ตอนที่แล้วทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 24
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 26

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 25


ตอนที่ 25

เพราะท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว รวมทั้งหมดแรงไปกับการแข่งขัน ผู้เล่นส่วนใหญ่ของกวงเป่ยจึงเก็บกระเป๋ากลับกันหมด เหลือแค่หลี่กวงเย่าและไมค์ที่ยังอยู่ในสนาม

เวลานี้เขาทั้งสองคนยืนอยู่ในจุดพักของตงไถ หลี่กวงเย่าคุยกับเพื่อนร่วมทีมเก่าทั้งสี่คนอย่างสนุกสนาน ไมค์ก็ถูกดึงเข้าร่วมวงสนทนาด้วย

“นายชื่อไมค์เหรอ ความเร็วในการกระโดดของนายถือว่าไวนะ และมือของนายก็ยาวด้วย ลูกที่ฉันโยนชู้ตออกไปก็ถือว่าโยนสูงพอแล้วที่จะหลบการบล็อกจากนาย คิดไม่ถึงว่าจะโดนนายบล็อกไว้ได้ เยี่ยมมาก” หวังเฉาไข่ตบแขนไมค์ “แต่พื้นฐานของนายต้องทำให้ดีกว่านี้อีก อีกอย่าง นายผอมไป ต้องกินเยอะๆ หน่อย ไม่งั้นถ้าอยู่ในเขตจุดโทษจะเสียเปรียบ”

เซ็นเตอร์อย่างเกาอี้เซิงเองก็เข้าสู่วงสนทนาด้วย “ใช่ ทุกครั้งที่ฉันได้บอลใต้แป้น ถ้าหากไม่มีการประกบ ก็สามารถบีบนายออกและได้คะแนนอย่างสบาย อีกอย่าง มือของนายยาว ต้องใช้ให้เป็น ใช้เทคนิคเล็กน้อยดึงระยะของตัวป้องกันให้ห่างออกไป ขณะที่ลงมือจะลดความเสี่ยงถูกบล็อกช๊อตได้”

เกาอี้เซิงพูดอย่างตื่นเต้น ดึงไมค์วาดไม้วาดมือ หวังเฉาไข่ที่เป็นการ์ดก็เริ่มแบ่งปันการรับบอลและจุดสำคัญในการคอสสกรีนให้ไมค์เช่นกัน

เพราะพวกเขาคือเพื่อนของหลี่กวงเย่า บวกกับเรื่องที่คุยเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบาสเกตบอล ดังนั้นไมค์จึงไม่ได้เขินอายเหมือนกับตอนมาอยู่ที่ม.4/5 ถึงแม้ว่าจะพูดไม่เยอะ แต่ก็ยังคุยกันอย่างมีความสุข

ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลี่กวงเย่า เฉินตงซวี่ ไช่เฉิงหยวนคุยกันอย่างออกไม้ออกมือ หัวเราะเฮฮา จากนั้นหลี่กวงเย่าเสนอขึ้น

“งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน เย็นนี้ทุกคนไปกินข้าวที่บ้านฉัน กินเสร็จแล้วค่อยมาเล่นกันต่อ!”

ทุกคนปรบมือเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ จากนั้นทุกคนก็กอดคอกันไปยังประตูหน้าโรงเรียน คิดจะขึ้นรถไปบ้านของหลี่หมิงเจิ้ง

ขณะนั้นหลี่กวงเย่าก็ก้มลงพื้นเปลี่ยนรองเท้าจ๊อกกิ้ง

ดูจากท่าทางของหลี่กวงเย่า เพื่อนร่วมทีมเก่าของเขาต่างร้องครวญคราง

หวังเฉาไข่เปลี่ยนสีหน้า “ไม่ใช่มั้ง?”

เฉินตงซวี่เริ่มรู้สึกเสียใจ “จริงหรือเปล่าเนี่ย?”

เกาอี้เซิงพูดอย่างหมดทางเลือก “เพิ่งแข่งเสร็จนะ”

ไช่เฉิงหยวนดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย “จริงจังใช่ไหมเนี่ย?”

หลี่กวงเย่าเงยหน้าขึ้นพูด “ไมค์ นายไม่ต้องวิ่ง ร่างกายของนายรับไม่ไหว จะยิ่งไม่ดีต่อร่างกาย” ไมค์ที่ยืนอยู่ข้างหลี่กวงเย่าอยู่ก่อนหน้านั้นพยักหน้า ขึ้นนั่งรถคณบดี

ผูกเชือกรองเท้าเสร็จ หลี่กวงเย่าพูดกับเพื่อนร่วมทีมเก่าว่า “นายสี่คน วิ่งไหวก็วิ่ง วิ่งไม่ไหวฉันก็ไม่บังคับ” พูดเสร็จ ก็ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาตอบกลับของทั้งสี่คน แล้วก็วิ่งออกไป

“ไอ้เหี้ย!” ทั้งสี่คนด่าหลี่กวงเย่าในใจเกือบพร้อมๆ กัน แต่กลับวิ่งตามหลังเขาไป ทั้งวิ่งไปด้วยและบ่นไปด้วย ในใจกลับมีความรู้สึกมั่นคง คล้ายได้ย้อนเวลาไปเหมือนสมัยก่อน หลี่กวงเย่าวิ่งนำหน้าพวกเขา ขณะเดียวกันก็รอพวกเขาตามทัน

หลี่กวงเย่าคือผู้นำที่น่าเชื่อถือ และก็เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เส้นทางการเล่นบอลช่วงแรกของพวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะตามให้ทัน สุดท้ายก็ได้แชมป์การแข่งขันลีกมัธยมต้นของภาคตะวันออก

ทั้งห้าคนเรียงตามลำดับสูงต่ำเป็นหนึ่งแถว หลังจากนั้นกู่เฟิงเซวี่ยนก็เข้าร่วมสมทบกับพวกเขาด้วย ทีมของทั้งหกคนวิ่งอยู่บนถนนเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนมาก เนื่องจากการแข่งขันก่อนหน้านี้ เขามีโอกาสได้ลงแข่งในสนามจริงๆ แค่สองควอเตอร์ และความแข็งแรงของคนกลุ่มนี้ของตงไถที่เริ่มฝึกซ้อมต่อเนื่องตั้งแต่อยู่มัธยมต้น ดังนั้นหลี่กวงเย่าจึงไม่เกรงใจคนทั้งห้าคนของตงไถ เริ่มแรกก็ใช้ความเร็วสูงสุดในการออกวิ่งเลย และหนึ่งร้อยเมตรก่อนที่จะถึงหน้าบ้านยังเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีก ทำให้ทั้งห้าคนที่อยู่ด้านหลังแทบจะคลานเข้าประตูบ้านของเขาไป

“นี่...นี่...นี่คือการแก้แค้นกันชัดๆ!” เฉินตงซวี่พิงผนัง หายใจหอบ เกาอี้เซิงแม้แต่จะพูดยังพูดไม่ออก ทรุดนั่งลงกับพื้น

หวังเฉาไข่ค่อนข้างจะดีหน่อย “มีน้ำไหม?”

หลี่กวงเย่าพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าแข็งแรงที่สุดในตอนนี้และยังสามารถยืนตรงได้อย่างมั่นคง ไช่เฉิงหยวนไปช่วยหลี่กวงเย่าหยิบน้ำ กู่เฟิงเซวี่ยนฉวยจังหวะเวลานี้ถาม “เขา...เขา...เขาคงไม่ใช่...ทำแบบนี้มา...ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วใช่ไหม?”

เฉินตงซวี่ หวังเฉาไข่และเกาอี้เซิงมองฝ่ายตรงข้าม เผยให้เห็นรอยยิ้ม พูดพร้อมกัน “ใช่”

“จะมาก...มาก...เกินไปแล้ว”

จากนั้นไม่นาน พอได้น้ำมาแล้วหลายคนยกน้ำกรอกเข้าปากกระดกดื่มอย่างกระหาย คล้ายกับคนท่องเที่ยวหลงทางในทะเลทรายมาหลายวัน

“พักสักหน่อย พ่อบอกว่ากับข้าวเตรียมพร้อมไว้แล้ว”หลังจากที่หลี่กวงเย่ารอให้คนทั้งห้าดื่มน้ำเสร็จแล้ว จึงพาพวกเขาเข้าบ้าน

“ในห้องรับแขก หลี่หมิงเจิ้ง เย่อวี่เฉิง อู๋ติ้งหวา เฉินกั๋วอี๋ หลิวเจียหวา รวมทั้งคณบดีหลี่อวินเสียง ไมค์ ยังมีผู้เล่นตัวสำรองของตงไถที่นั่งดูการแข่งขันเอ็นบีเออยู่ที่โซฟา

หลี่หมิงเจิ้งเห็นหลี่กวงเย่าพาทั้งห้าคนเข้ามา จึงเอ่ยขึ้น “พักหายใจหายคอกันก่อน รอสักพักก็ได้กินข้าวแล้ว”

“ครับ โค้ช!” เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นพูดขึ้นพร้อมกัน

หลี่หมิงเจิ้งพยักหน้า จากนั้นเริ่มประเมินการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนที่เล่นในวันนี้

“เฉาไข่ วันนี้เธอเล่นได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รู้ตัวเองดีใช่ไหม ในฐานะเป็นคนที่ต้องควบคุมบอล การเลี้ยงบอลพื้นฐานของเธอยังไม่ค่อยดีพอ เธอรู้ไหมว่าทำไมวันนี้กวงเย่าถึงบล็อกเธอไว้ได้ ? นั้นเป็นเพราะว่าท่าครองบอลและช่องว่างที่ก้าวไปข้างหน้า อีกอย่างความต้านทานของร่างกายเธอยังไม่พอ ต้องเพิ่มให้มากกว่านี้ หน้าที่สำคัญที่สุดของพอยต์การ์ดคือรู้จักจังหวะ แต่วันนี้เธอยังทำได้ไม่ดี”

“ครับ โค้ช!” ขณะที่ตอบ หวังเฉาไข่ยืดอกรับ

หลี่หมิงเจิ้งมองไปทางเกาอี้เซิง “อี้เซิง ในฐานะที่เป็นเซ็นเตอร์ วันนี้เธอตอบโต้ส่งบอลได้เข้าท่า ไม่เลว แต่มีนิดหนึ่งที่ฉันไม่พอใจ วันนี้เธอเผชิญหน้ากับไมค์ที่ไม่มีประสบการณ์ ถึงแม้ว่าจะโดนประกบ จังหวะเท้าของเธอควรจะรับมือกับมันถึงจะถูก แต่ส่วนใหญ่เธอเลือกที่จะส่งบอลให้กับวงนอก เล่นได้ยังไม่เด็ดเดี่ยวพอ เธอเข้าใจความหมายของฉันไหม?”

“ครับ โค้ช!”

ต่อไปคือไช่เฉิงหยวน

“เฉิงหยวน ในการเล่นครั้งนี้เล่นได้ตามกฎกติกา ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรที่ชัดเจน ยังถือว่าผ่าน แต่...”น้ำเสียงของหลี่หมิงเจิ้งจู่ๆ ก็เข้มงวดขึ้นมาทันที “วันนี้ฉันมองไม่เห็นด้านบวกของเธอ เธอเข้าใจไหม?”

“ครับ โค้ช!”

สุดท้ายคือเฉินตงซวี่ “ตงซวี่ ปัญหาเดิม การป้องกัน จังหวะเท้าในการป้องกันของเธอยังต้องพัฒนาต่อไปนะ ไม่งั้นจะเป็นหลุมดำเรื่องการป้องกันของทีม”

“ครับ โค้ช!”

หลี่หมิงเจิ้งเหลือบสายตามองกู่เฟิงเซวี่ยน แต่ไม่ได้พูดอะไร แต่เป็นกู่เฟิงเซวี่ยนที่ถามขึ้น “โค้ชครับ ผมอยากรู้ว่าในการแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้ผมเล่นเป็นยังไงบ้าง?”

“แรงในก้าวแรกของเธอรวดเร็วมาก ทำให้การตัดเข้าของเธอมีแรงการรุกที่ดี แต่สัมผัสมือในการชู้ตลงห่วงของเธอยังไม่ดีพอ และก้าวเท้ารุกเรียบง่ายเกินไป พูดง่ายๆ คือ เธอพึ่งพาก้าวแรกของเธอมากเกินไป และนอกจากนั้น ความมั่นคงในการเล่นฝั่งวงนอกของเธอยังไม่พอ การคุกคามวงนอกน้อยเกินไป อนาคตถึงการแข่งขันลีกเอ เธอจะเล่นได้เปลืองแรงมาก”

“ครับ ขอบคุณครับโค้ช!” กู่เฟิงเซวี่ยนแปลกใจ เพราะหลี่หมิงเจิ้งพูดตามปัญหาเก่าๆ ของเขาที่เป็นมาตั้งแต่การแข่งขันลีกมัธยมต้น

“ในด้านการป้องกันโดยรวมแล้ว เมื่อตะกี้ฉันได้ปรึกษากับโค้ชกั๋วอี๋และโค้ชเจียหวาแล้ว หลังจากกลับไป พวกเขาจะอธิบายอย่างละเอียดให้พวกเธอฟัง” หลี่หมิงเจิ้งถูมือ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “ตอนนี้ ฉันเชื่อว่าทุกคนหิวกันแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ!”

นี่เป็นอาหารค่ำที่เอร็ดอร่อยมื้อหนึ่ง อีกอย่างทุกคนก็หิวกันแล้ว อาหารบนโต๊ะจึงถูกกวาดจนหมดเกลี้ยง ทำให้หลินเหม่ยอวี้ที่เหน็ดเหนื่อยทำกับข้าวได้รับความพึงพอใจและความรู้สึกประสบความสำเร็จ

เมื่อทุกคนอิ่มท้องกันแล้ว หลังจากพักประมาณครึ่งชั่วโมง หลี่หมิงเจิ้งจึงไปเปิดไฟด้านนอกตรงสนามบาสเกตบอล หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มการแข่งขันบาสเกตบอลกันอีกครั้ง

เนื่องจากทั้งสองฝั่งมีจิตวิญญาณในการต่อสู้สูง การแข่งขันครั้งนี้จึงใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มๆ ถึงสิ้นสุดลง

ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ใบหน้าของทั้งผู้เล่นทีมตงไถหรือโค้ชเองก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจ

“ส่งแค่นี้ก็พอแล้วครับพี่หมิงเจิ้ง วันนี้ต้องขอบคุณพี่มาก” หลิวเจียหวาบอกลาหลี่หมิงเจิ้งที่หน้าประตู จากนั้นก็นั่งที่นั่งตำแหน่งคนขับ สตาร์ทเครื่อง เปิดกระจกรถโบกมือลาหลี่หมิงเจิ้ง “ไปก่อนนะครับ”

“ขับรถดีๆ ล่ะ” หลี่หมิงเจิ้งมองดูเก้าคนที่นั่งบนรถค่อยๆ หายไปที่ท้ายซอย

บนรถ หลิวเจียหวาพูดคุยกับเฉินกั๋วอี๋ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ แต่ผู้เล่นที่นั่งอยู่เบาะหลัง ค่อยๆ ทยอยหลับกันไปทีละคนเพราะความเหนื่อยจากการแข่งขัน

“ผมเป็นหัวหน้าโค้ชที่ตงไถมาก็สิบกว่าปีแล้ว หลี่กวงเย่าเป็นผู้เล่นที่พิเศษมากที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอมา อีกอย่างเขาเพิ่งอยู่ม.สี่”เฉินกั๋วอี้ถอนหายใจ “น่าเสียดายจริงๆ ถ้าหากเขาอยู่ตงไถ ผมเชื่อว่าการที่จะเอาชนะฉี่หนานเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้”

“ถ้าหากหลี่กวงเย่ารู้ว่าหัวหน้าโค้ชชมเขาแบบนี้ จะต้องดีใจมากแน่ๆ” หลิวเจียหวาพูด

“ผมแค่พูดเรื่องจริงเท่านั้นเอง พื้นฐานของเขามั่งคงมาก เผชิญกับการประกบแต่ไม่ตื่นตระหนกเลย นักเรียนมัธยมปลายทั่วไปค่อนข้างอ่อนแอในการชู้ตลูกเพริมเมเตอร์ช็อตแต่เขากลับสามารถทำออกมาได้อย่างสุดยอด ทำให้การ

ป้องกันของเราสับสนวุ่นวายไปหมด“เฉินกั๋วอี๋พูดอย่างจริงจัง”ให้เวลาเขาอีกสักปี แม้ว่าจะมีโรงเรียนอย่างฉี่หนานอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องที่หลี่กวงเย่าจะเป็นผู้เล่นบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดของโรงเรียนมัธยมปลายไปได้”

“ผู้เล่นบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดของโรงเรียนมัธยมปลาย” หลิวเจียหวาพยักหน้า “อืม กวงเย่าเหมาะสมกับฉายานี้จริงๆ”

“แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมไม่คู่ควรกับเขา การแข่งขันวันนี้ นอกจากเบอร์สามสิบสองกับเบอร์สามสิบสามที่เหมาะสมกับเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่สามารถคุมคามการรุกและป้องกันของพวกเราได้เลย คนดำๆ นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเล่นบาสเกตบอลได้ไม่นาน ประสบการณ์ยังไม่พอ แม้ว่าการกระโดดจะดี การเล่นในสนามจริงๆ กลับมีขีดจำกัด พอยต์การ์ดอย่างเบอร์ห้าสิบห้าถึงแม้ว่าจะทำให้คนตื่นตาตื่นใจ แต่กำลังของร่างกายแย่มากจริงๆ ขอแค่เพิ่มความกดดันเข้าไปสักนิด ก็จะไม่เป็นที่คุกคามเลย”

หลิวเจียหวาสูดลมหายใจเข้าลึก “เมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่โรงเรียนมัธยมต้นตงไถ กวงเย่ามักพูดประโยคหนึ่งกับผมเสมอ ทำให้ผมจำมันได้ดี ‘คนไม่ธรรมดา ทำเรื่องที่ไม่ธรรมดา’ จากความสามารถของเขา ผมเชื่อว่าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเรื่องบาสเกตบอลโรงเรียนไหนก็ตามยินยอมให้ทุนการศึกษาเต็มรูปแบบกับเขา จากนั้นเขาจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังที่จะจู่โจมเข้าหาแชมป์ ท้าทายราชันอย่างฉี่หนาน”

หลิวเจียหวาเว้นวรรคไปสักพัก แล้วจึงพูดต่อ “แต่ถ้าพูดถึงกวงเย่าแล้ว วิธีการนี้มันธรรมดาเกินไป ไม่มีวิธีที่จะเห็นความพิเศษของเขา จากที่ผมรู้จักเขา ขอแค่ก้าวเข้าสู่สนาม ทุกการกระทำมันบอกกับทุกคนให้รู้ว่าเขาคือคนที่เก่งที่สุด ดังนั้นเขาเลือกโรงเรียนมัธยมปลายกวงเป่ย เลือกทางที่ยากลำบากที่สุด เพราะแบบนี้ ถึงสามารถแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เหมือนกับคนอื่น”

ฟังที่หลิงเจียหวาพูด เฉินกั๋วอี๋หายใจออกยาวๆ “ถ้าหากเป็นแบบนี้ เขาไม่ใช้คนบ้า ก็เป็นคนอัจฉริยะ”

“หรือจะเป็นทั้งสองอย่าง” พูดประโยคนี้ออกไป หลิวเจียหวากับเฉินกั๋วอี๋มองหน้ากันแล้วหัวเราะ

หลังจากที่คนของตงไถกลับไปแล้ว เย่อวี่เฉิง หลี่อวินเสียง อู๋ติ้งหวาและไมค์ก็ทยอยลากลับ ในห้องที่เคยครึกครื้นเงียบลงทันที แต่ไม่ถึงห้านาที เสียงตบบอลก็ดังขึ้น

หลี่กวงเย่าลากตะกร้าใบใหญ่ใส่ลูกบาสเกตบอลประมาณยี่สิบสามสิบลูกมาไว้ข้างกาย ยืนอยู่ในตำแหน่งที่วันนี้เขาชู้ตไม่เข้า แล้วเริ่มฝึกซ้อม

การแข่งขันวันนี้ เขาลงสนามแค่สองควอเตอร์ ชู้ตบอลสามคะแนนทั้งหมดหกลูก ได้สิบแปดคะแนน ภายใต้การป้องกันเชิงเป้าหมายของทีมตงไถ นี้เป็นความสำเร็จที่เขาควรภูมิใจ แต่หลี่กวงเย่ากลับไม่ดีใจเลยสักนิด

เพราะทีมแพ้

ต่อให้ผลงานของตัวเองจะดีแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถลบล้างเรื่องจริงที่ทีมแพ้ไปได้

หลี่กวงเย่าชู้ตบอลในแต่ละตำแหน่งที่ชู้ตไม่เข้าในวันนี้ เข้าไปตำแหน่งละร้อยลูกแล้ว เขาจึงกลับเข้าห้องพักผ่อน อาบน้ำ หลับ ให้ร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยได้ผ่อนคลาย

ค่ำคืนที่บอลแพ้ หลายคนไม่สามารถขจัดความรู้สึกออกไปได้ โดยเฉพาะผู้เล่นตัวจริงของกวงเป่ย

สี่ทุ่ม ณ สนามบาสเกตบอลของสวนสาธารณะเหอปิน หยางเจินอี้กับเว่ยอี้ฝานกำลังฝึกการรุกเร็ว วิ่งอยู่สองข้างสนาม ส่งบอลกลับไปมาโดยความรวดเร็ว สุดท้ายกระโดดเลย์อัพ

หลังจากชู้ตเข้าแล้ว คนที่ชู้ตต้องเก็บบอล วิ่งรุกเร็วต่อ ให้คนอีกขึ้นเลย์อัพ

เนื่องจากวิ่งเร็ว ดังนั้นวิธีการฝึกรุกเร็วประเภทนี้จึงเหนื่อยมาก หากไปกลับคิดเป็นหนึ่งรอบ หลังจากที่พวกเขาทำรอบที่สิบเสร็จจึงออกไปพัก

ก่อนหน้านี้ พวกเขาฝึกซ้อมจุดโทษ ชู้ตเส้นสามคะแนน เพริมเมเตอร์ ช็อตและการป้องกัน

ทั้งสองนั่งดื่มน้ำข้างสนามอย่างกระหาย หยางเจิ้นอี้ถาม “เดี๋ยวจะฝึกอะไร?”

“ฝึกเลี้ยงบอลเถอะ การแข่งขันวันนี้ ความสามารถในการดริบเบอลิ้งของนายกับฉันเห็นได้ชัดว่ามันยังไม่ดีพอ ถึงแม้ว่าเราจะร่วมมือกันได้ดี แต่กลับตัดเข้าเขตจุดโทษไม่ได้ การคุกคามของตงไถยังเทียบกับหลี่กวงเย่าไม่ได้”

ได้ยินคำว่าหลี่กวงเย่า ทั้งสองเงียบลงไม่เอ่ยอะไรอีก มีความรู้สึกพ่ายแพ้อยู่ภายในใจพวกเขาคล้ายกับทอนาโดที่ทำลายความมั่นใจในตัวของพวกเขา ทั้งสองคนรวมกัน สำหรับตงไถแล้วเทียบไม่ได้กับการชู้ตจากเส้นสามคะแนนเพียงลูกเดียวของหลี่กวงเย่า ความแตกต่างระดับนี้ กระทบกับความมั่นใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก

“ที่หรงซินมีคนเก่งแบบเขาไหม?”หยางเจินอี้ถาม

“มี” เว่ยอี้ฝานพูด “คนเก่งในทีมพวกเรา แต่ปีนี้เขาอยู่ม.หกแล้ว”

ทั้งสองเงียบลงอีกครั้ง จากนั้นหยางเจินอี้ทำลายความเงียบอีกครั้ง “นายคิดว่าเขามีโอกาสเป็นผู้เล่นคนแรกที่เข้าเอ็นบีเอได้ในประวัติศาสตร์ไต้หวันไหม?”

เว่ยอี้ฝานถอนหายใจ “ฉันไม่รู้ แต่ความสามารถของเขาน่ากลัวมาก ก่อนที่จะเจอเขา ฉันคิดว่าฉันเก่งแล้ว คิดไม่ถึง...”

“ที่ไม่ค่อยพอใจก็เพราะเขาเพิ่งอยู่แค่ม.สี่เอง”

“บางทีตอนที่เขายังไม่เกิดก็เริ่มเล่นบาสเกตบอลแล้วละมั้ง”

ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นไม่กี่วินาทีก็เลือนหายไป

เว่ยอี้ฝานลุกขึ้นยืน หยิบบอล “เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะทำให้ทุกคนรู้ว่า ที่กวงเป่ยนอกจากหลี่กวงเย่าแล้ว ยังมีเว่ยอี้ฝานอีกคน”

หยางเจินอี้ก็ลุกขึ้นเช่นกัน แย่งบอลที่อยู่ในมือเว่ยอี้ฝานมา พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ยังมีฉัน หยางเจินอี้!”

……………………………………………………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด