ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ตัดมือ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 รางวัลอันล้นหลาม [อ่านฟรี]

ตอนที่ 17 ประลองวิชาเรียนรู้กันและกัน [อ่านฟรี]


ตอนที่ 17 ประลองวิชาเรียนรู้กันและกัน

ผู้แปล Doramartin

 

หลินหรูเยียน?

 

หลินหานเผยอคิ้วเล็กน้อย

 

ธิดาผยองแห่งท้องนภา มาหาเขาทำไม?

 

"มีธุระอะไร?" หลินหานไร้คลื่นอารมณ์บนใบหน้า เขามองร่างอรชรที่อยู่ในศาลา สายตาสื่ออารมณ์ฉงนใจ

 

"ข้าอยากรู้ เพราะอะไรเจ้าจึงผงาดในทำเนียบภายนอกได้ในเวลากะทันหันเยี่ยงนี้" หลินหรูเยียนเอื้อนเอ่ย ดวงตาคู่งามมองหลินหาน สื่อความฉงนใจ

 

ในขณะที่นางเอ่ยปากถาม สายตาก็พิจารณาสีหน้าการเปลี่ยนแปลงของหลินหาน

 

แต่ หลินหานมีสภาสะจิตใจที่กล้าแข็งยิ่ง ไม่สื่ออารมณ์ใดใดบนใบหน้า เพียงแค่ชำเลืองมองสาวงาม พูดด้วยรอยยิ้ม "คนที่คู่ควรจะผงาด ย่อมผงาดเป็นธรรมดา"

 

คนที่คู่ควรจะผงาด ย่อมผงาดเป็นธรรมดา

 

น้ำเสียงของหลินหานเยือกเย็น ฟังดูแล้วไม่แฝงอารมณ์ แต่ให้ความรู้สึกถึงความอวดเบ่งและเชื่อมันในตัวเองอย่างแรงกล้า

 

เพียงแต่ คำตอบนี้คล้ายกับทำให้หลินหรูเยียนไม่พอใจ หญิงสาวหน้านิ่วคิ้วขมวด พูดอย่างต่อว่า "หลินหาน เจ้ากำลังแกล้งเฉไฉ"

 

"ข้าพูดความจริง!"

 

หลินหานยิ้ม จากนั้นก็พูดว่า "หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อน!"

 

แม้นหลินหรูเยียนจะงดงาม งดงามจนมิอาจมีใครเทียบ เพียงแต่ หลินหานไม่ใช่คนประเภทที่มองเห็นสาวงามแล้วอ่อนระทวยจนเดินไม่ไหว

 

เจตจำนงค์ของเขาแรงกล้า สภาวะจิตใจรู้เดียงสายิ่งกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมาก

 

อีกอย่าง หลังจากที่พลัง ปราณ วิญญาณผ่านการแปรเปลี่ยนโดยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง หลินหานจึงมีความมั่นคงที่มากขึ้นกว่าคนทั่วไป และความมุทะลุของเด็กหนุ่มได้ลดลงเช่นกัน

 

หลินหานรู้ซึ้งดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับตัวเองในยามนี้คือการเพิ่มพลัง เขาจะได้เจิดจรัสในการประลองแห่งทำเนียบภายนอกและงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทธ สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้คน

 

นี่ จึงจะเป็นเป้าหมายหลักของเขา

 

"ตาบ้าหลินหาน เมินข้าอีกแล้ว..."

 

หลินหรูเยียนมองหลินหานจะหันหลังเดินออกไป จึงพูดขึ้นทันทีว่า "เอาละเอาละ ไม่ถามหาเหตุผลของเจ้าก็ได้ อันที่จริง..ที่ข้ามาหาเจ้าครั้งนี้ ก็เพราะอยากประลองฝีมือเรียนรู้กันและกัน!"

 

"ประลองฝีมือกับข้า?" หลินหานประหลาดใจ

 

"ใช่ แม้นมีคนมากมายสงสัยในพลังของเจ้า แต่ในคราที่เจ้าจัดการหลินเจี้ยนได้ในหนึ่งดาบ ข้าก็รู้แล้วว่าหากเจ้าระเบิดพลังที่แท้จริงออกมา ต้องทรงอานุภาพอย่างยิ่ง"

 

กระโปรงของหลินหรูเยียนพริ้วไหว ราวกับดอกบัวเซียนล่องลอยไปตามลม นางพูดต่อ "พรุ่งนี้จะเริ่มงานประลองทำเนียบภายนอก ข้าหวังว่าจะได้ประลองกับเจ้าก่อนถึงวันนั้น บางที พวกเราอาจจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากอีกฝ่ายก็นเป็นได้ แล้วพัฒนาพลังด้วยกัน"

 

เมื่อหลินหานได้ฟังน้ำเสียงที่มิแสดงการล้อเล่น เขาจึงครุ่นคิดแล้วพยักหน้า

 

หลินหรูเยียนนางนี้ ตบะก้าวสู่ยุทธปัญจสวรรค์ มีอันดับสามแห่งทำเนียบภายนอก ทรงพลังมากอย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลง

 

หากได้ประมือเรียนรู้กันและกัน ไม่แน่ว่าอาจจะได้ขัดเกลาวิชายุทธของตัวเอง

 

"แต่ข้าขอบอกไว้ก่อน ดาบของข้า คือดาบปลิดชีพ หากไม่ระวังจนทำร้ายเจ้า ก็อย่าโทษข้าก็แล้วกัน"หลินหานพูดเตือน

 

"วางใจ ข้าฝึกฝนทักษะดาบเช่นกัน เจ้าจะทำลายการป้องกันแห่งทักษะดาบของข้าได้หรือไม่ ยังมิอาจรู้ได้!"เสียงกังวาลของหลินหรูเยียนดังขึ้นอย่างไม่อ่อนข้อ

 

"ไปประลองกันยังสถานที่ที่ข้าอาศัย มิฉะนั้น ไอดาบอาจทำร้ายผู้คนรอบๆ"

 

หลินหานพูด หลินหรูเยียนพยักหน้าเป็นการตกลง

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ทั้งสองคนมาถึงที่อาศัยของหลินหาน

 

ภายใน มีลานเล็กๆที่เหมาะกับการใช้เป็นสถานที่ปะทะฝีมือ

 

""เคล็ดวิชากระบี่จิตน้ำแข็ง!"

 

หลินหรูเยียนโจมตีก่อน เพียงเสี้ยววินาที อุณหภูมิในอากาศคล้ายกับจะเย็นเยียบลง หนาวเหน็บอย่างหาใดเทียบ

 

เคล็ดวิชากระบี่จิตน้ำแข็ง?

 

ออร่ากระบี่สามารถส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิอากาศที่อยู่รอบๆ?

 

หลินหานสื่ออารมณ์แปลกใจในดวงตา

 

เท่าที่เห็น เคล็ดวิชาที่หลินหรูเยียนฝึกฝน สสารถ่องแท้ที่แผ่ออกมาไม่ใช่สสารถ่องแท้ธรรมดา หากแต่มีพลังแห่งสสารอย่างแท้จริงที่ก่อเป็นคุณสมบัติความเย็น

 

แต่แท้ที่จริงแล้วสิ่งนี้มักพบได้โดยทั่วไป

 

อย่างเช่น จอมยุทธที่ฝึกเคล็ดวิชาที่ีธาตุไฟ สสารถ่องแท้ที่แผ่ออกมาจะมีพลังของธาตุไฟแฝงอยู่ด้วย ยามที่ปะทะศัตรู จักมีพลังสังหารเป็นพิเศษ

 

ส่วนหลินหาน ฝีกฝนเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ที่เป็นเอกลักษณ์มีเพียงหนึ่งเดียว

 

เคล็ดวิชาที่มีเอกลักษณ์และไร้เทียมทาน!

 

สสารถ่องแท้ที่ปลดปล่อย ก็คือร่างมังกรของพลังมังกรแห่งไท่กู่ เป็นคุณสมบัติพลังที่หนาแน่น เปี่ยมอานุภาพ มากมายอย่างมหันต์

 

ดังนั้น เมื่อหลินหานต้องเผชิญกับศัตรู สิ่งที่เขาไม่ต้องกลัวเลยก็คือ พลังจะหมด

 

ดังนั้น นอกเหนือจากสสารถ่องแท้ที่หนาแน่นแล้ว ยังมีเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไทกู่ที่สามารถก่อหม้อหลอมในจุดตันเถียนได้ ทำให้เขาสามารถชิงพลังแห่งฟ้าดินที่อยู่ในอากาศ มาใช้งานเพื่อตัวเขาเอง

 

เรียกได้ว่าผิดเพี้ยนและเป็นดั่งปีศาจ!

 

"ลำแสงสิบสามดาบ!"

 

ในเวลานี้ หลินหานก็ดึงดาบเช่นกัน

 

แต่เขาไม่ได้ใช้วิชาดาบถอดฝัก

 

เพราะวิชาดาบถอดฝักราวกับอสุนีบาต เมื่อดึงดาบออกมา จะต้องนองเลือด เป็นดาบแห่งการสังหาร ไม่เหมาะสำหรับการประลองฝีมือ

 

"เจ้าก็ฝึกฝนวิชายุทธระดับสูงจริงๆด้วย นี่คือลำแสงสิบสามดาบใช่หรือไม่?" ทั้งสองคนศึกษาวิชาดาบของกันและกัน ใบหน้าที่งดงามของหลินหรูเยียนเปล่งประกายแห่งความตกใจ

 

หลินหานผู้นี้มาจากตระกูลสาขาที่อยู่ห่างไกล

 

เขามีความลับมากมายเพียงใด?

 

เมื่อมาถึงจุดนี้ หลินหรูเยียนยิ่งมีความอยากรู้อยากเห็นและประหลาดใจในใจในตัวหลินหานมากกว่าเดิม

 

ในเวลานี้ พวกเขาทั้งสองยังมองไม่เห็น

 

ที่ปากทางเข้าของลานเล็กๆ มีร่างเล็กๆยืนอยู่ตรงนั้น

 

หล่อนคือหญิงรับใช้ เสี่ยวหนู่

 

ยามนี้ นางมองการประดาบของคนสองคนในลาน ดวงตาสีดำกลมโตสื่อความอ้างว้าง

 

......

 

หลินหานและหลินหรูเยียนหยุดหลังจากผ่านเวลาหนึ่งชั่วยามเต็มๆ

 

พวกเขามองหน้ากัน เพราะได้เรียนรู้มากมายจากอีกฝ่าย พลังต่อสู้จึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

หลินหรูเยียนไม่พูดอะไรมาก ในที่สุดนางก็ยิ้มให้หลินหานและพูดว่า "ขอบคุณ" ก่อนที่นางจะจากไปอย่างช้า ๆ

 

ครานี้ หลินหานยิ้มอย่างใจกว้าง ยินดีต้อนรับหลินหรูเยียนเพื่อมาเรียนรู้วิชาของกันและกันบ่อยครั้ง

 

หลินหานตระหนักถึงทักษะมากมายในการใช้ดาบจากตัวหลินหรูเยียน ถ้ามันถูกนำไปใช้กับการต่อสู้จริง มันจะเพิ่มพลังของดาบอย่างแน่นอน

 

หลังจากนั้น..

 

หลินหานมิปล่อยให้เวลาผ่านไป เขาเดินเข้ามาในบ้าน และทำความเข้าใจโล่ระฆังทองคำตะวันฉายต่อไป

 

เวลาผ่านไปดั่งสายน้ำ

 

พริบตาเดียว เวลายามบ่ายก็ผ่านไปอย่างเงียบ ๆ

 

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นมืดคลึ้มขึ้นทุกที

 

แต่ภายในห้องเวลานี้

 

"ระฆังทองตะวันฉาย บรรพตทะยานฟ้า!"

 

ทันใดนั้น เสียงที่ทรงพลังก็ดังขึ้น

 

มันคือเสียงของหลินหาน

 

ในเวลานี้ ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยระฆังที่หล่อด้วยทองคำขนาดใหญ่ เกือบจะควบแน่นเป็นสารที่จับต้องได้

 

พลังของระฆังโบราณ มีความแวววาวของโลหะ เต็มไปด้วยพลัง

 

"ท้ายที่สุด ข้าก็ตระหนักถึงอุรุสวรรค์!"

 

ใบหน้าของหลินหานเผยให้เห็นถึงความสุข

 

แน่นอนว่าความสามารถในการทำความเข้าใจดังปีศาจก็ไม่ปานของเขาไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง แต่ในเวลาสั้นๆ เขาสามารถเรียนรู้โล่ระฆังทองคำได้ถึงขอบข่ายอุรุสวรรค์

 

เมื่อใช้วิชานี้ ร่างกายจะถูกปกคลุมด้วยระฆังสีทอง ความแข็งของมัน เทียบได้กับอาวุธสงครามระดับกลาง ทำให้หลินหานคงกระพันฟันแทงไม่เข้า

 

"ก๊อกก๊อกก๊อก ......"

 

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

 

เสียงมีความเบามาก คงจะเป็นข้ารับใช้ที่มาเคาะประตู

 

หลินหานรับรู้ได้ในทันที จึงพูดอย่างไม่มีทางเลือกว่า: "เสี่ยวหนู่ เข้ามาสิ"

 

"เจ้าค่ะ นายน้อย"

 

เสียงของข้ารับใช้ เสี่ยวหนู่ ดังขึ้นจากข้างนอก

 

หญิงหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเดินเข้ามา

 

หลินหานหันไปมอง จึงมองเห็นความผิดหวังเล็กน้อยบนใบหน้าของเสี่ยวหนู่

 

"เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวหนู่?" หลินหานแปลกใจเล็กน้อย

 

"นายน้อย ข้า... ข้า ... " เสี่ยวหนู่ พูดติดอ่าง ในที่สุดก็หลั่งน้ำตา "ฮือ" ออกมาเสียงดังลั่น: "ฮือฮือ ~ นายน้อย ... นายน้อยรังเกียจเสี่ยวหนู่ที่ไร้ประโยชน์ ... "

 

"จะเป็นเช่นนั้นได้ยังไง?" หลินหานค่อนข้างงุนงง แต่เขารีบเดินไปด้านข้างหญิงรับใช้ทันที ดึงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วยิ้มเบาๆ: "เมื่อตอนที่นายน้อยโดดเดี่ยวที่สุด มีเพียงเสี่ยวหนู่ที่อยู่เคียงข้างข้ามาโดยตลอด นายน้อยจะไม่ชอบคุณได้อย่างไร"

 

"จริงเหรอ ... จริงเหรอ?" หญิงสาวตัวเล็กร้องไห้สะอื้น

 

"จริงแน่นอน" หลินหานพยักหน้าอย่างหนัก

 

ในสำนักตระกูลหลินนี้ หลินหานขบคิดอย่างรอบคอบ ก็ตระหนักได้ว่าคนๆเดียวที่อยู่ใกล้ชิดกับเขาจริงๆคือข้ารับใช้ เสี่ยวหนู่

 

“ถ้าอย่างนั้น…นายน้อย เสี่ยวหนู่…เสี่ยวหนู่สามารถอยู่เคียงข้างนายน้อยไปตลอดได้หรือไม่? สามารถรับใช้นายตัวน้อยต่อไป?” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตก็เปล่งประกายราวกับดวงดาว แล้วถาม

 

“ตราบใดที่เสี่ยวหนู่เต็มใจ เจ้าสามารถอยู่ข้างกายข้าได้ตลอดเวลา” หลินหานหัวเราะ และบีบจมูกเล็กๆของหญิงสาว พร้อมพูดทันที

 

"นายน้อยยอดเยี่ยมที่สุด ... เสี่ยวหนู่จะไม่มีวันจากนายน้อยไปตลอดกาล ... "

 

......

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม หญิงสาวก็หลับไหล

 

ในเวลานี้ หลินหานจึงมีโอกาสออกไปข้างนอก

 

ถึงแม้ว่าในเวลานี้ท้องฟ้าจะมืดแล้ว แต่พรุ่งนี้จะเริ่มการประลองแห่งทำเนียบภายนอก

 

ในเวลานี้ เป็นเวลาที่ศิษย์ทำเนียบภายนอกต่างคึกคักที่สุด

 

แน่นอนว่าหลินหานไม่ได้จะออกไปเพื่อก่อความวุ่นวาย เขาแค่อยากจะล่วงหน้าไปดูรายการอันดับของศิษย์

 

ทุกๆปีจะเป็นเช่นนี้

 

คืนก่อนการเริ่มการประลองแห่งทำเนียบภายนอก จะมีการประเมินความแข็งแกร่งของศิษย์ทั้งหมดในทำเนียบภายนอกและภายใน แล้วจัดอันดับเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยงน้ำชาแห่งวิถียุทธครั้งสุดท้าย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด