ตอนที่แล้วบทที่ 9 คนที่ถูกลืม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 ผู้ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์

บทที่ 10 เมดสาวกับห้องน้ำ


บทที่ 10 เมดสาวกับห้องน้ำ

หลังจากที่ริออนออกไปรับนาตาเลียที่โรงแรม ผมก็ทำการหยิบสินค้าล็อตที่สองจากกระเป๋า ขึ้นมาวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ มีทั้งน้ำอัดลมกระป๋อง นมเปรี้ยว นมกล่อง มาม่าคัพ ลูกอม ช็อกโกแลต อาหารกระป๋อง อาหารซองสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หลากหลายยี่ห้อหลากหลายรสชาติให้ลองชิมดู

การที่มีคนรู้จักเป็นเจ้าเมืองนี่ก็ดีไปอย่าง ซื้อง่ายขายคล่องไม่จำเป็นต้องไปตระเวนเคาะประตูขายตามบ้าน หรือไปนั่งเบกะดินในตลาด ไม่ต้องโปรโมทสินค้าเองให้วุ่นวาย แค่เพียงเจ้าเมืองออกหน้าและเปิดคอร์สพิเศษจัดประชุมชาวบ้าน สินค้าของเขาก็จะต้องขายดีเป็นเทน้ำทิ้งแน่ ๆ

อ้าวสำนวนผิดงั้นเหรอ เอาใหม่ ๆ  สินค้าของเขาก็จะต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ ๆ !!

“เอาล่ะ ชิ้นต่อไปจะเป็นพวกของกินที่เก็บไว้นาน ๆ ได้ อืม...จริงสิเธอพอมีอะไรที่ใช้ทำน้ำร้อน กับน้ำเย็นไหม หรือจะเป็นน้ำแข็งก็ได้”

“งั้นรอสักครู่นะคะ ที่นี่ไม่รู้ว่ามีไหม” ชาล็อตกล่าวยิ้ม ๆ สายตาก็มองสินค้าหน้าตาแปลกประหลาดเบื้องหน้า พวกมันมีสีสันสดใสยิ่งกว่าสินค้ารอบที่แล้ว พร้อมหยิบกระดิ่งอันเล็กขึ้นมาสั่นเบา ๆ สองสามที

“ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร แค่บางอันกินแบบร้อนกับแบบเย็นมันอร่อยกว่าเท่านั้นเอง”

“รอถามเมดดูก็ได้ค่ะ นั่นไงมาแล้ว”

ประตูห้องถูกเคาะอยู่สองสามที คีร่าที่ยืนอยู่หน้าประตูจึงเอื้อมมือไปเปิด ผู้มาใหม่เป็นหญิงสาวในชุดเมดแขนตุ๊กตา กระโปรงยาวกรอมเท้า มีผ้ากันเปื้อนสีขาวพันไว้รอบเอว เธอค้อมหัวเดินเข้ามาในห้องพร้อมประสานมือไว้เบื้องหน้า

เมื่อเธอเดินมาอยู่ด้านข้างโต๊ะ ตรงกลางระหว่างผมและชาล็อค เธอก็เงยหน้าขึ้น ทำให้ผมมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน เธอมีผมสีน้ำตาลมัดเป็นหางม้า ตาสีส้มคิ้วหนา และมีกระบนใบหน้าบริเวณจมูก สีผิวไม่ขาวมาก ใบหน้าของเธอแม้ไม่งดงาม แต่ก็เป็นใบหน้าธรรมดาที่ทำให้คนมองแล้วรู้สึกสบายใจ

เมด เมดล่ะครับ!!! สาวเมดตัวเป็น ๆ ผมได้แต่ตื่นเต้น แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ช่องคอมเมนต์บนหัวทีมงานซังก็กำลังทำงานหนักอยู่ในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ยังมีคนดูอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น

“เอ็มม่า ที่นี่พอจะมีอาร์ติแฟคทำน้ำร้อนน้ำเย็นไหมจ๊ะ”

“มีอยู่ค่ะท่านชาล็อต รอสักครู่นะคะ” สาวเมดตอบรับเสียงเบาแบบนุ่มนวล ทำการย่อตัวลงก่อนจะเดินออกจากห้องไป

มะ...มารยาทงามที่สุดอะ! ผมได้แต่มองตามหลังเธอจนคีร่าปิดประตูกลับคืน

“อะแฮ่ม ต่อไหมคะท่านพ่อมด” ชาล็อตที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยเรียกสติผม พร้อมด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ

เสียอาการไปแล้วไหมล่ะ เกิดเป็นลูกผู้ชายไง ๆ ก็มีอาการแพ้สาวเมดกันทุกราย แม้แต่ผมก็ไม่เว้น บ้าจริง...“ครับ ๆ มาต่อกันดีกว่า อันนี้ไม่ต้องใช้น้ำร้อนน้ำเย็นก็กินได้” ผมหยิบขนมขบเคี้ยว มันฝรั่งทอดกรอบรสดั้งเดิมถุงสีเหลือง ขึ้นมาฉีกซองแล้วยื่นให้เธอลอง “ลองกินดูสิครับ อร่อยนะ แต่กินมาก ๆ ไม่ดีเพราะมันไม่มีประโยชน์”

ผมที่เห็นเธอดูกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ยอมล้วงมือเข้าไปในถุงขนมสักที เลยหยิบชิ้นหนึ่งเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวให้ดู ก่อนจะยื่นปากถุงไปทางเธออีกรอบ ครั้งนี้ชาล็อตกล้าล้วงมือเข้าไปหยิบขึ้นมาแผ่นหนึ่ง และค่อย ๆ ยกขึ้นมาเล็ม

กรุบ...“อุ มันเค็ม ๆ นี่มันเกลือใช่รึเปล่าคะ”

“อ่าหะ มันเป็นมันฝรั่งทอดเกลือ”

“เอ๋ มันฝรั่งที่เรานิยมใช้ต้มหรือคะ” ชาล็อตที่ได้รู้ที่มาของมันปิดปากอย่างตกใจ

“ทำง่าย ๆ แต่อร่อยมากนะ แถวบ้านผม คนซื้อมันฝรั่งทอดกรอบรสดั้งเดิมกันเยอะมาก พวกเธอสองคนก็ลองดูสิ” ผมเขย่าถุงในมือเรียกอัศวินอีกสองคนให้ลองมากินดู ไม่นานหลังจากทั้งสองหยิบกินไปคนละชิ้นก็แสดงสีหน้าประหลาด ๆ ออกมา

“นี่มันอร่อย ข้าไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน” คีร่ากล่าวขึ้นมือก็ล้วงไปหยิบแผ่นมันฝรั่งชิ้นต่อไปขึ้นมากินทันที

“ใช่มันอร่อยเกินไป ถึงมันฝรั่งจะถูกมากแต่เกลือมันแพงไม่ใช่รึ” ไรลี่ย์อัศวินชายหน้าตาคมเข้มในชุดเกราะหรูหรา พูดขึ้นอย่างเคลือบแคลงสงสัย

“ไอ้นี่ผมจะขาย 40 coin”

“หาาา ใส่เกลือมากขนาดนี้ราคาแค่ 40 coin!!” ต่อจาก M150 ก็เป็นมันฝรั่งทอดกรอบเนี่ยแหละที่พวกเขาตกใจเวอร์วัง “

ท่านพ่อมดรู้ไหม ที่นี่ปกติเกลือ 1 กำมือราคาพุ่งสูงไปถึง 200-300 coin เลยนะ! แพงยิ่งกว่าโพชั่นเพิ่มเลือด แต่เจ้าสิ่งนี้ใส่มาเยอะขนาดเศษหนึ่งส่วน 3 ของเกลือ 1 กำมือเลย”

ตกใจเรื่องเกลือมากกว่าความอร่อยหรอกเหรอ! แสดงว่าที่นี่เกลือขายได้แพง แบบนี้ต้องจด ผมนำโทรศัพท์ออกมาจดโน้ตเพิ่มเติมลงไป “แถวบ้านผมเกลือถูก ถ้าอยากได้ก็บอกมาแต่ผมขนมาได้ครั้งละไม่เยอะหรอกนะ ผมขายกิโลล่ะ 50 coin แล้วกัน”

“ท่านพ่อมดข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าแพนทาแกรมเกลือถูกเยี่ยงนี้ ไหนจะโพชั่นแปลก ๆ ที่ท่านพึ่งนำเสนอไปอีกเล่า” ชาล็อตพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“เออ เรื่องนั้นผม...ผมเป็นพ่อมดที่ต่างจากพวกเขานิดหน่อย จะเรียกว่าเป็นพ่อมดอินดี้ก็ได้ และรู้อะไรไหมผมเก่งกาจกว่าพ่อมดธรรมดาหลายเท่า ไม่เชื่อลองถามทีน่าดูสิ” ระหว่างที่ตอบผมพยายามไม่หลบสายตาจ้องจับผิดของเธอ เพราะผมเคยได้ยินมาว่าคนโกหกชอบพูดหลบตา ยังดีที่ทักษะการแสดงสมัยมหาลัยมันพอใช้งานได้อยู่ เห็นผมดูตกต่ำขนาดนี้ แต่จริง ๆ ผมเรียนจบคณะนิเทศมานะครับ...

หลังจบคำแถสีข้างถลอกของผม สายตาของชาล็อตก็กลับมาเป็นปกติ “ข้าแค่สงสัยนิดหน่อย ท่านมักทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจเสมอ  แต่ท่านก็ไม่ควรขายถูกเกินจริง ข้าจะรับซื้อพวกมันไว้ในราคาตลาด  ถึงแม้จะเป็นราคาตลาดแต่คุณภาพของสินค้าท่านก็สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แล้วอย่างอื่นเล่า จะอร่อยเหมือนมันฝรั่งทอดกรอบรสดั้งเดิมรึเปล่าคะ”

"อ่า แล้วแต่เธอละกัน"ถ้าขายราคาตลาดคงจะเนียนกว่าสินะหลังจากตกลงเรื่องราคากันได้ ผมก็ไล่แกะขนมที่ซื้อมาทุกยี่ห้อให้คนในห้องทั้งสามคนได้ลองชิม ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เมดสาวเอ็มม่าเดินกลับเข้ามาให้ห้อง พร้อมกับรถเข็นที่มีอุปกรณ์รูปลักษณ์เหมือนกาน้ำใบเล็ก 2 ใบพร้อมถังบรรจุน้ำแข็ง

“ขออนุญาตค่ะ สีแดงนี่คือกาน้ำร้อน ส่วนสีฟ้าคือกาน้ำเย็น” เมดสาวยกกาน้ำทั้งสองขึ้นวางบนโต๊ะ

“อันนี้เป็นน้ำแข็งค่ะ แล้วก็สุดท้ายเป็นน้ำเปล่ากับแก้วน้ำ 4 ใบ ข้านำมาด้วยเผื่อเพื่อท่านหญิงจะต้องใช้ค่ะ” เอ็มม่าชี้มือไปทางถังบรรจุน้ำแข็งและเหยือกน้ำเปล่าบนรถเข็น ก่อนจะกลับไปยืนในท่ากุมมือไว้ด้านหน้าเช่นเดิม

“ต้องการให้ข้าช่วยบริการอะไรไหมคะ?”

ผมที่นั่งมองเธออยู่ได้แต่อึ้งค้าง แม่ครับผมอยากมีเมดส่วนตัว...เอ๊ยไม่ใช่ เธอเป็นเมดที่สุดยอดมากครับผม!! “เอิ่ม เอ็มม่า เธอช่วยผมใช้งานเจ้าอาร์ติแฟค 2 ชิ้นนี้แล้วกัน”

“รับทราบค่ะ”

และแล้วด้วยความช่วยเหลือจากเมดสาวเอ็มม่า ผมก็ทำโค้กเย็น ๆ กับมาม่าต้มให้ทั้ง 3 คนได้ลองกินกัน

“นี่มันอร่อยมาก ถึงหน้าตามันดูไม่น่ากิน แต่กลับอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เวลากินมันเข้าไปก็เหมือนจะละลายในปาก”

“ชาล็อตอันที่เธอถืออยู่เรียกว่าช็อกโกแลต”

“ข้าไม่เคยกินอะไรที่เผ็ดขนาดนี้มาก่อน แฮ่ก ๆ น้ำ ๆ เผ็ด! แต่มันอร่อย!”

“คีร่าค่อย ๆ กิน นี่น้ำ นี่ทิชชู่ซับน้ำตาด้วย ผมขอโทษ ผมน่าจะต้มรสหมูสับแทนรสต้มยำกุ้ง ลืมไปเลยว่าพวกฝรั่งกินเผ็ดไม่เป็น”

“เอิ๊ก...น้ำนี่มันอะไรกัน พอกินเข้าไปแล้วดัน อึก! รู้สึกแปลก ๆ”

“ไรลี่ย์! นายไม่ควรกระดกโค้กรวดเดียวหมดกระป๋อง มันไม่ใช่เหล้าเป๊ก...เอ็มม่าอย่ากลืนลูกอมมันเอาไว้อมไม่ใช่ให้กลืน”

และอื่น ๆ อีกมากมาย กว่าที่ริออนจะพานาตาเลียและทีน่ามาถึง จากห้องสืบสวนบรรยากาศอึมครึมก็กลายเป็นปาร์ตี้ของกินเล่นขนาดย่อมไปเสียแล้ว

“ไง นาตาเลียเธอเป็นไงบ้าง” ผมกล่าวถามนาตาเลียตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในห้อง และด้านหลังของเธอก็ตามติดมาด้วยทีน่าอีกคน “ไงทีน่า” ผมยกมือขึ้นทักทายเธอ แต่ทีน่าเพียงแค่โบกมือทักทายผมเบา ๆ แล้วเดินหนีไปรวมวงปาร์ตี้ขนม กับคนที่เหลือพร้อมกับริออน

“มันแย่มาก ข้าปวดท้องบ่อย ๆ ฮึก ตอนนี้ก็ยังปวดเมื่อเช้ากินข้าวได้นิดเดียวเอง” นาตาเลียตอบ พร้อมกับกุมท้องตัวเองเดินเข้ามานั่งย่อง ๆ ใกล้ผม ด้วยความที่นาตาเลียปวดท้องจนกินข้าวไม่ลง และผมเบื่อจะกินขนมไร้สาระ ทำให้ตอนนี้เราสองโดนกีดกันออกจากวงปาร์ตี้ไปเรียบร้อยแล้วครับ...

ผมหยิบยาถ่ายแกะออกมาสองเม็ดแล้วยื่นให้นาตาเลีย “กินสองเม็ดก่อน ห้ามกลืนนะ ต้องเคี้ยวให้ละเอียด”

“อะไรอ่ะ?” นาตาเลียเงยหน้ามองดูยาเม็ดในมือผม ด้วยสีหน้าฉงน

“มันคือสิ่งที่ใช้กำจัดปรสิตในตัวเธอไง”

“อร่อยไหม?”

“ยังจะถามอีกกินไปเถอะน่า”

“ก็ได้” ว่าเสร็จนาตาเลียก็หยิบมันเข้าปากเคี้ยวพร้อมกันทั้งสองเม็ดและรับน้ำจากมือผมไปดื่ม “ไม่อร่อยเลย แหวะแล้วต้องทำไงต่อ”

“รออีก 1 ชั่วโมงค่อยกินยาเม็ดนี้” ผมวางแผงยาใส่มือเธอ

“แล้วก็ฟังดี ๆ ไอ้ยาที่เธอพึ่งเคี้ยวไป ให้กินทุกวัน วันละ 2 เม็ด รอ 1 ชั่วโมงค่อยกินยาระบายตามเข้าไปอีก 1 เม็ด จากนั้นก็ไปหาห้องน้ำว่าง ๆ และนั่งสิงในนั้นทั้งวัน เข้าใจไหม อ่อ ระหว่างนั้นเอาผงเกลือแร่ผสมน้ำ คนให้เข้ากันจนเปลี่ยนเป็นสีส้มแบบนี้ และค่อย ๆ จิบไปเรื่อย ๆ ทั้งวันเลยนะ ย้ำว่าทั้งวัน” ระหว่างที่ผมอธิบายให้เธอฟัง มือก็ผสมผงเกลือแร่กับน้ำเปล่าสาธิตวิธีทำให้เธอดู

ดีนะที่ตอนหาของในเซเว่นหยิบผงเกลือแร่ติดมาด้วย ไม่งั้นละก็เธอตายคาส้วมแน่นาตาเลีย...

นั่งรอไม่นานก็ครบ 1 ชั่วโมง นาตาเลียแกะยาระบายใส่ปากไป 1 เม็ด สักพักเธอก็พูดโพล่งขึ้นมาเสียงดัง “เอิ่ม...ข้ารู้สึกแล้วล่ะ ภาาา ห้องน้ำไปทางไหน!!”

“เดี๋ยวข้าพาไปเองค่ะ เชิญทางนี้” เมดสาวเอ็มม่า ที่ยืนอยู่ไม่ไกลกล่าวขึ้นมาทันทีพร้อมเดินไปเปิดประตูและผายมือออกไปด้านนอก

“อย่า...อย่าช้า รีบ ๆ พาข้าไป!” นาตาเลียที่กุมท้องหน้าซีดเผือด จ้ำเท้าเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เธอจะออกไปผมที่มือไวกว่า จัดการคว้าตัวเธอไว้ แล้วยัดแก้วน้ำเกลือแร่ใส่มือ

“ไปห้องน้ำใครเอาเครื่องดื่มเข้าไปกินกันเล่า!” นาตาเลียที่เดินย้ำอยู่กับที่อย่างร้อนรนพูดประท้วง

“เอาไปวางไว้หน้าห้องน้ำก็ได้ ค่อยเดินออกมาจิบผมหวังดีต่อเธอนะ นาตาเลีย ไม่เอาเกลือแร่ไปเธอได้ตายคาห้องน้ำแน่ รู้ไหม เชื่อผมเถอะ!”

“อึก...ขนาดนั้นเลยหรือ” เธอมองหน้าผมแล้วพูดออกมาเสียงเบาหวิว ผมจึงพยักหน้าตอบกลับไปอย่างหนักแน่น จนนาตาเลียยอมคว้าแก้วน้ำไปห้องน้ำด้วย

“ผมเชื่อนะ นาตาเลีย ว่าเธอจะรอดกลับมา”

“ข้า...ข้าจะพยายาม แต่ตอนนี้ข้าไม่ไหวแล้ว!!” นาตาเลียมองมาที่ผมด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะร้องลั่นเมื่อข้าศึกบุกประชิดประตูหลังอย่างแรง เธอสะบัดมือผมออกแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเมดสาวเอ็มม่าออกไปหาห้องน้ำ

“ยานั่นกินแล้วจะทรมานขนาดนั้นเลยหรือ?” ชาล็อตที่อยู่ไม่ไกล มองมาที่ผมด้วยความตกใจกับสภาพนาตาเลียเมื่อครู่

“ไม่หรอก คนเราทุกคนเกิดมาก็ต้องผ่านช่วงเวลาถ่ายพยาธิหฤโหดกันอยู่แล้ว ก็เหมือนผ่าฟันคุดแหละ”

ทุกคนในห้องที่ได้ยินคำตอบผม พลันเอียงคงฉงนอย่างพร้อมเพรียงกัน อะไรคือช่วงเวลาถ่ายพยาธิ อะไรคือผ่าฟันคุด?

“เอาเป็นว่า ถึงมันจะทรมานไปนิดแต่มันดีต่อสุขภาพ ที่จริงพวกนายควรกินมันด้วยเหมือนกันนะ”

“ไม่ต้องหรอกข้าสบายดี!” ทีน่าบอกปัดออกมาอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องคิด

“เฮ้ ผมพูดจริง พวกเธอควรลองมันสักครั้งในชีวิต” เมื่อพูดจบ ผมก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้ารัว ๆ จนผมเผ้ากระเซิงจากทุกคนในห้อง

ถ่ายพยาธิไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดหรอกน่า มันก็เหมือนผ่าฟันคุดแหละเจ็บแป๊บเดียวเอง!

.....

ฝั่งนาตาเลีย พอวิ่งตามเมดมาถึงห้องน้ำ ก็รีบพุ่งเข้าไปปิดล็อกประตูอย่างแรงทันที  ปัง!

ด้วยความที่ห้องน้ำสมัยนี้เป็นส้วมซึม เธอจึงต้องนั่งย่อง ๆ เมื่อนั่งมาได้ 5 นาทีขาเธอก็เริ่มออกอาการล้า เหงื่อผุดซึมออกมาตามใบหน้า และเนื้อตัวจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม

ผ่านไป 10 นาที เธอเริ่มออกอาการตาลอย ลำคอแห้งผาก จนจำต้องหยิบแก้วน้ำเกลือแร่ขึ้นมาจิบ ถึงกลิ่นและสภาพตอนนี้จะไม่เอื้อในการเอาอะไรเข้าปาก แต่เธอทนไม่ได้แล้วเธอหิวน้ำมาก ทรมาน มันโคตรจะทรมาน นาตาเลียเริ่มตัดพ้อต่อโชคชะตา นี่เธอยังต้องกินยานั่นติดต่อกันถึง 3 วันเลยหรือ ไม่นะ แค่คิดน้ำตาก็พลันไหลอาบหน้าแล้ว...

แต่นาตาเลียก็คือนาตาเลีย เธอนั่งร้องไห้เป็นผีส้วมอยู่ได้ไม่นาน เธอก็เปลี่ยนความเจ็บปวดทั้งหมดในตอนนี้ไปเป็นความแค้น ดวงตาเธอพลันแดงก่ำ หนี้แค้นหนนี้ต้องได้รับการชำระ!ไอ้พวกวิหารแห่งความมืดบัดซบ!! อย่าให้แม่เจอที่ไหนนะ แม่จะ@! $$@^&*&$@! %@$*

ถึงสภาพในตอนนี้ เธอจะไม่มีแรงด่าเหล่าสาวกวิหารเทพแห่งความมืดแบบออกเสียง แต่เพียงแค่ได้ด่าในใจก็ทำให้เธอเริ่มมีแรงยืดหยัดบนส้วมได้ต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด