตอร์อินเวสเตอร์แนะนำตัวเสร็จ

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงเดือนหน้า พวกเจ้าต้องรับการฝึกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธ การใช้การ์ด วิธีรับมือศัตรู ข้อมูลเกี่ยวกับกรีด ทุกอย่างจะมีประโยชน์ต่อพวกเจ้าอย่างแน่นอน ทว่า..หากการฝึกมันไร้การแข่งขันคงน่าเบื่อเกินไป!” มาสเตอร์อินเวสเตอร์กล่าวเสียงก้องก่อนจะสะบัดไม้เท้าแรงจนเกิดเสียงตีอากาศ ก่อนที่แสงสว่างจะกลับมาทั่วโดมอีกครั้ง

บนชั้นสองมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งมองลงมาจากด้านล่าง พวกเขาสวมเครื่องแบบและมีสายตาราวกับคนผ่านโลกมามาก มองเพียงแวบแรกก็รับรู้ได้ถึงความน่าสะพรึงที่แผ่ออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น

“พวกเขาคือตัวแทนขององค์กรแต่ละแห่ง จุดประสงค์ของศูนย์อบรมไม่ใช่เพื่อฝึกฝนโบรกเกอร์มือใหม่ให้แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว! แต่เพื่อเฟ้นหาผู้มีคุณสมบัติพอที่จะถูกทาบทามอีกด้วย!”

“หมายความว่ายังไง”

“ไม่รู้สิ”

เหล่าโบรกเกอร์หน้าใหม่เริ่มซุบซิบกันเอง ไลท์หรี่สายตาลงเพื่อตั้งสมาธิฟังข้อความให้ดี

“สำหรับโบรกเกอร์ องค์กรเปรียบเสมือนกับครอบครัวใหญ่ เพื่อได้เข้ากับองค์กรที่ใดสักแห่งจะได้รับสวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็นเงินช่วยเหลือ เพื่อนร่วมงานที่มีประสิทธิภาพ ทรัพยากรที่พร้อมจะเพิ่มพูนศักยภาพในการต่อสู้ วัตถุดิบ การ์ดหายาก เมื่อเข้าไปแล้วก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของรากฐานที่ยิ่งใหญ่

ยิ่งองค์กรอยู่ในระดับสูงมากเท่าใด ยิ่งได้รับการคาดหวังมากเท่าไหร่พวกเขาก็จะป้อนทรัพยากรให้พวกเจ้าเติบโตมากยิ่งขึ้นเท่านั้น! และพวกเขาคือแมวมองสำหรับการจับตาดูพวกเจ้า จงแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่ ผู้ใดที่โชว์ความสามารถและเติบโตได้รวดเร็วที่สุด คนผู้นั้นคือคนที่ถูกเลือก!”

“โอ้ว!!!” เมื่อได้ฟังคำอธิบายของมาสเตอร์อินเวสเตอร์เหล่าโบรกเกอร์มือใหม่ก็พากันตื่นเต้นกันยกใหญ่ แม้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในสังคมของMoney Monsterของพวกตนจะมีอยู่น้อยนิด แต่ก็รับรู้ได้ทันทีว่าหากถูกทาบทามจะต้องได้รับผลประโยชน์มหาศาล

โดยเฉพาะคนที่ฉลาดที่เล็งเห็นโอกาสที่พลาดไม่ได้ แต่ว่า..

‘จะมีสักกี่คนที่ได้โอกาสนั้น’

“ไม่ใช่เพียงแค่นั้น!” มาสเตอร์อินเวสเตอร์กำลังจะเอ่ยถ้อยคำบางอย่างส่งผลให้ทุกคนเงียบกริบเพื่อรอฟังโดยเฉพาะ

“ในงานฝึกอบรมครั้งนี้จะมีการเก็บคะแนนอีกด้วย ใครที่ทำผลงานการฝึกได้น่าพึงพอใจจะได้รับคะแนนพิเศษจากเหล่า[มาสเตอร์] ผู้ที่มีคะแนนสูงสุดสิบลำดับแรกจะได้รับการ์ดระดับ[Super Rare]คนละหนึ่งใบ และใครที่ติดลำดับหนึ่งร้อยคนแรกก็จะได้รับการ์ด[Rare]คนละหนึ่งใบเป็นการรางวัลเช่นกัน”

“แบบนี้เอง!”

“ต้องพยายามมากขึ้นหน่อยแล้ว”

“ถ้าฉะนั้น..เริ่มการฝึกแรกได้” สิ้นเสียงของมาสเตอร์อินเวสเตอร์ที่พื้นก็เกิดอาการสั่นขึ้นเล็กน้อย เสมือนกับกำลังมีกลไกบางอย่างเริ่มทำงาน

กำแพงยุบลงไปแล้วถูกเลื่อนออกแทนที่ด้วยประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรูปภาพเป็นช้างปีศาจนั่งบนบังลังก์เฉกเช่นเดียวกับที่ปรากฏในเหรียญตราอสูร พอเกิดเสียงดังครืนจากการเข้าสู่ตำแหน่งก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญดังออกมาจากภายในประตูเหล็กบานนั้น

“จงจดจำไว้! โบรกเกอร์ทั้งหลาย สิ่งสำคัญที่สุดของโบรกเกอร์ไม่ใช่จำนวนเงินในบัญชี การ์ดที่แข็งแกร่ง หรือข้อมูลที่ได้รับการจัดเตรียมมาอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้ว่างสิ่งเหล่านี้ก็จำเป็นอย่างมาก แต่! การรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าและใช้ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่าก็คือสิ่งที่ควรพึงมีที่สุด!”

บานประตูเหล็กค่อยๆ เลื่อนออกแบบเชื่องช้าค่อยๆ เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน เหล่าโบรกเกอร์ตกตะลึงเมื่อพบเห็นสิ่งนั้นเข้า

บางคนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว บางคนตกตะลึงจนตัวแข็งค้าง บางคนยิ้มออกมาแบบติดตลกร้าย ไปจนถึงคนที่แสดงความยินดีอย่างออกนอกหน้า

อสุรกายสีขาวที่มีรูปร่างผิดมนุษย์ ดวงตาสีดำกับฟันสีเงินที่ฉีกยิ้มจนถึงหูชวนให้รู้สึกคุ้นเคยและน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก น้ำลายของพวกมันไหลเยิ้มลงจรดพื้นพร้อมค่อยๆ ก้าวออกมาด้วยรังสีของผู้ล่า

“เชี่ย..อย่าบอกนะว่า..จะให้สู้กับไอ้พวกนี้น่ะ!”

“ไม่ตลกนะเฮ้ย! พวกเราเป็นมือใหม่นะ ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ต้องสอนพวกเราใช้พลังก่อนเซ่!”

“หากวันหนึ่งเดินตลาดอยู่ดีๆ แล้วเจอโจรมาชักมีดขู่ปล้น พวกเจ้าจะบอกโจรว่าให้รอก่อนค่อยไปหาปืนมาสู้งั้นรึ?” มาสเตอร์อินเวสเตอร์ย้อนศรคำพูดของเหล่าโบรกเกอร์ที่โวยวาย ทำให้ทุกคนอยู่ในสถานะใบ้คำพูด

“คนที่รับมือกับสถานการณ์ในยามคับขันไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าคนนายคน! คนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสไม่ได้ ไม่สมควรประสบความสำเร็จ!” เสียงของมาสเตอร์อินเวสเตอร์ดังก้องเข้าไปในโสตประสาทของทุกคน

“โบรกเกอร์เอ๋ย อนาคตยังมีสถานการณ์อีกมากมายที่ต้องฟันฝ่าไปให้ได้ หากแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ ก็สมควรตายซะตั้งแต่ตอนนี้เสีย!”

“หิว! หิวเหลือเกิน!” เหล่าอมนุษย์สีขาวร้องคร่ำครวญไปด้วยความหิวโหย สัตว์ป่าที่ไม่ได้ทานอาหารมาเป็นระยะเวลานาน พวกมันจะดึงดันทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด สภาพของพวกมันในตอนนี้จึงน่าเกลียดและน่ากลัวมากกว่าที่เคยเผชิญที่ไหนมาก่อน

“พวกมันคือกรีดเทียมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรโรเกีย มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับกรีดเลเวลสอง แต่มีความสามารถครบเครื่องกว่า รวดเร็ว แม่นยำ และฉลาด จงกำจัดมันให้สิ้นซากและก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งราชัน!”

“...”

‘ให้มันได้อย่างนี้สิ’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด