ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World – 19
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World – 21

Returning From The Immortal World – 20


ซูหลิงหยุนที่กำลังเพลิดเพลินกับการทานอาหารอย่างมีความสุขกับถังซิ่วนั้นไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครบุกเข้ามาที่บ้าน แถมยังแสดงท่าทีแบบนี้

หลังจากที่ได้เห็นหน้าคนใส่สูททั้งสามแล้วใบหน้าของซูหลิงหยุนนั้นเปลี่ยนไปทันที

เพราะว่ากำลังมึนกับเหตุการณ์ที่โต๊ะอาหารถูกเตะกระเด็นจึงทำให้เธอไม่ได้มีโอกาสสังเกตใบหน้าของชายผมเกรียนเลย

แต่หลังจากที่เห็นหน้าของชายหัวเกรียนชัดพร้อมกับมือที่กำลังเหวี่ยงมานั้นเธอทำได้แค่กรี้ดออกมาพร้อมกำลังจะหลบฝ่ามือนั้น

ตอนนี้ซูหลิงหยุนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งก่อนที่เธอจะหลบฝ่ามือได้นั้นจำเป็นที่จะต้องลุกขึ้นให้ได้ก่อนทว่าชายหัวเกรียนนั้นไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ลุกขึ้นพร้อมเร่งฝ่ามือของตัวเองขึ้นมาทำให้ซูหลิงหยุนไม่มีทางหลบได้เลย

เมื่อเห็นฝ่ามือของชายคนนั้นจะโดนหน้าเธอแล้วก็ทำได้แค่ปิดตาช้าๆ

ในขณะต่อมาก็ได้ยินเสียงร้องภายในหูของเธอเสียงนี้เธอคุ้นเคยเป็นอย่างมากเพราะนั้นคือเสียงร้องของชายผมเกรียน

ซูหลิงหยุนเปิดตาขึ้นมาก็พบว่าตอนนี้ชายผมเกรียนนั้นฟุบลงไปอยู่ที่พื้นแล้ว บนหน้าผากของเขามีกระดูกไก่เสียบอยู่พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาเป็นทาง

“ไอเด็กเวร แกกล้าที่จะล่วงเกินเรางั้นหรอ ? แกเหนื่อยที่จะมีชีวิตแล้วใช่ไหม ? !!!!”

เมื่อเห็นเพื่อนของเขาที่กำลังฟุบอยู่ที่พื้นชายใส่สูทอีกคนได้จ้องมองไปที่ถังซิ่วที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมคำรามออกมา

“อย่านะ ,อย่าทำร้ายลูกของฉัน เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะล่วงเกินใคร , เราจะจ่ายๆๆๆ !!!!”

เมื่อกำลังงงงวยกับสิ่งที่เกินขึ้นซูหลิงหยุนก็ได้สติพร้อมตะโกนขอร้องก่อนที่จะพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะปกป้องถังซิ่ว

เมื่อเห็นอาการตื่นกลัวของแม่นั้นทำให้ถังซิ่วรู้สึกเย็นเยือกเป็นอย่างมาก เขากอดแม่ของเขาเข้าอยู่ในอ้อมอกพร้อมเตะถ้วยน้ำซุบร้อนๆใส่หน้าชายใส่สูททั้งสองคน

ชายทั้งสองที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนั้นที่กำลังจะพยุงเพื่อนตัวเองขึ้นมาก็ได้ล้มลงไปนอนที่พื้น

“พวกเขา......พวกเขา... ซิ่วน้อย นี้มันเกิดอะไรขึ้น ?”

ซูหลิงหยุนคิดว่าเธอและลูกจะต้องถูกทำร้ายแน่ๆแต่เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก

“แม่ครับ , ไม่เป็นไรหรอก มีผมอยู่แม่ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง”

ถังซิ่วกดจุดที่ฝ่ามือของของแม่เธอพร้อมพูดอย่างอ่อนโยน

ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำให้แม่เขาหลับ

เขาไม่อยากให้แม่ของเขาต้องรู้สึกตื่นกลัวอีกต่อไปแล้ว เขาอยากให้เธอรับรู้ว่ามีเขาอยู่ เขามีความสามารถพอที่จะปกป้องเธอได้

หลังจากที่ปลอบแม่เสร็จแล้วใบหน้าของเขาก็กลายเป็นเย็นชาพร้อมเดินตรงไปที่ชายทั้งสามคนพร้อมถามอย่างดุร้าย

“ถ้าฉันจำไม่ผิด แม่ฉันได้คืนเงินทั้งหมด 10000 ที่ยืมมาจากบริษัทของนายแล้วไม่ใช่หรอ ? ทำไมถึงได้ตามมาก่อกวนเราอีก ?”

สำหรับสามคนนี้นั้นถังซิ่วรู้จักเป็นอย่างดี

ตอนที่แม่เขาจะเปิดร้านอาหารก็ได้ยืมเงินมาจากญาติทั้งหลาย 50000 ดอลลาร์ พร้อมกับกัดฟันกู้เงินนอกระบบ

พวกเขาคิดว่าครอบครัวของเขามีหนี้อยู่เท่าหมด 50000 ดอลลาร์เท่านั้น ตราบได้ที่ยังมีร้านอาหารอยู่ไม่นานเขาก็สามารถที่จะจ่ายหนี้นี้ได้ทั้งหมด

ไม่เคยคิดเลยว่าหนี้นอกระบบนั้นได้เพิ่มดอกเบี้ยแต่ละเดือนขึ้นจาก 3.3 เปอร์เซ็นต์ เป็น 7.7

หนี้ 50000 ที่กำหนดจ่ายในครึ่งปีแต่ดอกเบี้ยที่เขาจ่ายนั้นต้องจ่ายทุกๆเดือนเดือนละ 12000 ดอลลาร์

หลังจากนั้นแม่ลูกคู่นี้ก็ได้แต่ทนทุกข์ทรมานอยู่ในฝันร้ายพวกนี้

หลังจากที่ร้านอาหารทำเงินได้ในเดือนแรก ทางเจ้าหนี้ก็ได้เข้ามาบีบบังคับเอาดอกเบี้ยไปพร้อมกับข่มขู่ว่าให้หาเงินมาภายในสามวันไม่งั้นจะทุบร้านทิ้ง

แม่และลูกไม่มีหนทางอื่นนอกจากจะต้องทำตัวหน้าด้านไปขอยืมตังจากญาติๆทั้งหลายสามวันต่อมาพวกเขาก็หาเงินมาจ่ายคนพวกนี้ได้

หลังจากที่คนเหล่านี้รับรู้ว่าเธอสองแม่ลูกนั้นเป็นพวกที่ข่มขู่ได้พวกเขาก็เริ่มมาที่ร้านเธอทุกเดือนพูดจาลามปามและทำให้สองแม่ลูกต้องอับอายอยู่บ่อยๆ

ร้านอาหารของซูหลิงหยุนนั้นอยู่ในพื้นที่เก่าเฮ้อจี้เธอเก็บเงินอย่างมุ่งมั่นจนกำไรของแต่ละเดือนแทบจะไม่มี

หลังจากผ่านไปครึ่งปี เธอสามารถจ่ายหนี้คืนบริษัทพวกนี้ได้ทั้งหมดทำให้เธอไม่เหลือเงินติดตัวซักแดงจนไม่สามารถที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนของ ถัง ซิ่ว ได้ด้วยซ้ำ

หลังจากที่ซูหลิงหยุนเห็นชายใส่สูททั้งสามพร้อมกับลูกเธอที่กำลังอยู่ในอารมณ์ดุร้ายนั้นใบหน้าของเธอซีดเผือด

“ถังซิ่วนี้แกกล้าที่จะลงมือกับพวกเราอย่างนั้นหรือ ? รู้ไหมแก๊งค์หมาป่าสวรรค์หนุนหลังเราอยู่ ? เชื่อไหมว่าเราใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็จัดการพวกแกสองแม่ลูกได้หนะ ?”

ชายผมเกรียนได้ดึงกระดูกไก่ออกจากหน้าผากของเขาพร้อมดุด่า

“เราได้จ่ายหนี้เมื่อครึ่งปีก่อนให้พวกแกหมดแล้ว แกก็รู้ว่าสมองของฉันมีปัญหา แกบอกฉันทีสิว่าถ้าฉันฆ่าพวกแกทั้งสามคนมันจะผิดกฎหมายหรือเปล่า?”

ถังซิ่วยิ้มพร้อมกับกระหน่ำโจมตีไปที่ชายผมเกรียน

ได้ยินแค่เสียง “กร๊อบ” กระดูกไหล่ของชายผมเกรียนได้แตกหักพร้อมใบหน้าที่บิดเบี้ยวจนไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงได้

“ฉันจะถามอีกครั้ง หนี้เก่าก็จ่ายแล้ว ทำไมถึงยังตามมาหาเรื่องเรา”

ถังซิ่วไม่ได้มองไปที่ชายผมเกรียนนั้นต่อแต่หันไปจ้องชายสองคนที่เหลือ

“ถังงง ....... ถังซิ่ว หนี้ของเราก่อนหน้านี้ได้จ่ายไปแล้ว แต่มีคนบางคนได้เซ็นข้อตกลงโอนหนี้มาที่บริษัทเราเมื่อเดือนที่แล้วทำให้ตอนนี้นายมีสัญญาหนี้กับบริษัทเราอีกครั้ง”

ภายใต้สายตาที่ดุร้ายของถังซิ่วนั้นพวกเขาทั้งสองอยากจะตะโกนว่าไอ้เด็กเวรเป็นอย่างมากแต่เมื่อคำพูดกำลังติดอยู่ที่ปากแล้วพวกเขาก็ได้รีบเปลี่ยนสรรพนามโดยทันที

“ซิ่วน้อย นั่นเป็นลุงของลูก เราได้ยืมเงินของเขามา 50000 ดอลลาร์ น่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนที่ทำให้เขาโมโหและอับอายเพราะงั้นเขาถึงได้โอนสัญญาหนี้ไปให้บริษัทพวกนี้”

เมื่อนึกถึงเรื่องในร้านอาหารก่อนหน้านี้ของบั่นโฉวและดิ่งซี่นั้นทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก

ถังซิ่วไม่เข้าใจเป็นอย่างมากว่าทำไมลุงของเขาถึงต้องทำแบบนี้

“แม่ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้ไม่บอกผมกัน ?”

หลังจากเงียบอยู่นานเขาได้เอ๋ยปากถาม

ซูหลิงหยุนไม่ได้ตอบคำถามเขาแต่เขาสามารถเห็นคำตอบได้ภายในดวงตาของเธอ

แม่เขาไม่บอกเกี่ยวกับเรื่องร้านอาหารเพราะไม่อยากให้เขาเกิดความเครียดไม่อยากให้การเรียนเขาตกลง

ถังซิ่วได้รู้สึกเกลียดตัวเองโดยทันที ทำไมถึงได้ไม่แสดงความแข็งแกร่งของตัวเองก่อนหน้านี้แม่ของเขาต้องแบกรับความกดดันทั้งหมดไว้คนเดียวโดยที่เขาไม่ได้รับรู้อะไรเลย

“50000 ดอลลาร์ใช่ไหม !! แกเอาบัตรเงินสดนี่ไปแล้วไสหัวออกไปซะ ถ้าพวกแกยังกล้าที่จะมาก่อกวนพี่น้องของฉันอีกรับรองเลยว่าฉันจะทำให้บริษัทแกหายไปจากเมืองนี้ !!!!”

ระหว่างที่ถังซิ่วกำลังคิดอยู่ว่าจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงดี ก็ได้มีเสียงดังเหมือนฟ้าผ่าขึ้นภายในบ้านซึ่งนั่นเป็นเสียงของหยวนชูหลิง

“เจ้าอ้วน มานี่ได้ไง ?”

ถังซิ่วรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

แม้ว่าจะรู้จักหยวนชูหลิงมานานแล้วแต่เพราะบ้านที่น่าอดสูของเขาถึงได้ไม่เคยพาอีกฝ่ายมาเล่นที่บ้านเลยซักครั้งแต่ไม่เคยคิดเลยว่า หยวนชูหลิงจะมาหาเขาเอง

“ลูกพี่ นายไม่ซื่อสัตย์ต่อฉันเลย ทั้งๆที่ครอบครัวพบกับความยากลำบากแต่กลับไม่บอกฉันนี่นายไม่เห็นว่าฉันเป็นพี่น้องแล้วสินะ”

หยวนชูหลิงชกไปที่อกของถังซิ่วเบาๆพร้อมกล่าวอย่างยิ้มๆ

“แม่ครับ,ผมจะแนะนำให้รู้จัก เขาเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมเป็นตายของผมเพียงคนเดียวในโรงเรียน ตอนที่ถูกไล่ไปห้องสิบเขาก็ย้ายตามมาที่ห้องสิบกับผม เขามีชื่อว่าหยวนชูหลิง”

เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของแม่เขาก็ได้อธิบายออกไป

“อ่อ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของ ซิ่วน้อยนี้เอง ยินดีต้องรับสู่บ้านของเรานะ”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของถังซิ่วแล้วนั้นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นแต่เมื่อสายตาเธอไปหยุดอยู่ที่ชายที่นอนอยู่ทั้งสามนั้นรอยยิ้มเธอก็ได้หายไปในทันที

“ยังไม่รีบไปอีกหรอ ? หรือจะต้องให้ฉันเป็นคนไปส่ง ??”

หลังจากเห็นสายตาของซูหลิงหยุนนั้นหยวนชูหลิงก็รีบตะโกนด่าชายใส่สูททั้งสามคน

“นายน้อยหยวน ขออภัยด้วยครับ เราไม่รู้ว่านายน้อยถังเป็นเพื่อนของคุณ ถ้ารู้อย่างนั้นเราคงไม่กล้าที่จะมาหาเรื่องเขาแน่นอน”

“นายน้อยหยวน บัตรเงินสดนี่คุณเก็บไว้เถอะ ก่อนหน้านี้เราไม่ระวังทำให้อาหารของคุณซูและนายน้อยถังเสียหาย หนี้ 50000 ดอลลาร์นั้นถือว่าเป็นค่าชดใช้อาหารนั่นแล้วกันแต่ขอร้องนายน้อยว่าได้โปรดให้บริษัทเราได้ทำธุรกิจต่อในเมืองนี้ด้วยเถอะ”

หลังจากที่ชายทั้งสองพูดจบก็ได้แบกชายผมเกรียนออกไป

ซูหลิงหยุนและถังซิ่วนั้นคิดว่าการกระทำของ ยวนชูหลิงจะต้องสร้างปัญหาใหญ่แน่ๆแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะกลับกลายเป็นแบบนี้ ทำให้พวกเขาสองแม่ลูกได้แต่ยืนงง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด