ตอนที่แล้วChapter 236: แบล็คฟอเรสอื่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 238: พวกเจ้าซุกซนจริงๆ

Chapter 237: ขอให้ผู้คนที่รักฉันไม่ต้องพบกับความโศกเศร้า


ไม่นานหลังจากเข้ามาสู่อาณาจักรวิญญาณอีกครั้ง ลิงค์ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรงราวกับว่าเขาได้ตกเป็นเป้าหมายของสัตว์ที่ดุร้าย

นี่เป็นลางสังหรณ์ของนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง

ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ลิงค์คิด

แบล็คฟอเรสในอาณาจักรวิญญาณนั้นน่าสยดสยองเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้  ลมเย็นๆภายในป่าตามปกติ เสียงนกที่ร้องอย่างร่าเริงและเสียงคำรามอันน่าเกรงขามของสัตว์ป่าก็หายไป ป่านั้นดูเหมือนกับว่าตายไปแล้วและเงียบมาก

เมื่อมองไปที่ถนนข้างหน้า ลิงค์ก็รู้ว่าเขาจำเป็นต้องทำการเตรียมตัวเพื่อที่จะเพิ่มไพ่ตายไว้ในมือของเขา

จากนั้นเขาก็เช็คสเตตัสของตัวเอง เขายังคงมี200แต้มโอมนิเหลืออยู่และพลังสายเลือดความสัมพันธ์ธาตุที่เขายังไม่ได้เปิดใช้งาน

แต้มโอมนินั้นควรเก็บเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่คับขันจริงๆ ยังไงก็ตามพลังสายเลือดความสัมพันธ์ธาตุนั้นน่าจะเป็นบัพที่สะดวกและมีประโยชน์สำหรับทุกการต่อสู้ เวทมนตร์ธาตุทั้งหมดที่เขาร่ายจะมีพลังเพิ่มขึ้น50% มันอาจจะไม่ค่อยได้ผลดีนักในอาณาจักรวิญญาณ แต่มันจะมีผลดีอย่างมากในอาณาจักรกายภาพ

ปัญหาเดียวของมันคือความเจ็บปวดอันมหาศาลที่มาพร้อมกับขั้นตอนในการแปลงร่าง ความเจ็บปวดนี้อาจจะทำให้เขาหมดสติได้

ในระหว่างที่เขาลังเล ข้อความในเกมก็เด้งขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา:ความเจ็บปวดสามารถลดทอนได้ด้วยการขยายเวลาที่ต้องใช้ในการแปลงร่าง

โอ้?มีตัวเลือกแบบนี้ด้วยเหรอ? ลิงค์ถูกดึงดูดและถาม ถ้าไม่ให้มันมีผลกับกระบวนการคิดของฉัน มันจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการแปลงร่าง?

2ชั่วโมง

ยืนยันการแปลงร่าง!ลิงค์คิด

หลังจากที่ให้คำยืนยันกับระบบเกม ความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่างกายของเขา มันเหมือนกับว่ามีก้อนกรวดมากดทับอวัยวะของเขาทำให้เขารู้สึกไม่สบายอย่างยิ่ง

ในตอนที่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับลิงค์ในตอนแรก เขาหายใจไม่ออกและเกือบจะหมดสติไป มันต้องใช้เวลาอยู่ประมาณ10นาทีลิงค์ถึงจะค่อยๆปรับตัวกับความเจ็บปวดได้

มันยังคงเป็นความเจ็บปวดที่สามารถรับได้ เหมือนกับในตอนที่เขาดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานามากเกินไป ลิงค์พยายามที่จะไม่เพ่งสมาธิอยู่กับความเจ็บปวดและสังเกตุดูรอบข้างของเขาแทน

เพราะว่าเขานั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งรอบข้างในก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าพวกเขานั้นอยู่ถามกลางกลุ่มหมอกหนา ทัศนวิสัยถูกบดบังโดยหมอก ควบคู่ไปกับแสงอ่อนๆตามธรรมชาติของแบล็ฟอเรส ทำให้ทัศนวิสัยของพวกเขาถูกจำกัดเหลือแค่ 9 ฟุต

“ดูสิ มีเงาดำอยู่ข้างในหมอก!”อยู่ๆหน่วยสอดแนมก็ชี้ไปที่ข้างๆพวกเขาและตะโกน

ทุกคนหันไปทางนั้นในทันทีและเห็นอย่างชัดเจนว่ามีเงาดำวิ่งผ่านพวกเขาไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

คำอธิบายของเฟลิน่านั้นถูกต้อง เงาดำมีความสูงประมาณ6ฟุตและมีร่างกายที่แข็งแรง และมันยังเร็วมากๆอีกด้วย

ลิงค์เองก็เห็นสัตว์ประหลาดตนนั้นเหมือนกัน เขาอาจจะเห็นมันชัดเจนกว่าคนอื่นๆอีกด้วย ในตาของเขา เงาดำนั้นมีตาที่ส่องแสงสีทอง มีรูปร่างเหมือนมนุษย์และมีมือที่คล้ายกับกรงเล็บและที่หลังของมันก็มีหางอันเรียวยาวออีกด้วย

นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดแห่งฝันร้ายจริงๆ!

ลิงค์เคยเห็นสัตว้ายเช่นนี้มาก่อนในเกม เขาจำได้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ถูกเรียกว่าปีศาจจิตใจภายในเกม ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก แต่ออร่าของพวกมันนั้นแข็งแกร่งมาก ภายใต้ผลของออร่าของพวกมัน ผู้คนจะสูญเสียความมีเหตุผลของพวกเขาไปและจะตกสู่กับดักวิญญาณที่พวกมันได้เตรียมไว้อย่างระมัดระวังได้อย่างง่ายดาย และผู้เคราะห์ร้ายก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะของปีศาจจิตใจไป

ทางที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็คือการเดินทางเป็นกลุ่ม  ถ้าพวกเขาคอยสังเกตซึ่งกันและกัน โอกาสที่พวกเขาจะตกลงสู่กับดักนั้นก็จะลดลงอย่างมาก

ยังไงก็ตาม ปีศาจจิตใจตนนี้เพิ่งจะจัดการหน่วยสอดแนมไปโดยใช้แผนการอันชั่วร้ายของมัน มันน่าจะต้องเป็นตัวที่แข็งแกร่งมากแน่ๆ พวกเขายังต้องคอยระวังมันไว้

จากนั้นลิงค์ก็ตะโกนในทันที“อย่าตื่นตระหนก! มันคือสัตว์ประหลาดฝันร้าย อาวุธธาตุเงินศักดิ์สิทธ์มีประสิทธิภาพกับมันมาก เตรียมตัวไว้แล้วโจมตีในตอนที่มันโผล่ออกมา!”

ความมั่นใจของทุกคนเพิ่มขึ้นเพราะคำพูดของลิงค์ ความกลัวมากที่สุดของพวกเขาก็คือความไม่รู้ถึงสัตว์ประหลาดปริศนาที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ ตอนนี้ลิงค์ได้วิเคราะห์สถานการณ์และยังบอกพวกเขาถึงวิธีการจัดการกับสัตว์ประหลาดตนนี้ ความกลัวในจิตใจของพวกเขาจึงหายไปเกือบหมด

หมอกค่อยๆหนาขึ้นเมื่อพวกเขาเดินไปข้างหน้า ไม่นานนัก ระยะการมองเห็นของพวกเขาก็ลดลงเหลือ6ฟุต

พวกเขาเดินติดกันเพื่อที่จะไม่ให้หลงไปตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกเขาอยู่ลักษณะนี้เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะมีอุบัติเหตุอื่นเกิดขึ้น

คาร์โนส ที่ได้อยู่ที่ไหล่ของเฟลิน่ามาตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เริ่มที่จะคำรามเสียงดัง เสียงคำรามเขาแปลกมาก มันดูรุนแรงและดุร้าย เหมือนกับว่าเขาเป็นสัตว์ที่ดุร้าย

กรงเล็บได้งอกออกมาจากนิ้วของเขาที่ปกติตัดไว้อย่างสะอาด และเขาพยายามที่จะดิ้นให้หลุดออกจากมือของเฟลิน่า กรงเล็บแหลมได้ขูดหลังของเฟลิน่าเป็นบางครั้ง เสียงของกรงเล็บขูดกับผิวหนังเปล่าๆนั้นมันชวนให้ปวดหัวอย่างมาก

“อ้า!”เฟลิน่าไม่สามารถทนต่อแรงของคาร์โนสได้อีกต่อไปแล้วและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเธอก็โยนคาร์โนสลงจากหลังตามสัญชาติญาณ ในตอนที่เขาตกลงสู่พื้นอย่างแรง เขาได้คำรามอย่างดุร้ายใส่พวกลิงค์ก่อนที่จะหนีเข้าไปในป่า

ยังไงก็ตาม หลังจากก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็จับหัวของเขาและคุกเข่าลงกับพื้นก่อนที่จะตะโกน“ไม่! ไม่!ข้าจะไม่ตกลงสู่ความมืด!ข้าคือคาร์โนส!นักรบที่แข็งแกร่งที่สุด!”

เขานั้นมาถึงขีดจำกัดแล้วอย่างเห็นได้ชัด

ลิงค์รีบตรงไปหาคาร์โนสในทันทีและยื่นขวดน้ำที่ใส่ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ลงไปให้เขาในขณะที่เขายังมีสติอยู่ จากนั้นเขาก็ตะโกน“ดื่มนี่!เร็วเข้า!”

การใช้ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ในการยับยั่งพลังแห่งความมืดนั้นเป็นวิธีการที่ป่าเถื่อนอย่างมาก ลิงค์จะไม่ใช้วิธีการนี้ถ้าเกิดว่ามันไม่ใช่อย่างสุดท้ายจริงๆ

คาร์โนสจับขวดเพราะว่ามันเป็นหนทางเดียวที่ช่วยเขาได้และดื่มมันรวดเดียวหมดโดยที่ไม่ลังเลเลย

ในจังหวะที่ธาตุเงินศักดิ์สิทธ์สัมผัสปากของเขา ก็มีเสียงซ่าๆดังขึ้นและมีหมอกสีขาวลอยออกมาจากปากของเขา  จากนั้นคาร์โนสก็เริ่มร้องด้วยความเจ็บปวดในขณะที่เขาพยายามจะกลืนธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ที่เหลือลงในร่างกาย  ในตอนที่เขาดื่มเสร็จ ผิวหนังรอบๆปากของเขานั้นได้ถูกทำให้กร่อนด้วยธาตุเงินศักดิ์สิทธ์

ยังไงซะมันก็ได้ทำหน้าที่ของมัน

ออร่าความมืดที่ปกคลุมคาร์โนสได้หายไปอย่างมากและแสงสีแดงที่ปกคลุมดวงตาของเขาก็จางหายไปเช่นกัน ยังไงก็ตามธาตุเงินศักดิ์สิทธ์นั้นก็ได้ทำลายร่างกายของเขาไปเช่นกัน

เขาได้อ่อนแอลงอย่างมากและนอนอยู่กับพื้นและจ้องไปบนท้องฟ้าพร้อมกับพูดพึมพำ “โอ้ เทพแห่งแสง ได้โปรดช่วยวิญญาณของข้าด้วย!ได้โปรด!”

ในตอนที่เขาพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเขาทั้งสองข้าง  นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกแห่งฟิรุแมนได้พังทลายแล้ว เขาไม่ต้องการที่จะตกลงสู่ด้านมืด เขานั้นไม่ต้องการกลายเป็นกูลที่จะไปฆ่าผู้คนชาวมนุษย์มากมาย แต่ว่าเขากำลังจะแพ้ให้กับมันในไม่ช้า!

ทุกคนนั้นต่างเงียบในขณะที่แอนนี่เดินไปหาเฟลิน่าเพื่อเตรียมตัวที่จะพันแผลให้กับเธอ

การอาละวาดของคาร์โนสนั้นได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้บนหลังของเฟลิน่า เกราะของเธอนั้นเต็มไปด้วยเลือดแล้วในตอนที่แอนนี่มาถึงตัวเธอ

“เดี๋ยวก่อน ใช้มีดธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ตัดเนื้อสดที่อยู่รอบๆออกก่อน”ลิงค์สั่ง

เฟลิน่ารู้ว่านั้นเป็นการทำเพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานความมืดเข้าไปมีผลกับจิตใจของเธอ เธอจึงอนทนต่อความเจ็บปวดในระหว่างที่แอนนี่นั้นกำลังจัดการกับแผลของเธอตามคำแนะนำของลิงค์

โชคดีที่ แอนนี่นั้นทำได้รวดเร็วและรักษาแผลสำเร็จได้ภายในเวลาไม่ถึง5นาที

“ขอบคุณ”เฟลิน่ากระซิบ

เธอนั้นไม่รู้สึกโกรธเลยเมื่อมองไปที่คาร์โนส ผู้ที่ตอนนี้นอนอยู่บนพื้นอย่างไรพลัง กลับกันหัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความสงสารและเสียใจที่คนที่อัจฉริยะอย่างนี้ต้องมาเข้าสู่ด้านมืด

เธอส่ายหัวของเธอและพูดกับลิงค์“ข้าเกรงว่าคาร์โนสอาจจะไม่สามารถทนไปได้จนถึงป้อมยอดภูเขาน้ำแข็ง ต่อให้เขาทนได้ พวกเราก็อาจจะไม่สามารถปัดเป่าพลังงานความมืดที่อยู่ภายในตัวเขาได้แล้ว ข้าพูดถูกใช่มั้ย?”

นี่คือความจริง ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ และใบหน้าของคาร์โนสก็ซีดเผือก

ก่อนหน้านี้ เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพลังของอุปกรณ์ระดับเทพเจ้าและนั่นทำให้เขามีความั่นใจที่จะสู้กับมัน ยังไงก็ตาม ความมั่นใจและความเชื่อที่ว่าเขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งฟิรุแมนกำลังพังทลายลงอย่างช้าๆในตอนนี้

คาร์โนสหันมามองลิงค์และพูดด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง“นักเวทย์ ฆ่าข้าเถอะ อย่าให้ข้ากลายเป็นสัตว์ประหลาดเลย”

ทุกคนจ้องไปที่ลิงค์ รอให้เขาทำการตัดสินใจ

เป้าหมายหลักของภารกิจของพวกเขาก็คือช่วยเหลือคาร์โนส ยังไงก็ตาม พวกเขาได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว เว้นแต่ว่าเทพเจ้าจะจุติลงมายังโลก มันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนชะตากรรมอันโหดร้ายของคาร์โนสได้ หนทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ยิ่งขึ้นไปกว่านี้ได้ก็คือการฆ่าเขาลงที่ตรงนี้ซะ

ลิงค์ยังคงเงียบ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีตัวเลือกเหลือ แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้เรื่องคาร์โนส

ยังไงก็ตาม ถ้าเขาลองปัดเป่าพลังงานความมืดที่อยู่ในร่างกายของเขาออกล่ะ?

เขามองไปที่200แต้มโอมนิที่เหลืออยู่ ในการที่จะยับยั้งกระบวนการแปลงเป็นปีศาจของอุปกรณ์ระดับเทพเจ้า เวทย์ของคนธรรมดานั้นย่อมไร้ประโยชน์ เวทย์เดียวที่สามารถใช้ได้ผลกับมันก็คือเวทย์ระดับตำนาน

200แต้มโอมนินั้นเพียงพอที่เขาจะซื้อเวทย์ระดับตำนาน ลิงค์จำมันได้อย่างชัดเจนว่ามันมีเวทย์ที่สามารถปัดเป่าพลังงานแห่งความมืดได้ในตอนที่เขาเล่นเกมอยู่ ปัญหาเดียวที่เขามีก็คือมานาที่เหลืออยู่ของเขาตอนนี้มีแค่1500แต้มและมันก็ไม่เพียงพอต่อการร่ายเวทย์ต่อให้เขาซื้อเวทมนตร์มาได้

เขาจะทำอย่างไรดี?

ลิงค์เปิดรายชื่อเวทมนตร์ที่เขาคิดที่จะซื้อขึ้นมาและเขาก็พบการ์ดเวทมนตร์ระดับตำนานที่เขาหาอยู่ มันส่องประกายเป็นแสงหลากสี

ปริศนาต้องห้าม การชำระล้างครั้งใหญ่

เวทย์ระดับตำนานเลเวล14

ราคา:140แต้มโอมนิ

มานาที่ต้องการ:11000แต้ม

ผล:ปัดเป่าพลังงานความมืดทั้งหมดที่อยู่ภายในระยะ3000ฟุต

มานาที่ต้องการอันบ้าคลั่งของเวทย์นี้ได้ทำให้ลิงค์ตัวสั่นด้วยความกลัว มานาสูงสุดของเขาตอนนี้มีเพียงแค่8100แต้ม มันยังคงขาดอีก3000แต้ม ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างที่สุดแล้วก็ตาม

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะใช้เวทย์นี้

เขาจะทำอย่างไรดี?

“อ๊ากก!!ข้าไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไปแล้ว!”คาร์โนสตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ผลของธาตุเงินศักดิ์สิทธ์นั้นอยู่ได้สั้นมาก มันอยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อนที่พิษอันร้ายแรงของอสรพิษทมิฬได้เริ่มอาละวาดในร่างของคาร์โนสอีกครั้ง

ตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือดและสามารถเห็นรูนแห่งความมืดอยู่ภายในมัน กรงเล็บที่มือของเขาก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้

“ฆ่าข้า!ฆ่าข้าตอนนี้เลย!”คาร์โนสมองไปที่ลิงค์ ในขณะที่เขาขอร้องให้ปลิดชีวิตของเขาซะ

แกร๊ง!เฟลิน่าชักมีดธาตุเงินศักดิ์สิทธ์ของเธอออกมาและเดินไปและคาร์โนสก่อนที่จะเอามันไปจ่อไว้ที่คางของเขา จากนั้นเธอก็หันมาหาลิงค์และพูด“นักเวทย์ พวกเราไม่มีเวลาแล้วนะ!”

ลิงค์ยังคงลังเลอยู่

นักรบชาวมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด 2นักบุญแห่งเผ่ามนุษย์ นักดาบในตำนาน เสาหลักของโลกแห่งแสง-ทั้งหมดนั้นคือเกียรติของคาร์โนสที่เขาจะได้รับในอนาคต ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา

“ลิงค์!”เฟลิน่าเร่ง เธอนั้นเกือบจะรั้งคาร์โนสไว้ไม่อยู่แล้ว

“มาสเตอร์!”หน่วยสอดแนมตะโกน

“ฆ่าข้า!เลิกลังเลได้แล้ว!เร็วเข้า!”คาร์โนสพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าสติสัมปชัญญะของเขากำลังถูกกลืนกินโดยงูยักษ์

ลิงค์ถอนหายใจครั้งใหญ่และเดินไปหาคาร์โนสก่อนที่จะนั่งคุกเข้าลงข้างนึง จากนั้นเขาก็เอามือไปแตะที่หน้าอกของคาร์โนสและกระซิบ“ใจเย็น นักรบ ผมจะปัดเป่ามันให้คุณเอง”

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำสาปจากอุปกรณ์ระดับเทพเจ้า พลังของมันก็น่าจะถูกยับยั้งได้ด้วยกฎของโลกแห่งฟิรุแมน ถ้าลิงค์ใช้เวทย์ระดับตำนาน มันก็น่าจะเพียงพอที่เขาจะปัดเป่าพลังงานความมืดที่น่ารังเกียจนี้ได้

ลิงค์ตัดสินใจซื้อเวทย์ซับพอร์ทระดับตำนานเลเวล14มา

“ลิงค์ เจ้าไม่ได้พูดเล่นใช่มั้ย?”เฟลิน่าถามด้วยความไม่เชื่อ

ถึงแม้ว่าลิงค์จะเป็นแบทเทิลเมจที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เขาก็ยังคงเป็นคนธรรมดา เขาพูดได้ยังไงว่าเขาสามารถปัดเป่าพลังของอุปกรณ์ระดับตำนานได้?

จากนั้นลิงค์ได้ยิ้มเพื่อยืนยันและพูด“อย่าลืมไปว่าพวกเราอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ ตราบใดที่เราเชื่อมันในการกระทำของเขา อะไรๆก็เกิดขึ้นได้!”

ถ้าเกิดว่าพวกเขาอยู่ในอาณาจักรกายภาพ เขาคงจะไม่สามารถร่ายเวทย์ระดับตำนานนี้ได้ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ ยังไงก็ตาม พวกเขาอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ ตราบใดที่เขามีความเชื่อมั่นมากพอ เขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ

ความคิดมากมายได้ผุดขึ้นมาบนหัวของลิงค์

ฉันจะสามารถร่ายมันได้รึเปล่านะ?ใช่ ฉันทำได้!วิญญาณของฉันนั้นเทียบเท่าได้กับวิญญาณศักดิ์สิทธ์!ลิงค์คิด

ไม่มีอะไรฟรีในโลกใบนี้ มันมีผลข้างเคียงตามมาอย่างมากในการที่ใช้พลังวิญญาณในการร่ายเวทย์ระดับตำนาน คำถามก็คือมันคุ้มค่าหรือเปล่า?

ลิงค์ถามตัวเองด้วยคำถามที่ยากมากๆ ใจความสำคัญของคำถามนั้นง่ายมากๆ มนุษย์มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน?

ใบหน้ามากมายได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของลิงค์ เซลีน เอเลียร์ด ไรไล เอร์เรร่า แจคเกอร์ ลูซี่และผู้คนอีกมากมายที่เขาพบในการเดินทางของเขา

ขอให้โลกแห่งฟิรุแมนไม่ต้องตกอยู่ในความมืด ขอให้ผู้คนที่รักฉันไม่ต้องพบกับความโศกเศร้า! นี่คือคำตอบที่ลิงค์พบ

เขานั้นไม่เคยช่วยเหลือทั่วทั้งโลกของฟิรุแมนด้วยพลังของตัวเองเลย โลกนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตและเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันมากมาย การต่อสู้สงครามด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่มีประโยชน์

ลิงค์เลือกตัวเลือกนี้โดยไม่ได้มาจากอารมณ์ของเขา แต่มันมาจากความรู้ของเขา

หลังจากผ่านกระบวนการใตร่ตรองนี้ ความเชื่อมั่นของลิงค์ก็มั่นคงขึ้นอย่างมาก

ในเวลาต่อมา แสงสว่างหลากสีได้ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา และจากนั้นมันก็ขยายไปทั่วทั้งตัวของเขา มันเกือบจะทำให้เขาดูศักดิ์สิทธ์ไปเลย

ในเวลาต่อมา แสงสว่างพวกนั้นก็ได้พุ่งเข้าสู่ตัวคาร์โนส ซึ่งเขานั้นหยุดการดิ้นรนแทบจะทันที

คาร์โนสอ้าปากของเขาและหายใจเข้าลึก ตาของเขาเปิดกว้าง แม้ว่าเขาจะไม่ได้โฟกัส เขาก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้เห็นแสง และพรแห่งแสงสว่างมากมายได้ตกลงมาหาเข้าจากความว่างเปล่าของโลกใบนี้

ในทันใดนั้น หัวใจที่กระวนกระวายของเขาก็สงบลง

ลำแสงหลากสีนั้นยังคงขยายต่อไปโดยที่มีลิงค์เป็นศูนย์กลาง มันพุ่งผ่านร่างของเฟลิน่าและหน่วยสอดแนม

ความสว่างไสวนี้ได้ปัดเป่าหมอกให้หายไปหมด สัตว์ประหลาดแห่งฝันร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมก็ได้สลายกลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวไป สายลมก็ร้องด้วยน้ำเสียงอันเจ็บปวด

คลื่นพลังงานอันแข็งแกร่งดูเหมือนว่าจะพุ่งผ่านไปทั่วอาณาจักรวิญญาณและขยายออกไปในทุกทิศทาง สัตว์ประหลาดแห่งความมืดที่อยู่ในแบล็คฟอเรสนั้นต่างหนีออกจากพื้นที่นี้อย่างตาเหลือก

แม้ว่าฉันจะให้ทุกอย่างที่ฉันมีไปแล้ว ฉันก็จะไปตามทางที่ฉันได้เลือกต่อ!

ลิงค์รู้สึกได้ถึงแรงกดดันและความเจ็บปวดที่วิญญาณของเขาแต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจมันและใช้เวทย์การชำระล้างครั้งใหญ่ต่อโดยไม่ลังเล

ภายในแสงสว่างอันไม่มีที่สิ้นสุด ตาของเฟลิน่าเบิกกว้างและมองไปที่ลิงค์ด้วยความไม่เชื่อ เธอรู้ว่าพลังนี้นั้นมันเกินขีดจำกัดของคนธรรมดา

แอนนี่จ้องไปที่ใบหน้าอันเจ็บปวดของลิงค์และร้องไห้ไปด้วยในขณะที่เธอพยายามกลั้นเสียงร้องของตัวเองเอาไว้

หน่วยสอดแนมที่เหลือนั้นได้คุกเข่าลงกับพื้นเพราะแรงกระแทกจากเวทมนตร์ พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้เห็นการจุติลงมาของเทพเจ้า

...

แบล็คฟอเรส อาณาจักรกายภาพ

ไอมอนส์ได้มาถึงฝั่งของอาเซเลีย เขานั้นกำลังร่ายเวทย์การติดต่อระหว่างอาณาจักร และในตอนนั้นเองเขาก็ได้หยุดการกระทำลง การร่ายเวทย์ของเขาเองก็ถูกขัดจังหวะเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น?”อาเซเลียถาม

ไอมอนส์ส่ายหน้า“ไม่มีอะไรอยู่ๆข้าก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย มันน่าจะเป็นเพราะอายุที่มากแล้วของข้า”

จากนั้นเขาก็ได้ทำการร่ายเวทย์ต่อ

5 วินาทีต่อมา เหมือนกับว่าโลกรอบๆได้ถูกขโมยเอาสีสันไป อาเซเลีย บรูธตันและกลุ่มกูลทั้ง30ตัวก็ได้ถูกส่งมายังอาณาจักรวิญญาณ

ไอมอนส์ไม่ได้เข้ามาที่อาณาจักรวิญญาณด้วยกันกับพวกเขา เสียงของเขาดังผ่านชั้นบรรยากาศ“นายหญิง ท่านสามารถอยู่ในอาณาจักรวิญญาณได้แค่3ชั่วโมง 3ชั่วโมงต่อมาท่านจะถูกส่งกับมาที่อาณาจักรกายภาพโดยอัตโนมัติ ถ้าท่านต้องการที่จะกลับมาก่อนเวลาหล่ะก็ ได้โปรดเรียกข้าได้เลย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด